“คุณเข้าใจหรือยังล่ะ”
เซี่ยต้าจวินกำหมัดแน่น พลางกัดฟันกรอดไม่ตอบอะไรออกไปสักคำเดียว
ผู้หญิงคนนี้ชั่วร้ายยิ่งนัก ทำไมเขาต้องเชื่อฟังเธอด้วย
นอกจากแม่บังเกิดเกล้าแล้ว เซี่ยต้าจวินไม่เคยก้มหัวให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน ผู้หญิงจะสามารถเหยียบหัวผู้ชายเช่นนี้ได้อย่างไร ที่บ้านเกิดของเขาไม่เคยมีผู้หญิงแบบนี้มาก่อน!
กวนฮุ่ยเอ๋อยิ้มเย็น “ถ้าคิดว่าฉันดีแต่พูด คุณก็ลองดูสิ แน่นอนว่าฉันสนับสนุนให้คุณลองดีสักครั้ง!”
“ฮุ่ยเอ๋อ?”
เป็เซี่ยอวิ๋นที่เดินออกจากห้องของคังเหว่ย “เธออยู่นี่เอง อารองของเสียวเหว่ยอยากเชิญผู้เชี่ยวชาญจากปักกิ่งมาดูอาการของเขาน่ะ เธอว่าควรเชิญใครมาดีล่ะ”
ยุคสมัยนี้ หมอที่ดีที่สุดย่อมอยู่ที่ปักกิ่ง
เซี่ยอวิ๋นเองก็ได้ยินมาจากคนอื่นเช่นกัน คนที่กวนฮุ่ยเอ๋อกำลังคุยด้วยคือพ่อของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างนั้นหรือ? แม้จะสงสัยแต่เซี่ยอวิ๋นไม่ได้ถามออกไป เธอรู้จักมารยาทดีและ้าให้เกียรติกวนฮุ่ยเอ๋อ จึงทำเป็มองไม่เห็นเซี่ยต้าจวิน
“เชิญศาสตราจารย์เฉียวหย่งขุยดีไหม”
กวนฮุ่ยเอ๋อคิดถึงชื่อผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ขึ้นมาในทันที
“ศาสตราจารย์เฉียวคงเชิญยาก เพราะส่วนใหญ่เขารับผิดชอบดูแลแค่ระดับหัวหน้า...”
เซี่ยอวิ๋นร้องไห้ระบายความอัดอั้นจนหมดแล้ว เธอรู้ดีว่าถึงเวลาที่เธอต้องเผชิญหน้ากับอาการาเ็ของคังเหว่ยเสียที และเมื่อลองสอบถามข้อมูลมาก็พบว่า เฉียวหย่งขุยคือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ
“ลองดูก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะโทรไปที่ปักกิ่ง”
สมาธิกวนฮุ่ยเอ๋อจดจ่ออยู่ที่บทสนทนากับเซี่ยอวิ๋น จนลืมเซี่ยต้าจวินไปเสียสนิท
เซี่ยต้าจวินฟังแล้วไม่เข้าใจสักนิด ผู้หญิงคนนี้ชะงักบทสนทนาไว้แล้วก็เดินจากไปทันที เมื่อกี้ยังดุดันอยู่แท้ๆ
เซี่ยต้าจวินนั่งรถเข็นวนรอบโรงพยาบาล เมื่อเจอแพทย์ในชุดกาวน์สีขาวก็รั้งไว้แล้วถามว่า “สหาย ที่นี่มีหมอแซ่เฉียวบ้างหรือเปล่า คนที่ดูอาการด้านสมองโดยเฉพาะน่ะ เขาเก่งมากหรือ ฉันได้ยินว่าเขามาจากปักกิ่ง แถมยังเป็ศาสตราจารย์อะไรสักอย่าง”
นายแพทย์หยุดคิด “คุณหมายถึงศาสตราจารย์เฉียวหย่งขุยหรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ประสาทวิทยาคนนั้น!”
