เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก เธอก็วางน้ำตาลทรายแดงไว้ที่บ้าน แล้วไปสอนพิเศษให้เด็ก ๆ ในบ้านพักที่ห้องรับรองเหมือนเดิม
วันนี้เป็วันเสาร์ สวี่รั่วเฉินสนิทกับหัวหน้า เลยได้เลิกงานก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง
ตอนที่เขากลับมาถึงบ้านพักและเดินผ่านห้องรับรอง ก็เหลือบไปเห็นสวี่ฮุ่ยที่กำลังสอนการบ้านให้เด็ก ๆ ในบ้านพักอย่างตั้งใจ
เห็นผ้าพันแผลที่หน้าผากของเธอ เขาก็ชะงักไปพักหนึ่ง
เขาอยากจะถามสวี่ฮุ่ยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอนึกถึงท่าทีของสวี่ฮุ่ยที่มีต่อเขาในตอนนี้ เขาก็ล้มเลิกความคิด ตัดสินใจกลับไปถามน้องสาวคนเล็ก
เมื่อสวี่รั่วเฉินกลับมาถึงบ้าน เขาก็ถามสวี่เยว่ว่าทำไมหัวของสวี่ฮุ่ยถึงได้รับาเ็?
สวี่เยว่ร้องไห้สะอึกสะอื้นทันที บอกว่าแม่้าปรับความสัมพันธ์กับสวี่ฮุ่ย เห็นครอบครัวฉินยงจวินมีฐานะดี จึงอยากให้สวี่ฮุ่ยแต่งงานกับฉินยงจวิน
เื่นี้ยังไม่สำเร็จ แต่พี่สาวกลับไม่ยอมเลิกรา วิ่งไปฟ้องสหพันธ์สตรี
ไม่เพียงแต่ทำให้แม่ถูกไล่ออกเท่านั้น ยังแกล้งชนกำแพงฆ่าตัวตาย จนแม่ถูกตำรวจจับอีก
พ่อไปประกันตัวแม่ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา ต้องเป็ฝีมือสวี่ฮุ่ยที่สั่งเพื่อนตำรวจของเธอไม่ให้ประกันตัวแม่แน่ ๆ
ที่สวี่รั่วเฉินรีบกลับบ้านก็เพราะเห็นข่าวที่แม่กับน้องสาวคนเล็กอยากให้น้องสาวคนโตแต่งงานกับฉินยงจวินในหนังสือพิมพ์
เดิมทีเขา้ามาพูดเกลี้ยกล่อมแม่กับน้องสาวคนเล็ก น้องสาวคนโตจะแย่ยังไงก็เป็คนในครอบครัวเดียวกัน อย่าได้คิดร้ายกับเธอบ่อย ๆ เลย
แต่พอได้ฟังคำพูดของสวี่เยว่ เขาก็โกรธจนตัวสั่น
ต่อให้แม่จะผิดแค่ไหน สวี่ฮุ่ยก็ไม่ควรทำให้แม่ตกงาน
แล้วยังทำให้แม่ถูกตำรวจจับ แถมไม่ยอมให้ประกันตัวอีก แบบนี้ต่อไปแม่จะยืนอยู่ในสังคมได้ยังไง?
สวี่รั่วเฉินกำลังจะไปเรียกสวี่ฮุ่ยที่ห้องรับรองกลับมาบ้านเพื่อสั่งสอน ก็เห็นสวี่ต้าซานเข็นจักรยานเดินมาถึงหน้าประตูพร้อมกับสวี่ฮุ่ย
บนแฮนด์จักรยานของสวี่ต้าซานยังมีตับหมูที่มัดด้วยฟางห้อยอยู่ชิ้นหนึ่ง
สวี่ต้าซานเห็นลูกชายเลิกงานกลับมาก็หยิบตับหมูจากแฮนด์รถจักรยานส่งให้สวี่รั่วเฉิน บอกให้เขาเอาไปไว้ในครัว ตอนเย็นจะทำน้ำแกงตับหมูใส่พุทราแดงให้สวี่ฮุ่ยกิน
ที่เขาซื้อตับหมูมาทำน้ำแกงให้สวี่ฮุ่ยดื่มก็เพราะกลัวเพื่อนบ้านจะนินทาลับหลัง ว่าเขารังแกลูกสาวคนโตเหมือนกับกู่ซิ่ว
เขาไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็พ่อที่ไม่ได้เื่
สวี่รั่วเฉินโกรธจนตาแดงก่ำ “พ่อ สวี่ฮุ่ยทำให้แม่ถูกไล่ออก แถมยังใส่ร้ายแม่จนถูกตำรวจจับ พ่อจะทำน้ำแกงตับหมูให้เธอกินอีกเหรอ?”
สีหน้าของสวี่ต้าซานเคร่งขรึมขึ้นมาทันที สายตาจับจ้องไปที่สวี่เยว่ที่อยู่ด้านหลังสวี่รั่วเฉิน “พวกนี้ลูกได้ยินมาจากใคร? สวี่เยว่เป็คนบอกลูกใช่ไหม?”
สวี่รั่วเฉินปกป้องสวี่เยว่ไว้ข้างหลัง “เยว่เยว่ไม่ได้พูดโกหก!”
สวี่ต้าซานมองสวี่เยว่อย่างเ็า ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ลูกนี่มันนิสัยเสียจริง ๆ มีโอกาสทีไรก็จ้องจะกัดฮุ่ยฮุ่ยตลอด”
“ลูกจะพูดความจริงเอง หรือจะให้พ่อเรียกคนเกี่ยวข้องกับคุณตาของลูกมาพิสูจน์ว่าสิ่งที่ลูกกับพี่ชายพูดเป็เื่โกหกทั้งหมด?”
แม้ว่าสวี่ต้าซานจะไม่พอใจที่สวี่ฮุ่ยไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ในครอบครัว ไม่รักษาหน้าเขา ประจานเื่น่าอายของครอบครัวให้คนอื่นรู้ตลอด ทำให้เขาขายหน้าเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงาน
แต่ที่ลูกสาวคนโตเป็แบบนี้ ไม่ใช่เพราะลูกสาวคนเล็กเหรอ
ถ้าลูกสาวคนเล็กไม่จ้องจะแว้งกัดลูกสาวคนโต ลูกสาวคนโตก็คงไม่กลายเป็แบบนี้
แม้ว่าสวี่ต้าซานจะโกรธลูกสาวคนโตอยู่บ้าง แต่เขาก็เป็คนมีเหตุผล เลยยิ่งเกลียดลูกสาวคนเล็กที่ชอบกัดและชอบเอาเปรียบคนอื่น
ถ้าลูกสาวคนเล็กไม่เป็โรคหัวใจ เขาคงตบหน้าเธอไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ลูกสาวคนโตต้องรับความอยุติธรรมหรอก!
สวี่เยว่หน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ
ครั้งที่แล้วคุณตาตั้งใจมาตบหน้าเธอถึงบ้าน เธอยังจำได้ไม่ลืม
ฉากที่แม่ฉินตบกู่ซิ่ว เธอก็ยังจำได้แม่น
ถ้าเรียกปีศาจสองตนนั้นมา เธอคงโดนตีตายแน่ ๆ !
สวี่เยว่จำใจพูดความจริงอย่างตะกุกตะกัก