“แม่ม! ไอ้ชิงเฮ่อหยุน มันช่างไร้ยางอายจริงๆ! ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะสู้กับฉัน!”
ฉินหลางที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า อดที่จะด่าไม่ได้ สาเหตุที่เดินเข้าไปใกล้แล้ว แต่จู่ๆ ฉินหลางกลับหนีไป เพราะเห็นว่าบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน มีมือปืนจำนวนมากซุ่มอยู่ ทันทีที่ฉินหลางเดินเข้าไปในหมู่บ้าน เขาจะกลายเป็เป้าของมือปืนพวกนี้ทันที ฉินหลางไม่ได้เป็มนุษย์เหล็กไหล ที่ฟันแทงไม่เข้า ดังนั้นเขาจะไม่ไปเสี่ยงอันตรายง่ายๆ แน่นอน
ฉินหลางเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว ว่าทำไมชิงเฮ่อหยุนถึงชอบขดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ เพราะในที่แบบนี้ กฎหมายควบคุมได้ยาก อยู่ที่นี่ชิงเฮ่อหยุนก็คือพระเ้า เป็าาของที่นี่ และที่สำคัญ ที่นี่เป็พื้นที่ของชนเผ่า ถ้าที่บ้านมีมีดมีปืนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีตำรวจมาตรวจสอบ หรือแม้กระทั่งตำรวจจะไม่มีทางมาที่นี่ด้วยซ้ำ ปกติแล้วคนพวกนี้เหมือนชาวเขา แต่เผลอแป๊บเดียวก็กลายเป็โจรป่าที่ชั่วร้าย
เดิมทีฉินหลางคิดว่าชิงเฮ่อหยุนเป็วีรบุรุษ ดังนั้นจึงตั้งใจมาที่นี่เพื่อประลองกับเขาตัวต่อตัว เพื่อสะสางความแค้นของพวกเรา ใครจะรู้ว่าชิงเฮ่อหยุนกลับเรียกรวมมือปืนไว้เยอะขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ามันจะเล่นแบบหมาหมู่ ถ้าฉินหลางเดินเข้าไปในหมู่บ้านแบบนี้ละก็ คาดว่าคงจะโดนยิงจนเละเป็โจ๊ก
ดังนั้นฉินหลางเลือกไปโชว์ตัวหน้าหมู่บ้านก่อน จากนั้นก็หนีเข้าไปในป่าเลยทันที เมื่อเขาทำอย่างนี้แล้ว ชิงเฮ่อหยุนจะต้องให้คนพวกนั้นออกมาตามฆ่าแน่ฉินหลาง เพราะไม่ว่ายังไงเขาคงไม่ยอมให้คนที่ฆ่าลูกชายตัวเองหนีรอดไปได้แน่
แต่เมื่อเขาทำอย่างนั้น จากที่คนของชิงเฮ่อหยุนอยู่ในที่ลับ ก็จะกลายเป็อยู่ในที่แจ้ง ในขณะที่เขาก็เปลี่ยนจากที่แจ้งเข้าไปอยู่ในที่ลับแล้วเช่นกัน
ตาเฒ่าพิษเคยบอกว่า คนของสำนักหมื่นพิษเป็นักฆ่าลอบสังหารชั้นเยี่ยมมักจะได้เปรียบมากเมื่ออยู่ในป่า เพราะคนของสำนักหมื่นพิษจะต้องเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษ ต้นพืชที่มีพิษ สัตว์และแมลงที่มีพิษ ดังนั้นการต่อสู้ในป่าจะทำให้พวกเขาเอาชนะศัตรูได้อย่างง่ายดาย
เพียงแต่คนของแก๊งชิงหวนจะต้องไม่คิดแบบนี้แน่ เพราะในสายตาของพวกเขา ดอยไป๋ผินเป็ถิ่นของพวกเขา นอกจากพวกเขาจะผสมยาพิษชนิดต่างๆ ในหมู่บ้านแล้ว ยังล่าสัตว์ที่ดอยไป๋ผินเป็ประจำด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงรู้แทบทุกอย่างของดอยไป๋ผิน เพราะฉะนั้นขอเพียงฉินหลางเข้ามาบนดอยไป๋ผินแล้ว ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปอีกเลย
แต่คนของแก๊งชิงหวนคงไม่คิดไม่ฝันแน่ ว่าสิ่งที่รอพวกเขาอยู่นั้นคือ...ฝันร้าย!
