ภายใต้ความพยายามอย่างไม่ลดละจนถึงที่สุดของหลัวจิ่ง ท่อน้ำไม้ไผ่ที่ทะลุมาถึงสวนผัก ได้ปรากฏออกมาเป็ผลสำเร็จอยู่ข้างสวนผักหลังบ้านแล้ว
เว้นระยะหนึ่ง่ใช้แผ่นอิฐสีฟ้ารองสูงไว้ ส่วนที่เชื่อมต่อกันของไม้ไผ่สองลำชุ่มชื้นเล็กน้อย แต่ไม่มีน้ำหยดลงมาสักหยดเป็เวลานานมาก เจินจูใ ไม่นึกเลยว่ามือใหม่หนึ่งคนจะเชื่อมต่อไม้ไผ่ได้เก่งกาจกว่าบิดาของนาง นางวิ่งไปถึงปากทางลำเลียงน้ำไล่ดูอย่างละเอียด จริงด้วย... ไม่มีน้ำรั่ว
ไอ๊หยา เ้าหนุ่มนี่ใช้ได้เลย เวลาสั้นๆ ไม่กี่วันก็สามารถทำออกมาได้ฝีมือละเอียดเช่นนี้
เจินจูเงยหน้าหาร่องรอยเขา
ราวกับว่าเขายังอยู่ข้างลำธารตรงูเา ที่ไกลออกไปมีเสียงเคลื่อนย้ายสิ่งของ
เขายังอยู่ที่นั่นทำอะไร?
นางวิ่งไปไม่กี่ก้าว ยื่นศีรษะออกจากมุมบ้าน “เ้ากำลังทำอะไรน่ะ?”
เสียงนิ่มนวลของเด็กสาวแว่วเข้าหูกะทันหัน มือที่กำลังย้ายอิฐสีฟ้าของหลัวจิ่งสะดุ้งจนเกือบทำก้อนอิฐร่วง
เขาเงยหน้ามองไป เด็กสาวสดใสงดงามกำลังเอียงศีรษะมองเขาด้วยความประหลาดใจ
นางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงินทำขึ้นใหม่ สวยเรียบดูแปลกใหม่และงดงาม ขับให้ใบหน้ายิ้มทั้งดวงสะอาดเหมือนหยกไร้ตำหนิ
หูของหลัวจิ่งค่อยๆ แดงลามเป็เืฝาดขึ้น ชุดสีน้ำเงินนี้เป็สีเดียวกันกับเครื่องนอนของเขา
เจินจูเดินเข้ามาใกล้ ที่แท้เขากำลังย้ายอิฐไปกดทับไม้ไผ่นี่เอง
“ทับไว้ให้มั่นคงหน่อย ไม่เช่นนั้นหากลมพัดฝนตกจะขยับเอียงเอาได้” หลัวจิ่งอธิบายอย่างไม่เป็ธรรมชาติ
“อ๋อ” นางพยักหน้า ยิ้มแล้วกล่าวชื่นชม “เ้าใช้ได้เลยนี่ ตรงที่เชื่อมต่อกันของท่อน้ำไม้ไผ่นี่คิดค้นได้แน่นสนิทกว่าท่านพ่อข้าอีก แทบไม่มีน้ำรั่วออกมาเลย”
มุมปากหลัวจิ่งยกขึ้น ความลำพองใจเล็กน้อยเชื่อมขึ้นมาถึงั์ตา ขอแค่เขาตั้งใจศึกษาค้นคว้า กลอุบายเล็กๆ เหล่านี้ไม่ใช่ว่ามือถึงจับมา [1] หรือ
เจินจูถูกการแสดงออกของเขาทำให้รู้สึกว่าคนตรงหน้าน่ารักเสียจริง นางอดหัวเราะออกมาไม่ได้ รอยยิ้มราวกับดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิเบ่งบานสะพรั่งของเจินจู สดใสงดงามทำให้คนประทับใจ
หัวใจของหลัวจิ่งเต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่ มีคำพูดบางอย่างอดกล่าวออกมาไม่ได้ “เ้า... ไม่ต้องกังวลเื่เหลียงหู่ ผ่านไปพักหนึ่งเขาก็น่าเกรงขามไม่ออกแล้ว”
