ผมสีแดงเพลิงเหมือนปลิวไสวตามแรงลมเหมือนลูกไฟที่กำลังลุกไหม้ บนเกราะอ่อนที่เธอสวมเต็มไปด้วยลวดลายเวทย์มนต์ลึกลับหลากหลายและมีพลังเวทย์มนต์ที่น่ากลัวโคจรรอบเกราะเดี๋ยวชัดเดี๋ยวจาง รองเท้าหนังสีขาวงดงามราวกับเถาวัลย์ที่เลื้อยปกคลุมหัวเข่า เรียวขาที่เหมือนหยกสลักชั้นดีที่โผล่พ้นออกมาดูขาวเรียบเนียนมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ชุดกระโปรงต่อสู้สีฟ้าปกคลุมสะโพกกลมกลึงที่มีเสน่ห์ของเธอรับกับเอวคอดกิ่ว ชุดเกราะอ่อนห่อหุ้มยอดูเาทั้งสองที่โดดเด่น ใบหน้าที่งดงามทำให้คนไม่อาจละสายตาไปได้ เธอทำให้ผู้คนรู้สึกเ็าสามส่วน สง่างามสามส่วน งดงามจับตาสี่ส่วน....
นี่คือ แอนเดรสซ่า เอเลน่า เทพธิดานักรบที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจล่วงเกินได้ เป็ 'ดอกไม้โร้ก' ที่งามที่สุดในแผ่นดินโร้กแห่งโลก Diablo
นางค่อยๆ เดินทะลุออกมาจากประตูมิติเหมือนกำลังเดินผ่านห้วงเวลาและมิตินับพันนับหมื่น นางปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง ยืนอยู่ด้านหน้าซุนเฟย
ความงามของเอเลน่าผลิบานราวกับดอกไม้แรกแย้ม
เป็เวลานานแล้วหลังจากที่แอนเดเรียผู้เป็ 'ดอกไม้โร้ก' ได้ตกหลุมรักกับจอมปีศาจอย่างไม่น่าเชื่อจนทำให้ตัวเองร่วงหล่นลงไปในด้านมืดและกลายเป็ปีศาจสาวที่น่ากลัว นับั้แ่นั้นมา แผ่นดินโร้กไม่มีใครเหมาะสมกับคำว่า 'ดอกไม้โร้ก' สี่คำนี้อีกเลยจนกระทั่งเอเลน่าเกิด นักรบโร้กคนนี้สามารถใช้ความงามและความกล้าหาญของนางพิชิตแผ่นดินได้ทั้งหมด
“นายท่านซุนเฟย ตอนที่ข้าอยู่ 'ค่ายโร้ก' ข้าได้ยินเสียงเรียกของท่าน” เอเลน่าโค้งกายคำนับตามธรรมเนียมปฏิบัติของโลก Diablo เวลาที่เข้าพบาา “ท่านเรียกหาข้ามีเื่อะไรหรือไม่?”