ตอนนี้ฟ้ามืดมากแล้ว แต่คนของแก๊งชิงหวนไม่กลัว เพราะคนส่วนมากในนั้นล้วนเคยล่าสัตว์ในตอนกลางคืน
สมาชิกคนหนึ่งของแก๊งชิงหวน มองเห็นพุ่มหญ้าข้างหน้าสั่นไหว ดังนั้นเขาจึงยกปืนล่าสัตว์ในมือขึ้น และสาวเท้าเดินไปทางพุ่มไม้ แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปในพุ่มหญ้า กลับไม่พบอะไรเลย ในขณะที่เขากำลังคิดไม่ตก จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกระโจนลงมาจาก้า พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นคนคนหนึ่งกำลังกระโจนมาที่เขา ราวกับแมงป่องที่กำลังล่าเหยื่อ จากนั้นเขารู้สึกได้ถึงแรงกระแทกที่หัว แล้วเขาก็หมดสติไป
‘ฮึ วิชา ‘แมงป่องปีนย้อนกำแพง’ นี่ใช้ดีจริงๆ เลย’ ฉินหลางแอบพูดในใจ ก่อนจะยัดยาเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากเ้าหมอนี่ ทีนี้ก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่า เ้าหมอนี่จะนอนหมดสติอยู่ตรงนี้หนึ่งวันเต็มๆ
เมื่อกี้ฉินหลางใช้วิชา ‘แมงป่องปีนย้อนกำแพง’ ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ เขาเรียนแล้วนำมาใช้งานเลยจริงๆ ข้อดีที่ได้จากการฝึก นอกจากเขาจะสามารถปีน และเคลื่อนไหวบนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไวแล้ว ในขณะเคลื่อนที่ยังมีความมั่นคงมาก และแทบจะไม่เกิดเสียงอะไรเลย ราวกับตอนแมงป่องออกล่าเหยื่อ
เข้าไปใกล้เหยื่อได้อย่างง่ายดาย แล้วค่อยโจมตีเหยื่อ!
เมื่อกี้ฉินหลางก็ทำแบบนี้เหมือนกัน จนถึงตอนที่เขาโจมตี คู่ต่อสู้ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
แต่ฉินหลางรู้สึกว่า ที่เขาสามารถใช้วิชาแมงป่องปีนย้อนกำแพงได้ลื่นไหลขนาดนี้ เป็คุณงามความดีที่ฝึกฝูหลงจู้เป็ฐาน เพราะฝูหลงจู้ไม่ได้หยั่งรากลงไปในดินเพียงอย่างเดียว ยังสามารถ ‘หยั่งราก’ บนต้นไม้ได้อีกด้วย ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ขอเพียงสามารถยืมแรงได้เล็กน้อย ฝูหลงจู้ก็สามารถอยู่บนนั้นได้อย่างมั่นคง ช่างวิเศษมากจริงๆ
หลังจากที่ฉินหลางทำให้เ้าหมอนี่สลบแล้ว ก็มัดเขาไว้บนต้นไม้ต้นหนึ่ง จากนั้นเปิดไฟฉายที่อยู่บนตัวเ้าหมอนี่ ใช้วิธีนี้ล่อพรรคพวกของเขาให้เข้ามา ในขณะที่ฉินหลางกลับไปซ่อนตัวในความมืดอย่างรวดเร็ว
จริงอย่างที่คิด แสงสว่างจากไฟฉายได้ดึงดูดคนส่วนหนึ่งเข้ามา เพียงไม่กี่อึกใจเท่านั้น ก็มีสามคนในนั้นหายตัวไปในความมืดแล้ว
ปึงๆๆ!~
ในที่สุดก็มีคนรับแรงกดดันไม่ไหว ลั่นไกยิงไปรอบๆ ตัวมั่วๆ
อย่างไรก็ตามปืนที่อยู่ในมือของคนพวกนี้ เป็ปืนลำกล้องยาว ปืนล่าสัตว์ ถ้าเล็งดีๆ จะไม่ค่อยพลาด แต่ว่ายิงมั่วๆ แบบนี้ นอกจากข่มขู่คู่ต่อสู้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก
ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็ไปไม่ได้ที่ฉินหลางจะกลัว รอจนคนพวกนี้ยิงมั่วๆ แล้ว กำลังจะใส่ะุเพิ่ม ฉินหลางก็ได้โอกาสลงมืออีกครั้ง เขาใช้วิชา ‘แมงป่องปีนย้อนกำแพง’ ในการซ่อนตัว และเคลื่อนที่เข้าไปใกล้คนพวกนี้ ยังสามารถมองเห็นคู่ต่อสู้ได้ชัดเจน เพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุดในการลงมือ
แต่ตอนฉินหลางลงมือ เขากลับไม่ได้ใช้วิชาพิษแมงแมงป่อง แต่ใช้มีดตั๊กแตนแทน ดังนั้น ตอนฉินหลางซ่อนตัว และเคลื่อนที่ไปใกล้ๆ เป้าหมาย จึงดูเหมือนแมงป่องตัวหนึ่ง แต่เวลาลงมือนั้น กลับรวดเร็วและรุนแรงราวกับตั๊กแตน
แมงป่องซ่อนตัว ตั๊กแตนออกล่าหาอาหาร
หลังจากเล่น ‘เกมโจมตี’ เกือบสองชั่วโมง มือปีนทั้งหมดของแก๊งชิงหวน หมดสติอยู่กลางป่า
ขณะนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว ฉินหลางอาศัยแสงจันทร์รำไร แอบเข้ามาไปในหมู่บ้านอีกครั้ง
ฉินหลางไม่บุกเดี่ยวเข้าไปทางประตูอยู่แล้ว และเลือกเข้าไปจากทิศตะวันตกของหมู่บ้าน แม้ที่นี่จะมีกำแพงสูง 5-6 เมตร แต่สำหรับฉินหลางแล้ว กำแพงกลับเป็จุดที่เข้าไปได้ง่ายที่สุด ขอแค่ยืมแรงได้ ต่อให้กำแพงจะสูงอีกสักแค่ไหน เขาก็สามารถปีนด้วยมือเปล่าเข้าไปได้ทั้งนั้น
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที ฉินหลางก็ขึ้นมาบนขอบกำแพงที่สูง 5-6 เมตรแล้ว
เวลานี้เขามองจากที่สูงลงมาข้างล่าง เพียงครู่เดียวฉินหลางก็พอรู้องค์ประกอบคร่าวๆ ของหมู่บ้านนี้แล้ว
หมู่บ้านนี้ใหญ่ไม่แพ้หมู่บ้านในเมือง ในหมู่บ้านมีอยู่หนึ่งร้อยกว่าหลังคาเรือน บ้านพวกนี้จะแบ่งเป็บนบ้านกับใต้บ้าน บนบ้านเป็ที่อยู่อาศัย แต่ใต้บ้านเป็เล้าหมู คอกวัว และห้องน้ำ ดูไปแล้วที่นี่สร้างขึ้นตามวิถีชีวิตของชาวเมี่ยนจริงๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ฉินหลางเริ่มสงสัย ว่าชิงเฮ่อหยุนเป็ชาวเมี่ยนด้วยรึเปล่า
ในหมู่บ้านนี้ มีบ้านหลังหนึ่งที่ดูโอ่อ่ามาก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน เป็บ้านที่สร้างขึ้นจากหินอ่อน มีทั้งหมดสามชั้น ประตูกับหน้าต่างที่ทำด้วยไม้ล้วนใหม่มาก และในบริเวณบ้านยังมีส่วนหย่อมส่วนตัวอีกด้วย ดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะพิเศษกว่าหลังอื่นๆ
ไม่ต้องบอก ฉินหลางก็พอจะเดาออกว่าที่นี่ต้องเป็ที่อยู่ของชิงเฮ่อหยุนแน่นอน
ดังนั้นฉินหลางจึงค่อยๆไถลตัวลงมาจาก แล้วเดินเหมือนแมวขโมย ค่อยๆย่องไปใกล้ ‘บ้าน’ ของชิงเฮ่อหยุน
ระหว่างเดิน ฉินหลางยังผิวปากเบาๆเป็ระยะๆ แต่เพราะที่นี่เป็หมู่บ้านกลางป่า ที่เต็มไปด้วยเสียงร้องของนกและแมลง ทำให้เสียงผิวปากของฉินหลางไม่ชัดมาก
ในหมู่บ้าน มีคนเดินตรวจอยู่เป็ระยะๆ แต่คนส่วนมากคิดว่าฉินหลางยังหนีเอาชีวิตรอดอยู่ในป่า ดังนั้นในหมู่บ้านจึงไม่ได้ตรวจเข้มมาก
เพียงไม่นาน ฉินหลางก็เข้าไปใกล้ ‘หมู่บ้าน’ ของชิงเฮ่อหยุนแล้ว
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงหมาเห่าดังระงม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้