พอคำพูดออกไปแล้ว เขาก็หงุดหงิดใจขึ้นมาอีก ทำไมพูดออกไปไม่คิดเลยนะ
หลัวสือซานเหลือองครักษ์ลับไว้สองคนเพื่อปกป้องเขา แต่หมู่บ้านวั้งหลินรวมกันทั้งหมดพื้นที่นิดเดียวเพียงนั้น คงไม่ดีหากให้พวกเขาแฝงตัวอยู่ในหมู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวและสุนัขของที่บ้านยังเก่งกาจมากอีกด้วย หากมีคนแปลกหน้าวนเวียนอยู่บริเวณบ้านสกุลหู เด็กสาวผู้นั้นต้องพบเข้าภายในไม่กี่วันแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ หลัวจิ่งให้พวกเขาไปพักอยู่ในเมืองเท่านั้น และมารายงานข่าวทุกสามวันห้าวัน
พรุ่งนี้เป็วันที่สามพอดี เขาขอเพียงให้องครักษ์ลับสอบถามสถานที่พักของเหลียงหู่มาให้ชัดเจน พอกลางดึกก็จัดการลงโทษเขา เหลียงหู่ก็ใช้อำนาจคุกคามครอบครัวสกุลหูไม่ได้แล้ว
เจินจูแววตาวิบวับ ไม่ได้ปล่อยผ่านสีหน้าหงุดหงิดใจเล็กๆ น้อยๆ บนใบหน้าของเขา ที่แท้เ้าหนุ่มนี่มีคนอยู่เื้ั น้ำเสียงยืนยันเช่นนี้เกรงว่าภูมิหลังไม่เล็กเลย
“เ้า ทำอะไรไป?” นางถามด้วยคำพูดที่แฝงความหมายลึกซึ้ง
“…อะไร ทำอะไรไป?” หลัวจิ่งแกล้งโง่ ตอนนี้เขายังไม่สามารถเปิดเผยได้ “เหลียงหู่ไร้เหตุผลและเป็พวกมีอิทธิพลในท้องถิ่นเช่นนั้น ทำเื่เลวไว้มากมาย ์ย่อมจัดการเขา ใช่ไหมเล่า?”
ดวงตาหนึ่งคู่ของเจินจูจ้องเขาเขม็ง หลัวจิ่งถูกนางมองจนเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก ใบหน้าเ็าสงบนิ่งมาตลอดขณะนี้มีความเลิ่กลั่กเล็กน้อย
“ฮ่าๆ น่าจะใช่กระมัง ทำเื่เลวไว้มากมาย ต้องมีคนจัดการเขาแน่นอน” เจินจูยิ้มอย่างคลุมเครือ
ในเมื่อไม่อยากเอ่ย เช่นนั้นก็ตามใจเขาแล้วกัน อยู่ด้วยกันมานานเพียงนี้ เขาเป็คนอย่างไรเจินจูเข้าใจดี ในท้ายที่สุดขอแค่ไม่ขัดต่อสกุลหูด้วยการตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นก็พอแล้ว
กลับมาถึงข้างแปลงผัก เปิดจุกไม้ที่อุดน้ำไว้ออก น้ำไหลแรงคงที่ใส่ถังไม้จนเต็มเร็วมาก แล้วอุดปิดรูไม้ไผ่ไว้ หิ้วถังไม้ไปรดน้ำแปลงผัก เจินจูกลับมารับเอาน้ำอีกครั้ง รอยยิ้มสว่างไสวช่างสะดวกสบายมากแบบที่คิดจริงๆ ด้วย
