"ทำงานชดใช้จนกว่าผมจะพอใจ"
"มันไม่มากไปหน่อยเหรอคะ แล้วฉันต้องทำไปถึงไหนกันระยะเวลาสิ้นสุดก็ไม่มี"
นักรบเผยตัวเลือกที่สร้างความใแก่น้ำส้มไม่น้อย จนเธอพรวดพราดลุกขึ้นยืนค้ำโต๊ะ เผลอเสียงดังใส่หน้าเขา ที่ตอนนี้เอาแต่จ้องมองด้วยใบหน้าเรียบตึง ท่าทางขึงขังของน้ำส้มแทบอยากตะปบหัวนักรบกดลงพื้นโต๊ะ แต่เธอก็ทำได้เพียงกำมือและกัดฟันแน่นเท่านั้น
"มีสิครับ" นักรบลุกยืนช้า ๆ ทำท่าเดียวกับน้ำส้ม ทั้งสองประจันหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมกัน แล้วนักรบจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาไม่ละห่างจากคนที่อยู่ตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาที
"แล้วกี่ปีกี่เดือนละคะ" เธอย้อนถาม
"ตลอดชีวิตไงครับระยะเวลาสิ้นสุด" เขาตอบเธอ จากนั้นจึงนั่งลงเก้าอี้ตามเดิม จรดปลายปากกาลงเอกสารอย่างคนสบายใจ จำให้น้ำส้มต้องนั่งลงด้วยใจอ่อนแรง เธอไม่รู้จะแข่งหรือต่อกลอนกับผู้ชายคนนี้ยังไงแล้ว เพื่อให้เขาผ่อนปรนยอมให้เธอได้ผ่อนผันสิ่งที่ลูกสาวก่อขึ้นด้วยความเดียงสา
"หน้าตาก็ดีทำไมถึงใจดำโเี้แบบนี้ละคะ...เสียแรงที่เคยชื่นชมคุณ เมื่อวานฉันไม่น่าขอร้องคนใจดำแบบคุณเลย" เธอนั่งลงชักสีหน้าบึ้งตึงแล้วบ่นต่อหน้าเขา สองมือกุมหัวแสดงความกลัดกลุ้มออกมาโดยไม่สนเลยว่าภาพลักษณ์ของเธอจะเป็ยังไงในสายตาของเขา เธอเอือมระอาในตัวเลือกที่เขาเสนอ
"หรือจะเอาอีกตัวเลือก...สนไหมล่ะ" เขาพูดขึ้นทำให้น้ำส้มปรายสายตามอง
"ตัวเลือกอะไรอีก แค่ข้อแรกก็บ้าบอพออยู่แล้ว"
"คบกับผมสิครับ"
ปั่ก!! น้ำส้มที่นั่งศอกค้ำโต๊ะทำงานถึงกับเสียหลัก แขนอ่อนเปลี้ยกระแทกกับพื้นโต๊ะเมื่อนักรบเอ่ยขึ้น เขาทำเธอตะลึงรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ และจู่ ๆ วันนี้ก็พูดซะเธอทรงตัวไม่อยู่เลยทีเดียว ได้แต่จ้องมองเขาอย่างงุนงง แม้จะรู้ว่าเขาตามจีบก็ไม่คิดว่าจะรุกไวปานความเร็วแสงขนาดนี้
"อะไรนะ! คุณพูดจริง? " เธอถามย้ำอย่างไม่คิดเชื่อหู แม้จะรู้และเดาพฤติกรรมเขาได้ นี่คือการจีบเชิงรุกระดับเก้าจุดเก้าริกเตอร์ใช่ไหม ถึงได้สั่นะเืไปทั้งตัวและหัวใจ
"พูดจริงแต่ก็ไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น บางอย่างผมก็รอได้" เขาพูดออกมาหน้าตา พลางยักไหล่ด้วยความชิล
"คุณบ้าไปแล้วท่านประธาน" น้ำส้มถึงไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาต่อว่า จึงทำได้เพียงเปล่งวาจาเท่านี้ออกมาอย่างคนเหนื่อยหน่ายระอาใจ
