“ขั้นจักรพรรดิ?”
าามารทิศเหนือที่นั่งอยู่บนพื้นมองแม่ทัพเทพเกราะเงินปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า พลางกล่าวด้วยความใ
ในที่นี้มีเขาคนเดียวที่มีพลังยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ แน่นอนว่าต้องรู้จักไอพลังที่มีเพียงขั้นจักรพรรดิเท่านั้น
และแม้คนอื่นจะไม่ใช่ขั้นจักรพรรดิ แต่พลังก็แตกต่างกันไม่มาก แม้จะอยู่ใน่รุ่งโรจน์ จัดการได้สามคนก็นับว่าไม่เลวแล้ว
ทว่าตอนนี้บนท้องฟ้ากลับมีขั้นจักรพรรดิปรากฏตัวขึ้นถึงสามคน!
และเขายังมั่นใจด้วยว่า คนเหล่านี้คือคนที่ล้อมสังหารเขาก่อนหน้านี้
แม้จะแต่งกายไม่เหมือนกัน แต่ไอพลังกลับมาจากที่เดียวกัน
นักฆ่าเหล่านี้เป็กลุ่มเดียวกัน
“อย่าเพิ่งโคจรลมปราณ ยังเหลืออีกนิดหน่อย”
เสิ่นเสวียนบอกาามารทิศเหนือทันทีที่รับรู้ได้ถึงไอพลังที่เปลี่ยนแปลงไป
าามารทิศเหนือจึงควบคุมอารมณ์ไว้ทันที เขานั่งอยู่ที่เดิม พยายามร่วมมือกับเสิ่นเสวียนอย่างเต็มที่ เขารู้ว่ามีเพียงเขาฟื้นตัวขึ้นมาได้ การต่อสู้หลังจากนี้จึงจะลดแรงกดดันไปได้มาก
“ฆ่า”
แม่ทัพเทพเกราะเงินบนท้องฟ้า หนึ่งในสามขั้นจักรพรรดิที่อยู่ในนั้นยกหอกเงินขึ้น ก่อนจะชี้ออกไปเพื่อให้คนเ่าั้กระโจนลงไปสังหารคนด้านล่าง
ขั้นราชันระดับสูงสุดเหมือนกันหมด กองกำลังเช่นนี้แม้แต่ราชวงศ์ยังเรียกรวมตัวได้ยากมาก
ทว่ากลับปรากฏขึ้นที่นี่แล้ว
“้า สำนักจตุรเทพ พวกเ้าไปรั้งไว้สองคน”
“เสอฮวาฮวา พวกเ้ารั้งไว้สองคน”
“สหายเริ่น เ้าไปรั้งไว้คนหนึ่ง”
“ผู้าุโาามารตะวันตก ท่านไปรั้งไว้สามคน”
เสิ่นเสวียนออกคำสั่งคนที่ล้อมรอบอยู่ มีเพียงแบบนี้จึงจะได้รับชัยชนะกลับมาโดยาเ็ล้มตายน้อยที่สุด
ส่วนอำนาจเล็กอื่นๆ บางอำนาจเข้ารวมกลุ่มกันเพื่อรับมือกับแม่ทัพเทพเกราะเงินหนึ่งคน
การร่วมมือกันเช่นนี้ สามารถรั้งพวกเขาทั้งหมดไว้ได้จริงๆ
แต่ขั้นจักรพรรดิสามคนนั้นไม่มีใครรับมือได้เลย
“ผู้าุโจี๋เล่อน้อย ให้ท่านจัดการสักคนไม่น่าเป็เื่ยากหรอกกระมัง!”