นางยื่นมือเข้าไปในถังน้ำ ปลดปล่อยน้ำแร่จิติญญาลงไปในน้ำอย่างเงียบเชียบ หลังบ้านเป็แปลงผักใหม่ทั้งหมด การเติบโตของผักเห็นได้ชัดว่าช้ากว่าในหมู่บ้านหนึ่งท่อน นางเติมน้ำแร่จิติญญาเข้าไปเล็กน้อย สามารถเร่งการเจริญเติบโตได้สักหน่อย
ข้างหลังมีสวนผักอีกหนึ่งร่องยังขุดไม่เสร็จ ่นี้ทั้งครอบครัวยุ่งกันหมด ไม่มีเวลาพัฒนามันออกมา ยามนี้หลัวจิ่งกำลังถือจอบในมือขึ้น ตั้งใจว่าวันนี้จะจัดการแปลงผักนี่ให้เรียบร้อยจนเสร็จสิ้น
หลัวจิ่งเคยติดตามหูฉางกุ้ยไปทำไร่ทำนาไม่กี่วัน งานปรับดินนี้เขาคุ้นเคยอย่างดี เลียนแบบยกจอบขึ้นและถากลงได้เหมือนคนที่ชำนาญมาก
สองคนกำลังยุ่งอยู่กับงาน เสี่ยวหวงที่อยู่หน้าบ้านก็เห่าเสียงดังขึ้น
เจินจูวางถังน้ำลงแล้ววิ่งไปเปิดประตู
ยังไม่ทันได้เปิดประตูลาน ก็ได้ยินเสียงหอบหายใจแรงของล่อเข้ามา
“ท่านพ่อ ทำไมท่านกลับมาเร็วเพียงนี้เ้าคะ?” เจินจูเปิดประตูไปพลางถามไปพลาง
“เจินจู! เกิดเื่ใหญ่แล้ว” ทั่วทั้งใบหน้าหูฉางกุ้ยเต็มไปด้วยความยินดี จูงล่อเข้าในลานบ้าน
“เกิดเื่ใหญ่อะไรขึ้นเ้าคะ?”
เื่ของเหลียงหู่แพร่ออกมาเร็วเพียงนี้?
“ตอนข้าซื้อของอยู่ในร้านขายของจิปาถะที่หมู่บ้านต้าวัน ได้ยินคนบนถนนกล่าวกันว่าเหลียงหู่เกิดเื่ขึ้นแล้ว! ถูกหามกลับไปจากในกองหินตรงูเาไป๋โถวแต่เช้าตรู่ เืนองท่วมตัวเลย แขนขาหัก เหลือแต่อาการร่อแร่แล้ว” หาได้ยากที่หูฉางกุ้ยจะกล่าวจบรวดเดียวไม่ขาดตอน
ที่แท้เป็เื่ของเหลียงหู่ หึๆ เสี่ยวเฮยทำได้ดี
“คนชั่วได้รับกรรมสนองจริงๆ ข้าต้องรีบเอาข่าวนี้ไปบอกท่านย่าของเ้า ให้นางได้ดีใจด้วยกัน” หูฉางกุ้ยยิ้มจนปรากฏฟันแปดซี่ออกมา รื้อเอาสิ่งของบนเกวียนลงมาอย่างรวดเร็วและง่ายดาย และรีบไล่กวดล่อไปทางหลังบ้าน
ข่าวเหลียงหู่ร่วงตกจากเส้นทางูเาสภาพอาการาเ็ร้ายแรง ราวกับปีกนกสยายออก ข่าวแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เวลาระยะสั้นๆ ชาวบ้านที่เคยถูกเหลียงหู่รังแกและลงมืออำมหิตใส่ ทั้งหมดต่างดีอกดีใจะโโลดเต้น ขาดแค่ไม่ได้ซื้อประทัดมาแขวนแล้วจุดฉลองยินดีเท่านั้นเอง
ครอบครัวจ้าวสี่เหวินซาบซึ้งใจมากที่สุด แล้วยังจัดโต๊ะบูชาในบ้านอีกด้วย ทั้งบ้านคุกเข่าโขกหัวกับพื้น จุดธูปบูชาแสดงการขอบคุณพระพุทธองค์กับเหล่าทวยเทพกันทีละคน จ้าวหงยู่ฝืนสภาพอาการาเ็ที่ยังไม่หาย คุกเข่ากราบอยู่หน้าโต๊ะบูชา ไม่ยอมลุกขึ้นอยู่นานมาก
