ในวันต่อ ๆ มา ธุรกิจไก่ทอดก็ยังคงขายดีอย่างต่อเนื่อง มิหนำซ้ำยังมีลูกค้าหน้าใหม่ ๆ เพิ่มมาทุกวัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานในหน่วยงานราชการประจำอำเภอ เมื่อได้ยินคนพูดถึงความอร่อยของไก่ทอด ก็แห่มาอุดหนุนไม่เว้นแต่ละวัน บางรายสั่งรวดเดียวถึง 20 ชิ้นเพื่อเอาไปแจกจ่ายให้ลูกน้องในที่ทำงาน
ในแต่ละวัน ไก่ทอด 120 ชิ้นขายหมดเร็วมาก บางทีไม่ถึงเจ็ดโมงเช้าก็หมดแล้ว และยังไม่เพียงพอต่อความ้า กานต์จึงตัดสินใจเพิ่มเตาสำหรับทอดไก่ เพราะหลังตัดไหม อนงค์ก็สามารถไปช่วยทอดที่ตลาดได้แล้ว
วันนี้เป็วันครบกำหนดที่หมอนัด พวกเขาจึงหยุดขายไก่ทอดเป็เวลาสองวัน พากันไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดแต่เช้า
เมื่อหมอตรวจร่างกายและแผลผ่าตัดก็พึงพอใจมาก ร่างกายปกติดีทุกอย่าง สามารถตัดไหมออกวันนี้ได้เลย หลังจากนั้นก็นัดตรวจร่างกายเพื่อติดตามผลในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
เมื่อออกจากโรงพยาบาล พวกเขายังไม่กลับบ้านในทันที เพราะยังมีธุระที่ต้องทำอีกหลายเื่ในตัวจังหวัด
แห่งแรกที่ไปคือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจำจังหวัด วันนี้กานต์จะมายื่นเื่กู้เงินฉุกเฉินเพื่อนำไปซื้อรถกระบะมือสองมาใช้งาน
ธุรกิจไก่ทอดตอนนี้ค่อนข้างมั่นคงแล้ว เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น มีลูกค้าขาประจำและขาจรเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่มีวี่แววจะลดลงเลย อนงค์จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาขายไก่ทอด โดยจะเริ่มั้แ่่เปิดเทอมที่จะถึงนี้ ซึ่งกานต์และลูกจะไม่สามารถอยู่ช่วยได้ จึงได้จ้างทองและนวล สองพี่น้องมาช่วย กานต์ได้เข้าไปพูดคุยกับทั้งสองคนแล้ว ทั้งสองคนต่างก็ยินดีที่จะมาทำงานด้วย
เมื่อจ้างคนเพิ่ม แน่นอนย่อมต้องเพิ่มจำนวนไก่ที่จะขายในแต่ละวันด้วย สองสามีภรรยาตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะเริ่มที่ 30 ตัวต่อวัน เมื่อของที่ต้องขนไปตลาดมีเพิ่มขึ้น รวมถึงทองและนวล แน่นอนต้องรวมอนงค์กานต์ด้วยที่ต้องเดินทางไปตัวอำเภอทุกเช้าเพื่อเรียนหนังสือ มอเตอร์ไซค์กับซาเล้งย่อมจุคนและของไม่พอ กานต์จึงเริ่มมองหารถกระบะมือสองเพื่อใช้งาน
ประจวบเหมาะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนที่กานต์ทำงานอยู่้าเปลี่ยนรถจากกระบะเป็รถเก๋ง จึงจะขายให้ในราคา 20,000 บาท แต่กานต์ไม่มีเงินก้อนมากขนาดนั้น เมื่อปรึกษากับภรรยา จึงตัดสินใจพากันมายื่นเื่กู้ในวันนี้
