จวนหลางฮ้วนเละเทะพังระเนระนาดไปหมด
การะเิครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ควันสีดำสะสมจนกลายเป็เมฆสีดำลอยอยู่เหนือจวน ทำให้ดูน่ากลัวมาก
จั๋วอวิ๋นเซียนจดบันทึกอย่างตั้งใจ ั้แ่ต้นจนจบเขาไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าแม้แต่น้อย
ฉินตงหวู่ยังดีหน่อย แต่เหมาปู้เอ้อกับอาเจ๋อกลับชินชาไปแล้ว ทุกครั้งที่เตาะเิ พวกเขาล้วนรู้สึกเหมือนหัวใจถูกทิ่มแทง วัตถุดิบเหล่านี้ล้วนมีค่าเป็ศิลาเซียน!
หากให้คาดการณ์จากราคาตลาด จั๋วอวิ๋นเซียนใช้ไปอย่างน้อยหมื่นศิลาเซียนแล้ว ต่อให้เป็ขั้วอำนาจอย่างเกาะสามเซียน ถ้าเป็แบบนี้ก็คงรับไม่ไหว!
เหมาปู้เอ้อรู้สึกจิตใจกระสับกระส่าย เขาพอคาดเดาได้ว่าเหตุใดสำนักเทียนกงถึงดับสูญ หากทำตามวิธีเช่นนี้ต่อไป ต่อให้มีเงินทองมากแค่นี้ก็คงไม่พอ!
……
ผ่านไปไม่นานในที่สุดเ้าเมืองหวู่อันถงก็มาถึง
“ท่านเ้าเมืองในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”
เหมาปู้เอ้อราวกับได้เจอผู้ช่วยชีวิต เขารีบวิ่งมาหาหวู่อันถงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเล่ารายละเอียดการกระทำที่น่ารังเกียจของจั๋วอวิ๋นเซียนด้วยใบหน้าอันเ็ปและโศกเศร้า
เมื่อได้ยินว่าจั๋วอวิ๋นเซียนใช้วัตถุดิบไปเท่าใด หวู่อันถงหนังตากระตุกอย่างห้ามมิได้ เขาก็รู้สึกเ็ปใจเช่นกัน แต่ในฐานะที่เป็เ้าเมือง เขาจะมองปัญหาอย่างรอบคอบมากกว่านั้น อีกทั้งยังค่อนข้างให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและผลลัพธ์
สำหรับกระบวนการเป็อย่างไร หวู่อันถงไม่อยากยุ่งเกี่ยว ถึงอย่างไรทุกศาสตร์วิชาล้วนมีผู้เชี่ยวชาญ เขาเพียงต้องทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำของจั๋วอวิ๋นเซียนก็มิได้เลวร้ายเกินไป นึกถึงตอนที่เ้าหอเทียนปิงคนนี้สร้างสมบัติวิเศษกระบี่บิน เขาก็ใช้วัตถุดิบไปจำนวนมากเช่นกันมิใช่หรือ?
หวู่อันถงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สงบอารมณ์เล็กน้อย “เ้าหอเหมา จากที่ท่านกล่าวมา แสดงว่าจั๋วอวิ๋นเซียนมีศาสตร์วิชาของสำนักเทียนกงจริงๆ ใช่หรือไม่?”
“เป็เื่จริง ถึงอย่างไรวิชาของสำนักเทียนกงก็อัศจรรย์มากจริงๆ แต่เ้าเด็กไป๋เฮ่อ เขา...”
เหมาปู้เอ้ออยากจะโต้เถียงสักสองสามคำ แต่หวู่อันถงพูดแทรกว่า “ขอเพียงเป็เื่จริงก็พอแล้ว วัตถุดิบแค่นี้เกาะสามเซียนของเรามิได้ขาดแคลน”
มีเื่บางเื่ที่หวู่อันถงมิได้คิดจะบอกเหมาปู้เอ้อตอนนี้
หากจั๋วอวิ๋นเซียนสร้างลูกปัดเพลิงอัสนีขึ้นมาได้จริงๆ ก็เพียงพอจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของทะเลล่วนซิงแล้ว และการต่อสู้แย่งชิงเหมืองแร่ของเกาะสามเซียนกับเกาะเซวียนิ พวกเขาจะได้รับผลกำไรเป็จำนวนมาก เมื่อเทียบกันแล้วการสูญเสียวัตถุดิบเพียงแค่นี้ไม่นับเป็อะไร
สิ่งที่ทำให้หวู่อันถงปวดศีรษะก็คือ จะทำให้จั๋วอวิ๋นเซียนเบาเสียงลงหน่อยหรืออย่าทำให้เมืองซานเซียนแตกตื่นได้อย่างไร
……
“ไป๋เฮ่อ!”
