“บุก!” เมื่อสิ้นเสียง ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนพุ่งตัวไปหาเย่เฟิง
“ข้าอยากเห็นนักว่าใครจะกล้าแตะต้องเขา!” เซี่ยจวิ้นหลงรีบเข้าไปขวางที่ด้านหน้าเย่เฟิงทันที แล้วมองฟู่หยางด้วยสายตาเย็นเยียบ
“พี่เย่ ข้าจะหยุดคนพวกนี้เอง เ้ารีบหนีไปเสีย!” เซี่ยจวิ้นหลงส่งเสียงผ่านจิตไปหาเย่เฟิงด้วยความร้อนใจ
“ไอ้หนู เ้าทำแบบนี้เท่ากับคิดทรยศวังเทพโอสถ แต่หากเ้ายังยืนกราน ข้าจะสั่งให้กำจัดเ้าด้วยอีกคน!” ฟู่หยางเห็นเซี่ยจวิ้นหลงขวางทางลูกน้อง จึงกล่าวอย่างไม่พอใจเช่นนั้น
“ทั้งที่เป็ความแค้นส่วนตัวของท่าน แต่อาจารย์ลุงไม่สนใจชื่อเสียงของวังเทพโอสถ ในเมื่อเป็เช่นนี้ข้าเซี่ยจวิ้นหลงยินดีร่วมสู้ไปกับพี่เย่!” เซี่ยจวิ้นหลงกล่าวเสียงเย็น เขาได้ยินมาว่าเฒ่าประมุขมรณภาพแล้ว จึงรู้ว่าวังเทพโอสถในเวลานี้มิอาจสงบได้ ศึกาย่อมต้องเกิดขึ้น ฟู่หยางคิดใช้เื่เย่เฟิงเป็ตัวจุดชนวนะเิและกำราบกองกำลังของฝ่ายบิดาเขา
“เ้าเด็กตัวดี วังเทพโอสถข้าเลี้ยงดูเ้าพ่อลูกจวบจนปัจจุบัน ไม่นึกว่าเ้าจะเป็คนเห็นแก่ตัวกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเอง จัดการพวกมันซะ!” ฟู่หยางเหยียดยิ้มเ็า สิ่งที่เขา้าไม่ใช่ผลลัพธ์เช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สั่งลูกน้องอย่างไม่ลังเล เหล่าลูกน้องจึงบุกโจมตีพวกเย่เฟิง
เซี่ยชิงซานเห็นฉากนี้ก็เผยสีหน้าเย็นเยียบ จากนั้นเขาโบกสะบัดมือ จู่ ๆ มีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนหนึ่งออกมาจากที่บางแห่งบนยอดเขาเทพโอสถ พร้อมมีลมปราณเย็นะเืเป็พิเศษแผ่ออกจากร่าง
“ฟู่หยาง ท่านจ้องจะฮุบตำแหน่งประมุขมาตลอด บัดนี้ท่านอาจารย์เพิ่งตายลง ไม่คิดว่าท่านจะไม่สนกฎเกณฑ์ใด ๆ เช่นนั้นวันนี้ท่านกับข้าต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!” เซี่ยชิงซานกล่าวเสียงเย็น จากนั้นเห็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มาสมทบเ่าั้เข้าตะลุมบอนกับลูกน้องของฟู่หยาง ทั้งสองฝ่ายต่างสู้กันอย่างเอาเป็เอาตาย และทุกการโจมตีที่ปลดปล่อยล้วนเป็กระบวนท่าสังหาร
การโจมตีมากมายเริ่มปะทุขึ้น เงาิญญาาปรากฏที่ด้านหลังของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสองฝ่าย และส่องแสงระยิบระยับ
ภายในเวลาสั้น ๆ าที่น่าใปะทุบนยอดเขาเทพโอสถ เสียงกรีดร้องดังโหยหวน เสียงกระทบของอาวุธดังสนั่น เืสาดกระเซ็นทั่วอากาศอย่างต่อเนื่อง บางเวลาก็มีผู้ฝึกยุทธ์ล้มตาย ฉากนี้ทำให้ผู้คนที่เพิ่งออกจากแดนลับต้องตกอยู่ในอาการตื่นใ พวกเขาเข้าแดนลับยอดเขาเทพโอสถเพื่อหาประสบการณ์ แต่คิดไม่ถึงว่าพอกลับออกมาจะพบเจอาระหว่างสองฝ่ายของวังเทพโอสถ
เซี่ยชิงซานและฟู่หยางต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งสองเป็ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ ศึกนี้จึงรุนแรงเป็อย่างมาก ดังนั้นคลื่นกระแทกจึงคุกคามผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ทั่วไปอยู่ไม่น้อย
เย่เฟิง นักดาบแขนเดียว และเซี่ยจวิ้นหลงอยู่ใจกลางสุดของสนามรบ เมื่อก่อนศิษย์วังเทพโอสถที่ลอบสังหารเย่เฟิงส่วนใหญ่จะอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 2 และ 3 บัดนี้เย่เฟิงบรรลุขั้นรวมชี่แล้ว พลังจึงแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า การต่อสู้กับคนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่เสียเปรียบ แต่ยังจัดการอีกฝ่ายได้ในเวลาอันสั้น
เย่เฟิงถือหอกัเงินประกายพร้อมปลดปล่อยพลังหอก ซึ่งทักษะหอกของเขาผสานด้วยอำนาจหอกที่บรรลุขั้นผันแปร พลังจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 2 และ 3 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เมื่อแทงหอกจักต้องมีชีวิตสังเวย!
เดิมทีนักดาบแขนเดียวอยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่ 1 แต่เขามีโอกาสทะลวงขั้นพลังตอนอยู่ในแดนลับเช่นเดียวกับเย่เฟิง จึงกลายเป็ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 2 ดาบของเขาจึงคมกริบยิ่งกว่าเดิมและยังคงไร้เงาไร้เสียง ใครที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าเขาหรือระดับเดียวกันก็ไม่มีทางมองดาบของนักดาบแขนเดียวได้ชัดเจน เมื่อดาบออกจากฝักจักต้องมีคนตาย เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็มีเกือบสิบคนตายในน้ำมือของเย่เฟิงและนักดาบแขนเดียว
“ทำไมสองคนนี้ถึงเก่งกาจขนาดนี้ ไม่มีใครหยุดยั้งพวกเขาได้เลยสักคน!” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งในกลุ่มผู้ชมพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเย่เฟิงกับนักดาบแขนเดียวร่วมมือกันจะทรงพลังมากถึงเพียงนี้ จนแทบไม่เห็นจุดอ่อนของทั้งสองคน และพลังโจมตีที่ปลดปล่อยออกมาก็สามารถกวาดล้างทุกสิ่งให้ราบเป็หน้ากลองได้
“ตายซะ!” ขณะนั้นมีเสียงเยือกเย็นดังขึ้นที่ด้านหลังของเย่เฟิง เย่เฟิงรู้สึกถึงสายลมที่พัดมายังด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็เห็นการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 3 คนหนึ่งพุ่งมาหาเขา มันแฝงด้วยกลิ่นอายกระหายเื
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ จากนั้นปล่อยฝ่ามือภูผาพิฆาต ก่อนจะเข้าปะทะกับการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น ส่งผลให้อีกฝ่ายถูกซัดกระเด็นถอยหลัง เขาไม่ใช่คู่มือของเย่เฟิง แต่ขณะเดียวกันมีฝ่ามือใหญ่พุ่งมา เป้าหมายของมันก็คือเย่เฟิงเช่นกัน ฝ่ามือนั้นอัดแน่นด้วยพลังไร้เทียมทาน เย่เฟิงมีสีหน้าไม่สู้ดีเล็กน้อย จึงรีบใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อเดินหนีออกไป ส่วนฝ่ามือนั่นเฉียดตัวเขาไปและโจมตีที่พื้นดินแทน
ฉากนี้อดทำให้เย่เฟิงเหงื่อตกไม่ได้ หากฝ่ามือนั่นััโดนตัวเขาได้ก็คงมีจุดจบที่น่าเศร้าอย่างแน่นอน แต่ขณะนั้นมีสายตาเย็นะเืคู่หนึ่งมองมาที่เขา เป็ฟู่หยาง ในระหว่างที่ฟู่หยางสู้กับเซี่ยชิงซานก็ลอบโจมตีเย่เฟิงด้วย การโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ
“เลวมาก!” เซี่ยจวิ้นหลงสบถด่า ฟู่หยางเป็ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ บัดนี้ลงมือทำร้ายคนรุ่นเยาว์ที่อยู่เพียงขั้นรวมชี่โดยไม่คำนึงถึงสถานะของตัวเอง ทั้งยังลอบโจมตีอย่างไม่ละอายใจ จะมีอะไรน่ารังเกียจไปกว่าการกระทำของฟู่หยางอีกหรือไม่?
