“ พี่สี่แต่งงานกับคนที่ไหนหรือเ้าคะแล้วข้ามาอยู่นี่ตั้งเจ็ดวันทำไมไม่เคยเห็นหน้าพี่สี่เลยละ”
“ นางเตรียมตัวจะเป็เ้าสาว ตอนนี้ไปเรียนอยู่ในเมือง กับท่านยายเ้าจะเจอได้ยังไงกัน”
“ คู่หมั้นหมายของนางก็เป็ญาติห่างๆ กับพี่เขยคนที่หนึ่งของเ้านั่นแหละ”
“ พูดถึงคู่หมั้นหมายปีนี้เ้าก็อายุสิบสามแล้ว ข้าเห็นท้ายหมู่บ้านมีหนุ่มคนหนึ่งขยันขันแข็งถ้าเ้าได้แต่งงานด้วยก็จะดีจะได้มีคนมาช่วยทำไร่ทำสวน”
“ อ้าว? ทีพี่ทั้งสี่ทำไมได้แต่งงานอยู่ในเมืองหมด ถึงตอนข้าทำไมต้องแต่งกับชาวสวนเพื่อมาทำไร่ทำสวนละเ้าค่ะไม่กลัวว่าข้าจะลำบากรึ”
“ เ้าจะลำบากยังไงชูเจินข้าก็เห็นร่างกายเ้าแข็งแรงดี ทำงานได้เยอะกว่าข้าเสียอีก ”
“ ถ้าอย่างงั้นข้ากลับไปแต่งงานกับทหารยังดีกว่า พวกท่านไม่ต้องไปติดต่อให้นะเ้าคะเพราะข้าไม่แต่ง”
“ ช่วยงานท่านพ่อเสร็จแล้วข้าก็ต้องกลับ เพราะต้องเอาม้าไปคืนค่ายด้วย”
ซูเจินยืนคุยกับพ่ออยู่หน้าบ้าน“ ซูเจินเ้าไปอยู่ช่วยปลูกพืชผักตั้งสามปีพวกเขาไม่ตกรางวัลให้แก่เ้าบ้างรึ พี่สาวเ้าจะแต่งงานสินเ้าสาวยังไม่ครบเลย”ซูเจินมองหน้าแม่เ้าของร่างที่เสียชีวิตไปแล้วอีกครั้ง
“ ถ้าเราไม่บังเอิญมาเกิดใหม่ในร่างคนที่ตายแล้วป่านนี้แม้แต่กระดูกก็คงจะไม่เหลือ” นางก็ได้แต่คิดในใจเท่านั้น
“เ้าก็น่าจะมีน้ำใจช่วยเหลือพี่สาวบ้าง วันข้างหน้าตอนเ้าแต่งงานพี่สาวเ้าก็คงไม่ใจดำหรอก”
ซูเจิน ทำท่าล้วงตำลึงออกมาจากถุงย่าม ความจริงแล้วนางเอาออกมาจากถุงมิติ เป็รางวัลที่ได้จากแม่ทัพใหญ่ที่นางช่วยเหลือลูกชาย สิบตำลึงทอง
“ นี่เ้าค่ะท่านแม่ห้าตำลึงทอง ข้าต้องกลับไปเป็ลูกจ้างเขาอีกห้าปี”
“โอ้! ซูเจินเ้ามีตำลึงมากมายถึงห้าตำลึงทองทำไมตอนเจอหน้าพ่อแม่ ถึงไม่เอาตำลึงนี้มาให้ล่ะเ้าจะเก็บไว้ใช้เองจะเป็ลูกอกตัญญูหรือไง”
“ ข้าปีนี้อายุสิบสามแล้วก็เก็บไว้เป็สีเดิมเ้าสาวสินเ้าคะ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนพวกท่านหาเก็บให้เหมือนพวกพี่ๆ”
“ หน้าตาอย่างเ้าตากแดดตากดำ จนเหมือนผู้ชายไปทุกวันจะหาสินเ้าสาวไปทำไม แต่งกับชาวสวนชาวไร่ไม่ต้องใช้ก็ได้”