นายแพทย์พูดพลางชูนิ้วโป้งขึ้น
เซี่ยต้าจวินรู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก “ใช่ๆๆ หมอเฉียวหย่งขุย ถ้าอยากเชิญเขามาดูแลคนไข้ที่เผิงเฉิงจะทำได้หรือไม่ โทรหาเขาได้หรือเปล่า”
นายแพทย์คนนั้นทำสายตาเหมือนมองคนสติไม่เต็มเต็ง
“สหาย ศาสตราจารย์เฉียวรักษาคนไข้ระดับข้าราชการชั้นสูงเท่านั้น ผมไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อเขาหรอก และคงไม่สามารถเชิญเขามาได้”
“แล้วคนแบบไหนถึง...”
เซี่ยต้าจวินพูดได้ครึ่งทางก็เงียบไปทันที
ศาสตราจารย์เฉียวรักษาคนไข้เฉพาะระดับหัวหน้าข้าราชการเท่านั้น เช่นนั้นก็คงมีแต่คนระดับหัวหน้าที่จะสามารถเชิญเขามาได้ อย่างเช่นคนระดับทังหงเอิน
เสี่ยวหลานเองก็รู้จักทังหงเอิน ถ้าอย่างนั้นคู่ครองของเธอเป็ใครมาจากไหนกันแน่?
เซี่ยต้าจวินกัดฟันแน่นจนแทบหัก แต่เขาก็ไม่กล้าเข็นตัวเองไปหากวนฮุ่ยเอ๋อ เขานึกถึงตอนที่หย่าร้างกับหลิวเฟิน ผู้ใหญ่บ้านเฉินวั่งต๋าจากหมู่บ้านชีจิ่งเคยร่วมรบในสนามรบมาก่อน ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านนั้นเก่งแค่ไหนเซี่ยต้าจวินย่อมรู้ดี ข้าราชการที่ตำแหน่งสูงกว่าผู้ใหญ่บ้านคือกำนัน? นายอำเภอ? หรือว่านายกเทศมนตรี?!
เซี่ยต้าจวินไม่เข้าใจเื่ลำดับขั้นของเหล่าข้าราชการ เขารู้แค่ว่าทั้งที่ตู้เ้าฮุยร่ำรวยเสียขนาดนั้น แต่เมื่ออยู่เผิงเฉิงก็ยังต้องเชื่อฟังคำสั่งของนายกเทศมนตรีทังอยู่ดี
กวนฮุ่ยเอ๋อบอกใบ้ให้รู้ถึงภูมิหลังของตัวเองเพียงเล็กน้อย แต่มันกลับทำให้ ‘คำขู่’ ของเธอดูน่ากลัวเป็อย่างยิ่ง กวนฮุ่ยเอ๋อพูดถูก บางครั้งเซี่ยต้าจวินก็หาใช่คนโง่ ทว่าเขาเป็คนขี้ขลาดตาขาว และนิสัยขี้ขลาดเช่นนี้ทำให้เขามิกล้าแม้แต่จะตั้งคำถามกับความลำเอียงของแม่บังเกิดเกล้า แล้วนับประสาอะไรกับเวลาต้องเผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโต
เขากลับไปหาตู้เ้าฮุยพร้อมกับสีหน้าห่อเหี่ยว และได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาตู้เ้าฮุยแม้แต่นิดเดียว
“คุณชายใหญ่ ผมทำตามคำสั่งไม่สำเร็จครับ...”
ใช่ เหมือนเศษสวะไม่มีผิด
ตู้เ้าฮุยรู้อยู่แล้วว่านอกจากพละกำลังแล้ว สมองของเซี่ยต้าจวินก็มีแต่ขี้เลื่อย
แต่จะโง่เกินไปหรือเปล่า แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็เอาไม่อยู่เชียวรึ
“ได้ยินว่าเมื่อครู่มีคนไปหาแก?”
