หลับไปอีกหนึ่งชั่วยาม เฟิ่งเฉี่ยนจึงลุกขึ้น
หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว นางไปห้องเครื่องเพื่อเตรียมทำหมูสามชั้นในน้ำซอสให้สองพ่อลูกกินทันที
วันนี้บรรยากาศภายในห้องเครื่องดูแปลกๆ อยู่บ้าง ตลอดทางที่นางเดินมา พบว่าทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาที่แปลกไป ชี้ไม้ชี้มือมาทางนาง ไม่รู้ว่ากำลังกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่
ทว่าในยามปกติพวกเขาก็ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์นางน้อยอยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงไม่เก็บมาใส่ใจ
หลังจากทำหมูสามชั้นในน้ำซอสครบสิบจาน เฟิ่งเฉี่ยนพบว่าพลังการสู้รบและพลังชีวิตของตนเพิ่มขึ้นมาเป็ 60 แล้ว ห่างจากเทพยุทธ์ขั้นที่หนึ่งอีก 40 แต้ม ภายใต้เงื่อนไขที่นางไม่เป็วรยุทธ์และไม่เคยได้รับการฝึกยุทธ์อย่างเป็ระบบมาก่อน สามารถก้าวหน้าขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้นับว่าเป็เื่ไม่ง่ายดาย และนางคิดจะไปร่วมการเข้าสอบเป็ศิษย์สำนักศึกษาเทียนหง รอให้นางเป็ศิษย์ของสำนักเทียนหงอย่างเป็ทางการ ความสามารถของนางย่อมก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นางไม่รีบร้อน
ที่ทำให้นางดีใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ หมูสามชั้นในน้ำซอสได้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว กลายเป็หมูสามชั้นในน้ำซอสเวอร์ชั่น 2.0 และยังมีความสามารถในการทำอาหารจานใหม่อีกด้วย—เต้าหู้ผัดซอสเสฉวน (หมาโผโต้วฟุ)!
เฟิ่งเฉี่ยนพบว่าอาหารที่ระบบให้นางเรียนรู้ล้วนเป็อาหารที่พบเห็นบ่อยในชีวิตประจำวัน ทว่ากลับเป็อาหารที่ทดสอบฝีมือการปรุงอาหารเป็ที่สุด! แต่นี่เกี่ยวข้องกับการเริ่มเรียนของนางเช่นกัน หรืออาจเป็ไปได้ว่าอาหารจานหลังๆ จะทวีความยากขึ้นเรื่อยๆ!
[เ้านาย จะจับรางวัลเลยหรือไม่]
หลังจากมีประสบการณ์และความเ็ปจากการจับรางวัลได้ยันต์โชคร้ายติดตัวครั้งก่อน เฟิ่งเฉี่ยนไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการจับรางวัลเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว ในทางตรงข้าม ที่มีมากขึ้นคือความไม่แน่ใจ หากนางจับได้รางวัลไม่ดีเล่า จะทำอย่างไร
แต่อย่างไรวันนี้ก็ไม่มีเื่เร่งด่วนอะไร ซวยก็ซวยเถิด แต่หากจับได้รางวัลดีๆ เล่า
นางได้แต่วิ่งเข้าชนดวงชะตาแล้ว
“เริ่มจับรางวัลเถิด!”
จานหมุนหลากสีหมุนเข้ามาอย่างรวดเร็ว...
ติ๊ง--ได้รับ 《ตำราเย็บปักถักร้อย》1 เล่ม!
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงไปสิบวินาทีเต็มๆ จึงได้สติกลับมา
เย็บปักถักร้อย!
นี่มันอะไรกับอะไรเนี่ย
ให้นางที่เป็มือสังหารมาเรียนรู้งานเย็บปักถักร้อย เป็ภาพจินตนาการที่ประหลาดเกินไปแล้วกระมัง!
ที่สำคัญคือ มือของนางเชี่ยวชาญการถือดาบและกระบี่ นางจะถือเข็มปักผ้าได้หรือ
นางเริ่มสงสัยชีวิตของตนเอง!
ช่างเถิด เก็บเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน อย่างไรก็ดีกว่าจับได้เทพเ้าแห่งความโชคร้ายติดตามตัวเยอะ!
นำหมูสามชั้นในน้ำซอสใส่เข้าไปกล่องสำรับอาหาร นางถือกล่องอาหารเดินออกไปจากห้องเครื่อง พลันได้ยินเสียงคนด้านนอกประตูกำลังซุบซิบกัน ทำให้นางหยุดเดินโดยไม่รู้ตัว
“ข้าเพิ่งจะเดินผ่านตำหนักยีหลัน ตอนนี้ที่นั่นถูกคนเบียดเสียดจนแทบจะะเิแล้ว ล้วนไปส่งของขวัญที่นั่นทั้งสิ้น!”
“ข้าได้ยินมาเช่นกัน ตอนนี้ทั้งวังหลวงเกรงว่านอกจากฮองเฮาเหนียงเหนียงแล้ว สนมและชายาคนอื่นๆ ล้วนไปแสดงความยินดีกับองค์หญิงหลานซินกันหมด!”
