ในขณะที่เยี่ยเฟิงฟันดาบออกไป!
ตงฟางไฉ่อวิ๋น หม่าไข่ และผู้ที่เข้ารอบสิบคนที่เหลือที่อยู่ข้างเวทีต่างก็พากันเบิกตากว้าง จ้องมองดาบยาวในมือของเยี่ยเฟิงโดยที่ตาไม่กะพริบ พวกเขาต่างก็พ่ายแพ้ให้กับดาบนี้มาแล้ว เกิดความรู้สึกแปลกๆ ว่าแม้มีกระบวนท่ามากมาย แต่กลับไม่สามารถนำมาใช้หรือป้องกันได้ ยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของพวกเขา ราวกับเป็รอยประทับที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจ
“แกร๊ง!”
ภายใต้สายตาที่ตึงเครียด ตื่นเต้น และคาดหวังของผู้คน ข้อมือขวาของหยางลู่สะบัด ดาบหลอมสายรุ้งในมือก็พุ่งตรงออกไป ดาบเล่มนี้ราวกับแพะที่ห้อยเขาอยู่บนต้นไม้ ช่างดูวิเศษ และให้ความรู้สึกที่น่าทึ่งยิ่งนัก!
ไม่เพียงแค่นั้น แสงจากดาบของหยางลู่ยังเบาบางมาก บางขั้นสุดจนให้ความรู้สึกแหลมคมราวกับเป็เข็ม
“กิ๊ง!” เสียงดาบดังขึ้น ดาบหลอมสายรุ้งปะทะกับปลายดาบของเยี่ยเฟิงอย่างแรง!
ดาบแรกของเยี่ยเฟิงนั้นถูกสกัดเอาไว้ได้ แต่เขาไม่ได้ใแต่อย่างใด
เดิมทีหยางลู่เป็ถึงนักยุทธ์ระดับหก ศิษย์หญิงอันดับหนึ่งในบรรดาศิษย์ระดับกลางในเขตใต้ นางยังอ้างด้วยว่าได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับอีก ทำให้ทักษะการใช้ดาบของนางพัฒนาขึ้นอย่างมาก เมื่อวานเยี่ยเฟิงก็ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วด้วยว่านางสามารถเอาชนะจางอวิ๋นได้ นั่นแสดงว่าทักษะการใช้ดาบของนางนั้นคล่องแคล่วกว่าตอนที่นางเอาชนะตงฟางไฉ่อวิ๋นในวันแรกมาได้จริงๆ!
จากความมั่นใจและความอวดดีของหยางลู่ บ่งบอกว่าบุคคลลึกลับเมื่อคืนนี้คงทำให้ทักษะการใช้ดาบของนางพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจริง!
หญิงสาวผู้มีพร์ อีกทั้งฝีมือยังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ บอกว่าตัวเองจะทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มี หากนางไม่สามารถรับได้แม้แต่ดาบแรกก็แย่แล้ว! มุมปากของเยี่ยเฟิงยกขึ้นเล็กน้อย คิดจะฟันดาบที่สองออกไปเพื่อกดดันอีกฝ่าย
แต่สิ่งที่ทำให้เยี่ยเฟิงต้องประหลาดใจคืออีกฝ่ายชิงเข้าโจมตีก่อน
“ิญญานางแอ่นถลาลม!”
วิชาดาบนางแอ่นถลาลมนี้ เป็เคล็ดวิชาดาบชั้นยอดระดับนักยุทธ์ ซึ่งต้องบอกว่าก่อนหน้านี้หยางลู่ใช้ได้เพียงห้าส่วนเท่านั้น แต่หลังจากที่ได้รับการแก้ไขและเรียนรู้ใหม่ในสองคืนที่ผ่านมา วิชาดาบนี้ก็ได้รับการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ทำให้วิชาดาบชั้นยอดในระดับนักยุทธ์ได้แสดงให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของมันออกมา แสงดาบน่าทึ่งพุ่งออกมาจากจุดที่เหมือนไม่มีอะไร ตรงไปที่หน้าอกของเยี่ยเฟิง
ม่านตาของเยี่ยเฟิงหดเล็กลง แล้วตัวของเขาก็ะโถอยหลังหลบออกไปอย่างรวดเร็ว ดาบยาวสีแดงเข้มในมือฟันออกไปด้านข้าง เพื่อแย่งชิงความได้เปรียบกลับคืนมา
ดวงตาที่เฉียบแหลมของหยางลู่เป็ประกาย ข้อมือที่เรียวเล็กหมุนบิดเล็กน้อย ลำแสงดาบพุ่งขึ้นมาในมุมแคบ อีกทั้งยังซ้อนทับกันเป็ชั้นๆ ราวกับนกนางแอ่นหลายสิบตัวกำลังโบยบินเข้าหาเยี่ยเฟิง
“วิชาดาบยอดเยี่ยมนัก!” แสงดาบที่พุ่งเข้ามาทำให้รู้สึกเหมือนมีนกนางแอ่นที่ว่องไวหลายตัวบินประสานกัน พุ่งเข้าโจมตีจิตใจของเขา
เวลานี้ ในที่สุดดาบโลหิตเยี่ยเฟิงก็รวบรวมสมาธิขึ้นมาได้ พุ่งทะยานขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ดาบยาวสีแดงเข้มในมือกลายเป็ดั่งสายฟ้า ฟาดลงมาอย่างรุนแรง
โช้งเช้ง! โช้งเช้ง! เสียงดังก้องขึ้นมาหลายครั้งติดต่อกัน!