“ แหมท่านแม่ก็ ข้าก็อยากจะสบายแบบพวกพี่ๆบ้างสิ ไม่แน่ว่าโตขึ้นอายุสิบสี่สิบห้าข้าอาจจะขาวสวยก็ได้ใครจะไปรู้”
“ อยากสบายอย่างนั้นรึ เ้าบ่าวถ้าญาติผู้ใหญ่ไม่หาให้เ้าจะไปหาที่ไหนเดินหาเองหรือยังไง”
“ จบพอแค่นี้ เ้าค่ะข้าขอลาพวกท่านกลับค่ายก่อน ตำลึงทองนั่นจะใช้ทำอะไรก็เชิญ”ซูเจินเข้าไปจูงม้า แม้ตอนนี้จะเป็เวลาพลบค่ำแล้วก็ตาม
สองสามีภรรยากำลังดีใจที่ได้ตำลึงทองมาง่ายๆตั้งห้าตำลึง โดยหลงลืมไปว่า ตอนนี้กำลังจะมืดและลูกสาวคนเล็กก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง
“ ให้ตายสิข้าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเป็อันขาด ขนาดลูกในไส้ยังเลี้ยงต่างกันขนาดนี้ ไม่เข้าใจจริงๆเลยถ้าเป็ลูกเก็บมาเลี้ยงก็ยังว่าไปอย่างจบสิ้นกันที”
“ ครอบครัวคนอื่นก็ไม่เห็นเป็แบบนี้นี่นา ช่างเถอะความจริงเราก็ไม่ได้เป็ลูกในไส้ของพวกเขานั่นแหละ เ้าของร่างก็ตายไปแล้วเราก็ถือว่ามาเกิดใหม่ในร่างนี้ จบๆ อย่าคิดมาก”ซูเจินบ่นกับตัวเอง
นางขี่ม้ากลับค่ายเล็กทั้งที่เป็กลางคืนแต่สายตานางและม้าก็มองเห็นทาง ยังมีบ้านคนและมีแสงไฟบ้างเป็บางที่ พอออกจากทางหมู่บ้านก็ยังมีแสงจันทร์ส่องทาง นางไม่อยากแวะพักตามโรงเตี๊ยม
ซูเจิน ไม่แวะพักที่ไหนใช้เวลาแค่สามชั่วยาม ก็มาถึงค่ายเล็ก นางบังคับม้าให้ไปที่น้ำตก มัดม้าไว้กับต้นไม้ส่วนนางก็ดำน้ำทั้งที่เป็เวลากลางดึกเข้าไปในถ้ำ
“ตัวตุ่น ข้า้าพักผ่อน รบกวนเ้าหาน้ำกับหญ้าไปให้ม้าหน่อยข้ามัดมันไว้กับต้นไม้ข้างน้ำตกนี่แหละ”
สั่งตัวตุ่นเสร็จ ทีแรกนางคิดว่าจะนอนพักผ่อนแต่พอเจอพลังในถ้ำความเหนื่อยอ่อนก็หายไปจึงเปลี่ยนใจนั่งโคจรพลังแทน
ซูเจิน ใช้ชีวิตอยู่แต่ในถ้ำแทบจะไม่ออกข้างนอกเลยจนไปหนึ่งเดือน เริ่มมีสายฝนโปรยปรายหลังจากที่ไม่ตกมานาน ั้แ่ที่ตกกระหน่ำลงมาจนถนนหนทางเสียหายตอนนั้น
“ตัวตุ่น วันนี้ข้าจะออกไปข้างนอก แวะไปหาอาทั้งสองเสียหน่อย ดูว่าพวกเขาแต่งงานหรือยัง”
“ซูเจิน เ้าไม่ได้กลับมานานแล้วรึ ข้าคาดเดาแล้วว่าเ้า จะอยู่ที่บ้านได้ไม่นาน”จางเหว่ยอาใหญ่พูดขึ้น
