ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนแสดงบัตรสีดำออกมา สนามประมูลที่เคยมีเสียงอึกทึกครึกโครมก็เงียบกริบทันที
สิ่งที่ผู้มาประมูลหวาดกลัวที่จะได้พบมากที่สุดคืออะไร สิ่งนั้นก็คือของบนมือกูเฟยเยี่ยนนั่นเอง! และสิ่งที่เ้าหน้าที่ประมูลชื่นชอบมากที่สุดคืออะไร มันก็คือสิ่งที่อยู่บนมือกูเฟยเยี่ยนเช่นกัน!
บัดนี้จิตใจของผู้คนมีความคิดเดียวกันว่า…คนเรามิอาจตัดสินใจจากรูปลักษณ์ภายนอกได้!
จวินจิ่วเฉินยกยิ้มเล็กน้อยที่ดูเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้มและมีความจำใจอยู่สามส่วน หมางจ้งจับจ้องไปที่แผ่นหลังของกูเฟยเยี่ยนที่ชูบัตรสีดำขึ้น ไม่รู้ว่าทำไม เขายิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่านังหนูคนนี้ใช้เงินของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้อย่างมีเอกลักษณ์มาก
ผู้คนแทบจะทั้งหมดล้วนจับจ้องไปที่บัตรสีดำบนมือกูเฟยเยี่ยน แต่หานอวี๋เอ๋อร์เป็ข้อยกเว้น
หลังจากที่นางทราบแล้วว่าเกิดเื่อะไรขึ้น นางก็เบียดไปยืนข้างกายชายชรา ในขณะนี้นางกำลังตั้งใจพิจารณาดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่อยู่
หลังจากที่นางออกจากห้องเรียนสมุนไพรหุบเขาเสินหนง นางก็ได้รับหน้าที่ให้เป็อาจารย์แพทย์สมุนไพรประจำตระกูลป้อมปราการหาน นางไม่ได้หยุดเรียนรู้ จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังศึกษาตำรายารักษาโรคอยู่เป็ประจำ นางมั่นใจในทักษะยาสมุนไพรของตนเองมาก! หลังจากที่สังเกตมาแล้วสามครั้งก็แน่ใจว่าดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นี้ไม่มีปัญหาใดๆ
นางลอบยิ้มเยาะเย้ย กูเฟยเยี่ยนอยากจะโด่งดังจนเป็บ้าไปแล้วหรือ? คิดว่าที่นี่คือเมืองจิ้นหยางหรือ? คิดว่าความสามารถของอาจารย์แพทย์หุบเขาเสินหนงอยู่ในระดับเดียวกันกับห้องยาสำนักหมอหลวงเทียนเหยียนหรือ?
น่าขันสิ้นดี!
หานอวี๋เอ๋อร์หันมองบริเวณรอบข้างโดยไม่แน่ใจว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่ใด แต่มั่นใจได้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน นางคิดว่าโอกาสในการแสดงความสามารถของตนเองมาถึงแล้ว หลังจากที่รู้จักกันมานานถึงสามปี นางยังไม่เคยมีโอกาสได้แสดงฝีมือต่อหน้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเลยสักครั้ง วันนี้เป็โอกาสดีที่จะได้ปราบปรามกูเฟยเยี่ยนไปพร้อมกับสร้างชื่อเสียงให้เป็ที่ประจักษ์ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้!
ในที่สุดหานอวี๋เอ๋อร์ก็เงยหน้ามองไปบนแท่นประมูล ไม่นานรอยยิ้มเยาะเย้ยก็ปรากฏขึ้น
บนแท่นประมูล ถังจิ้งทำการตรวจสอบบัตรสีดำของกูเฟยเยี่ยนแล้วและยืนยันว่าไม่ใช่ของปลอม
ในขณะนี้นางมองกูเฟยเยี่ยนด้วยสายตาที่ทึ่ง ภายในใจก็มีความระแวดระวังเพิ่มขึ้น นางแอบครุ่นคิดว่าผู้ที่มาก่อเื่ในสนามประมูลเป็ผู้ที่มีอำนาจและอิทธิพลของกลุ่มใดกัน พวกเขาเพียงแค่พุ่งมาที่สนามประมูลทิศตะวันออกหรือ?