“เอเลน่า หลังจากนี้ให้เรียกข้าว่าอเล็กซานเดอร์!” ซุนเฟยชี้ไปที่เก้าอี้หินข้างๆ ก่อนจะถามยิ้มๆ ว่า “นั่งสิ เป็อย่างไรบ้าง ข้าคิดว่าเ้านำเื่ของที่นี่ไปเล่าให้แม่ชีอาคาร่าและผู้นำคาเชียฟังแล้วใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว ข้าทำตามที่ท่านพูด ข้าได้นำเื่นี้ไปบอกกล่าวแก่ท่านทั้งสองคนแล้ว องค์าาอเล็กซานเดอร์”
เอเลน่าปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว นางเรียกชื่อ ‘อเล็กซานเดอร์’ ด้วยท่าทางคุ้นชิน ย้อนกลับไปเมื่อสิบวันก่อน ตอนแรกที่มาที่นี่นางดูตื่นเต้นไปหมด แต่ตอนนี้นางกลับสงบนิ่งมาก จำได้ว่าเมื่อสิบวันก่อน ครั้งแรกที่นางถูกซุนเฟยใช้ประตูมิติอัญเชิญนางมาที่แผ่นดินอาเซรอท เอเลน่าถูกความสวยงามและเงียบสงบของโลกนี้ทำเอาตื่นตะลึง หลังจากที่ซุนเฟยได้อธิบายเกี่ยวกับสถานะของตัวเองและเื่ราวของโลกนี้ ทำให้นางรู้ว่าที่นี่ไม่มีพวกมอนสเตอร์และปีศาจ ไม่มีการรุกรานและมลพิษจากพลังปีศาจในนรก ทุกๆ ที่ล้วนสวยงาม ต้นไม้เขียวชอุ่ม อากาศบริสุทธิ์ โลกทั้งใบเจริญรุ่งเรือง กล่าวได้ว่าโลกนี้เป็โลกที่มีสีสันสวยงาม แทบไม่ต่างอะไรกับ์ของโลก Diablo เอเลน่าตกหลุมรักโลกนี้ั้แ่วินาทีแรก
ผ่านไปหลายสิบวัน ทุกๆ วันนางสามารถปรากฏที่เมืองแซมบอร์ดได้เพียงสี่ชั่วโมงภายใต้การยินยอมของซุนเฟย เอเลน่ามีฐานะเป็แขกคนหนึ่ง คอยสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ และทำความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างของเมืองแซมบอร์ด รวมถึงกฎของโลกนี้ด้วย สถานะของซุนเฟย สถานะของเมืองแซมบอร์ดและพลังที่แทนค่าด้วย ดาว จันทรา สุริยะ หลังจากที่ทำความเข้าใจทั้งหมดก็ได้รับคำอนุญาตของซุนเฟยให้เอเลน่าไปบอกเล่าเื่ที่ตัวเองรู้ให้แก่แม่ชีอาคาร่าและคาเชีย สองผู้นำของ 'ค่ายโร้ก'
“ดีแล้ว ลำบากเ้าแล้วล่ะ อ้อ จริงสิ อีกสักพักจะมีคนนำเ้าไปสถานที่หนึ่ง หลังจากที่เ้าไปที่นั่นแล้วก็สังเกตให้รอบคอบนะ แล้วนำมาบอกข้าว่าเ้าพบอะไร” เมื่อซุนเฟยอยู่ต่อหน้าเอเลน่าก็ไม่ได้วางมาดาาอะไร ก่อนจะส่งแอปเปิ้ลแดงให้พลางพูดว่า “จริงสิ เกี่ยวกับข้อเสนอก่อนหน้านี้ของข้า ไม่รู้ว่าแม่ชีอาคาร่าและคาเชียมีข้อคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
“พวกเขาเห็นด้วย แต่ท่านแม่ชีอาคาร่าหวังว่าเมืองแซมบอร์ดจะสนับสนุน 'ค่ายโร้ก' ในด้านอาหารได้เล็กน้อย” เอเลน่าชะงักก่อนจะรับแอปเปิ้ลมา ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบกลับไป
“หือ อาหาร? นี่...ข้าจะลองดู อยากรู้เหมือนกันว่าจะนำอาหารเข้าไปที่โลก Diablo ได้หรือเปล่า” ซุนเฟยครุ่นคิดสักพัก
ตอนนี้เอง ด้านนอกห้องโถงก็มีเสียงทหารมารายงานว่าพัศดีโอเลเกร์ที่ได้รับคำสั่งให้มาที่นี่ ตอนนี้รออยู่ด้านนอกห้องโถงแล้ว
“ให้เขาเข้ามา!”