“ ท่านรู้ได้ยังไงหรือเ้าคะว่าข้าจะอยู่ที่บ้านได้ไม่นาน”
“ ไม่มีอะไรหรอกเพราะข้าเห็นเ้าชอบอิสระและอายุของเ้า ก็ถึงเวลาที่จะมีคู่หมั้นหมายแล้ว พวกเขาอาจจะจับเ้าหมั้นหมายกับใครสักคนในหมู่บ้าน”
“ ท่านทายถูกเลยเ้าค่ะ ข้าไม่ชอบเลยออกมา แต่ทำไมพวกท่านถึงรู้แล้วว่า ข้าต้องแต่งงานกับคนในหมู่บ้านไม่ได้แต่งกับคนที่อยู่ในเมืองเหมือนพี่ๆทั้งสี่”
“ ความจริงแล้ว พี่ใหญ่และพี่สะใภ้มีความหวังว่าเ้าจะเป็เด็กผู้ชายเพราะมีลูกสาวมาตั้งสี่คนแล้ว แต่เ้าก็ยังดันเป็ลูกสาวอีก ทำให้ทั้งสองผิดหวังตอนเ้าห้าขวบ ก็ฝึกเ้าให้ทำงานหนักแบบเด็กผู้ชายแล้ว”
“ แล้วแบบนี้จะให้เ้ากลายเป็หญิงที่บอบบาง ไปแต่งงานกับคนในเมืองได้ยังไงถ้าไม่แต่งงานกับคนในหมู่บ้านเดียวกันแล้วทำไร่ทำสวน”
“ แล้วนี่ พวกท่านจะแต่งงานเมื่อไหร่แล้ว ว่าที่เ้าสาวของพวกท่านล่ะอยู่ที่ไหน”
“ นางทั้งสองไปซื้อเครื่องปรุงในเมือง อีกหลายชั่วยามถึงจะกลับเ้าจะรอเจอพวกนางไหม”
“ ไม่ล่ะเ้าคะ นี่คือตำลึงทองที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้กับข้ามาตอนที่ช่วยชีวิตลูกชายท่านไว้ ข้าให้เป็ของขวัญวันแต่งงานของท่านอาทั้งสองก็แล้วกันห้ามปฏิเสธ พี่สี่ข้าให้ไปตั้งห้าตำลึงทอง”
“ซู…เจิน มันจะไม่เยอะไปหน่อยหรือ ถึงกับให้อาคนละสองตำลึงทองเลยรึ เ้าไม่เก็บไว้ให้ตัวเองไว้ใช้หรือเป็สินสมรสล่ะ”
“ ข้าอายุยังน้อยมีเวลาหาอีกตั้งเยอะ และที่สำคัญข้าก็เก็บไว้บางส่วนแล้วท่านไม่ต้องเป็ห่วง ”ซูเจินอยู่คุยกับอาทั้งสองพักหนึ่งก็กลับไปยังถ้ำ
“ซูเจิน เ้ากลับมาแล้วข้ามาถึงสักพักหนึ่งแล้วไม่เจอเ้า เห็นแต่ข้าวของเครื่องใช้วางอยู่”
“ท่านหยุน ท่านมานี่หมายความว่ามาพักผ่อนโคจรพลัง หรือว่าจะเดินทางไปกับโลกข้างบนพร้อมกับข้า”
“ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไปโลกข้างบนพร้อมกับเ้า ข้าไม่รู้จะไปทางไหนดี”
“ หมายความว่าท่านหนี ออกจากบ้านมาอย่างงั้นรึแต่ก็ไม่น่าใช่ท่านโตขนาดนี้แล้ว”
“ ไม่มีอะไรหรอกท่านแม่จะให้ข้าแต่งงานกับลูกสาวเ้าเมือง แต่ข้าไม่ชอบและยังไม่คิดจะแต่งงานเร็วๆนี้”
