หงเอ๋อร์ส่งถ้วยชาไปตรงหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าอย่างไม่รีบร้อน “ฮูหยินเ้าคะ นี่คือชาจิ่วหลงเสวียนที่บ่าวเพิ่งจะฝึกมาเ้าค่ะ”
ที่หงเอ๋อร์สามารถอยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่าได้นาน หนึ่งเพราะว่านางทำงานเป็ สองคือนางมีความสามารถในการชงชาที่เป็เลิศ เพราะเหตุนี้จึงได้รับความรักจากฮูหยินผู้เฒ่า สามารถพูดได้อย่างไม่เกินจริงว่าฮูหยินแต่ละคนในจวนนี้ ต่างเทียบกับหงเอ๋อร์ในสายตาของฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้สักคน
“ดีๆ ฝีมือชงชาของหงเอ๋อร์ดีขึ้นอีกแล้ว ไม่เลวๆ” หลังจากดื่มไปถ้วยหนึ่ง อารมณ์ของฮูหยินผู้เฒ่าดีขึ้นมาก
เมื่อเห็นว่าจูซื่อยังยืนอยู่ด้านข้าง ถึงได้กระแอมออกมา “พวกเ้าคอยจับตามองเช่นนี้ไปก่อน ผ่านไปสองวันค่อยว่ากันว่าจะทำต่อไปหรือไม่” หากลูกของเฉินเนี้ยนหรานไม่ใช่ของเหล่าอู่จริงๆ แน่นอนว่านางไม่มีความจำเป็ที่จะส่งคนไปจับตาดูอีก
หลังจากจูซื่อออกไปแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกโจวฝูเข้ามาหา
“ขอรายงานฮูหยิน จากที่ได้ส่งคนไปสืบหาจนได้ความว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินเฉินเนี้ยนหรานมีบุรุษอื่นที่ใด บุรุษที่ปรากฏตัวอยู่ข้างกายนาง จากที่ข้าได้ไปสืบหามาจนชัดเจน เขาเป็พ่อค้าที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนจริงเ้าค่ะ”
ฟังรายงานพวกนี้จบ ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะเสียงเย็น “เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว”
หงเอ๋อร์คอยดูแลอยู่ด้านข้างอย่างระมัดระวังอยู่ตลอด รู้แจ้งแก่ใจแล้วว่าฮูหยินจะลงมือแล้ว
เป็อย่างที่นางคิด เพียงครู่เดียว ฮูหยินผู้เฒ่าก็กวาดตามองมาที่นางนิ่ง “เื่นี้ เ้ารู้ว่าควรจัดการเช่นไรใช่หรือไม่? ดูเหมือนว่า หลายปีมานี้จะเลี้ยงดูแม่นมจูดีเกินไปเสียหน่อย ถึงได้ทำเื่แตกไวเช่นนี้”
หงเอ๋อร์รู้สึกเย็นวาบเล็กน้อย ก่อนจะรับคำด้วยความเคารพ “เ้าค่ะ หลายปีมานี้เลี้ยงดูแม่นมจูดีเกินไปเสียหน่อย ส่วนเด็ก หงเอ๋อร์จะให้คนไปอุ้มกลับมา ส่วนสตรีนางนั้น ข้าจะจัดการให้ ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดวางใจ แม้จะมีความเป็ไปได้เพียงเล็กน้อยข้าจะไม่ให้เื่ของคุณชายเปิดเผยออกไป เพียงแต่เื่นี้จะไม่ปรึกษาคุณชายห้าสักหน่อยหรือเ้าคะ?”