“สมน้ำหน้า”
“กรรมตามสนอง”
“ทำชั่วได้ชั่ว”
ในบ้านเก่าสกุลหูเป็เสียงโล่งใจพร้อมกับระบายความโกรธ แต่ละคนล้วนตบมือชื่นชมยินดีกันทั้งสิ้น จิตใจของชุ่ยจูดีขึ้นมากในทันที ช่วยหวังซื่อเชือดไก่ฆ่าปลาผัดไส้หมู บรรยากาศคึกคักราวกับฉลองปีใหม่ก็ไม่ปาน
ที่บ้านเหลียงหู่กลับบรรยากาศเศร้าหมอง
เหลียงหู่นอนหงายอยู่บนเตียงถูกพันไปทั่วทั้งตัว สีหน้าอึมครึมโเี้ดุดัน คิดไม่ถึงเลยว่าคนอย่างเหลียงหู่ตีห่านป่าั้แ่เช้าจรดเย็นกลับถูกห่านป่าจิกตาบอดได้ [2]
เมื่อคืน เขาเดินอยู่บนทางลาดเอียงของูเาไป๋โถวด้วยอารมณ์คึกคัก หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอหญิงหม้าย คิดถึงกายผิวขาวนวลเนื้อนุ่มนิ่มไปทั้งตัวขึ้นมาก็ทำให้เขาคันยุบยิบหัวใจพักหนึ่ง อย่างยากที่จะอดทน
ขอบถนนยามค่ำในูเาไป๋โถว เขาเคยเดินไปกลับหลายครั้งแล้ว คนที่ฝึกการต่อสู้อย่างพวกเขา สายตายามราตรีดีกว่าคนทั่วไปมากนัก ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรมาเขาจึงไม่จุดคบไฟ กลับเดินคลำทางไปข้างหน้าในความมืดเช่นนั้น
เขาใจกล้าทำสิ่งใดก็ไม่เกรงกลัวจนชิน ในรองเท้าหุ้มข้อยาวขึ้นมายังซ่อนกริชไว้ด้ามหนึ่งอีกด้วย แม้ในป่าเขามีงูแมลงและสัตว์ดุร้าย แต่เหลียงหู่กลับเชื่อมั่นในตัวเองมาก หากมีเสือหนึ่งตัวกระโจนเข้ามา เขาคนเดียวสามารถจัดการได้อยู่แล้ว
ข้างหน้าเป็หน้าผาโค้ง พอเลี้ยวผ่านตรงนี้ไป ข้างล่างก็เป็เทือกเขาโกวจื่อ
เหลียงหู่กำลังคิดถึงรสชาติความสุขของสาวงามที่จะมาอยู่ในอ้อมอก ใต้ฝ่าเท้ายิ่งเร่งจังหวะก้าวเร็วขึ้น
ทันใดนั้น กลางอากาศมีความผิดปกติเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เหลียงหู่เหมือนสังเกตเห็นบางสิ่ง เขาหยุดฝีเท้าลงและระวังตัว สองมือทำท่าทางป้องกันออกมา
รอเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหว เหลียงหู่จึงคิดว่าตนเองคิดมากไปจึงผ่อนคลายร่างกาย ตั้งใจเดินต่อไปยังทางข้างหน้า
ในตอนนั้นเอง เงาดำหนึ่งสายโผออกมาตรงๆ เหลียงหู่สะดุ้ง เร่งรีบถอยหลังไปสองก้าวคิดจะหลบเลี่ยง แต่เงาดำกลับติดเป็เงาตามตัว