แสงจากดาบของทั้งคู่กระทบกัน ทำให้พื้นกระเบื้องหินแกรนิตของเวทีประลองถึงกับแตกกระจาย
การเคลื่อนไหวต่อเนื่องนี้เกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที เหล่าศิษย์ที่เฝ้าดูอยู่รอบๆ จำนวนมาก ต่างก็ไม่สามารถมองออกว่าทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างไร เห็นเพียงแสงจากดาบสองเส้นที่พุ่งสลับไปสลับมาเท่านั้น! และแสงดาบแต่ละเส้นนั้นก็รวดเร็วอย่างน่าทึ่งอีกด้วย!
“แข็งแกร่งมาก สุดยอดไปเลย เทพธิดาหยางลู่แข็งแกร่งมาก ด้วยความเร็วเช่นนี้ หากเป็ข้าอย่าว่าแต่รับมือไม่ทันเลย แม้แต่ดาบเดียวก็ยังรับไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
“ชายหนุ่มที่เทพธิดาหยางลู่พูดถึงเป็ใครกันแน่นะ สอนเทพธิดาเพียงแค่สองคืน ก็ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเทพธิดาก้าวะโไปสู่ระดับที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่เพียงแต่รับดาบแรกของศิษย์พี่เยี่ยเฟิงได้อย่างง่ายดายเท่านั้น ยังเป็ฝ่ายโจมตีก่อนอีกด้วย”
“ฮ่าๆ สมกับเป็เทพธิดาของข้า ยอดเยี่ยมมาก ตอนแรกข้ายังกังวลอยู่เลย ทว่าตอนนี้การประลองนัดดังกล่าว เทพธิดาอาจจะเป็ฝ่ายชนะก็ได้ ฮ่าๆ หากชนะได้จริงจะยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
“ศิษย์พี่ อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีเกินไปเลย ดาบโลหิตเยี่ยเฟิงก็หาใช่คนธรรมดาไม่ ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายเพิ่งจะต่อสู้กันไปไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น! ดาบของเยี่ยเฟิงนั้นยิ่งต่อสู้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น! ทักษะการใช้ดาบและพลังการต่อสู้ของหยางลู่นั้นถึงจะพัฒนาขึ้นมาก แต่การเอาชนะเยี่ยเฟิงได้ หึหึ ยังคงยากอยู่...”
“แกร๊ง แกร๊ง” เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นสองครั้ง
ร่างหนึ่งตีลังกากลับหลังแล้วร่อนลง เยี่ยเฟิงซึ่งลงมายืนที่พื้น สายตาจับจ้องไปยังหยางลู่ที่อยู่อีกฝั่งอย่างจริงจังเป็ครั้งแรก “เวลานี้ความแข็งแกร่งของศิษย์พี่ถือว่าคู่ควรให้ข้าใช้ความสามารถอย่างเต็มที่แล้ว แต่การจะเอาชนะข้านั้นคงยังเป็ไปไม่ได้ ตอนนี้ข้าจะให้ศิษย์พี่ได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริง”
เมื่อพูดจบ ดาบโลหิตเยี่ยเฟิงก็ก้าวออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พลังปราณที่แข็งแกร่งะเิออก ร่างกายของเขาก็ราวเป็ะเิลมที่รุนแรงแผ่รัศมีออกมาในเวลานี้ จากนั้นพลังอันมหาศาลพลันถาโถมเข้าใส่หยางลู่ที่อยู่อีกฝั่ง ในขณะเดียวกันแสงดาบสีแดงเข้มพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับน้ำตก!
“น้ำตกสายโลหิต!”