“เหล่าอู่หรือ...” ฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อได้ยินชื่อโจวอ้าวเสวียนจึงขมวดคิ้ว สุดท้ายก็ถอนหายใจ “เฮ้อ เด็กคนนี้หลังจากโตขึ้นมาแล้วยิ่งควบคุมยาก คืนนี้ข้าจะไปถามเขาแล้วกัน”
คืนนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าทานมื้อเย็นกับโจวอ้าวเสวียน หลังจากล้างมือแล้ว โจวอ้าวเสวียนดื่มชากับฮูหยินผู้เฒ่าต่อ
“หลาน เรือนของเ้าสมควรจะเพิ่มคนเสียหน่อย หากไม่เพิ่มคนขึ้นมา ในเรือนของเ้าคงยังไร้ทายาท เกรงว่าจะไม่ดีต่อการต่อสู้กับเรือนอื่นๆ นะ”
โจวอ้าวเสวียนวางถ้วยชาลงนิ่ง “ขอรับ ท่านย่าพูดถูก เพียงแต่ตอนนี้จะเพิ่มผู้ใดเข้ามาคงไม่ดีเท่าใดนัก ข้าไม่้าทำร้ายนางอีก”
“เ้าคิดถนอมนางนั้นเป็เื่ดี ย่าเองก็หาเหตุผลไม่ได้หรอกนะ เพียงแต่คนที่อยากจะให้มีลูกกลับร่างกายไม่ดี แม้แต่เื่ที่สามีภรรยาควรกระทำ นางก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นเสวียนเอ๋อร์ เ้าหาอนุเพิ่มเถิด ดีต่อการมีทายาทนะ”
แม้จะแฝงไปด้วยการโน้มน้าว แต่สายตาของฮูหยินผู้เฒ่ากลับเฉียบแหลมอยู่บ้าง
ในแววตามีความเหนื่อยหน่ายแฝงอยู่ ฮูหยินผู้เฒ่ายิ่งใส่ใจผลสรุปการแย่งชิงตำแหน่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ให้เขารีบมีลูก โดยคิดจะใช้ทายาทในมือเพื่อเพิ่มข้อต่อรองขึ้นอีกสักเล็กน้อย...เขาไม่้าเป็เครื่องมือผลิตลูก! แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ยอมฟังคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า
“ท่านย่า ช่วยข้าติดต่อท่านหมอโจวให้ข้าหน่อยเถิด...” ตอนที่เอ่ยถึงท้ายประโยค จู่ๆ โจวอ้าวเสวียนกลับเอ่ยคำขอออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ
“อะไรนะ เรียกหมอ...เ้า...” ฮูหยินผู้เฒ่าใมาก หงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเงยหน้ามองนางอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้เองที่ฮูหยินผู้เฒ่ารู้ตัวว่ายังมีคนอื่นอยู่ตรงนี้ด้วย
นางฮึดฮัดออกมา “หงเอ๋อร์ ช่วยไปหยิบเทียนหอมมาให้ข้าที หลายวันมานี้ข้านอนไม่ค่อยหลับเท่าใดนัก เฮ้อ”
หงเอ๋อร์รับคำ แล้วจากไป
เมื่อเดินออกมาแล้ว แววตาของหงเอ๋อร์วาววับ นางรู้แน่นอนอยู่แล้วว่า การที่โจวอ้าวเสวียนเอ่ยถึงท่านหมอโจว เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับความลับส่วนตัวของโจวอ้าวเสวียน สิ่งใดกันที่สามารถทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าแสดงท่าทางเช่นนั้น? นางอยากจะรู้สาเหตุนัก แต่นางรู้ดีว่าตัวนางไม่สามารถขัดคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่าได้
เมื่อภายในห้องไม่มีบุคคลอื่นแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าจึงได้มองโจวอ้าวเสวียนด้วยความปวดใจ “หลานคนดีของข้า เ้า ตอนนั้นเ้าไม่ใช่ว่ารักษาหายแล้วหรอกหรือ เหตุใดจะต้องเชิญท่านหมอโจวมาอีกเล่า?”