เซี่ยต้าจวินอยากแทรกแผ่นดินหนีเหลือเกิน แต่พื้นของโรงพยาบาลปูด้วยกระเบื้องอย่างดี เซี่ยต้าจวินหมดหนทางที่จะหลบหน้าใคร ดังนั้นเขาจึงเล่าสิ่งที่กวนฮุ่ยเอ๋อกล่าวไว้ให้ตู้เ้าฮุยฟัง พลางหวังลึกๆ ว่าตู้เ้าฮุยจะสามารถเป็ที่พึ่งให้เขาได้
ตู้เ้าฮุยทำสีหน้าแปลกประหลาด “พูดถึงคนในครอบครัวแก เมื่อครู่มีคนรายงานฉันว่า มีคนอ้างว่าเป็หลานสาวของแกไปหาแกที่สำนักงานเครือประจำเผิงเฉิง”
ตู้เ้าฮุยรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก ที่แท้ว่าที่แม่สามีของเซี่ยเสี่ยวหลานก็อยู่ที่โรงพยาบาลเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยออกหน้าแทนเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยการข่มขู่เซี่ยต้าจวินว่าให้ถอนตัวจากเื่นี้ ดังนั้นนี่คือความมั่นใจของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างนั้นหรือ? ไม่เพียงมัดใจแฟนหนุ่มอยู่ ทว่าแม้แต่ว่าที่แม่สามีก็ยังชื่นชอบเธอ และไม่เห็นว่าประวัติครอบครัวเธอจะเป็จุดด่างพร้อย ถึงกับยอมออกหน้าช่วยแก้ปัญหาแทนให้อีกด้วย?!
สมองของตู้เ้าฮุยครุ่นคิดเกี่ยวกับเื่นี้ เขาเริ่มเดาภูมิหลังแฟนหนุ่มของเซี่ยเสี่ยวหลานได้บ้างแล้ว ครอบครัวของผู้ชายคนนั้นคงมีอำนาจยิ่งกว่าตระกูลคัง หรืออย่างน้อยที่สุดก็คงไม่ต่างจากตระกูลคังสักเท่าไรแน่นอน!
บ้านสามีของเซี่ยเสี่ยวหลานแข็งแกร่งเช่นนี้ ชาวไร่อย่างเซี่ยต้าจวินคงไม่สามารถสู้อีกฝ่ายไหว และตู้เ้าฮุยเองก็คงไม่ส่งเซี่ยต้าจวินไปสร้างศัตรูเพิ่มในตัวเองอีกแล้ว
สำหรับเครือญาติของเซี่ยต้าจวินจากชนบท คุณชายใหญ่ตู้เป็ใคร เขาเป็ถึงนักธุรกิจฮ่องกงผู้ร่ำรวย ดังนั้นเขาไม่มีทางไปเจอหน้าคนตระกูลเซี่ยอย่างแน่นอน
ต่อให้หลานสาวของเซี่ยต้าจวินจะสวยเหมือนเซี่ยเสี่ยวหลาน ตู้เ้าฮุยก็ไม่สนใจ เพราะตอนนี้เขาต้องทุ่มสมาธิทั้งหมดให้กับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า
ตู้เ้าฮุยไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะสนับสนุนเขา เซี่ยต้าจวินจึงไม่กล้าพูดถึงเื่นี้อีก
ดังนั้นเซี่ยต้าจวินจึงเปลี่ยนไปสนใจเื่ที่ตู้เ้าฮุยเพิ่งกล่าวมาทันที “หลานสาวของผมหรือครับ?”