นังหนูคนนี้เอาแต่พูดว่าต้องตรวจสอบสมุนไพรใหม่อีกครั้ง และบีบบังคับให้นางไปตามอาจารย์แพทย์มา ตกลงแล้วพวกเขาวางหลุมพรางอะไรกัน?
กูเฟยเยี่ยนไม่มีเวลาให้สูญเสียมากนักจึงเอ่ยเร่งรัดอีกครั้ง “เงื่อนไขล้วนเจรจาเรียบร้อยแล้ว รีบไปตามหาอาจารย์แพทย์มาตรวจสอบ! เพื่อความยุติธรรมแล้ว ไม่สามารถตามหาอาจารย์แพทย์ของสนามประมูลได้! ”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ ถังจิ้งก็ยิ่งเกิดความสงสัยเข้าไปอีก
นางกำลังคิดว่าจะจัดการอย่างไรดี? ต้องรายงานเื่นี้ต่อหัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพาหรือไม่? หรือต้องรบกวนหัวหน้าใหญ่ดี เพราะผู้ที่มีบัตรสีดำนั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
กูเฟยเยี่ยนเร่งรัดอีกครั้ง “ท่านรีบหน่อยได้หรือไม่? ชายชราต้องรีบกลับไปตามหาสมุนไพรตัวใหม่นะ! ”
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาจากด้านล่างของแท่นประมูล “พี่ถังจิ้ง”
พี่ถังจิ้ง?
ทำไมน้ำเสียงนี้ถึงคุ้นเคยจังเลย?
กูเฟยเยี่ยนมองไปทางที่มีเสียงดังขึ้นมาก็พบว่าหานอวี๋เอ๋อร์เบียดออกมาจากกลุ่มคนแล้วเดินขึ้นมาด้วยท่าทีกุลสตรีที่มาจากตระกูลผู้ดีมีฐานะ
ถังจิ้งก็หันไปมองด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
หานอวี๋เอ๋อร์ก้าวเดินขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทันทีเข้ามาใกล้ก็เอ่ยว่า “พี่ถังจิ้ง ไม่ได้พบกันนานเลย นังหนูคนนี้เป็หญิงรับใช้ของสหายคนสนิทของข้า คนรับใช้ไม่รู้เื่รู้ราว โปรดอย่าถือสา เื่นี้เป็เื่เข้าใจผิดแน่ๆ เดี๋ยวข้าเชิญสหายคนสนิทท่านนั้นมาแล้วทุกท่านย้ายไปเจรจาที่ด้านหลังดีหรือไม่ จะได้ไม่ต้องกระทบกับการประมูลในครั้งต่อไป”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนเพียงแค่แปลกใจ แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้นางก็เกิดความไม่พอใจทันที
ประการแรก นางเป็หญิงรับใช้ของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ใช่ของหานอวี๋เอ๋อร์ หานอวี๋เอ๋อร์มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนนาง
ประการที่สอง หานอวี๋เอ๋อร์ทราบความจริงมากน้อยเพียงใดกัน? มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่านี่เป็เื่เข้าใจผิด?
ประการที่สาม เื่ราวเป็เช่นนี้แล้วยังจะย้ายไปจัดการในที่ส่วนตัวอีกหรือ? นี่มันชัดเจนว่าเจตนาทำให้ผู้คนสงสัยว่านางใจฝ่อไม่มีเหตุผลอย่างนั้นหรือ?
