วังหลวง ตำหนักบูรพา
"ฮืออออ องค์รัชทายาท!!!"
เสียงร่ำไห้คร่ำครวญของเหล่านางกำนัลและขันทีดังกึกก้องไปทั่วทั้งตำหนักบูรพา ซึ่งเป็ที่ประทับขององค์รัชทายาท โจวอี้เฉิน ผู้เป็พระโอรสองค์โตของฮ่องเต้โจวเหลียน
ไม่ไกลมากนัก ปรากฏร่างของสตรีวัยกลางคนนางหนึ่ง ผู้สวมชุดสีแดงงดงามน่าเกรงขาม ใบหน้าสวยหวานดูเ็าอำมหิต นางแสยะยิ้มจ้องมองร่างไร้ิญญาของโจวอี้เฉินอย่างดูแคลน
นางก็คือเซียวฮองเฮา มารดาเลี้ยงของโจวอี้เฉิน
ทุกการกระทำและการแสดงออกบนใบหน้าของนาง อยู่ในสายตาของโจวอี้เฉินทั้งหมด ในยามนี้ิญญาของเขาหลุดลอยออกจากร่าง กลายเป็เพียงดวงจิตดวงหนึ่งเท่านั้น จึงทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ในทันที ว่าที่ผ่านมาเขากลายเป็เครื่องมือให้พวกคนชั่วหลอกใช้มานานหลายปี
เมื่อครั้งที่เขายังเป็เด็กอายุเพียงแปดขวบปี อดีตฮองเฮาผู้เป็มารดาได้สิ้นพระชนม์ลงอย่างกะทันหัน เสด็จพ่อจึงแต่งตั้งเซียวกุ้ยเฟยขึ้นเป็ฮองเฮา คอยอบรมเลี้ยงดูเขา นางเลี้ยงดูเขาราวกับบุตรในอุทร จนเขาหลงเชื่อนางทุกคำ ยอมละทิ้งตระกูลฝั่งท่านแม่ มอบป้ายทางการทหารของเสด็จแม่ให้นางดูแลทั้งหมด เมื่อนางได้สมดั่งใจปรารถนา จึงวางยาพิษเขาอย่างเืเย็น
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจ โจวอี้เฉินกำมือตนเองแน่น ไอสังหารจากรอบกายเขาเข้มข้นจนเย็นะเื เพราะความไว้ใจ เพราะความหัวอ่อน ทำให้เขาต้องกลายเป็เช่นนี้
นางเลี้ยงดูเขาด้วยความรักน่ะหรือ หึ!!! เสแสร้งทั้งเพ
ทุกคราเสด็จพ่อมักจะตำหนิที่เขาเอาแต่เที่ยวเล่น มิใส่ใจงานราชสำนัก กลับเป็นางที่คอยให้ท้าย ชี้แนะเขาในทางที่ผิด แต่กับโจวหลิงหวาง พระโอรสของนาง นางกลับดูแลและอบรมเป็อย่างดี มิให้เที่ยวเล่นเสเพลเช่นเขา เขาและโจวหลิงหวางไม่ค่อยได้พบเจอกันมากนัก ด้วยเหตุผลที่นางบอกกับเขาว่า โจว หลิงหวางไม่แข็งแรงมาั้แ่เด็กจึงมิอาจมาเล่นกับลูกได้
ในยามนั้นเขาเองช่างไร้เดียงสายิ่งนัก คิดเพียงว่านางรักเขาจึงตามใจเขาทุกเื่ ยามนี้เขาเข้าใจแล้ว เพราะนางไม่เคยรักเขาด้วยใจจริง จึงสั่งสอนให้เขากลายเป็รัชทายาทที่เหล่าขุนนางไม่ยอมรับ เพื่อจะปูทางให้โจวหลิงหวาง พระโอรสของตนได้ขึ้นเป็รัชทายาทแทนเขา
ช่างสารเลวยิ่งนัก!!!
โจวอี้เฉินมองดูร่างของตนที่ยามนี้นอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาที่โศกเศร้า เขาจะทำเช่นไรดี
"อาเฉิน!!!"
