ตอนที่ 1 : บังเกอร์
ปลายปี ค.ศ. 1944
เสียงปืนใหญ่ยังคงคำรามไม่หยุดในเมืองอุตสาหกรรมทางตะวันออกของยุโรป เมืองที่ถูกแย่งชิงแล้วแย่งคืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ถนนกลายเป็ซากคอนกรีตแตกร้าว อาคารพังถล่มเหลือเพียงโครงเหล็กและกำแพงครึ่งแผง ตั้งตระหง่านเหมือนโครงกระดูกกลางสนามรบ
ร้อยตรีคิรันวิ่งก้มต่ำฝ่าซากกำแพงที่แตกกระจาย เสียงะุปืนกลเฉี่ยวผ่านเหนือศีรษะเป็ระยะ ฝุ่นและควันคลุ้งหนาจนแสบตา การหายใจแต่ละครั้งเหมือนสูดกลิ่นโลหะร้อนเข้าไปในปอด
นี่ไม่ใช่การบุก
นี่คือการถอนตัว
“อย่าหยุด! วิ่งต่อ!”
ร้อยเอกสิงห์ะโสั่งจากด้านหน้า เสียงแทบกลืนไปกับเสียงะเิ
คิรันหันกลับไปมองด้านหลัง พวกเขาเหลือกันเพียงเจ็ดคน จากหน่วยจู่โจมสิบห้าคนที่ออกปฏิบัติการั้แ่เช้า
กำลังพลที่ยังมีชีวิตอยู่—
• ร้อยเอกสิงห์ – หัวหน้าหน่วย
• ร้อยตรีคิรัน – รองหัวหน้าหน่วย
• จ่าแม็ก – มือปืนกล
• สิบเอกต้น – มือปืนกล าเ็แขนซ้าย
• พลทหารนที – มือสื่อสาร
• พลทหารภพ – มือะเิ
• พลทหารก้อง – มือปืนไรเฟิล
และทุกคนกำลังถูก ” ไล่ล่า ”
“พวกมันประชิดแล้ว!”
จ่าแม็กะโพร้อมกับยิงกดไปด้านหลัง เสียงปืนกลดังถี่ยาว ก่อนจะเงียบลงเมื่อะุหมด เสียงโลหะกระทบกันดังแห้ง ๆ บอกชัดว่าเขาเหลือเวลาไม่มาก
คิรันดึงสิบเอกต้นให้หลบชิดกำแพง
“แขนเป็ยังไง”
ต้นกัดฟัน พยักหน้าแม้สีหน้าซีด
“ยังถึงไม่ตาย…ก็ไหวครับพี่”
แรงะเิลูกหนึ่งตกลงใกล้เกินไป คลื่นกระแทกซัดทุกคนล้มลงพร้อมกัน โลกหมุน หูอื้อ เสียงทุกอย่างกลายเป็เสียงอื้อในหัว
“ลุก!”
ผู้กองสิงห์ะโ “ถ้าลุกไม่ได้ก็ไม่รอด!”
พวกเขาฝืนลุกขึ้นและวิ่งต่อ ทะลุเข้าเขตอาคารร้างที่พังถล่มจนเหลือเพียงโครง เหล็กเส้นโผล่ระโยงระยางเหมือนกับดักมรณะ
นทีหอบหนัก เสียงแทบขาด
“สัญญาณขาดหมดครับผู้กอง วิทยุใช้ไม่ได้”
“ช่างมัน!” สิงห์ะโตอบ “ตอนนี้เอาชีวิตรอดก่อน!”
เสียงะุเริ่มใกล้ขึ้น เสียงรองเท้าทหารศัตรูดังชัดจากด้านหลัง
“มีทางหนีไหม!” ภพะโถาม
สิงห์หยุดกะทันหัน สายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างใต้ซากอาคารด้านหน้า
“นั่น!”