โจวอ้าวเสวียนถอนหายใจเบาๆ สีหน้าเหนื่อยหน่าย “ท่านย่า ความจริงแล้วตอนนั้นข้าไม่ได้หายขาด ตอนนั้น...ข้ายังไม่หายดี แต่ไหนแต่ไรข้ากลัวท่านจะเป็กังวล ดังนั้นจึงบอกกับท่านว่าหายแล้ว หลังจากเว้นเวลามาหลายปี หลานยังรู้สึกไม่ค่อยดี ต่อมาจึงให้หมอเชี่ยวชาญเฉพาะตรวจดู เขาบอกว่า หลาน...สามารถมีชีวิตอยู่ แต่จะไม่มีทายาทอีก...”
“ตุ้บ...” ถ้วยชาที่ไม่ได้ถือให้ดีในมือของฮูหยินผู้เฒ่าหล่นลง “์ เหตุใดจึงเป็เช่นนี้ เหล่าอู่ เ้า เหตุใดเ้าจึงเป็เช่นนี้...”
ตอนนั้น เพราะนางดูแลได้ไม่ดี โจวอ้าวเสวียนอยู่กับนาง แต่กลับถูกคนอื่นเล่นงาน เขาที่ยังเด็กถูกลวกตรงจุดสำคัญของบุรุษ ตอนนั้นคนที่รับผิดชอบรักษาเขาโดยเฉพาะอย่างหมอโจวได้ใช้ความสามารถทั้งหมดในการรักษา จึงช่วยโจวอ้าวเสวียนจากขอบอันตรายรอดกลับมาได้
ต่อมาจากการยืนยันหลายครั้ง ที่พูดว่าโจวอ้าวเสวียนหายเป็ปกติแล้ว ทว่าเื่ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว โจวอ้าวเสวียนกลับมาบอกนางว่า เขายังรักษาไม่หาย
คนในจวนที่รู้เื่ ต่างเข้าใจถึงเหตุผลที่ฮูหยินผู้เฒ่าดีต่อโจวอ้าวเสวียน เป็เพราะตอนนั้นฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ดูแลโจวอ้าวเสวียนให้ดี ด้วยความรู้สึกผิดจึงทุ่มเทจิตใจปกป้องเขา
“ท่านย่า คนที่รับผิดชอบรักษาข้าคือท่านหมอโจว ขอแค่หาเขาเจอ ข้ายังเหลือความหวังอยู่ คราแรกที่ท่านหมอโจวจากไป ก็เพื่อจะไปหาสมุนไพรหายากมารักษาข้า เพียงแต่ นานเพียงนี้แล้วยังไม่มีข่าวคราวของท่านหมอโจว ข้าจึงอยากจะถามท่านย่านี่แหละขอรับ”
“ข้าจะส่งคนไปหาท่านหมอโจว” ฮูหยินพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเ็ปใจ หมดอาลัยตายอยากเกินกว่าจะคุยกับโจวอ้าวเสวียนต่ออีกแล้ว
หลังจากเดินออกจากเรือน โจวอ้าวเสวียนถึงได้ถอนหายใจ
“แม่นาง ที่ข้าสามารถทำให้เ้าได้มีเพียงเท่านี้ เพื่อพวกเ้าแม่ลูก ข้าถึงกับพูดว่าตนเองนกเขาไม่ขัน...” มองไปยังพระจันทร์สว่างไสวบนท้องฟ้า โจวอ้าวเสวียนยิ้มขมขื่นออกมาอย่างไร้คำพูด เขาปวดใจเสียจริง แม่นางตัวแสบคนนั้น นางจะเข้าใจความเ็ปของเขาหรือไม่?