เวลานี้เยี่ยเฟิงไม่ได้ออมมืออีกต่อไป ใช้ท่าไม้ตาย ‘น้ำตกสายโลหิต’ ออกไปทันที ตัวเขา้าใช้ท่านี้ประกาศให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้ว่า ต่อให้เป็หยางลู่ที่พลังการต่อสู้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ยังมีคำตอบเดียวเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบของเขา นั่นก็คือความพ่ายแพ้ เขาจะทำให้หยางลู่ต้องพ่ายแพ้อย่างไร้หนทางต่อต้านด้วย
ขณะที่กระแสลมสีแดงเข้มพร้อมกับแสงดาบกำลังถาโถมเข้ามา ดวงตาที่เฉียบคมของหยางลู่ก็เต็มไปด้วยไฟแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ริมฝีปากสีแดงสดจู่ๆ ก็ยื่นออก ส่งเสียงร้องหวีดหวิวราวกับนกนางแอ่น ลมปราณสีเขียวอ่อนหลั่งไหลเข้าไปในดาบหลอมสายรุ้งในมือนางด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ทันทีลมปราณสีเขียวนี้ปรากฏขึ้น พลังของหยางลู่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก!
ลมปราณสีเขียวที่หลั่งไหลเข้ามาดั่งคลื่นนี้ กลายเป็เหมือนนกนางแอ่นสีเขียวตัวหนึ่งอย่างรวดเร็ว ปรากฏตัวอยู่ที่ปลายดาบหลอมสายรุ้ง!
นกนางแอ่นสีเขียวนี้ราวกับถูกแกะสลักจากหยกสีเขียวเข้ม เพียงสะบัดปีกเบาๆ! ศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูการประลองที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรรอบๆ เวทีประลองก็รู้สึกใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก!
เยี่ยเฟิงที่เผชิญหน้ากับนกนางแอ่นสีเขียวนี้โดยตรงถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้า รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพลังที่ทั้งโบราณและน่าสะพรึงกลัวจนทำให้จิตใจของเขาสั่นะเื เพราะพลังที่แผ่ออกมาจากนกนางแอ่นสีเขียวตัวนั้น! พลังน่ากลัวนี้ทำให้ตัวเขารู้สึกจ้อยร่อย ไม่อาจต้านทานสัตว์ประหลาดที่มาจากยุคโบราณตัวนี้ได้ ความกลัวถึงขีดสุดๆ แผ่กระจายไปทั่วร่างกายในทันที!
ดวงตาของของเซียวหลิงอวิ๋นเย็นะเืขึ้นฉับพลัน วิชาอัญเชิญสัตว์อสูรกลืนิญญา!
เด็กสาวคนนี้รู้กระบวนท่ารุนแรงเช่นนี้ด้วยรึ!
ด้วยพลังของนักยุทธ์ระดับหก นางกลับใช้ท่าที่รุนแรงเช่นนี้เพื่อชัยชนะในการประลอง ราคาที่ต้องจ่ายของมันมากเกินไปแล้ว!
บนอัฒจันทร์ ชายชราร่างสูงใหญ่เบิกตากว้างในทันที มองไปยังนกนางแอ่นตัวเล็ก ะโออกมาด้วยความใ นี่มันวิชาอัญเชิญสัตว์อสูรกลืนิญญา! ไม่ได้การแล้ว!
และแล้วร่างหนึ่งก็หายวับไปในทันที!
ชั่วขณะต่อมา พลังอันมหาศาลแผ่ปกคลุมไปทั่วสนามประลอง!
“แกร๊ก!” เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ
นกนางแอ่นสีเขียวทนทานต่อแรงกดดันของพลังอันมหาศาลนี้ไม่ไหว ะเิออกในทันที ส่วนทางด้านน้ำตกสายเืของเยี่ยเฟิงก็สลายหายไปราวกับหิมะที่ต้องแสงแดด ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏมาก่อน!
ร่างของชายชราปรากฏขึ้นอย่างลึกลับที่ใจกลางเวที! จากนั้นพลังอันมหาศาลนั้นก็หายวับไป!
ก่อนหน้านี้ศิษย์จำนวนมากที่ชมการแข่งขันต่างใจเต้นรัวด้วยความกลัว ชั่วขณะต่อมาถึงรู้สึกว่าภาพตรงหน้านั้นพร่ามัวไปหมด บนเวทีก็มีคนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ใบหน้าของเยี่ยเฟิงเองก็แดงก่ำ เดินถอยหลังซวนเซไปมาอยู่หลายก้าวราวกับคนมึนเมา ส่วนทางด้านหยางลู่นั้นหลับตาลงทันที ร่างบอบบางของนางกระตุกอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะหมดสติไป!
