เมื่อต้องเผชิญกับสนิมสัมฤทธิ์ประหลาดนี้ หลินเป่าไม่สามารถกำจัดมันได้ในที่สุด เขาใช้ทุกวิถีทางที่มีอยู่ แต่สนิมนั้นลึกลับเกินไป สุดท้ายเหล่าผู้าุโของตระกูลหลินจำนวนมากก็เข้ามาช่วยกันพยายามกำจัดมัน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถกำจัดสนิมได้ แต่กลับทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ต่อมาแม้แต่บรรพชนของตระกูลหลินก็ปรากฏตัวขึ้นและลงมือด้วยตัวเอง ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็เพียงแค่การกดข่มชั่วคราวเท่านั้น และในภายหลัง สนิมสัมฤทธิ์กลับแข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
จนถึงจุดนี้ คนของตระกูลหลินย่อมไม่ใช่คนโง่ จากเบาะแสเมื่อร้อยปีก่อน ไม่ยากเลยที่จะคาดเดาว่าสิ่งนี้เป็ฝีมือของตระกูลหวังแห่งอาณาจักรซู วิธีการอันแสนชั่วร้ายของสนิมนี้ย่อมสอดคล้องกับรูปแบบของพวกเขาโดยสมบูรณ์
นอกจากนี้ ตระกูลหลินยังได้รู้ข่าวว่า หวังเถิงเฟย ว่าที่จักรพรรดิแห่งตระกูลหวัง เคยถูกพญาอสรพิษครึ่งัพาตัวไปั้แ่ยังไม่ถึงสองขวบและหายไปบนท้องฟ้า เขาหายตัวไปเป็เวลาสองเดือนเต็ม และเมื่อกลับมาอีกครั้งก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เมื่ออายุสามขวบ หวังเถิงเฟยได้นำวัตถุโบราณมากมายออกมาจากเขตต้องห้ามแห่งหนึ่ง แม้แต่ราชรถทองคำของเขาก็ได้รับมาจากที่นั่นเช่นกัน!
เมื่อรู้ข่าวนี้ คนในตระกูลหลินล้วนเดือดดาล! ถึงขนาดที่เหล่าผู้าุโไม่กี่คนะเิโทสะ พวกเขาตรงดิ่งออกจากอาณาจักรฉีซานในคืนนั้นทันที!
พวกเขาข้ามไปกว่าครึ่งอาณาจักรและมุ่งตรงไปยังชายแดนของอาณาจักรซู จากนั้นก็สังหารกองกำลังหลายแห่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหวังอย่างรุนแรง!
หลังจากนั้น เหล่าผู้าุโเหล่านี้ก็แยกย้ายกันออกไปเพื่อตามหาความช่วยเหลือจากตระกูลใหญ่อื่น ๆ เพื่อค้นหาวิธีแก้ไขสนิมสัมฤทธิ์นี้
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องช่วยนางให้ได้!" บรรพชนของตระกูลหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
หลังจากกล่าวจบ บรรพชนของตระกูลหลินก็เดินออกไปเป็คนแรก
เขาเปิดช่องว่างมิติขึ้นกลางอากาศและพุ่งตรงไปยังตระกูลใหญ่ไม่กี่แห่งนอกอาณาจักรฉีซาน! เขาลงมือด้วยตัวเองเพื่อตามหาวิธีรักษา!
ส่วนสมบัติและโอสถล้ำค่าทั้งหมดของตระกูลหลินถูกนำมาใช้โดยไม่ลังเล ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประคับประคองชีวิตของเสวียนอวี่ให้รอด! หลังจากต้องทนทุกข์กับข่าวลือและความเ็ปมานานกว่าร้อยปี ในที่สุดนางก็ให้กำเนิดบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินได้! พวกเขาจะปล่อยให้นางตายได้อย่างไร?!
ทว่าต่อให้เหล่าผู้าุโของตระกูลหลินจะค้นพบเคล็ดวิชาลับ สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ และของวิเศษมากมายเพียงใด พวกเขาก็ยังไม่สามารถลบล้างคำสาปของสนิมลึกลับนี้ได้ ทำได้เพียงบรรเทามันลงเล็กน้อยเท่านั้น
โชคดีที่หลินฮ่าวบังเอิญวางตัวหลินเสวียนไว้ข้างกายเสวียนอวี่
เขาค้นพบว่าเด็กทารกผู้นี้กำลังปลดปล่อยพลังปราณสีม่วงออกมา ซึ่งสามารถกดข่มสนิมสัมฤทธิ์ได้!