สิ้นเสียงซุนเฟย พัศดีโอเลเกร์ก็เดินเข้ามา ใบหน้าแดงก่ำคล้ายจะมีข่าวดีอะไรบางอย่าง แสงสะท้อนที่หัวเขาวูบไหว ก่อนที่เขาคุกเข่าลงแล้วคลานเข้ามาคำนับอยู่ข้างๆ เท้าของซุนเฟย จากนั้นก็รายงานข่าวอย่างยินดีว่า “รายงานฝ่าา ข้ามีข่าวดีขอรับ ฮ่าๆๆ เรือนจำหลังใหม่ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ ตอนนี้สามารถใช้งานได้แล้ว”
ในขณะที่พูด โอเลเกร์ก็สังเกตเห็นเอเลน่าที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างรวดเร็ว ในตอนแรกหัวใจของเขาถูกความงามของ 'ดอกไม้โร้ก' เล่นงานให้สั่นไหวอย่างรุนแรงอยู่ชั่วครู่ แต่โอเลเกร์ก็ไม่ได้มีความคิดหยาบโลนแม้แต่นิด ด้านหนึ่งเพราะเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับองค์าาอเล็กซานเดอร์ เห็นได้ชัดจากสายตาขององค์าาที่พอจะมองออก อีกด้านหนึ่ง โอเลเกร์เป็นักรบหนึ่งดาวมานาน เขารู้สึกถึงกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่มากกว่านักรบหนึ่งดาวที่แผ่ออกมาจากร่างของเอเลน่า ทั้งยังมองออกว่าชุดเกราะที่มีลวดลายอักขระเวทมนตร์ลึกลับนี้จะต้องเป็ของล้ำค่าอย่างแน่นอน...ทั้งหมดนี้บอกโอเลเกร์ได้อย่างชัดเจน จึงรีบทิ้งความคิดหยาบโลนหัวใจออกไปให้หมด หญิงงามตรงหน้านี้เขาจะไม่ขอยุ่งด้วย ไม่งั้นเขาคงตายแบบไม่มีที่ฝังศพแน่ๆ
ได้ยินโอเลเกร์รายงามเื่นี้ ซุนเฟยก็พยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ดีมาก เ้าทำได้ไม่เลวเลย ข้าพอใจมาก ตอนนี้เ้ารีบย้ายผู้คุมและนักโทษในเรือนจำทั้งหมดไปที่เรือนจำใหม่เถอะ จากวันนี้เป็ต้นไป เรือนจำหลังนั้นจะถูกปิดตาย ไม่มีคำสั่งจากข้า ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไป”
“รับสั่งของฝ่าาคือชีวิตของข้า องค์าาอเล็กซานเดอร์” ได้คำชมจากซุนเฟย ในใจของโอเลเกร์ก็เบิกบาน เขากล่าวแสดงความจงรักภักดีของตัวเองเสียงดัง
“อ้อ ยังมีอีกเื่หนึ่ง นักรบสาวเอเลน่าคนนี้คือ...สหายของข้า” ซุนเฟนอยากจะพูดคำว่า ‘ลูกน้อง’ หรือ ‘คนสนิท’ แต่คิดไปคิดมาคำว่าสหายน่าจะเหมาะสมกว่า “หลังเ้าขนย้ายนักโทษออกไปหมด ช่วยนำเอเลน่าเข้าไปเยี่ยมชมเรือนจำหลังเก่าซะ จำไว้ ไม่ต้องถามมาก ไม่ต้องพูดมาก รอจนกว่าเอเลน่าจะเยี่ยมชมเสร็จ เ้าก็ค่อยพานางกลับมาหาข้าที่วัง แล้วข้าจะมีรางวัลล้ำค่ามอบให้เ้า”
“ขอบพระทัยขอรับ ฝ่าาทรงพระเมตตา” โอเลเกร์ได้ยินคำว่ารางวัล ก็ยิ่งดีใจจนฟันแทบหัก หลังจากที่ได้สนิทสนมกับองค์าาใน่เร็วๆ นี้ ทำให้เขาพอจะเข้าใจนิสัยใจคอของซุนเฟยมากขึ้น เพียงซุนเฟยพูดว่าเป็รางวัลล้ำค่า เขาก็มั่นใจว่ามันต้องเป็ของล้ำค่ามากแน่นอน ดังนั้นเ้าภูติตูดม้าแทบจะลิงโลดขึ้นมา
“เอเลน่า เ้าตามเขาไปดูเถอะ ที่นั่นเป็สถานที่ที่แปลกมาก บางทีเ้าอาจจะค้นพบบางอย่าง แต่สิ่งที่อยู่หลังประตูเหล็กั์สีดำ และด้านในหลังประตูั์ เ้าห้ามเข้าไปดู เข้าใจไหม?”