เมื่อเห็นจั๋วอวิ๋นเซียนหยุดมือ หวู่อันถงเดินเข้าไปกล่าวว่า “ไป๋เฮ่อ คือว่า...การทดลองของเ้าเบาเสียงลงหน่อยได้หรือไม่? มีคนไม่น้อยที่ใกับเสียงดังของที่นี่ จนมิอาจสงบใจบำเพ็ญเซียนแล้ว”
“โอ้ น่าจะใกล้เสร็จแล้วนะ”
จั๋วอวิ๋นเซียนตอบกลับไปคำหนึ่งพลางจดบันทึกเงียบๆ ด้วยท่าทางตั้งใจ
“นะ...น่าจะหรือ?”
เมื่อเห็นท่าทางของจั๋วอวิ๋นเซียน หวู่อันถงจึงไม่อยากจะพูดมากความอีก เพราะแม้แต่เขาก็รู้สึกว่าการรบกวนคนที่กำลังตั้งใจเป็เื่ที่ไม่ดีนัก โดยเฉพาะอีกฝ่ายกำลังทำงานให้เกาะสามเซียนของพวกเขา
“ฮึมๆ!”
ลูกปัดเก็บิญญาอีกลูกถูกใส่เข้าไปในเตาหลอม...ทว่าครั้งนี้ไม่มีการะเิ มีเพียงเสียงหลอมกลั่น
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วอวิ๋นเซียนเปิดเตาพร้อมกับควันสีขาวฟุ้งกระจาย
เมื่อทุกคนหันไปมองก็เห็นลูกปัดสีดำลูกหนึ่งวางอยู่กลางเตาหลอมเงียบๆ เพลิงอัสนีผสมผสานกัน ค่อยๆ หลอมรวมกัน...สิ่งนี้ก็คือ ‘ะเิเพลิงอัสนี’ เซียนยุทธ์ของสำนักเทียนกง
“สะ...สำเร็จแล้วหรือ?”
หวู่อันถงตกตะลึง แม้แต่เหมาปู้เอ้อกับอาเจ๋อก็ตกตะลึงเช่นกัน! ความสำเร็จมากะทันหันเกินไป พวกเขาทั้งสองยังมิได้เตรียมใจ คงมิใช่เื่หลอกกระมัง?
“อืม พอใช้ได้”
จั๋วอวิ๋นเซียนให้ฉินตงหวู่ช่วยหยิบะเิเพลิงอัสนีออกมา วางไว้บนมือเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด หลังจากมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้วจึงพยักหน้าด้วยความพอใจ
“ไป๋เอ๋อเป็อัจฉริยะอย่างแท้จริง!”
หวู่อันถงได้สติกลับมา เริ่มหัวเราะเสียงดังและกล่าวชื่นชมมิหยุดหย่อน
ความจริงแล้วเขาใกับฝีมือของจั๋วอวิ๋นเซียนจริงๆ เดิมทีเ้าเกาะทั้งสามคิดว่าต้องให้เวลาจั๋วอวิ๋นเซียนเตรียมตัวหนึ่งเดือน คิดไม่ถึงว่าใช้เวลาไม่ถึงสองวันก็ทำสำเร็จแล้ว นี่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนไปมากจริงๆ
ดังคาดเื่ยากไม่มีใครเป็ คนที่ทำเป็จะรู้สึกไม่ยาก!
“เหอะ! ให้ข้าทดสอบผลลัพธ์หน่อยเป็อย่างไร!”
ตอนนี้เหมาปู้เอ้อมัวสนหน้าตามิได้แล้ว เขายื่นมือไปแย่งะเิเพลิงอัสนีในมือของจั๋วอวิ๋นเซียนมาตรวจสอบ...ภายนอกกลมเรียบ ประสานต่อกันอย่างแนบสนิท ไม่มีพลังิญญารั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย...โครงสร้างด้านในมั่นคง ไม่เสียหายง่ายๆ...โดยเฉพาะพลังเพลิงอัสนี แยกกันหลอมรวมอยู่ในลูกปัดอย่างชัดเจน มีพลังทำลายล้างอันน่าหวาดกลัวซ่อนอยู่ภายใต้อักขระเ่าั้
จากนั้นเหมาปู้เอ้อดีดนิ้วยิงะเิเพลิงอัสนีออกไปที่มุมบ้าน...
‘ตูม’ เสียงะเิดังสนั่น ก้อนหินตรงมุมบ้านถูกพลังเพลิงอัสนีะเิเป็ผุยผง แม้แต่กำแพงก็ถูกะเิจนเป็รู...พลังทำลายล้างมหาศาลเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกใ!