การยื่นเื่กู้ฉุกเฉินนั้น สามารถกู้ได้ไม่เกินสิบเท่าของเงินเดือน ซึ่งเป็ยอดเงินไม่มาก ขั้นตอนจึงไม่ยุ่งยากและไม่จำเป็ต้องมีผู้ค้ำประกัน กานต์ใช้เวลาเดินเื่แค่สิบห้านาทีก็เรียบร้อยแล้ว และเมื่อหัวหน้าสหกรณ์ลงนามเห็นชอบ ก็สามารถมารับเงินกู้ได้ภายในสามวัน
หลังจากนั้นก็ไปตลาดสดประจำจังหวัดเพื่อซื้อชุดนักเรียนให้อนงค์กานต์ และไปหาซื้อเครื่องบดไฟฟ้าเพื่อนำไปบดกระเทียมและตะไคร้แทนการโขลกด้วยครก
เมื่อจัดการธุระในตัวเมืองเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็รีบนั่งรถโดยสารประจำทางกลับไปที่ตลาดประจำอำเภอทันที เพราะวันนี้นัดคนมาส่งเตาแก๊สและถังแก๊สชุดใหม่ที่สั่งซื้อไว้ เมื่อถึงตลาดก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ตลาดเริ่มวาย พ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารปรุงสุกก็เริ่มเก็บข้าวของกลับบ้านกันแล้ว
"พี่นง ไม่เจอกันนานเลย สบายดีแล้วใช่ไหม"
ยุพิณ แม่ค้าขายโจ๊กซึ่งกำลังเก็บของอยู่หันมาเห็นทั้งสามคนกำลังเดินเข้ามาที่ร้านพอดี จึงเอ่ยทักทายอนงค์ที่หายหน้าจากตลาดไปเกือบเดือน
"สบายดีแล้ว นี่เพิ่งไปตัดไหมที่โรงพยาบาลมา ั้แ่วันมะรืนนี้พี่ก็จะมาขายของตามปกติแล้วล่ะ" อนงค์พูดยิ้ม ๆ
"งั้นจะหยุดขายไก่ทอดแล้วเหรอพี่ เสียดายนะ คนกำลังติดเลย" ยุพิณเข้าใจไปในทางนั้น เพราะเคยได้ยินอนงค์กานต์พูดแต่แรกแล้วว่าไก่ทอดขายเฉพาะ่ที่อนงค์ยังพักฟื้นอยู่เท่านั้น
"เปล่า พี่จะเปลี่ยนมาขายไก่ทอดแทน ที่เข้ามาวันนี้ก็จะมาเก็บของที่ไม่ได้ใช้กลับบ้าน ร้านจะได้โล่งขึ้นอีกนิด"
"เฮ้อ โล่งใจ นึกว่าจะอดกินไก่ทอดเสียแล้ว…แต่ต่อไปพิณก็คงคิดถึงฝีมือก๋วยเตี๋ยวของพี่น่าดู"
"เอ๊ะ...หรือว่าพิณจะขายก๋วยเตี๋ยวแทนดี?" ยุพิณกำลังอยากหารายได้เพิ่ม เพราะโจ๊กที่ขายอยู่ ขายดีเฉพาะ่เช้าเท่านั้น ่สาย ๆ ถึงเที่ยง คนก็หันไปกินอย่างอื่นกันหมด ถึงแม้จะหาขนมมาขายเสริมเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ก็ขายได้ไม่ดีนัก ถ้าได้ขายก๋วยเตี๋ยวเพิ่มก็น่าสนใจไม่น้อย อีกอย่างบ้านของเธออยู่ไม่ไกลจากตลาด สามารถเปิดร้านได้จนถึงเย็น
"ดีสิ พิณบ้านอยู่แถวนี้ สามารถขายได้ถึงเย็นเลย" อนงค์สนับสนุนทันที "สนใจไหมเดี๋ยวพี่ให้สูตรก๋วยเตี๋ยว ทำไม่ยากหรอก แค่น้ำซุปอร่อย สะอาด ให้เยอะ แค่นี้ลูกค้าก็ติดใจแล้ว"
ยุพิณไม่เสียเวลาคิด เธอรีบตอบตกลง และหากระดาษปากกามาจดสูตรและวิธีปรุงก๋วยเตี๋ยวตามคำบอกเล่าของอนงค์ นอกจากนี้ยังขอซื้อของใช้ อุปกรณ์จากร้านของอนงค์ไปใช้ต่อเลย ซึ่งอนงค์ก็ยินดีขายให้ในราคาถูก เพราะเก็บกลับบ้านไปก็ไม่ได้ใช้ รกบ้านเปล่า ๆ