กูเฟยเยี่ยนกำลังจะอ้าปากเถียงกลับไป แต่ใครจะไปทราบว่าถังจิ้งจะถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองก่อน “คุณหนูท่านนี้ ท่านเป็ใครกัน? พี่สาวคนนี้ไม่รู้จัก”
นี่…
อย่าว่าแต่คนบนแท่นประมูลเลย แม้แต่ผู้คนที่ส่งเสียงอึกทึกครึกโครมด้านล่างยังเงียบลงในทันที
เดิมทีใบหน้าของหานอวี๋เอ๋อร์เต็มไปด้วยรอยยิ้มและวางมาดสง่าผ่าเผย แต่ชั่วพริบตาเดียวใบหน้าของนางก็แดงก่ำราวกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
นางรีบอธิบาย “พี่ถังจิ้ง ข้าคือหานอวี๋เอ๋อร์อย่างไงเล่า เมื่อห้าปีที่แล้วพวกเราเคยพบกันในห้องเรียนสมุนไพรสองสามครั้ง ข้ายังเคยช่วยท่านวินิจฉัยสมุนไพรสองชุดเลย ท่านนี่ก็…ฮ่าๆ ท่านลืมเลือนมิตรภาพเก่าๆ ไปแล้วหรือ! ”
เดิมทีถังจิ้งคิดว่าหานอวี๋เอ๋อร์จะเป็อีกหนึ่งปัญหา แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ดวงตาของนางก็ทอประกายถึงความซับซ้อน “เ้าคือคนของตระกูลป้อมปราการหาน? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ดีใจมาก “ใช่แล้ว น้องสาวคนนี้ความสามารถเป็ลำดับที่สามของตระกูลป้อมปราการหาน ผู้คนขนานนามว่าคุณหนูสาม”
ถังจิ้งนึกขึ้นได้อย่างฉับพลัน ภายในใจก็มีแผนการขึ้นมา นางเอ่ยด้วยความกระตือรือร้น “ที่แท้ก็คือคุณหนูสามตระกูลหานนี่เอง ขออภัยที่เสียมารยาท” ถังจิ้งไม่้าให้อาจารย์แพทย์ท่านอื่นในหุบเขาเสินหนงมาวุ่นวายกับเื่ราวในสนามประมูล ประการแรกคือนี่อาจเป็เื่หลอกลวง ประการที่สองคือการแข่งขันในสนามประมูลของหุบเขาเสินหนงแต่ละรอบล้วนดุเดือดมาก ส่งผลให้ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนัก อาจารย์แพทย์เ่าั้เชิญมาได้ยาก อีกทั้งเมื่อเชิญมาแล้วยังต้องถูกพวกเขาเยาะเย้ยอีกด้วย
หานอวี๋เอ๋อร์อยู่ในที่นี้พอดี นี่คือโอกาสอันดีไม่ใช่หรือ?
หากนางจำไม่ผิดนังหนูคนนี้เป็บุคคลที่โดดเด่นที่สุดของห้องเรียนสมุนไพรในสมัยนั้น บัดนี้คงจะเป็อาจารย์แพทย์ประจำตระกูลป้อมปราการหาน การที่ให้นังหนูคนนี้มาวินิจฉัยสมุนไพรเป็เื่ที่เหมาะสมมาก
จากความกระตือรือร้นของถังจิ้งแล้ว หานอวี๋เอ๋อร์พอใจมากทีเดียว นางจึงรีบถามออกไปว่า “พี่ถังจิ้ง ให้เกียรติแก่หน้าข้าได้หรือไม่? ” ถังจิ้งแสดงสีหน้าจำใจออกมา “นี่…เื่นี้นับเป็เื่ใหญ่ แทนที่จะจัดการเป็การส่วนตัว ไม่สู้…ไม่สู้ให้เ้าช่วยเหลือวินิจฉัยดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นั่น? เ้าเป็ทั้งบุคคลภายนอกของสนามประมูล และยังเป็สหายสนิทของเ้านายนังหนูคนนั้นอีกด้วย เกรงว่าการวินิจฉัยของเ้าจะสามารถทำให้นังหนูคนนั้นยอมรับได้”
ถังจิ้งพูดแล้วจงใจมองไปที่กูเฟยเยี่ยน