ในขณะที่เขากำลังว้าวุ่นใจหาทางคิดไม่ตกอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงสตรีนางหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อเขาขึ้นมา พร้อมกับวิ่งเข้ามาด้านในตำหนักบูรพา
โจวอวี้หลันนางเป็พี่สาวร่วมมารดาเดียวกับเขา
เขากับนางอายุห่างกันเพียงสองปีเท่านั้น เขาอายุสิบแปดปี ส่วนนางอายุย่างเข้ายี่สิบปีแล้ว แต่ยังมิได้อภิเษกกับบุรุษใด ด้วยเพราะเป็องค์หญิงเพียงพระองค์เดียวในราชวงศ์ เสด็จพ่อจึงทรงรักใคร่และเอ็นดูนางอยู่ไม่น้อย
นั่นจึงทำให้เซียวฮองเฮามิอาจรังแกนางได้โดยง่าย
เมื่อได้เห็นว่าโจวอวี้หลันเข้ามาด้านในตำหนักบูรพา เซียวฮองเฮาก็รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าของตนเองโดยเร็ว
"องค์หญิง ฮึก ดูเถิด อาเฉินสิ้นแล้ว!!!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวอวี้หลันจึงหันไปจ้องมองเซียวฮองเฮาด้วยแววตาที่เย็นเยียบ เซียวฮองเฮารู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว แต่ไหนแต่ไรมา องค์หญิงผู้นี้ก็มิใช่ว่าจะกำราบได้โดยง่าย
ยามนี้ไร้ซึ่งโจวอี้เฉินแล้ว นางจะต้องหาทางส่งโจวอวี้หลันให้อภิเษกไปต่างเมืองเสีย เพียงเท่านี้อำนาจของตระกูลกู้ซึ่งเป็ตระกูลของอดีตฮองเฮาก็จะได้หมดสิ้นเสียที ตระกูลเซียวของนางจะได้มีอำนาจในราชสำนักอย่างเต็มที่
ตระกูลกู้เป็ตระกูลฝั่งมารดาของอดีตฮองเฮา แม้ว่าอดีตฮองเฮาจะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่ทว่าอำนาจของตระกูลกู้ยังคงมีอยู่ไม่น้อย เนื่องจากตระกูลกู้เป็ตระกูลแม่ทัพใหญ่ จึงคอยส่งเสริมโจวอี้เฉินมาโดยตลอด
แต่ถึงแม้จะส่งเสริมแล้วอย่างไรเล่า ยามนี้ป้ายสั่งการทางทหารของอดีตฮองเฮาอยู่ที่นาง เมื่อถึงยามที่โจวหลิงหวางได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ นางก็จะสังหารคนตระกูลกู้ให้หมดสิ้น มิให้มาเป็หนามยอกอกนางและพระโอรสเป็อันขาด
โจวอวี้หลันปรายตามองเซียวฮองเฮาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
"อาเฉินยังไม่ตาย ร่างกายของเขายังอุ่นอยู่ ลมหายใจก็ยังคงสม่ำเสมอ หม่อมฉันจะทูลต่อเสด็จพ่อ ให้นำหมอหลวงฝีมือดีมาถวายการรักษาโดยด่วนเพคะ"
"ไม่จริง!!!"
เซียวฮองเฮาที่เพิ่งรู้ตัวว่าเอ่ยสิ่งใดออกไปก็เริ่มลนลานขึ้นมา นางเสแสร้งแกล้งทำเป็ตีหน้าเศร้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"ลูกหญิง"
"เลิกเรียกหม่อมฉันเช่นนี้เสียที ทหารไปเรียกตัวรองแม่ทัพลั่วเข้าวังมาโดยด่วน บอกว่าเป็คำสั่งจากข้า ให้คอยคุ้มกันองค์รัชทายาทเอาไว้ ยามนี้สถานการณ์ไม่ปลอดภัย ข้าไม่ไว้ใจผู้ใดทั้งสิ้น!!!"
โจวอวี้หลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เ็า เซียวฮองเฮาทำได้เพียงลอบกำมือแน่น ช่างดวงแข็งยิ่งนัก ยาพิษขนานนี้รุนแรงมิใช่น้อย แต่มันกลับยังไม่ตาย ยังมีหน้ามาหายใจได้อีก!!!
หากจะลงมือซ้ำคงมิใช่เื่ง่ายแล้ว!!!
โจวอวี้หลันหรี่ตามองเซียวฮองเฮาอย่างไม่ลดละ หึ!!! คิดว่านางไม่รู้หรือว่าสตรีนางนี้มีใจต่ำช้าเพียงใด อาเฉินนะอาเฉิน รักเคารพนางงูพิษผู้นี้จนไม่ลืมหูลืมตา
มีเพียงนางที่ดูออก ยามนั้นนางอายุสิบขวบรู้ประสาทุกอย่างแล้ว จึงมองเห็นด้านเลวทรามของเซียวฮองเฮาออก
"ที่นี่ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้ว หม่อมฉันจะเฝ้าอาเฉินเองเพคะ"
"แต่ว่า..."
"พระองค์จะทรงรั้งอยู่ที่นี่ไปเพื่อเหตุใดกันเพคะ หรือมีเื่ที่ยังคาใจและกระทำไม่สำเร็จ?"
"ไม่มี แม่จะมีเื่อันใดเล่า เพียงแต่ห่วงใยอาเฉินเท่านั้น เช่นนั้นแม่ไปก่อนแล้ว"
"เพคะ หม่อมฉันขอไม่ส่ง"
โจวอวี้หลันมิได้ไปส่งเซียวฮองเฮา นางมิได้ใส่ใจอยู่แล้ว โชคดีที่เสด็จพ่อทรงรักใคร่นาง จึงเป็เหตุผลหนึ่งที่เซียวฮองเฮามิกล้ากระทำการใดอย่างโจ่งแจ้งกับนางมากนัก
โจวอวี้หลันหันไปมองร่างของโจวอี้เฉินที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงก่อนจะถอนหายใจออกมา
"อาเฉิน พี่จะช่วยเ้าเอง หวังว่ายามที่เ้าฟื้นคืนมาอีกครา อย่าโง่งมเชื่อสตรีอสรพิษนางนั้นอีกเล่า"
ทุกการกระทำทุกคำพูดของโจวอวี้หลันฝังลึกลงไปในจิตใจของโจวอี้เฉิน น้ำตาแห่งความเคียดแค้นหลั่งไหลออกจากดวงตาของเขาหยดแล้วหยดเล่า
พี่หญิง ข้าสัญญาจะเอาคืนพวกมันให้สาสม!