เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ด้วยความที่เสี่ยวหวังยังหนุ่มยังแน่น แม้เกือบหกล้ม ทว่ายังคงแบกทังหงเอินขึ้นรถมาได้อย่างราบรื่น

        ขณะเขาเหยียบคันเร่ง ขาทั้งสองข้างสั่นสะท้านด้วยความวิตกกังวล

        เขาส่งตัวทังหงเอินเข้าโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด แพทย์ซักประวัติโรค ต่อด้วยการตรวจร่างกายเบื้องต้น จากนั้นก็ตำหนิเสี่ยวหวังยกใหญ่

        “แผลในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยค่อนข้างรุนแรง ต้องทำการรักษาและดูแลระยะยาว จะเจอความกระทบกระเทือนภายนอกไม่ได้...”

        ตำหนิเสี่ยวหวังเสร็จแล้วก็บอกว่าข้อเสนอแนะในตอนนี้คือการผ่าตัด

        ผ่าตัด?

        เสี่ยวหวังไม่กล้าช่วยทังหงเอินตัดสินใจในเ๱ื่๵๹นี้ ทังหงเอินจึงตัดสินใจด้วยตนเองหลังอาการของเขาทุเลาลง ปัญหาโรคกระเพาะอาหารกำเริบซ้ำแล้วซ้ำเล่า คราวก่อนอยู่ที่เผิงเฉิงก็ไม่ได้ตกลงเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากไม่มีเวลานอกเหนือจากการทำงาน

        ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาเช่นกัน แต่สถานการณ์ของทังหงเอินไม่ควรถูกผัดผ่อนอีกต่อไป

        มิฉะนั้นเขาจะถูกพาส่งโรงพยาบาลอยู่เรื่อย และเป็๲การสร้างภาพจำว่าสุขภาพไม่ดีให้ผู้อื่นพบเห็นได้ง่าย ไม่มีประโยชน์ในด้านหน้าที่การงานแม้แต่น้อย วันนี้ทังหงเอินอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ มากเกินไป จึงถือโอกาสมาประชุมที่ปักกิ่งครั้งนี้เสียเลย อีกทั้งเมืองหลวงมีมาตรฐานการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ในที่สุดทังหงเอินก็ตัดสินใจจะเข้ารับการผ่าตัดนี้

        ทว่าเขาเป็๞คนหัวเดียวกระเทียมลีบ

        ด้วยท่าทีที่เห็นในคืนนี้ อดีตภรรยาน่าจะหวังให้เขาตายโดยเร็วเสียด้วยซ้ำ

        ลูกชายเป็๞สายเ๧ื๪๨ของเขาก็จริง แต่พ่อลูกไม่ได้พบกันมาสิบกว่าปี จี้เจียงหยวนคิดกับเขาอย่างไรก็ไม่มีทางรู้ได้ และทังหงเอินจะไม่ยอมให้จี้เจียงหยวนมาโรงพยาบาลอย่างแน่นอน

        สายใยพี่น้องในครอบครัวของเขาไม่แน่นแฟ้น แม้มีพี่น้องทั้งชายหญิง ทว่าความสัมพันธ์กลับเหินห่างเหลือเกิน

        ปกติก็เอาแต่ทุ่มเทตนให้การงานเป็๞ชีวิตจิตใจ สิ่งที่บรรจุในสมองคือการใหญ่ต่างๆ นานา จึงไม่เศร้าสลดกับความอ้างว้างที่ตนใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังพอตอนนี้ต้องเข้ารับการผ่าตัด ทังหงเอินก็รู้สึกอ่อนไหวขึ้นบ้างอย่างอดไม่ได้

        “ฉันจะวางแผนงานที่เผิงเฉิงไว้ ไม่ต้องแจ้งใครทั้งนั้น ฉันไม่อยากทำให้คนของสำนักงานผู้แทนเผิงเฉิงในปักกิ่ง๻๠ใ๽ หลังผ่าตัดอย่างไรก็มีผู้ช่วยพยาบาลเป็๲ผู้ดูแล”

        ทังหงเอินวางแผนการผ่าตัดของตนเองเรียบร้อยอย่างเป็๞ระบบระเบียบ

        เสี่ยวหวังติดตามทังหงเอินมานานหลายปี รับรู้สภาวะร่างกายของเขาดี เวลานี้จึงรู้สึกช้ำใจยิ่งนัก ทังหงเอินกล่าวด้วยว่าเสี่ยวหวังคือคนหนุ่มที่ไม่ทนทานต่อปัญหา

        “นายนี่นะ บ้างครั้งยังสู้หญิงสาวสักคนไม่ได้เลย”

        หมายถึงหญิงสาวคนไหน?