เหลียงหู่ยื่นมือออกไปสกัดกั้น เงาดำกลับยืมแรงของเขานิดหน่อย พอหมุนตัวกลับ “ผลัวะ” หางขนนิ่มกระแทกเข้าบนหน้าของเขาอย่างจัง ตบด้วยแรงที่หนักหน่วง ทำเอาใบหน้าที่ถูกกระแทกของเหลียงหู่ชาไปพักหนึ่ง ใต้เท้ายืนโงนเงนอยู่ริมหน้าผาสูงชันมากขึ้น
เหลียงหู่ใจนตัวแข็งทื่อเหงื่อแตกและมือเท้าเย็นไปทั้งกาย หน้าผาของูเาไป๋โถวไม่ใช่เื่ล้อเล่นเลย ข้างล่างเป็พุ่มไม้เตี้ยและหินเล็กหินน้อยเต็มไปหมด ตกลงไปไม่ตายก็ิัหลุดเป็ชั้นๆ
เขาดีใจอยู่ข้างในที่ไม่ตกลงไป ทันใดนั้นเงาดำเข้ามาโจมตีทางอากาศ เหลียงหู่ยกมือขวางไว้ เกิดเป็ความเ็ปอย่างรุนแรงแล่นขึ้นที่ฝ่ามือ ในใจเขาเริ่มตึงเครียด มืออีกข้างหนึ่งประคองมือที่ได้รับาเ็ รู้สึกได้เพียงเืสีแดงสดหยดลงไปเกิดความเ็ปไม่หยุด
“ไอ้เดรัจฉานตัวนี้!” เหลียงหู่กัดฟันเก็บซ่อนคำด่าไว้ คิดอยากออกจากริมหน้าผา ที่ตรงนี้อันตรายเกินไป หากเคลื่อนไหวมือและเท้าไม่ดีอาจตกลงไปได้
ไม่รอให้เขายกเท้าขึ้น เงาดำโผเข้ามาอีกครั้ง จุดประสงค์ของครั้งนี้ไม่คิดเลยว่าจะเป็โคนต้นขาของเขา
เหลียงหู่ใมาก กำลังเท้าของไอ้เดรัจฉานนี่รุนแรงนัก หากต้นขาถูกมันตะปบเข้าอีกสักนิด ครึ่งหนึ่งของชีวิตจากนี้ไปคงจบแล้ว เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันทีโดยไม่รู้ตัว ไม่คาดคิด... เท้าถอยไปเหยียบความว่างเปล่าจึงกลิ้งคว่ำตกลงไป
“อ๊าก…”
เขาฝืนปกป้องส่วนศีรษะไว้ตอนกลิ้งตกลงที่หน้าผา ร่างกายกระแทกเข้ากับหินขรุขระไปตลอดทาง เมื่อกลิ้งลงไปถึงที่สุด พบว่าแขนขวาโค้ง ขาซ้ายหัก ศีรษะข้างหลังก็ถูกกระแทกแตกเืออก คนทั้งร่างล้วนขยับไม่ได้สักน้อยนิดเกือบจะเป็ลมไป
กลางดึกมืดสนิท เส้นทางูเาไร้ผู้คน เหลียงหู่อดทนความเ็ปอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งกายจนถึงเช้า ถูกชาวบ้านที่เร่งเดินทางแต่เช้าตรู่มาพบเข้า จึงไปบ้านเหลียงหู่ะโเรียกคนในบ้านมารับเขา
“มีคนอยู่ไหม! ไปตายไหนกันหมดแล้วหรือ? สมุนไพรข้าล่ะ? ทำไมยังไม่ได้อีก?” เขานอนหงายอยู่บนเตียงคนเดียว หันไปทางนอกประตูะโด่าทอเสียงดัง ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความโมโหบูดบึ้ง และใบหน้าบิดเบี้ยวเนื่องจากความเ็ป