“ แล้วถ้าท่านหายตัวไปพวกเขาจะไม่ออกตามหาหรือเ้าค่ะ ท่านได้บอกกล่าวหรือทิ้งข้อความไว้หรือไม่”
“ ข้าทิ้งข้อความไว้แล้ว หนึ่งเดือนจากนี่ถ้าพวกเขาไม่เห็นข้า ก็น่าจะไปเห็นข้อความที่ข้าเขียนไว้ เรามีเวลาแค่หนึ่งเดือนที่จะหาทางออกไปจากที่นี่”
“ ได้อย่างนั้นเราไปดู จุดวงกลมที่เราจะขึ้นไปข้างบนและน้ำตกที่ท่านจะทำอะไรก็ได้ ให้มันเกิดเป็ละอองน้ำขึ้นมา และวิ่งไปยังจุดวงกลมให้ทัน”
ทั้งสองออกมาสำรวจ พื้นที่ด้านนอก“ ข้าจะต้องฝึกกระบี่ ที่น้ำตกเพื่อให้มันกระจายและซ้อมวิ่งมาตรงวงกลมนี้ใช่หรือไม่”
“ ใช่แล้ว ท่านจะต้องทำให้เกิดสายรุ้ง ให้ได้เยอะที่สุดต้องฝึก่สาย ตอนมีแสงแดดส่องจากฝั่งตรงข้ามกับน้ำตก ให้น้ำมีละอองกระจายฟุ้งไปในอากาศเยอะเท่าไหร่ สายรุ้งก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นเยอะเท่านั้น”
และทั้งสองก็ร่วมกันฝึก กระบี่อยู่หน้าน้ำตก ซ้อมวิ่งมาถึงวงกลมโดยซูเจิน จะเป็คนวิ่งมาก่อนเพื่อมาเตรียมกล่องแก้วรอเปิด หลิวหยุนวิ่งตามมาหลังจากฟันดาบกับสายน้ำอีกหนึ่งขบวนท่า
“เวลาประมาณนี้น่าจะได้แล้วแต่ เพื่อป้องกันความผิดพลาดเื่สายรุ้ง ตัวตุ่นเ้ามีพลังเยอะให้อมน้ำเข้าไปในปากให้เยอะที่สุดแล้วพ่นออกไปให้สูงที่สุดเ้าเข้าใจหรือไม่”
จากซ้อมสองคนก็เพิ่มตัวตุ่นมาอีกหนึ่ง ใช้เวลาครึ่งเดือนในการฝึกซ้อมและรอให้ฝนตกโปรยปราย่เช้า
ท่านแม่ทัพใหญ่ ที่ตามหาลูกชายมีทหารรายงานว่าเขาฝึกซ้อมกระบี่อยู่ที่น้ำตกก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ไม่อยากแต่งงานก็เลื่อนออกไปเท่านั้น
“ ลูกสาวเ้าเมืองก็หน้าตางดงามหาตัวจับยาก ก็แค่แต่งงานไปถ้าไม่รักวันข้างหน้าเจอผู้หญิงที่ถูกใจก็สามารถแต่งมาเป็เมียรอง หรืออนุได้ทำไมถึงคิดเล็กคิดน้อยกันเ้าลูกชายคนนี้” ท่านแม่ทัพนั่งบ่นกับทหารที่มารายงาน
เช้าวันที่ยี่สิบ ทั้งสองนั่งโคจรพลังอยู่ในถ้ำ่สายถึงจะออกมาฝึกที่น้ำตก“ซูหลิน เ้ารีบออกมาข้างนอกฝนตกกำลังจะหยุดและมีแสงแดดในไม่ช้ามันต้องเกิดสายรุ้งเหมือนอย่างที่เ้าสั่งไว้”
ซูหลินลืมตาขึ้นมาทันที“ท่านหยุนเร็วเข้ารีบเตรียมตัวจะเกิดสายรุ้งแล้ว”ซูหลิน เก็บทุกอย่างเข้าในถุงมิติซึ่งชาย หนุ่มไม่เคยเห็นมาก่อน