"เ้าใช้พลังปราณม่วงช่วยมารดาของเ้าอย่างนั้นรึ? จริงสิ! ในเมื่อเสวียนอวี่ถูกสาปมาั้แ่ร้อยปีก่อน เ้าก็ต้องเป็คนช่วยนางกดข่มคำสาปมาตลอดเช่นกัน!" หลินฮ่าวตื่นเต้นยิ่งนัก เขาเดินวนไปมาในห้องอย่างกระวนกระวาย
เมื่อหลินเสวียนได้ยินเช่นนั้น เขาแทบอยากจะฟาดหน้าบิดาตัวเองสักฉาด 'เ้าพึ่งจะคิดออกตอนนี้เองรึ?! สมองเ้าไปอยู่ที่ใดกัน!'
อย่างไรก็ตาม เวลานี้หลินเสวียนทำได้เพียงกดข่มคำสาปไว้ชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไปเขายิ่งไม่อาจต้านทานมันได้นานนัก
"ข้าต้องหาหนทางทำลายคำสาปนี้ให้ได้..."
หลินซวนคิดเงียบ ๆ แต่ร่างกายเล็ก ๆ ของเขายังคงขดตัวอยู่ ไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้เพียงอ้าปากและหายใจ
[ลมหายใจแรก] สำเร็จแล้ว และ [เสียงร้องแรก] ก็สำเร็จเช่นกัน…
ขณะที่หลินเสวียนกำลังครุ่นคิด เวลาก็ค่อย ๆ ล่วงเลยไป
ไม่นาน เหล่าผู้าุโหลายคนก็ทยอยกลับมา ทว่าก็ยังไม่พบหนทางแก้ไขคำสาปสนิมลึกลับได้ ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการใดหรือสมบัติวิเศษมากเพียงใด ก็ล้วนไร้ผล สุดท้ายพวกเขาต่างเดินเข้ามาในห้องด้วยความร้อนใจ ก่อนจะจากไปด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเพื่อออกตามหาสมบัติล้ำค่าต่อไป
...
อีกด้านหนึ่ง ตระกูลหวังแห่งอาณาจักรซูเองก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน พวกเขาเต็มไปด้วยความยินดี เมื่อเผชิญกับการทำลายล้างของตระกูลหลิน ตระกูลหวังกลับไม่สนใจ พวกเขาเห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะใส่ใจอะไรอีก ในเมื่อเสวียนอวี่ต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว
เวลานี้ หัวหน้าตระกูลหวังได้ออกจากจวนโดยลับ ๆ เขานำยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลมุ่งหน้าไปยังเมืองต้าเหยียนในอาณาจักรฉีซาน เขาตัดสินใจใช้โอกาสนี้สังหารอัจฉริยะของตระกูลหลิน!
...
ค่ำคืนมืดมิดดั่งหมึกดำ หัวหน้าตระกูลหวังนำเงาลึกลับหลายสิบร่างเข้าสู่ป่าทึบ แววตาของเขาเย็นะเืดุจน้ำแข็งขณะจ้องมองไปยังเบื้องหน้า
"ลูกชายของข้า หวังเถิงเฟย มีท่วงท่าของจักรพรรดิ ในอนาคตเขาจะต้องไร้เทียมทานบนผืนแผ่นดินนี้แน่นอน"
"เพียงแค่ตระกูลหลินเท่านั้นหรือที่คู่ควรจะต่อต้านตระกูลหวังของข้า? นั่นเป็คำสาปสูงสุดที่เถิงเอ๋อร์นำกลับมา เ้าคิดว่าจะลบล้างมันได้งั้นรึ?"
"ตอนนี้ เราเพียงแค่รอให้คำสาปสนิมนั้นแสดงฤทธิ์เท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลหลินจะต้องตกอยู่ในความโกลาหล นี่แหละคือโอกาสของตระกูลหวังของเรา!"
"ก่อนหน้านี้เ้าเปิดงานเลี้ยงเพื่ออวดอ้าง? วันนี้ ข้าจะสังหารความหวังในอนาคตของเ้าให้ดู!"
...
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ คำสาปสนิมลึกลับก็แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าจะถูกพลังปราณม่วงของหลินซวนกดข่มไว้ แต่เขาก็ไม่อาจต้านทานได้นานนัก
คนทั้งตระกูลหลินต่างร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ ท้ายที่สุดแล้ว ส่วนใหญ่ต่างเป็หนี้บุญคุณแม่ลูกคู่นี้ ไม่ว่าจะเป็ด้านการชี้แนะหรือการบรรลุระดับพลัง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังไม่สามารถหาวิธีที่มีประสิทธิภาพได้
ตลอด่เวลานี้ หลินฮ่าวรู้สึกราวกับตกจาก์สู่ขุมนรก เขาวุ่นวายอยู่กับเื่ของเสวียนอวี่ทุกวันแทบไม่ได้นอน ไม่ว่าใครจะมีข่าวอะไรก็จะรีบไปหา แต่ส่วนใหญ่ล้วนไร้ผล
เพียงคืนเดียวหลังจากล้มเหลวในการหาวิธีแก้คำสาป ผมของบุรุษผู้ปกครองเมืองต้าเหยียนมาหลายสิบปีกลับเปลี่ยนเป็สีขาวโพลน
วันนี้ หลินฮ่าวยังคงรีบรุดไปมา หลังจากได้รับสมุนไพรที่บรรพบุรุษหลินเป่าระบุไว้ เขาก็เร่งเดินไปยังห้องที่หลินเสวียนและเสวียนอวี่พักอยู่
แต่ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง เขากลับต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าผู้ที่หมดสติไปก่อนหน้านี้อย่างเสวียนอวี่ กลับกำลังอุ้มหลินเสวียนและลุกขึ้นนั่ง!