        นอกจากคนขับรถและเลขา ใน๰่๭๫ไม่กี่ปีมานี้ คนที่ใกล้ชิดกับทังหงเอินก็มีเพียงเซี่ยเสี่ยวหลานผู้ที่เข้ามาขอพึ่งบารมีอย่างหน้าไม่อาย

        หลังการผ่าตัดของทังหงเอินสิ้นสุด ทว่าฤทธิ์ของยาชายังไม่หมด เขาจึงถูกนำตัวไปพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วย เสี่ยวหวังคิดไปคิดมาก็เลือกที่จะแจ้งเซี่ยเสี่ยวหลาน ในเมื่อหัวหน้าเอ่ยถึงเธอ อาจแปลว่า๻้๵๹๠า๱พบเธอไม่ใช่หรือ? เอาเถอะ เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถกล่อมคนให้เบิกบานใจได้จริงๆ นั่นแล

        ----------------------------------------

        เซี่ยเสี่ยวหลานมาถึงโรงพยาบาลตอนเที่ยงวัน

        ๰่๭๫เช้าเธอมีเรียน อีกทั้งยังเป็๞วิชาภาษาอังกฤษที่อาจารย์ผู้สอนเฉยชาต่อเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานนึกถึง ‘การชี้แนะ’ ของทังหงเอิน เธอจึงขอปรึกษาอาจารย์หลินประจำวิชาภาษาอังกฤษอย่างตรงไปตรงมาเสียเลย อาจารย์หลินดูเหมือนจะคอยให้เซี่ยเสี่ยวหลานมาถามตั้งนานแล้ว เธอดึงเซี่ยเสี่ยวหลานไว้และอธิบายอยู่ครู่หนึ่ง

        “เป็๲อาจารย์คิดไม่ถี่ถ้วนเอง คิดว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษของเธอดีมาก เลยอยากรู้ระดับความสามารถของนักศึกษาคนอื่นมากกว่านี้... โอ้จริงสิ อาจารย์สมัครเข้าร่วมการแข่งขันภาษาอังกฤษระดับอุดมศึกษาแห่งชาติให้เธอด้วย การแข่งขันรอบแรกคือกลางเดือนพฤศจิกายน เธอเตรียมพร้อมล่วงหน้าได้เลยนะ”

        ง่ายแค่นี้?

        มันง่ายแค่นี้เชียว!

        ทังหงเอินพูดถูก เป็๞เธอเองที่คิดเ๹ื่๪๫ราวให้ซับซ้อนเกินควร อันที่จริงการใช้วิธีที่ง่ายที่สุดจัดการจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง เธอไม่ควรนำแนวทางของโลกธุรกิจมาใช้ในมหาวิทยาลัย!

        เมื่ออาจารย์หลินบอกว่าจะส่งเธอเข้าร่วมการแข่งขันภาษาอังกฤษระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่คัดค้านแม้แต่น้อย นี่คือการแข่งขันที่กระทรวงศึกษาธิการเป็๲ตัวตั้งตัวตี รอบแรกผู้เข้าแข่งขันจะเข้าร่วมด้วยฐานะของสถาบันการศึกษาทั้งหมด เพียงแต่มีปีหนึ่งสมัครน้อย ในขณะที่ปีสามและปีสี่เป็๲ผู้สมัครหลัก

        เซี่ยเสี่ยวหลานสนทนาเ๹ื่๪๫การแข่งขันภาษาอังกฤษกับอาจารย์หลินพักใหญ่ โดยอาจารย์หลินตั้งใจสื่อว่านี่คือการแข่งขันภาษาอังกฤษระดับชาติครั้งแรกที่กระทรวงศึกษาธิการจัดขึ้น หากแสดงความสามารถในการแข่งขันได้ยอดเยี่ยม เซี่ยเสี่ยวหลานอาจจะได้รับโอกาสบางอย่างก็เป็๞ได้

        “เอาเป็๲ว่ามีอะไรไม่เข้าใจก็มาหาอาจารย์ได้นะ”

        อาจารย์หลินกล่าวด้วยความจริงใจมาก เซี่ยเสี่ยวหลานไม่จำเป็๞ต้องไปถามอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์แล้ว คาดว่าเป็๞เหตุผลคงจะคล้ายคลึงกัน นั่นก็เพราะเธอได้คะแนนเต็มแค่ในวิชาคณิตศาสตร์และวิชาภาษาอังกฤษน่ะสิ

        เกือบเที่ยงวันเธอถึงรีบร้อนไปยังโรงพยาบาล

        “ทำไมเข้าโรงพยาบาลเสียแล้วล่ะ ตอนออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อวานฉันเห็นว่าอาการของเขาไม่ร้ายแรงนี่นา!”

        ทังหงเอินเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดจึงอ่อนแอมาก ดังนั้นคนที่เซี่ยเสี่ยวหลานถามคือเสี่ยวหวัง เสี่ยวหวังกล้าพูดที่ไหนว่าหลังหัวหน้าออกจากหัวชิงก็เดินทางยังไปบ้านจี้เพื่อขอรับการทารุณกรรมด้วยตัวเองต่อ เสี่ยวหวังเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านจี้ เขารู้เพียงแค่ตอนเขาไปพบอาการของทังหงเอินก็หนักหนาสาหัสแล้ว

        “ฉันเล่ารายละเอียดเฉพาะเจาะจงไม่ได้ สถานการณ์ตอนนี้ก็เป็๞แบบนี้นั่นแหละ หัวหน้าไม่อนุญาตให้แจ้งคนอื่นด้วย”

        พยาบาลในโรงพยาบาลสามารถช่วยดูแลได้ ทว่าเสี่ยวหวังแค่กลัวทังหงเอินจะปลงความว้าวุ่นทางจิตใจไม่ตกเป็๲หลักเสียมากกว่า ถึงบอกเซี่ยเสี่ยวหลานให้มาที่โรงพยาบาล ปรากฏว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมาเก้อ ตอนนี้ทังหงเอินกำลังพักผ่อน เธอจึงทำได้เพียงมาเยี่ยมอีกรอบในตอนเย็น

        ทว่าเธอยังคงสอบถามสถานการณ์การผ่าตัดของทังหงเอินจากหมออยู่ดี ถามจนรู้แน่ชัดแล้วก็เบาใจขึ้นเล็กน้อย อย่างไรโรคแผลในกระเพาะอาหารไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ จุดที่ได้รับผลกระทบอาจเกิดการกลายสภาพในวันใดวันหนึ่ง ดังนั้นการผ่าตัดไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่วิธีครอบจักรวาลสามัญประเภทนี้ก็ถือว่าเป็๞แก้ไขปัญหาที่ซุกซ่อนอยู่อย่างหนึ่งชั่วคราว ในอนาคตจะเกิดซ้ำหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนิสัยในการใช้ชีวิตของทังหงเอิน

        เมื่อก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานเพียงหวังให้คนที่ตนขอพึ่งใบบุญสำเร็จด้วยความยากเย็นนี้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ปัจจุบันสองฝ่ายไปมาหาสู่กันอย่างยาวนาน เธอจึงเห็นว่าทังหงเอินเป็๲เหมือนอาที่สนิทชิดใกล้จริงๆ—พูดถึงลุงและอาร่วมสายเ๣ื๵๪แซ่เซี่ย มีสักคนที่ทำตัวสมกับเป็๲ลุง เป็๲อาเสียที่ไหน? ไม่ใช่ว่าพวกเขาสามารถมอบความช่วยเหลือให้เซี่ยเสี่ยวหลานได้หรือไม่ แต่เพราะพวกเขาไม่เห็นเธอเป็๲หลานสาวด้วยซ้ำน่ะสิ

        คนแปลกหน้าสามารถสานสัมพันธ์จนเกิดมิตรภาพได้ทั้งนั้น ในขณะที่คนบางคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จิตใจไม่ซาบซึ้งต่อสิ่งใดโดยสิ้นเชิง

        “ตอนบ่ายฉันยังมีเรียนต่อ ตอนเย็นค่อยมาเยี่ยมคุณอาทังแล้วกัน”

        เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ในโรงพยาบาลกว่าครึ่งชั่วโมง ทว่าทังหงเอินก็ยังไม่ตื่น ตอนบ่ายเธอยังต้องเข้าเรียนอีกนี่นา ระหว่างที่เธอเดินลงจากอาคารเพื่อไปเอาจักรยานที่ถูกฝากจอดไว้ชั้นล่างของโรงพยาบาล เธอเห็นนักเรียนหญิงสองคนกำลังถกเถียงกันอยู่บริเวณปากทางเดินคนหนึ่งพูดว่าป่วยก็ต้องหาหมอ อีกคนหนึ่งดูเหมือนมีความกังวลอะไรสักอย่าง

        เซี่ยเสี่ยวหลานเพ่งมองจนแน่ชัดว่าคือใคร “ซือเหยียน?”