“ ท่านไม่ต้องสงสัยรีบออกไปเลย นี่คือของพิเศษที่ข้ามีของท่านก็เอามาเก็บรวมกับข้าได้”พูดจบซูเจินก็ของชายเข้าในถุงมิติและรีบออกมาจากถ้ำ
“ นั่นไง!เร็วเข้าสายรุ้งเริ่มก่อตัวแล้วถ้าแสงแดดโดนก้อนเมฆบดบังเราจะเสียโอกาส”ซูเจินถือกระบี่ออกไปตัด เชือกที่ล่ามม้าไว้กับต้นไม้เพื่อปล่อยม้ากลับคอก
หลิวหยุนร่ายรำกระบี่กลางน้ำตก เพื่อให้มันเกิดละอองฟุ้งกระจายเยอะที่สุด ซูเจินเข้าไปร่วมด้วยเป็ มีตัวตุ่นพ่นน้ำจากข้างล่างขึ้นข้างบน
จนเกิดแสงสายรุ้งขึ้นไม่รู้กี่สาย ซูเจินรีบออกมาจากน้ำตกและมองกลับไปยังน้ำตก“ โอ้!เป็ภาพที่สวยงามมาก สายรุ้งเกิดจากธรรมชาติหลังฝนตกแค่สองสายเท่านั้นดูเหมือนจะครบเจ็ดสายแล้ว”
“ หลิวหยุน!! สายรุ้งครบเจ็ดสายแล้วเร็วเข้าไปตรงวงกลม”ซูหลินวิ่งนำไปก่อน ตามด้วยหลิวหยุนและตัวตุ่น
ซูเจินเห็นชายหนุ่มตามมาแล้วก็เอากล่องแก้วขึ้นมาถือไว้ กล่องแก้วปรากฏแสงออกมาเล็กน้อย
“ พร้อมหรือยังข้าจะเปิดกล่องแล้วนะ”ซูเจินพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเปิดกล่องแก้ว ที่ใช้แค่มือจับให้เปิดก็ได้แล้ว
เกิดแสงสว่างวาบขึ้น แสงนั้นสว่างจ้าจนทั้งสองต้องหลับตาลง และรู้สึกตัวเหมือนแรงกระชากกระตุกจนรู้สึกมึนหัว เมื่อแรงกระชากหยุดลงทั้งสองก็ลืมตาขึ้นมา
“ โอ๊ะ! พวกเราทำสำเร็จแล้วดูเหมือนตรงนี้จะมีพลังเหมือนอยู่ในถ้ำเลยแต่ว่ามันอยู่ที่ไหนทำไมมีแต่ป่า”เสียงซูเจินดั่งขึ้น
“ อ้าว! แล้วกล่องแก้วในมือข้ามันหายไปที่ไหนแล้วหรือว่ากลับไปอยู่ที่เดิม ท่านหยุนอย่างนี้ท่านก็ไม่สามารถกลับไปหาครอบครัวได้แล้วสิกล่องแก้วหายไปแล้ว”
ชายหนุ่มกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า เขามาได้จริงๆ เขากลับไปไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็ไรเพราะเขามั่นใจอยู่แล้วว่าถ้ามาแล้วก็กลับไปไม่ได้
“ ไม่เป็ไรเจินเจินเพราะข้าคิดไว้แต่แรกอยู่แล้วว่าถ้ามาแล้วกลับไปไม่ได้”
“ ตัวตุ่น เ้าอย่าออกไปไกลนะอันตรายที่นี่ต้นไม้ใหญ่มาก กลัวว่าสัตว์หรืออย่างอื่นจะใหญ่ตามต้นไม้น่ะสิ”