“ก็ยากอยู่”
จี๋เล่อน้อยส่ายหัว เขารู้ดีว่าพลังของตนเองเป็อย่างไร สู้ไม่ได้ก็คือสู้ไม่ได้
“ถ้าร่วมมือกับเขาล่ะ”
เสิ่นเสวียนปรายตามองซูเหยียนที่โดนเชือกัรัดอยู่พลางกล่าว
“คลายเชือกให้เขาได้ไหม”
เขาเพิ่งศึกษาเชือกัไป ซึ่งไม่อาจคลายเชือกได้เลย
“ทำได้”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า
“ได้ เช่นนั้นข้าจัดการให้คนหนึ่ง”
จี๋เล่อน้อยพยักหน้า จากนั้นก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก กระโจนใส่แม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งในทันที
โชคดีที่ยังมีคนฟังคำของเสิ่นเสวียน ภายใต้คำสั่งให้ร่วมมือกันของเขา แม้จะรับมือได้อย่างยากลำบากแต่ก็ไม่ได้าเ็ล้มตายกันมากนัก
ขั้นราชันระดับสูงสุดยี่สิบเจ็ดคนถูกอำนาจทั้งหลายในหุบเขาสุขาวดีต้านทานไว้แล้ว นี่คือพลังยิ่งใหญ่ที่สุดที่หุบเขาสุขาวดีจะสามารถแสดงออกมาได้ในตอนนี้ ทว่ากระทั่งถึงตอนนี้คนผู้นั้นยังไม่ปรากฏตัวออกมาเลย
จี๋เล่อน้อยกระโจนใส่ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่ง แสดงพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกไปทันทีที่เข้าประชิดตัว การโจมตีสามครั้งแรกทำให้อีกฝ่ายรับมือไม่ทัน แต่หลังจากนั้นจี๋เล่อน้อยเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด รับมืออีกฝ่ายได้ค่อนข้างยากลำบาก
เสิ่นเสวียนกำลังช่วยาามารทิศเหนือถอนพิษอยู่ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งแสดงพลังห้าธาตุออกมาทำลายเชือกับนร่างซูเหยียน ดูคล้ายเพลิงแต่ไม่ใช่ จะว่าคล้ายน้ำแข็งก็ไม่เชิง หรือจะบอกว่าทองก็ไม่ใช่อีก สรุปแล้วคนนอกมองไม่ออกเลยว่าเป็พลังอะไร
เมื่อมีพลังห้าธาตุเข้ามาเสริม เชือกัที่รัดแน่นอยู่ก่อนหน้านี้เริ่มที่จะคลายออก
ั้แ่ที่โดนเชือกัรัดไว้ ซูเหยียนไม่ได้กล่าวอะไรอีกเลย เขาเป็ห่วงความปลอดภัยของพ่อ ระหว่างนั้นเขาเห็นเสิ่นเสวียนค่อยๆ ทำให้สถานการณ์การต่อสู้พลิกกลับมาได้ แม้จะไม่ได้กล่าวอะไรแต่ภายในใจรู้สึกซาบซึ้งเป็อย่างมาก
และเริ่มมีความเคารพเลื่อมใสต่อเสิ่นเสวียนขึ้นมาแล้ว
ครืด! ครืด!
ตามปมของเชือกัมีเสียงดังออกมา จากนั้นมันก็หลุดร่วงลงไป ซูเหยียนเห็นดังนั้นจึงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนหลุดออกจากเชือกัได้ในที่สุด
“ท่านพ่อเป็อย่างไรบ้าง”
ซูเหยียนกระโจนไปตรงหน้าาามารทิศเหนือในทันที หลังจากเห็นสีหน้าของาามารทิศเหนือดีขึ้นมากแล้วจึงวางใจ
“พ่อไม่เป็ไร ไปช่วยเขาเร็วเข้า”
เสียงของาามารทิศเหนือมีพลังกว่าก่อนหน้านี้มาก
“รีบไปเถอะ หากยังไม่รีบไปจี๋เล่อน้อยจะรับมือไม่ไหวแล้ว” เสิ่นเสวียนกล่าวกับซูเหยียนพลางยิ้ม
“ขอบคุณที่ช่วยชีวิต”
ซูเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วโค้งกายให้เสิ่นเสวียนด้วยความเคารพ สำหรับบุรุษที่ไม่ค่อยพูด การโค้งกายคารวะเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความรู้สึก
จากนั้นซูเหยียนกระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว เขาที่เปี่ยมไปด้วยโทสะแสดงพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดใส่แม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิที่กำลังสู้กับจี๋เล่อน้อยในทันที
แล้วเขาก็เหมือนกับจี๋เล่อน้อย การโจมตีสามครั้งแรกทำให้อีกฝ่ายรับมือได้ยาก แต่หลังจากนั้นก็เริ่มเสียเปรียบ แม้จะสู้แบบสองต่อหนึ่งแต่ก็ยังเกือบไม่ไหว
“แสดงทักษะร่วมประสาน”
จี๋เล่อน้อยและซูเหยียนกล่าวออกมาพร้อมกัน จากนั้นทั้งสองก็เหาะขึ้นไปกลางอากาศ คลื่นพลังบนร่างแปรเปลี่ยนจนคล้ายคลึงกัน
หากกล่าวถึงผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดนอกจากเสิ่นเสวียนแล้ว ก็คงเป็จี๋เล่อน้อยและซูเหยียนสองคนนี้
ทั้งสองคนได้รับความสามารถทักษะร่วมประสานมาจากในสุสาน เมื่อทั้งสองแสดงพลังนี้ออกมา อานุภาพจะเหนือกว่าขั้นจักรพรรดิทั่วไป
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเสิ่นเสวียนจึงให้ทั้งสองคนเข้ารับมือกับขั้นจักรพรรดิหนึ่งคน
และรอบๆ เสิ่นเสวียนในตอนนี้ ยังเหลือแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิอีกสองคนซึ่งกำลังเพ่งเล็งเขาอยู่
ขั้นจักรพรรดิสามคนยังเหลืออยู่อีกสองคน และสองคนนี้มีเป้าหมายคือเสิ่นเสวียนและาามารทิศเหนือที่กำลังาเ็
“พวกเ้ามั่นใจหรือว่าจะมาทางนี้ทั้งสองคน”
เสิ่นเสวียนยังคงช่วยเหลือาามารทิศเหนืออยู่ ขณะเดียวกันก็กล่าวกับสองคนนั้นไปด้วย
“เ้าเป็คนสังหารพี่น้องของข้าใช่ไหม!”
ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งกล่าว
“ไม่ผิด ดูเหมือนเ้าก็ััได้ถึงไอพลังของพวกเขาเช่นกัน พวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ด้วย”
เสิ่นเสวียนยิ้มเหมือนเด็กหนุ่มผู้ใสซื่อ ทว่าทุกเื่ที่เขาทำผ่านการครุ่นคิดมาอย่างล้ำลึก
“เยี่ยมไปเลย ยังไม่เคยมีใครกล้ากล่าวกับพวกข้าเช่นนี้มาก่อน เ้ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว”
ขั้นจักรพรรดิคนนั้นหัวเราะเสียงเย็น มองเสิ่นเสวียนราวกับเป็คนตายไปแล้ว
และเป็อย่างนั้นจริงๆ สำหรับเขาแล้ว เสิ่นเสวียนไม่ต่างอะไรกับร่างไร้ิญญา
ตูม!
ทันใดนั้นเอง เสียงะเิพลันดังก้องขึ้นบนท้องฟ้า แม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิที่ต่อสู้อยู่กับจี๋เล่อน้อยและซูเหยียนกระเด็นออกไป ส่วนพวกจี๋เล่อน้อยในตอนนี้กลายเป็ร่างทรงพลังขนาดใหญ่ร่างหนึ่ง ทั้งสองคนลอยอยู่กลางอากาศ คนหนึ่งอยู่้า คนหนึ่งอยู่ด้านล่าง ควบคุมแขนและขาของร่างทรงพลังนั้นไว้ อานุภาพแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า
“ทักษะร่วมประสาน?”
แม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิที่อยู่ด้านล่างตื่นใเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะแสดงเคล็ดวิชาได้ถึงระดับนี้
“เ้าสาม หากเ้าทำไม่ได้ให้ข้าจัดการเอง”
ขั้นจักรพรรดิอีกคนหนึ่งกล่าวกับคนที่อยู่้า
“ไม่ต้อง สนใจเื่ของพวกเ้าไปก็พอแล้ว”
ขั้นจักรพรรดิที่กระเด็นไปก่อนหน้านี้พลันส่งยิ้มชั่วร้ายออกมาและเช็ดเืที่มุมปาก
“เข้ามาอีก”
เขาะโออกไปพร้อมกับกระโจนขึ้น้า
ในฐานะที่เป็ถึงขั้นจักรพรรดิ ต้องมีความเย่อหยิ่งในตนเองอยู่แล้ว จะพ่ายแพ้เพียงเพราะทักษะร่วมประสานได้อย่างไร
ทว่าพลังของทั้งสองฝ่ายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว หากสู้กันนานเกินไป ฝ่ายที่พ่ายแพ้ต้องเป็ขั้นจักรพรรดิผู้นั้นอย่างแน่นอน
“พวกเ้าจะเข้ามาพร้อมกันเลย หรือจะเข้ามาทีละคน”
ในตอนนี้เสิ่นเสวียนรักษาาามารทิศเหนือจนเกือบหายดีแล้ว ทว่าอีกฝ่ายเหมือนจะไม่ให้โอกาสเขาเลย
“ขั้นจักรพรรดิมีความเย่อหยิ่งของขั้นจักรพรรดิ ไม่มีทางใช้ประโยชน์จากอันตรายของผู้อื่นอยู่แล้ว”
“ข้าคิดว่าพวกเ้าจะไร้ยางอายคว้าโอกาสนี้ไว้เสียอีก!” เสิ่นเสวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก หากเข้ามาทีละคนยังพอไหวสำหรับเขา
“แต่เ้าเป็ข้อยกเว้น”
ใครจะไปคาดคิดว่าอีกคนหนึ่งจะกล่าวเสริมออกมาเช่นนี้ ทำให้เสิ่นเสวียนควันดำพุ่งออกจากหัวในทันที
จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาอีก
แล้วขั้นจักรพรรดิสองคนก็กระโจนใส่เสิ่นเสวียนที่อยู่ตรงกลางจากทางด้านหน้าและด้านหลัง