“วูบ ๆ!” พลันมีผู้ฝึกยุทธ์หลายคนทะยานร่างมาทางด้านนี้ พวกเขาทุกคนล้วนมีลมปราณกล้าแกร่ง เมื่อมาถึงก็ลงมือจัดการคนของฝ่ายเซี่ยชิงซานทันที
“เซี่ยชิงซาน ในเมื่อเ้าพ่อลูกอยากปกป้องเ้าสวะนั่นมากนัก ข้าฟู่หยางก็จะส่งพวกเ้าไปลงนรกด้วยกันเลย!” ฟู่หยางกล่าวเสียงเย็นพลางเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้าย หลายปีมานี้เขาใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กระทั่งลอบสร้างกองกำลังในวังเทพโอสถ บัดนี้เฒ่าประมุขมรณภาพแล้ว ย่อมต้องมีคนมาดำรงตำแหน่งประมุขคนใหม่แทน ฟู่หยางจึงใช้กองกำลังที่เขาควบคุมทั้งหมดมาปิดล้อมยอดเขาเทพโอสถ และไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่ต่อต้านเขาเดินออกจากที่แห่งนี้
“ฟู่หยาง เพื่อชิงตำแหน่งประมุข ท่านถึงกับใช้กองกำลังจากภายนอก เห็นทีข้าคงประเมินท่านต่ำไป!” เมื่อเซี่ยชิงซานเห็นฉากนี้ก็มีสีหน้าไม่สู้ดี เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งมาเหล่านี้ไม่ใช่คนของวังเทพโอสถ เื่นี้ตัดสินได้จากลมปราณของพวกเขา นั่นหมายความว่าฟู่หยางสร้างกองกำลังเป็ของตัวเองก็เพื่อชิงตำแหน่งประมุข บัดนี้ถึงเวลาแล้วเขาฟู่หยางจึงใช้กองกำลังนี้ปิดล้อมยอดเขาเทพโอสถ
“ฮ่า ๆ ๆ!” ฟู่หยางะเิหัวเราะอย่างโอหัง หลายปีมานี้เขาใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และวันนั้นที่รอคอยก็มาถึงแล้ว เขาก็ย่อมเผยไพ่ตายทั้งหมด
“เซี่ยชิงซาน เ้าโต้ตอบตอนนี้ก็สายไปแล้ว!” ฟู่หยางอัดพลังหยวนใส่ฝ่ามือทันทีที่กล่าวจบ ก่อนจะซัดฝ่ามือโจมตีเซี่ยชิงซานทันที
จี๋เหยียนก็เข้าร่วมศึกนี้ด้วยเช่นกัน เขาต่อสู้กับผู้าุโสองคนของฝ่ายเซี่ยชิงซานอยู่กลางอากาศ เสียงะเิดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า
เมื่อมีกองกำลังของฟู่หยางเข้าร่วม สถานการณ์จึงเอนเอียงไปทางฝ่ายเดียว ผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายเซี่ยชิงซานถูกกดดันจนเข้าขั้นสภาวะวิกฤต ทำให้มีผู้ฝึกยุทธ์ตกตายคนแล้วคนเล่า
เย่เฟิงและนักดาบแขนเดียวยังคงอยู่ในวงล้อมศึกา อีกอย่างฟู่หยางยังสั่งลูกน้องให้ฆ่าทันที ดังนั้นการโจมตีที่พุ่งเข้าหาพวกเย่เฟิงจึงหมายปลิดชีวิตและไร้ซึ่งความปรานีใด ๆ ทำให้เย่เฟิงและนักดาบแขนเดียวมีรอยแผลทั่วตัว แม้เขาทั้งสองจะแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายก็อยู่เพียงขั้นรวมชี่ที่ 1 แล้วจะรับมือกับผู้ฝึกยุทธ์ที่พุ่งโจมตีมาไม่หยุดหย่อนเยี่ยงนี้ได้อย่างไร?