หานอวี๋เอ๋อร์ก็มองไปที่กูเฟยเยี่ยนเช่นกัน “เป็เกียรติอย่างยิ่งที่พี่ถังจิ้งเชื่อมั่นในตัวข้า พี่ถังจิ้งวางใจได้ ข้าจะทำให้นังหนูคนนี้ยอมรับและขอโทษท่านอย่างแน่นอน”
ในขณะเดียวกัน กูเฟยเยี่ยนก็หรี่ตาจับจ้องไปที่หานอวี๋เอ๋อร์แล้ว นางพึมพำในใจ “คุณหนูสามตระกูลหาน ท่านมั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยไหม? ข้าไม่ชอบท่านมาตั้งนานแล้ว ในครั้งนี้ท่านหาเื่ด้วยตนเอง อย่ามาโทษว่าข้าไม่เห็นแก่หน้าของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแล้วกัน! ”
ไม่ช้ากูเฟยเยี่ยนก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สุภาพนัก “ความหมายของคุณหนูสามตระกูลหานก็คือดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นี้ไม่มีปัญหาใดๆ ? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ปรารถนาที่จะพูดคุยกับกูเฟยเยี่ยนมาก นาง้าใช้โอกาสนี้พูดให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้ยิน!
นางกล่าวว่า “แน่นอน ไม่จำเป็ต้องสงสัยในความน่าเชื่อถือของสนามประมูล เมื่อสักครู่นี้ตอนที่อยู่ด้านล่างข้าสังเกตเห็นดอกตงหยิ่นแล้ว สาวน้อยเยี่ยน ข้าจะแนะนำเ้าเป็ครั้งสุดท้ายว่าเลิกก่อกวนและเลิกสร้างปัญหาให้กับเ้านายของเ้าได้แล้ว เขายุ่งมาก เ้าที่เป็คนรับใช้เดิมทีควรที่จะก่อเื่ให้น้อยที่สุด หากเ้าวางมือตอนนี้ข้าจะต้องช่วยให้เ้าไม่ต้องเสียค่าเสียหายอย่างแน่นอน”
กูเฟยเยี่ยนทำเป็ได้ยินเื่ล้อเล่นจึงเอ่ยว่า “เมื่อสักครู่นี้คุณหนูถังกล่าวเอาไว้ว่าหากสมุนไพรมีปัญหา สนามประมูลจะชดเชยให้สิบเท่า ท่านไม่ได้เป็คนของหุบเขาเสินหนง ท่านสามารถมาวินิจฉัย หากว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์บ่งบอกว่าสมุนไพรนี้มีปัญหา ท่านวางแผนที่จะชดเชยกี่เท่ากัน? ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาหานอวี๋เอ๋อร์ก็เกิดโทสะทันที “เ้า เ้าเป็เพียงหญิงรับใช้ เ้าพูดจาเยี่ยงนี้ได้อย่างไร! ข้ามาช่วยเหลือแต่เ้ากลับให้ข้าชดเชยเงินเนี่ยนะ! ”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มเยาะออกมา “ท่านมั่นใจมากว่าสมุนไพรไม่มีปัญหา ท่านยังกลัวว่าจะต้องชดเชยอีกหรือ? หรือ…ท่านก็คิดว่าสมุนไพรมีปัญหาเช่นกัน? ”
ถังจิ้งกำลังไตร่ตรองว่าคำพูดนี้มีความผิดผิดปกติ หานอวี๋เอ๋อร์ที่ทนต่อความยั่วยุไม่ไหวจึงรับปากในทันที “ได้ หากว่าสมุนไพรตัวนี้มีปัญหา เปิ่นเสี่ยวเจี่ยจะชดเชยให้สิบเท่าเช่นเดียวกันกับหุบเขาเสินหนง! ”
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายถึงความเ้าเล่ห์แล้วตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “เช่นนั้นก็เชิญท่านเริ่มวินิจฉัยสมุนไพร! ”