มารดาของเหลียงหู่หลบซ่อนต้มสมุนไพรอยู่ในห้องครัวอย่างตัวสั่นงันงก ได้ยินเสียงตวาดโมโหของเหลียงหู่ ร่างกายอดแข็งทื่อขึ้นไม่ได้ ในใจขมขื่นยิ่งนัก นางก่อกรรมอะไรไว้กัน ถึงได้มีบุตรชายนิสัยดุร้ายและชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปไกลเพียงนี้ กระดูกสันหลัง [3] ของสกุลเหลียงล้วนเกือบถูกคนในหมู่บ้านตัดขาด ในวันปกตินางกับบุตรชายคนเล็กออกจากบ้านน้อยมาก หลบเลี่ยงกลุ่มคนและทำงานใช้แรงงาน กลัวมากว่าครอบครัวไหนจะะโออกมาชี้ดั้งจมูกของพวกเขาแล้วด่าทอ
เฮ้อ…
...บ้านใหม่ของครอบครัวหู เจินจูกำลังให้อาหารเสี่ยวจินด้วยรอยยิ้มกว้าง
ผ่านการไปมาหาสู่กันหลายวันนี้ เสี่ยวจินคุ้นเคยกับนางไม่น้อย เมื่อสักครู่นางเพิ่งกล้าหาญลูบหัวของมันไป
เสี่ยวจินไม่เพียงไม่หลบเลี่ยง แต่ยังเอาหัวถูไถมือของนางอีกด้วย กลิ่นของนางทำให้มันรู้สึกผ่อนคลายมาก อดเข้าไปคลอเคลียไม่ได้
มีการััตัวครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สามก็เป็ธรรมชาติแล้ว
นางลูบขนปีกเป็มันเงาและลื่นของมันด้วยความประหลาดใจ มหัศจรรย์จริงๆ ขนปีกยาวเพียงนี้ แต่ไหนแต่ไรไม่ได้สางและอาบน้ำทำไมสะอาดมากมายขนาดนี้
เสี่ยวจินกินเนื้อพะโล้ในถาดจนหมด ประท้วงขึ้นหนึ่งที “แว้ก” ปริมาณน้อยเกินไปแล้ว
“ไม่มีแล้ว นี่เป็เนื้อพะโล้ชิ้นสุดท้าย ของใหม่ยังไม่ได้พะโล้ขึ้นมา พรุ่งนี้ค่อยชดเชยให้เ้า” นางหัวเราะแล้วตบปีกของมันเบาๆ
“แว้ก” เสี่ยวจินแสดงท่าทีไม่พอใจ
“ฮ่าๆ พรุ่งนี้จะชดเชยให้แน่นอน” เจินจูหัวเราะแล้วทำการสัญญา
“…”
ขณะที่หนึ่งคนหนึ่งนกอินทรีพูดคุยกัน หลัวจิ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไปกำลังมองด้วยสีหน้าท่าทางสลับซับซ้อน
นำปัญหาของนกอินทรีทองที่ยอมจำนนและศิโรราบโดยง่ายวางไว้ด้านข้างชั่วคราวก่อน
หลัวจิ่งรู้สึกว่าเื่ของเหลียงหู่เกี่ยวข้องกับเด็กสาวตรงหน้า
เมื่อวานนางแอบหนีออกไปครึ่งค่อนวัน มืดแล้วถึงกลับหมู่บ้าน ต้องไปวางแผนอะไรไว้ล่วงหน้าแน่นอน
แต่ได้ยินว่าหลังหัวค่ำไปแล้วเหลียงหู่ถึงเกิดเื่ขึ้น ตอนนั้นเจินจูอยู่ในบ้านอยู่เลย
เช่นนั้น นางทำได้อย่างไร?
เชิงอรรถ
[1] มือถึงจับมา หมายถึง ทำได้ง่ายๆ
[2] ตีห่านป่าั้แ่เช้าจรดเย็นกลับถูกห่านป่าจิกตาบอด หมายถึง มีความมั่นใจมากเกินไป ประมาทเลินเล่อ ทำผิดพลาดในสิ่งที่ไม่ควรผิด
[3] กระดูกสันหลัง อุปมาถึง สิ่งสำคัญ ในที่นี้คือ กำลังหลัก หรือคนหาเลี้ยงครอบครัว