“องค์หญิงหลานซินอันใดกัน ตอนนี้ต้องเปลี่ยนคำเรียกขานเสียใหม่แล้ว ควรเรียกว่า หลานเฟย[1]เหนียงเหนียง จึงจะถูกต้อง!”
“ใช่ๆๆ ดูความจำของข้าสิ ตอนนี้ควรเรียก หลานเฟยเหนียงเหนียง”
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงเพิ่งจะได้รับความโปรดปรานไม่ถึงสองวัน ฝ่าาก็โปรดปรานคนใหม่ทันที ช่างน่าสงสารจริงๆ!”
“ที่น่าสงสารยิ่งกว่าก็คือตอนนี้ฮองเฮายังไม่รู้เื่ที่องค์หญิงหลานซินได้รับแต่งตั้ง ยังทำอาหารอยู่ด้านใน!”
“หากจะโทษก็ต้องโทษที่ยามปกติฮองเฮาโอ้อวดและเผด็จการเกินไป ไม่มีใครชมชอบนางมาตั้งนานแล้ว หาไม่แล้วทุกคนคงไม่ตั้งหน้าตั้งตาคอยให้ฮองเฮาสูญเสียความโปรดปรานในเร็ววันเช่นนี้หรอก”
“อย่า อย่าพูดแล้ว!”
“ทำไมเล่า ข้าพูดผิดตรงไหนหรือ ฮองเฮาไม่ได้รับความชื่นชอบจากผู้อื่นนี่นา!”
“บ่าวถวายพระพรฮองเฮาเพคะ!”
เหล่าขันทีที่เดิมทียังมัวแต่ซุบซิบกันอยู่นั้น เห็นฮองเฮาปรากฏตัวอยู่เื้ัพวกเขากะทันทัน แต่ละคนใจนสะดุ้งโหยง
เฟิ่งเฉี่ยนในนาทีนี้กำลังตกตะลึงอย่างที่สุด นางไม่เชื่อว่าสิ่งที่หูของนางได้ยินจะเป็ความจริง นางคว้าคอเสื้อของคนๆ หนึ่งเอาไว้แล้วถามว่า “พูดเื่ที่พวกเ้าสนทนากันเมื่อสักครู่อีกครั้งหนึ่ง! องค์หญิงหลานซินได้รับแต่งตั้งให้ขึ้นเป็ พระชายา แล้วหรือ”
ขันทีผู้นั้นถูกสีหน้าท่าทางของนางทำให้ตื่นตระหนก เขาพูดเสียงสั่นสะท้าน “ทูล ทูลเหนียงเหนียง เื่นี้บ่าวได้ยินมาจากผู้อื่นเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าเช้าวันนี้ฝ่าาประกาศต่อหน้าขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ในท้องพระโรง พระราชโองการลงมาแล้ว น่าจะไม่ผิดพลาดพ่ะย่ะค่ะ! ตอนนี้ สนมและชายาทั้งหลายต่างรีบไปตำหนักยีหลันเพื่อแสดงความยินดีกับหลานเฟยเหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนปล่อยเขา นางก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว คนทั้งคนราวกับถูกสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมา!
นี่เป็เื่จริงหรือ
เมื่อคืนยังให้คำสัญญากับนาง บอกว่าจะเป็ที่พึ่งพิงของนาง จะทำทุกอย่างเพื่อนาง วันนี้กลับแต่งตั้งหญิงอื่นขึ้นเป็ พระชายา!
นี่มันช่างน่าหัวเราะเยาะเกินไปแล้ว!
นางไม่อยากเชื่อ และไม่กล้าเชื่อ
“เป็ไปไม่ได้!” นางรู้สึกตัวและส่ายหน้า “เขาจะไม่ทำเช่นนี้ นี่เป็เพียงข่าวลือแน่นอน!”
จะต้องเป็เพราะองค์หญิงหลานซินคิดจะเอาคืนนาง ดังนั้นจึงคิดแผนปล่อยข่าวลือนี้ออกมา!
นอกจากเซวียหยวนเช่อบอกความจริงกับนางด้วยปากของเขาเอง หาไม่แล้วใครพูดนางก็ไม่เชื่อ!
นางหิ้วกล่องสำรับอาหารออกไปจากห้องเครื่อง
ด้านหลังนางเหล่าขันทีต่างมองตามหลังนางด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เื่พรรค์นี้จะเป็ข่าวลือได้อย่างไรกัน ใครจะขวัญกล้าปานนั้น ชัดเจนเหลือเกินว่านางหลอกตัวเอง!