ใต้พื้นคอนกรีตที่แตกพัง มีบันไดลงใต้ดิน ช่องทางมืดสนิทเหมือนปากหลุม
คิรันมองแล้วรู้สึกไม่ดี
“ผู้กอง…เราไม่รู้ว่าข้างล่างมีอะไร”
สิงห์หันกลับไปมองถนนด้านหลัง แสงไฟฉายของศัตรูเริ่มส่องเข้ามา
“ถ้าไม่ลง ก็โดนยิงตายตรงนี้”
จ่าแม็กเสริมทันที
“ะุผมเหลือไม่ถึงครึ่งแม็กแล้วครับ”
ความเงียบปกคลุม ทุกคนรู้ดีว่าไม่มีทางเลือก
“ลง” สิงห์สั่งสั้น ๆ “คิรันนำ”
คิรันพยักหน้า ยกปืนขึ้น เปิดไฟฉาย แล้วลงไปเป็คนแรก
อากาศด้านล่างเย็นและชื้น กลิ่นอับเก่าตีขึ้นทันที เหมือนสถานที่ที่ไม่มีใครเหยียบย่างมานานหลายปี ทุกก้าวสะท้อนก้องผิดปกติ
ทุกคนตามลงมาอย่างระมัดระวัง
ที่ปากทาง มีประตูเหล็กเก่าครึ่งบานเปิดค้างอยู่ บนผิวเหล็กเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนยาวลึก
ก้องชะงัก
“รอยอะไรครับ…”
คิรันมองแล้วไม่ตอบ
เขาไม่อยากพูดในสิ่งที่คิด
ด้านในเป็ทางเดินคอนกรีตยาว ไฟฉายส่องเห็นป้ายโลหะเก่าที่ติดเอียงอยู่บนผนัง
RESTRICTED – LAB
“ไม่ใช่บังเกอร์ทหาร” นทีพูดเสียงเบา
“แต่ยังดีกว่าข้างบน” สิงห์ตอบ “กระจายกำลัง”
แม็กกับก้องคุมปากบันได
นทีพยายามเช็กวิทยุ
ต้นนั่งพักำิงผนัง
สิงห์ คิรัน และภพ เดินตรวจเข้าไปด้านใน
ยิ่งเข้าไป กลิ่นยิ่งแรง เป็กลิ่นเหม็นเน่าแฝงคาวเื พื้นมีคราบสีเข้มเป็ทางยาว เหมือนมีบางอย่างถูกลากผ่าน
ภพชี้ไปข้างหน้า
“นั่น…ชุดทหาร”
เศษชุดทหารเก่า ไม่ใช่ของหน่วยพวกเขา
สิงห์หน้าตึง
“เคยมีคนหลบที่นี่ก่อนเรา”
พวกเขามาถึงห้องโถงเล็ก ๆ มีแผงควบคุมเก่าพังเสียหาย เก้าอี้ล้มคว่ำ มุมห้องมีกองกระดูกมนุษย์ทับซ้อนกัน
ภพกลั้นหายใจ
”ไม่น่าใช้แค่หนึ่งศพ”
สิงห์ยกมือห้าม
“เงียบ”
คิรันรู้สึกเหมือนมีสายตามองอยู่ในความมืด เขาหันไฟฉายไปด้านหลัง—ไม่เห็นอะไร
“ถอยก่อน” คิรันพูด “ที่นี่ไม่ปกติ”
ระหว่างเดินกลับ เสียงแปลกดังขึ้นจากทางเดินแยก
ครืด…ครืด…
ทั้งสามหยุดกึก
เงียบสนิท
ก่อนจะมีเสียงเบา ๆ ดังซ้ำ
ติ๊ก…ติ๊ก…
คิรันส่องไฟ เห็นรอยขีดข่วนใหม่บนผนังคอนกรีต
“กลับเดี๋ยวนี้” เขาสั่งทันที
เมื่อถึงปากบันได ก้องรายงานเสียงตึง
“ศัตรูกำลังลงมา!”
เสียงฝีเท้าดังชัดจาก้า
“ปิดทางเข้า!” สิงห์สั่ง
ทุกคนช่วยกันดันประตูเหล็ก ะุจาก้ายิงใส่ ประกายไฟกระเด็น ก่อนที่ประตูจะปิดสนิทในวินาทีสุดท้าย
ความมืดกลืนทุกอย่าง
เสียงเคาะและะโดังจาก้า
สิงห์หอบหายใจ
“เราปลอดภัย…ชั่วคราว”
แต่แล้ว
เสียงใหม่ก็ดังขึ้นจากด้านใน
ติ๊ก…ติ๊ก…
ครืด…ครืด…
ต้นกระซิบ เสียงสั่น
“ผู้กอง…เราเลือกถูกไหม”
คิรันส่องไฟไปที่พื้น
รอยเท้าเปื้อนเื
ไม่ใช่รอยมนุษย์
สามนิ้ว เล็บจิกคอนกรีต
“ผู้กอง” คิรันพูดเสียงต่ำ
“ข้างในมีบางอย่าง”
สิงห์กำปืนแน่น
พวกเขาถูกขังอยู่ระหว่าง
ศัตรูที่กำลังพังประตูจาก้า
กับสิ่งที่ไม่รู้ตัวตนในความมืด
บังเกอร์ไม่ใช่ที่หลบภัย
มันคือกรง