"ผมถูกแม่ด่าแบบนี้ประจำครับ...ไม่สะทกสะท้านหรอกเพราะผมชินแล้ว" เขาก็ยังคงตอบโต้เธอด้วยความยียวน ชวนให้น้ำส้มอารมณ์ขี้นมาอีกระลอก
"ฉันล่ะยอมคุณเลยจริง ๆ " น้ำส้มทิ้งน้ำหนักตัวเอนหลังพิงกับเก้าอี้ แล้วพูดออกมาพลางส่ายหัวระอาในการตอบกลับของนักรบ ที่ค่อนไปทางหน้ามึน
"ยอมคบกับผมแล้วเหรอ" เขายังคงกวนประสาทเธออย่างไม่หยุดหย่อน
"โอ๊ยตาย! " จนน้ำส้มสบถเสียงดัง เธออยากจะเอาหัวโขกกับโต๊ะ หรือมไม่ก็มีเวทมนต์เสกให้ตัวเองหายไปจากตรงนี้ เธอเอือมระอาเขาจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดต่อ
"ผมไม่ยอมให้คุณตายหรอกนะ ยังไม่ได้เป็แฟนผมเลยจะตายได้ไงกัน"
"พอเถอะค่ะ แค่ฉันปวดหัวกับมะนาวคนเดียวก็พอแล้วมั้ง"
"เพิ่มผมไปอีกสักคนจะเป็ไรไป จริงไหมครับแฟน"
"คุณอย่ามาพูดแบบนี้นะคะ เดี๋ยวใครมาได้ยินจะเข้าใจผิดเอา"
เขาและเธอยังคงมีวาจาให้พูดคุยไม่หยุด และมันน่าหมั่นไส้สุด ๆ ในการหยอดขนมครกของนักรบ แต่ก็สร้างความเขินอายให้แก่น้ำส้มไม่ใช่เล่น เพียงแค่เธอวางท่าทีไม่ให้มีกิริยาชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็ช่องว่างแก่นักรบได้หยอดต่อ จำต้องแสดงสีหน้าเคร่งใส่เขา และเธอก็รู้สถานภาพของตัวเองดี ไม่อาจเอื้อมเคียงข้างคนที่เพรียบพร้อมแบบเขาได้หรอก แค่เธออยู่กับลูกด้วยความสงบไม่เดือดร้อนก็เพียงพอแล้ว เธอขอเพียงเท่านี้จริง ๆ ไม่อยากแก่งแย่งชิงดีกับใครให้วุ่นวาย
"อายที่จะมีผมเป็แฟนหรือไง"
"ไม่ใช่แบบนั้น...กรุณาดูสภาพฉันด้วยค่ะ แม่หม้ายผัวตายแถมมีลูกติดอีก คนจะมองคุณยังไงมันจะทำให้คุณนั่นแหละที่เสียชื่อถูกนินทาเอาได้ อีกอย่างเขาจะมองว่าฉันจับคุณน่ะสิ"
"แล้วผมต้องแคร์ขี้ปากคนพวกนั้นเหรอ พวกเขาไม่ได้หาเงินให้ผมใช้สักหน่อย"
"เฮ้อ...ฉันล่ะเริ่มเหนื่อยที่จะพูดกับคุณแล้วนะคะ"
"ตกลงก็จบเื่แล้วไหมล่ะ...คบกัน"
"ไม่ค่ะ"
น้ำส้มยืนกรานหนักแน่น แม้นักรบจะปล่อยลูกหยอดมากี่ดอกก็ตาม เธอก็ยังไม่อาจจริงจังเพียงเพราะคำพูดเลื่อนลอยได้ และคนที่เสน่ห์เหลือหลายอย่างเขา คงยากจะต่อกลอน ใครต่อใครก็อยากเข้าหาทั้งรูปร่าง หน้าตา ฐานะที่เพอร์เฟ็ก เขาคงไม่ได้จีรังกับผู้หญิงมีตำหนิเช่นเธอหรอก อาจจะเป็ได้แค่ตัวเลือกเพื่อคั่นเวลาเหงาก็เท่านั้น...จึงไม่กล้าเอาชีวิตที่เหลืออยู่ไปให้คนรวยเล่นแก้เซ็ง