เมื่อคิดถึงสตรีท้องโตที่เดินเล่นอยู่ในป่า โจวอ้าวเสวียนกลับสบายใจขึ้นมามาก ในตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่า เขาจะเป็พ่อคนแล้ว
***
“คุณหนูคุณหนูเ้าคะ...คนข้างบ้านย้ายไปแล้วเ้าค่ะ” หนิวซื่อเมื่อเห็นจูซื่อที่อยู่ข้างบ้านย้ายไปแล้ว จึงวิ่งมารายงานให้เฉินเนี้ยนหรานฟังอย่างชอบใจ
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เฉินเนี้ยนหรานจึงถอนหายใจ นางรู้ดีว่าที่จูซื่อแม่ลูกย้ายไป หมายความว่าภัยอันตรายของนางได้ถูกแก้ไขแล้ว ไม่รู้ว่าโจวอ้าวเสวียนพูดโน้มน้าวฮูหยินผู้เฒ่าอย่างไร แต่หวังว่าต่อไปนี้จะไม่มาหาเื่กันอีก
“เช่นนั้นคุณหนูเ้าคะ แล้วนายท่านกำมะลอคนนั้นยังต้องให้อยู่ที่นี่อีกหรือไม่เ้าคะ?” หนิวซื่อทำปากไปทางเรือนด้านข้าง
พูดตามจริงแล้ว ่นี้นายท่านปลอมคนนั้นยิ่งเหมือนนายท่านจริงๆ มากขึ้นเรื่อยๆ หากเป็เช่นนี้ต่อไป พวกนางกังวลว่าจะถูกคนคนนั้นมาแทนที่จริงๆ...
โจวอ้าวเสวียนจากไปโดยที่ไม่ได้มาหาเฉินเนี้ยนหราน
แต่เขาให้คนส่งจดหมายมา เนื้อหาข้างในนั้นพูดว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะไม่มาก่อเื่ยุ่งยากอีก
นอกเหนือจากนั้นในจดหมายไม่ได้พูดเื่อื่นอีก แต่กลับมีข้อความเดียวว่า “จะไม่ผิดสัญญาสองปีที่คุยกันไว้”
เฉินเนี้ยนหรานมองจดหมายนั้นอยู่นานโดยไม่พูดอะไรออกมา
“โจวอ้าวเสวียน เรือนของท่านมีภรรยาแล้ว แม้นางจะไม่อยู่แล้ว ข้าไม่มีทางอยู่กับท่าน...ขออภัยด้วย ชาตินี้ของข้าถูกกำหนดไว้ให้ไม่คู่กับท่าน!” เมื่อทำลายจดหมายทิ้ง เฉินเนี้ยนหรานลุกขึ้น
สายลมฤดูหนาวพัดมา ยกนิ้วขึ้นมานับวัน ในใจของเฉินเนี้ยนหรานรู้สึกว้าวุ่นมาก
เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงวันคลอดของนาง
บ่อยครั้งที่นางมีความรู้สึกเจ็บท้องเป็ระยะ บางครั้งท้องจะบีบรัด แต่ผ่านไปครู่หนึ่งความรู้สึกบีบรัดก็หายไป
จากที่พวกหนิวซื่อบอก นี่คือปฏิกิริยาก่อนคลอด การปวดเป็ระยะคือมดลูกบีบตัว
เพียงแต่ระยะเวลาไม่นาน
ยิ่งลูกยังไม่คลอดออกมา นางที่รู้ว่าจะคลอดในใจกลับยิ่งตื่นเต้น
มดลูกบีบรัดอีกครั้ง เฉินเนี้ยนหรานหยุดแล้วลูบท้องไม่หยุด
ในตอนนั้นเองที่หนิวซื่อกลับมาจากไปซื้อกับข้าวด้านนอกและเข้ามาในเรือน
“เอ๋ เหตุใดพี่สะใภ้จึงซื้อกับข้าวไม่ได้หรือ? ตลาดคงไม่ได้วายเร็วเพียงนั้นใช่หรือไม่?”
เมื่อเห็นในตะกร้าของนางมีผักเพียงเล็กน้อย เฉินเนี้ยนหรานจึงถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ จะต้องรู้ว่าในเรือนไม่มีผักอะไรแล้ว
“เฮ้อ ไม่ใช่แค่ข้าซื้อกับข้าวไม่ได้นะเ้าคะ คนทั้งเมืองคงซื้อไม่ได้ด้วย ตอนนี้ถ้ามี ล้วนถูกคนส่งไปจวนสกุลโจวหมดแล้วเ้าค่ะ” หนิวซื่ออธิบายด้วยความเหนื่อยอ่อนมาก
“หา เพราะเหตุใด?”