"อาอวี่!" หลินฮ่าใ แต่ไม่นานแววตาก็หม่นลงอีกครั้ง
เพราะเขาพบว่าร่างกายของเสวียนอวี่ยิ่งอ่อนแอลงกว่าเดิม เหตุผลที่นางสามารถตื่นขึ้นมาได้ เป็เพียงเพราะพลังของหลินเสวียน มันราวกับเปลวเทียนที่ลุกโชนก่อนจะมอดดับ
เมื่อเสวียนอวี่ได้ยินเสียง เธอเงยหน้าขึ้นมองหลินฮ่าว แม้ร่างกายจะอ่อนล้า แต่นางยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน "หลินฮ่าว เ้ามาแล้ว ดูสิว่าเสวียนเอ๋อร์ของเราสิ พลังของเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะ"
หลินฮ่าวกำหมัดแน่น ซ่อนความเ็ปในใจและฝืนยิ้มพลางหัวเราะดังลั่น "ฮ่าฮ่า ถูกต้อง ไม่รู้รึว่าเขาเป็ลูกชายของใคร? ในอนาคต หลินเสวียนของพวกเราจะต้องเป็ผู้แข็งแกร่งที่สุดบนแผ่นดินนี้แน่นอน!"
เสวียนอวี่ยิ้ม และใช้อุ้งมืออันผอมบางลูบไล้ใบหน้าของหลินเสวียนอย่างอ่อนโยน นางเงียบสงบไม่ตอบคำถามใด ๆ
ลำคอของหลินฮ่าวตีบตัน เขาส่งยาสมุนไพรให้ด้วยมือที่สั่นเทา "อาอวี่ ดื่มยานี้เถอะ หลังจากเ้าดื่ม เราจะได้ดูเสวียนเอ๋อร์เติบโตไปด้วยกัน"
"หากข้าดื่มยามากเกินไป มันอาจไม่ดีต่อเสวียนเอ๋อร์…" เสวียนอวี่ยกศีรษะขึ้น ใบหน้าซีดเผือดของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ขณะที่อุ้มหลินเสวียนไว้แนบอก ก่อนที่จู่ ๆ นางจะหน้าแดงขึ้นมา "หลินฮ่าว ให้ข้าได้ป้อนนมเสวียนเอ๋อร์เถอะ"
หลินฮ่าวชะงักไป เขาย่อมเข้าใจความหมายของเสวียนอวี่ นาง้าให้นมแก่หลินเสวียน เขาฝืนยิ้ม "อาอวี่ เลิกพูดเล่นเถอะ ร่างกายเ้าตอนนี้…"
"ไม่เป็ไร ข้ายังพอขยับได้" เสวียนอวี่กล่าวเสียงแ่เบา พลางแกว่งเปลที่ห่อร่างทารกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
ลูกกระเดือกของหลินฮ่าวขยับขึ้นลง ขณะมองแม่ลูกที่อยู่ตรงหน้า เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกแน่นอยู่ในลำคอ
ปลายนิ้วของเขาจิกลงไปในฝ่ามือจนเืไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน บุรุษผู้นี้ก็ฝืนยิ้มออกมา ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับดูเ็ปเสียยิ่งกว่าการร่ำไห้
"ตกลง"
เสวียนอวี่ยิ้มบาง อุ้มหลินเสวียนไว้ในอ้อมแขน แม้ว่าร่างกายของเขาจะยังไม่อาจขยับได้ แต่เขายังคงสามารถหายใจและดูดนมจากมารดาได้
ััิญญาของหลินเสวียนเฝ้าดูทุกสิ่งอย่างเงียบ ๆ
จนกระทั่งเสวียนอวี่ให้นมเขา หลินเสวียนจึงถอนััิญญากลับมาอย่างสมบูรณ์ และตั้งใจฟังเสียงในจิตใจอย่างเงียบงัน
[บรรลุความสำเร็จ: การดื่มนมครั้งแรก!]
[ต้นกำเนิดแห่งชีวิตเต็มไปด้วยพลังชีวิตอันไร้ขอบเขต เมื่อหลอมรวมหมื่นสัจธรรม เซียนจึงแยกฟ้าผ่าแผ่นดินออกจากกัน!]
[ปลุกพลัง: ร่างเซียนแห่งมหาเต๋า!]