"ผมปลดคุณจากโปรเจ็กนี้นะ" เขาขู่เธอเมื่อเห็นว่าน้ำส้มปฏิเสธทุกเงื่อนไข ก็มันเป็ข้อเสนอที่ไม่น่าเชื่อถือ ใครจะไปยินยอมง่าย ๆ แต่ที่เขาทำไปนั่นเพียงเพราะอยากเข้าใกล้เธอให้มากกว่าเดิม อยากให้เธอในหลายมุมของผู้ชายแบบเขา ที่ภายนอกดูเ้าชู้แต่หารู้ไม่เขานั่นแหละที่จริงใจกับคนที่ชอบพอและจริงจังในความรัก รักยากจนไม่อยากจะเสียใจ แต่เมื่อใดที่เขาหลงรักใครแล้ว มันจะเป็รักเดียวที่เขาต้องรักษาและด้วยหัวใจที่หนักแน่น
"เออ ปลดก็ปลดฉันี้เีต่อปากกับคุณแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะฉันมีธุระต้องไปรับมะนาว" ความระอาทำให้น้ำส้มไม่ง้ออีกต่อไป เธอยินยอมหากเขาจะปลดเธอฟ้าแล่บจริง ๆ คิดในหัวคงไม่ตายหรอก ถูกปลดก็แค่หางานใหม่ หรือว่าใช้ฝีมือในการแต่งหน้าเป็บิวตี้บล็อกเกอร์ต่อไป แม้มันจะไม่ได้เงินมากมายเป็ก้อนอย่างถ่ายแบบ แต่หากเก็บเล็กผสมน้อยก็สามารถจุนเจือเธอกับลูกได้ในแต่ละวัน
"เอ้า!! ทำไมถอดใจง่ายแบบนั้นอะ เมื่อวานยังอ้อนวอนผมอยู่เลย"
การยินยอมของน้ำส้มทำเอานักรบถึงกับหน้าเจื่อน เขาคิดว่าเหนือกว่าเป็ไหน แต่ไงวันนี้มันทำเขาหน้าเสียไปซะงั้น จนหัวใจของเขาหล่นไปอยู่ปลายเท้า และเขาคงไม่ยอมง่าย ๆ หากน้ำส้มจะยอมถอนตัวแบบนั้น เขาแค่้าใกล้ชิดเธอ จึงใช้เด็กหญิงตัวน้อยเพื่อเป็สะพานเชื่อมใจ และการให้น้องมะนาวติดหนี้ ก็เพื่อให้มีน้ำส้มในทุกวันที่เด็กหญิงต้องมาทำงานกินนมและนอนกลางวันที่บริษัทของเขา เพราะเธอรักลูกแค่ไหน คงไม่มีวันทิ้งลูกให้อยู่กับคนที่เพิ่งรู้จักง่าย ๆ เขาคิดเพียงเท่านี้ก็หวังจะจีบเธอได้สะดวกกว่าเดิม
"วันนี้กับเมื่อวานมันคนละวันกันค่ะ...ฉันขอตัว"
"เดี๋ยวดิน้ำส้ม" เขาถลาเขามากอดรัดเธอไว้แน่น
"...ปล่อยฉันจะรีบไปรับลูก" เธอขัดขืนและพยายามแกะมือปลาหมึกให้พ้นตัว แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก "อย่าให้ฉันโมโหมากกว่านี้นะ" เธอขู่นั่นจึงทำให้นักรบยอมปล่อยกอดจากเธอทำให้น้ำส้มมีโอกาสเดินหนีออกมา
"ผมไปด้วย" ทว่าเขากลับวิ่งมาดักหน้าและร้องขอตามไปจับมือของเธอไว้ เขากลัวว่าเธอจะวิ่งหนี
"อะไรของคุณอีก คุณนักรบ!"
"ผมต้องไปรับลูกหนี้ของผมที่โรงเรียนด้วยครับ"
พูดจบเขาก็เดินผิวปากแซงหน้าน้ำส้มอย่างคนอารมณ์ดี มีแต่น้ำส้มที่มองตามหลังพร้อมทั้งอารมณ์เกรี้ยวกราด ควันแทบพุ่งออกหูที่จู่ ๆ เขาเหมือนว่างงานและเสนอหน้าไปกับเธอ ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่น้อย
เขามันยืนหนึ่งในความหน้ามึน!