เมื่อเห็นเช่นนี้เหมาปู้เอ้อไม่พูดไม่จา เขาไม่ยอมรับมิได้อีกแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ฉินตงหวู่กับอาเจ๋อค่อนข้างตื่นเต้น เ้าเมืองหวู่อันถงเผยรอยยิ้มเบิกบานใจ
ถึงแม้จะเสียวัตถุดิบไปไม่น้อย แต่ผลลัพธ์เช่นนี้นับว่าไม่เลว คุ้มค่ามาก! คุ้มค่ายิ่งนัก!
……
หลังจากหวู่อันถงจากไป จั๋วอวิ๋นเซียนหันไปกล่าวกับอาเจ๋อ “วิธีการเมื่อครู่นี้เห็นชัดแล้วหรือยัง?”
อาเจ๋ออดตะลึงมิได้ “มะ...ไม่เห็น”
“เช่นนั้นข้าจะแสดงให้เ้าดูอีกครั้ง”
จั๋วอวิ๋นเซียนพยักหน้า เขาบอกขั้นตอนและรายละเอียดการสร้างะเิเพลิงอัสนีใหม่อีกครั้ง รวมถึงเล่าประสบการณ์ของตัวเองด้วย
อาเจ๋อตั้งใจฟังมาก เขาหยิบสมุดออกมาจดบันทึก ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกจิตใจสั่นสะท้านและยอมรับในตัวจั๋วอวิ๋นเซียน
มีเพียงน้อยคนที่สามารถสั่งสอนศาสตร์วิชาของตัวเองอย่างเปิดเผยเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็ศาสตร์วิชาของสำนักเทียนกง
เหมาปู้เอ้อรู้สึกซับซ้อน หากมองในจุดยืนส่วนตัว เขาอยากจะได้รับการสืบทอดวิชาของสำนักเทียนกง ทว่าเมื่อคิดจะเอ่ยปากมาหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมเสียหน้าเ้าหอ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วอวิ๋นเซียนเอาบันทึกของตัวเองโยนให้อาเจ๋อจากนั้นจึงจากไปด้วยท่าทางใจกว้าง ทำให้เหมาปู้เอ้อโมโหจนตัวสั่น
……
“นายน้อยะเิเมื่อครู่นี้ ท่านจงใจกระมัง?”
ระหว่างทางกลับฉินตงหวู่ครุ่นคิด สุดท้ายก็ทนมิได้จึงถามออกมา
จั๋วอวิ๋นเซียนกำลังหลับตาทำสมาธิ เมื่อได้ยินคำถามก็ประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้? เหตุใดถึงคิดเช่นนั้น?”
ฉินตงหวู่กล่าววิเคราะห์ “ถึงแม้นายน้อยจะจดบันทึกอย่างตั้งใจตลอด ทว่าทุกครั้งที่ะเิ ท่านเหมือนจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว...อีกทั้งยังไม่เคยเห็นนายน้อยทำเื่ที่ไม่มั่นใจมาก่อน แล้วก็พอท่านเ้าเมืองมาท่านก็ทำสำเร็จทันที จะมีเื่บังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไร”
“……”
จั๋วอวิ๋นเซียนหยุดหัวเราะ เขามิได้ยอมรับแต่ก็มิได้ปฏิเสธ
เขามิได้กังวลเื่การคาดเดาของคนอื่น เพราะเื่นี้เขาเป็ฝ่ายได้เปรียบ ต่อให้เ้าเกาะทั้งสามสงสัยเป้าหมายของเขาก็จะไม่เสี่ยงสอบถาม เ้าเมืองหวู่อันถงก็ทำอะไรเขามิได้เช่นกัน
แน่นอนว่าฉินตงหวู่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติได้ แต่มิได้แปลว่าพวกหวู่อันถงจะมองออก ถึงอย่างไรฉินตงหวู่ก็ติดตามจั๋วอวิ๋นเซียนมานานสามปี จึงคุ้นเคยกับการกระทำของเขาดีอยู่แล้ว
จั๋วอวิ๋นเซียนโบกมือกล่าวว่า “พี่ฉินประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว การสร้างเซียนยุทธ์ไม่มีทางสำเร็จร้อยส่วนอยู่แล้ว การะเิ่แรกๆ เป็ของจริง”
“่แรกหรือ? หมายความว่าตอนท้ายนายน้อยจงใจหรือ?”
“ใช่ก็แล้วกัน”
“เพราะเหตุใดหรือ?”
“อีกไม่กี่วันท่านก็จะเข้าใจเอง”
จั๋วอวิ๋นเซียนมิได้อธิบาย หันกลับเข้าไปในหอตำรา