หรือว่าจื่ออวี้จะมาที่เผิงเฉิง
แต่จื่ออวี้รู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่เผิงเฉิง
เซี่ยต้าจวินรู้สึกข้องใจยิ่งนัก
“คุณชายใหญ่ ผมสามารถไปเจอเธอได้ไหมครับ”
ตู้เ้าฮุยโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ตอนนี้เขาเห็นเซี่ยต้าจวินแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด ทางที่ดีอย่าโผล่มาให้เขาเห็นหน้าน่าจะเป็การดีที่สุด
—-----------------------------------------------------
เครือเชิงหรงมีสำนักงานสาขาอยู่ที่เผิงเฉิง
เดิมทีที่นี่คืออาคารสำนักงานบริษัท ‘เทียนเฉิน’ ของหลิวเทียนเฉวียน ทว่าหลังตู้เ้าฮุยมาเผิงเฉิง เขาก็รับ่เข้าดูแลกิจการต่อ และได้ทำการปรับปรุงใหม่จนกลายเป็สำนักงานสาขาประจำเผิงเฉิงของเครือเชิงหรง
ความจริงแล้วพวกหวังจินกุ้ยเดินทางมาถึงก่อนเซี่ยจื่ออวี้ แต่คนพวกนี้ไม่เคยออกมาเจอโลกกว้าง หลังจากมาถึงหยางเฉิงก็ถูกกักตัวไว้ และไม่ได้รับการอนุญาตให้เดินทางข้ามเมือง
ในขณะที่เซี่ยจื่ออวี้เป็นักศึกษา มีความรู้และสามารถคิดหาวิธีได้ โดยเธอจ่ายเงินให้คนช่วยพาเข้าเมืองเผิงเฉิงอย่างผิดกฎหมายนั่นเอง
หลังถึงเผิงเฉิงก็ยิ่งง่ายกว่าเดิม แค่ถามหาเครือเชิงหรงก็เพียงพอแล้ว หากถามคนหนึ่งคนแล้วยังไม่ได้คำตอบก็ถามอีกหลายๆ คน อย่างไรก็ต้องมีสักคนที่รู้จักบริษัทฮ่องกงแห่งนี้ แน่นอนว่าความพยายามไม่เคยหักหลังใคร เซี่ยจื่ออวี้ถามทางไปเรื่อยๆ จนสามารถเดินทางมาถึงสำนักงานเครือเชิงหรงได้อย่างปลอดภัย
เธอบอกว่าเป็หลานสาวของเซี่ยต้าจวินและเซี่ยต้าจวินเองก็ทำงานอยู่กับคุณตู้ ดังนั้นเธอจึงมาหาเขา
พนักงานไม่ได้ไล่เธอออกไปทันที เป็เพราะเซี่ยจื่ออวี้พูดจาสุภาพดูมีการศึกษายิ่งนัก พนักงานของบริษัทจึงบอกให้เธอนั่งรอก่อน
นักธุรกิจย่อมให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ หลิวเทียนเฉวียนตกแต่งสำนักงานอย่างหรูหรา หลังตู้เ้าฮุยเข้ามารับ่ต่อก็ได้ทำการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เซี่ยจื่ออวี้กำลังนั่งรอที่เก้าอี้รับแขก พลางจิบเครื่องดื่มที่พนักงานประชาสัมพันธ์เอามาให้อย่างเงียบๆ เธอกวาดตามองรอบกายด้วยความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์
ใจหนึ่งเธอก็ไม่อยากเชื่อว่าเซี่ยต้าจวินจะเจริญก้าวหน้าได้ถึงเพียงนี้
แต่อีกใจหนึ่งก็มั่นใจได้แล้วว่า เซี่ยต้าจวินทำงานให้เถ้าแก่ฮ่องกงจริงๆ หากเถ้าแก่ฮ่องกงไม่มีลูกน้องชื่อ ‘เซี่ยต้าจวิน’ พนักงานประชาสัมพันธ์จะยอมเอาเครื่องดื่มให้เธอดื่มหรือ
ดูท่าวันนี้เธอจะไม่ได้มาเสียเที่ยว เหลือแค่รอดูว่าอารองจะสามารถสร้างความประหลาดใจให้เธอได้มากแค่ไหน!
สมองของเซี่ยจื่ออวี้เต็มไปด้วยแผนการมากมาย ทว่าตอนเห็นเซี่ยต้าจวินปรากฎตัวพร้อมรถเข็น เธอมิอาจปิดบังสีหน้าใเอาไว้ได้
“อารอง เกิดอะไรขึ้น?”