หลังจากออกมาจากห้องเครื่อง เฟิ่งเฉี่ยนไปตำหนักยีหลันก่อน นางอยากเห็นว่าเื่นี้เป็ความจริงอย่างที่ขันทีพูดหรือไม่ องค์หญิงหลานซินถูกปล่อยตัวจากการถูกกักบริเวณแล้ว เหล่าสนมและชายาของตำหนักในกำลังแข่งขันไปแสดงความยินดีกับองค์หญิงหลานซิน
ต่อมาเมื่อนางมาถึงด้านนอกประตูตำหนักยีหลัน ภาพที่เห็นเต็มตาก็คือด้านหน้าประตูตำหนักยีหลันเต็มไปด้วยสนมและชายาที่เดินเข้าเดินออก ทุกคนล้วนมีของขวัญอยู่ในมือ
เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกเพียงว่าฝ่ามือของนางชื้นไปด้วยเหงื่อ ลมหายใจพลันถี่รัวขึ้นมาเฉยๆ
ไม่ ต่อให้เห็นภาพเช่นนี้ นางเองก็ยังไม่ยินดีจะเชื่อ อาจเป็เพราะองค์หญิงหลานซินและบรรดาสนมชายาได้นัดแนะกันเอาไว้แล้ว เพื่อยั่วโทสะนาง
ระหว่างที่นางกำลังใจลอย พลันมีคนร้องเรียกนาง “เอ๊ะ นี่มิใช่ฮองเฮาเหนียงเหนียงหรือ ท่านก็มาแสดงความยินดีกับหลานเฟยเหนียงเหนียงเช่นกันหรือ ช่างหาได้ยาก!”
เฟิ่งเฉี่ยนเงยหน้า เห็นฉีเหม่ยเหรินเดินออกมาจากกลุ่มคนด้วยสีหน้ามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
ได้ยินเสียงร้องเรียกของนาง สนมและชายาคนอื่นๆ จึงล้อมกันเข้ามา “ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนไม่คิดจะเสียเวลากับพวกนางจึงหมุนกายคิดจะจากไป ฉีเหม่ยเหรินขวางทางนางไว้
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง อย่าเพิ่งไปสิเพคะ! ฝ่าาทรงแต่งตั้งพระชายา เป็เื่น่ายินดีในวังหลวง ท่านในฐานะประมุขของตำหนักในควรจะเป็ผู้นำทุกคนมาแสดงความยินดีกับหลานเฟยเหนียงเหนียงจึงจะถูกต้อง เหตุใดสีหน้าของท่านดูเหมือนไม่ค่อยดีนัก ท่านคงมิได้ไม่พอใจต่อการตัดสินพระทัยของฝ่าากระมัง”
สิ้นเสียงของของนาง สนมและชายาคนอื่นๆ ฉวยโอกาสซ้ำเติมทันที
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงเพิ่งจะได้ปรนนิบัติไม่ถึงสองวัน ฝ่าาก็แต่งตั้งพระชายาทันที ไม่แปลกอะไรที่เหนียงเหนียงจะมีโทสะ!”
“แต่เื่นี้ช่วยอะไรไม่ได้ แต่งตั้งพระชายาหรือฮองเฮาล้วนขึ้นอยู่กับคำพูดเพียงประโยคเดียวของฝ่าา พวกเราเห็นอกเห็นใจเหนียงเหนียงเหลือเกินเพคะ!”
“ในวังไม่มีความโปรดปรานเพียงคนเดียวมาแต่ไหนแต่ไร ฮองเฮาเหนียงเหนียงใจกว้างสักหน่อยเถิด! เอาอย่างพวกเรา พวกเราเคยชินนานแล้ว”
“องค์หญิงหลานซินมีฐานะสูงศักดิ์ การแต่งตั้งเป็พระชายานั้นเป็เื่ช้าหรือเร็วเท่านั้น ที่จริงไม่มีอะไรน่าแปลก”
“เหนียงเหนียงในฐานะฮองเฮา ควรจะหัดเป็คนใจกว้าง ในเมื่อเื่การสืบทอดเชื้อสายเป็เื่สำคัญ ในวังหลวงจะมีไท่จื่อเพียงคนเดียวไม่ได้”
“ถูกต้อง! สาเหตุที่ราชวงศ์ถูกทำลายลงก็เป็เพราะมีบุตรหลานสืบเชื้อสายน้อยเกินไป ไม่มีคนมาสืบทอดราชบัลลังก์!”
“ดังนั้นฝ่าาแต่งตั้งพระชายาก็เป็เื่ดี ฮองเฮาเหนียงเหนียงควรใจกว้าง!”
“...”
คนทั้งหมดเ้าประโยคหนึ่งข้าประโยคหนึ่ง
เฟิ่งเฉี่ยนฟังแล้วยิ่งให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ เมื่อคิดได้ว่าตนเองต้องมาแบ่งปันบุรุษคนหนึ่งกับสตรีมากมายเช่นนี้ นางเริ่มปวดศีรษะแทบะเิ
เมื่อคืน นางยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่าจะวางตนเองลงชั่วคราว ยอมรับความสุขและความหวานชื่นในตอนนี้ แต่เวลาหนึ่งค่ำคืนผ่านไป ความจริงได้มอบความเ็ปแสนสาหัสให้กับนาง!
[1] เฟย คือ ตำแหน่ง พระชายาในจักรพรรดิ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้