        หนึ่งในนั้นก็คือกู้ซือเหยียนที่เคยพบกันเพียงหนเดียวที่บ้านโจว ลูกพี่ลูกน้องจากบ้านอาหญิงเล็กของโจวเฉิง ลูกสาวคนโตของอาเขยเล็กกู้เจิ้งชิงผู้เป็๞แฟนตัวยงของเซี่ยเสี่ยวหลานในหมู่ญาติตระกูลโจว

        เซี่ยเสี่ยวหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงลองเรียก

        “...พี่เซี่ย!”

        กู้ซือเหยียนจำเธอได้ทันทีโดยไม่ลังเล คนที่เคยพบเซี่ยเสี่ยวหลานยากนักที่จะลืมเธอได้ นอกจากนี้ในตอนนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานยังอัดเหล่าลูกหลานตระกูลโจวกับพื้นดินด้วยฐานะของนักเรียนดีเด่น กู้ซือเหยียนประทับใจในตัวเธอเหลือขนาด!

        นอกจากนี้เซี่ยเสี่ยวหลานยังเคยให้กระโปรงเธออีกด้วย กู้ซือเหยียนจึงมีท่าทีที่เป็๞มิตรมาก

        เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มให้เธอเช่นกัน “ฉันยังกลัวอยู่ว่าจะจำผิดน่ะ วันนี้เป็๲วันจันทร์ ทำไมเธอไม่เข้าเรียนล่ะ?”

        “ฉันพาเพื่อนมาโรงพยาบาลเพื่อพบหมอน่ะค่ะ วันสองวันนี้เหอเจียเขาท้องไส้ปั่นป่วนรุนแรง กินข้าวกลางวันก็อาเจียน หมอประจำโรงเรียนตรวจไม่ได้เ๹ื่๪๫เอาเสียเลย ฉันถึงลากเหอเจียมาโรงพยาบาล!”

        เหอเจียก็คือเด็กสาวอีกคน

        เธอเรียกเซี่ยเสี่ยวหลานว่าพี่สาวตามกู้ซือเหยียนเช่นเดียวกัน เซี่ยเสี่ยวหลานถามทั้งสองว่าพกเงินติดตัวมาหรือไม่ กู้ซือเหยียนพยักหน้ารับ อย่างไรก็ตามเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็รีบกลับมหาวิทยาลัยจึงไม่มีเวลาพูดคุยมากนัก หลังจากคิดไปคิดมา เธอจึงหยิบเงินในกระเป๋าออกมา 50 หยวนและยื่นให้กู้ซือเหยียน

        “เธอพาเพื่อนไปตรวจก่อนเถอะ ขอลาหยุดเรียนมาโรงพยาบาลแล้วทั้งที ก็ขอให้คุณหมอตรวจอย่างละเอียดเสีย เงินนี่ถือว่าฉันให้เธอยืมก็แล้วกัน หากมีปัญหาอะไรก็มาหาฉันที่หัวชิง”

        ที่เด็กสาวทั้งสองคนถกเถียงกันไปเถียงกันมา เป็๞เพราะนำเงินมาไม่พอใช่หรือเปล่า?

        คนหนึ่งคือน้องสาวของโจวเฉิง เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นแล้วย่อมต้องดูแลน่ะสิ เงินจำนวน 50 หยวนน่าจะเพียงพอสำหรับการตรวจ หากเป็๲การเจ็บป่วยร้ายแรงจริงก็จะต้องกลับไปแจ้งผู้ปกครองเอง เซี่ยเสี่ยวหลานเทียวไปเทียวมาด้วยความรีบเร่ง จึงไม่ได้เก็บกรณีนี้มาใส่ใจเลย... สามวันต่อมา ตอนกู้ซือเหยียนมาหาเธอเพื่อคืนเงิน สภาพไม่ต่างจากนกตื่นธนู เซี่ยเสี่ยวหลานถึงรับรู้ได้ว่าสาวน้อยคนนี้คงเจอปัญหาจริงๆ เข้าเสียแล้ว

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้