“เพราะ...คุณนายห้าสิ้นแล้วเ้าค่ะ” สายตาของหนิวซื่อรีบหลุบลงนิดหน่อย
แน่นอนว่านางรู้เื่ยุ่งเหยิงระหว่างนายหญิงและคุณชายห้าสกุลโจว ตอนนี้คุณนายห้าจากไปแล้ว พูดไปแล้ว นายหญิงมีวันเวลาดีๆ ที่ได้มาอย่างยากลำบาก แต่นางกลับยังยอมรับไม่ได้ ด้วยรู้สึกว่าหากนายหญิงเข้าจวนสกุลโจวไปเช่นนี้ไม่ค่อยจะดีนัก
“สิ้นแล้วหรือ! ชะตาอาภัพเสียจริง” เฉินเนี้ยนหรานถอนหายใจออกมาเบาๆ ในตอนนั้นเองที่ระหว่างขาของนางรู้สึกร้อน นางรู้สึกได้อย่างรุนแรงมากว่าความร้อนครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งอื่นๆ
มือหนึ่งจับหนิวซื่อเอาไว้ “พี่สะใภ้ ข้า ข้าเหมือนจะคลอดแล้ว ครั้งนี้ ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน” เห็นท่าทางวิตกของนาง หนิวซื่อเองก็ใ แต่อย่างไรนางก็เป็คนที่เคยผ่านเื่ทำนองนี้มาแล้ว จึงปลอบใจนาง “ไม่เป็ไร ไม่เป็ไร ข้าจะพยุงเ้าไปล้างหน้าและอาบน้ำ นี่ยังเป็อาการเบื้องต้น ห่างจากเวลาคลอดคงจะอีกสักพักได้ เชื่อข้า ไม่มีทางเป็อะไรเ้าค่ะ”
หลังจากปลอบใจนางได้ หนิวซื่อะโออกไปนอกเรือน “เสี่ยวสือโถว รีบไปบอกแม่เ้าว่านายหญิงจะคลอดแล้ว ไปเชิญท่านหมอมา”
เป็อย่างที่หนิวซื่อบอก อาการของนางเป็แค่อาการใน่แรก ยังมีเวลาเหลือก่อนคลอดอีกเล็กน้อย
ภายใต้การดูแลของหนิวซื่อ นางเช็ดเหงื่อทั้งตัวออก แล้วจึงลงไปนอนบนเตียงเตรียมคลอด
ความถี่ในการบีบรัดของมดลูกเป็ไปตามกฎเกณฑ์ของมัน
นอกจากตอนมดลูกหดตัวที่รู้สึกทรมานมากแล้ว ยังมีน้ำคร่ำร้อนที่ไหลออกมาระหว่างขาเป็บางครั้ง ส่วนเื่อื่นยังไม่มีความรู้สึกเ็ปที่ชัดเจนมากนัก
หลังจากหมอที่ชำนาญในการคลอดมาถึง ความกังวลของเฉินเนี้ยนหรานก็ถูกนางขจัดไปจนหมด
ท่านหมอมือหนึ่งนั้นใจดีมาก น้ำเสียงก็ดีมาก นางตรวจร่างกายให้นางก่อนรอบหนึ่ง สุดท้ายยังชมนางอีกด้วย “ฮูหยินออกกำลังกายมาได้ไม่เลวเลย อีกเดี๋ยวมีแรงคลอดลูกจะดีที่สุด ไม่เป็ไรนะเ้าคะ ตอนนี้ท่านนอนดีๆ อีกเดี๋ยวข้าจะตรวจตำแหน่งเด็กให้ท่าน"