“ระวัง!” เซี่ยจวิ้นหลงเหวี่ยงหมัดะเิศีรษะของผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่ลอบโจมตีเย่เฟิง ทำให้เย่เฟิงรอดจากภัยครั้งนี้ไปได้
“ปัง!” แต่ขณะเดียวกัน เพียงเวลาสั้น ๆ ก็มีฝ่ามือที่น่าสะพรึงกลัวของผู้ฝึกยุทธ์สองคนโจมตีเซี่ยจวิ้นหลงหมายปลิดชีวิต ทำให้เซี่ยจวิ้นหลงส่งเสียงครวญพร้อมกระอักเื
“หอกดุจั!” เย่เฟิงเห็นฉากนี้ถึงกับโมโห ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้รังแกโดยไม่สนวิธีการ เป้าหมายมีเพียงสังหารพวกเขาเท่านั้น แม้แต่เซี่ยจวิ้นหลงก็ไม่ละเว้น ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก
การโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์สองคนนั้นใกล้ถึงตัวเซี่ยจวิ้นหลงมาก เย่เฟิงจึงแทงหอกัเงินประกายออกไป พลันรังสีหอกกลายเป็ลำแสงก่อนจะทะลวงร่างสองคนนั้นจนเืพุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุ
ขณะเดียวกันมีการโจมตีพุ่งมาที่ด้านหลังของเย่เฟิง แต่ถูกรังสีดาบหยุดไว้ได้ จากนั้นรังสีดาบพุ่งไปตัดศีรษะของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น เ้าของดาบนี้ก็คือนักดาบแขนเดียว
“ไม่เป็ไรนะ!” เย่เฟิงเอ่ยถามเซี่ยจวิ้นหลงก่อนจะแทงหอกออกไปอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็ไร” เซี่ยจวิ้นหลงระบายยิ้มพลางเช็ดเืตรงมุมปาก
ศึกนี้ใช้คำว่าน่าเวทนาจึงจะอธิบายทั้งหมดได้ บนยอดเขาเทพโอสถต้องนองไปด้วยเืสีแดงฉาน ซากศพนอนเกลื่อนพื้น กลิ่นคาวเืคละคลุ้งทั่วอากาศ
ผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายฟู่หยางเป็ฝ่ายได้เปรียบ ส่วนคนของฝ่ายเซี่ยชิงซานถูกฆ่าตายไปหลายคนในเวลาเพียงไม่นาน
มีเพียงพวกเย่เฟิงสามคนที่ยังคงยืนหยัด เสื้อคลุมถูกย้อมไปด้วยเื ดูน่าเวทนายิ่งนัก แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่พุ่งเข้ามาฆ่าสามคนนี้ยังไม่ลดน้อยลง และล้วนแต่มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 3
ดวงตาของฟู่หยางฉายแววเยือกเย็น สีหน้าแฝงไว้ด้วยความโอหัง จากนั้นกล่าวกับเซี่ยชิงซานที่ถูกเขากำราบว่า “เซี่ยชิงซาน เ้ายอมแพ้เสียดี ๆ แล้วจงสวามิภักดิ์ต่อข้า ข้าอาจจะไว้ชีวิตเ้าก็เป็ได้!”
เซี่ยชิงซานแค่นเสียงเ็า “ให้ข้ายอมแพ้งั้นเรอะ เ้าฝันไปเถอะ!”
“ต้องบังคับสินะถึงจะยอม!” ฟู่หยางกล่าวก่อนจะปล่อยพลังโจมตีใส่เซี่ยชิงซาน ทำเขาถอยหลังไปหลายก้าวและเผยสีหน้าย่ำแย่ จากนั้นฟู่หยางก็ปล่อยฝ่ามือโจมตีอีกครั้งจนเซี่ยชิงซานกระเด็นปลิวออกไปพร้อมกับกระอักเื
“จัดการซะ!” ฟู่หยางเอ่ยเสียงดังลั่น จู่ ๆ ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนเข้าคุมตัวเซี่ยชิงซาน ก่อนจะปิดผนึกวรยุทธ์ของเขา
เมื่อเซี่ยชิงซานถูกจับ ขวัญกำลังใจของผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายเขาก็หายไป จึงถูกผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายฟู่หยางจับตัวทั้งหมด มีเพียงพวกเย่เฟิงสามคนที่ยังคงอยู่ใจกลางสมรภูมิ ผู้ฝึกยุทธ์มากมายตกตายในมือของพวกเย่เฟิงจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พวกเขา
“ไอ้พวกไม่ได้เื่ แม้แต่สามคนนี้ก็จัดการไม่ได้ แล้วข้าจะมีพวกเ้าไว้เพื่อ...?” ฟู่หยางตาเผยประกายเยือกเย็น โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นเย่เฟิงยังไม่ตาย ซ้ำยังฆ่าลูกน้องของเขาไปหลายคน ทำให้ความเคียดแค้นที่เขามีต่อเย่เฟิงทวีคูณขึ้นหลายเท่า
“เ้าฆ่าลูกน้องของข้า ล่วงเกินวังเทพโอสถยิ่งนัก เหตุใดยังไม่ยอมถูกจับแต่โดยดีอีก?”
ฟู่หยางเดินออกมาพร้อมปราณาาโคจรรอบกาย ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก เมื่อเขาออกโรง ผู้ฝึกยุทธ์ที่ล้อมกรอบพวกเย่เฟิงก็หลีกทางให้ทันที