เอเลน่าลุกขึ้นยืนพลางพยักหน้า จากนั้นก็ตามพัศดีโอเลเกร์ออกไปจากห้องโถง
มองไล่หลังทั้งสองคนออกจากห้องโถงจนลับตา ซุนเฟยก็เลียริมฝีปากเล็กน้อยทั้งยังนวดขมับ เื่ราวที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้มีมากเกินไป แม้ว่าเขาจะโยนงานให้คนอื่นทำ เื่ราวมากมายชวนปวดหัวก็มอบให้บรู๊คและเบสท์จัดการ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาหายใจ
ในอากาศยังคงมีกลิ่นหอมจางๆ ของกล้วยไม้ลอยอยู่
กลิ่นนั้นหลงเหลืออยู่บนเก้าอี้ที่เอเลน่านั่ง
แสงแดดสีทองสาดส่องลอดผ่านรูปปั้นลงมาที่ห้องโถงทาบทับลงมาที่ร่างของเขา ซุนเฟยหลับตาลงแล้วสูดกลิ่นหอมจางๆ ความคิดทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็พรั่งพรูขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน ความทรงจำของเขาเมื่อสิบสองวันก่อนก็กลับมา
……
สิบสองวันก่อน
หลังจากที่ซุนเฟยออกแบบเครื่องแต่งกายชายหญิง ทั้งยังใจดีออกแบบ ‘ชุดชั้นใน’ ให้คู่หมั้นสาวจนสาวงามต้องวิ่งหนีไปด้วยความตื่นใ เมื่อไม่มีเื่ต้องทำ ซุนเฟยก็พยายามติดต่อกับเสียงลึกลับเ็าในหัวเพื่อกลับไปที่โลก Diablo
โลก Diablo ‘ค่ายโร้ก’
วินาทีแรกที่เหยียบ 'ค่ายโร้ก' เขาก็ถูกล้อมรอบด้วยเสียงอธิษฐาน ซุนเฟยมองไปรอบๆ แล้วก็ต้องแปลกใจ ครั้งที่แล้วตอนที่เขาออกจากโลก Diablo แม่ชีอาคาร่าและผู้นำทหารรับจ้างคาเเชียก็ยังคงคุกเข่าอธิษฐานอย่างตั้งใจอยู่ที่เดิม หลังจากที่เห็นเขาปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่างะโแล้วพากกันโห่ร้องออกมา
“ท่านซุนเฟย ในที่สุดท่านก็กลับมา!”
ใบหน้าเหี่ยวๆ ของแม่ชีอาคาร่าเหมือนดอกเบญจมาศผลิบาน คาเชียและคนอื่นๆ ก็มองมาที่ซุนเฟยอย่างดีใจ ใบหน้าของ NPC เหล่านี้ ยามที่มองมาที่ซุนเฟยด้วยท่าทางเคารพ
“เอ๋...เกิดอะไรขึ้น?”
ซุนเฟยรู้สึกว่าความกระตือรือร้นของพวก NPC ไม่ค่อยดีเท่าไร เขาว่ากันว่า นกฮูกหากไม่มีเื่จะมาเกาะที่บ้าน ไม่มีใครมอบมิตรไมตรีให้ง่ายๆ โดยไม่หวังตอบแทน คนพวกนี้้าอะไรจากเขากันนะ? นั่นเป็ความคิดแรกที่ซุนเฟยคิด
“นายท่านซุนเฟย ท่านกำจัดแอนเดเรียผู้นำปีศาจร้ายได้ เปิดเส้นทางไปยังฝั่งตะวันออกของแผ่นดินโร้ก ตามคำสาบานของบรรพบุรุษของค่ายโร้ก ท่านจะกลายเป็ผู้นำสูงสุดของค่าย...” เอเลน่าที่ยืนอยู่ข้างๆ ซุนเฟยก็ร้องเตือนเขา
“ข้ากลายเป็ผู้นำสูงสุดของ 'ค่ายโร้ก'?”
ซุนเฟยตะลึง ทันใดนั้นเขาก็จำขึ้นมาได้ว่า ก่อนที่จะออกจากโลก Diablo เอเลน่าเคยพูดเื่นี้ให้ตัวเองฟัง เขาหันไปมองแม่ชีอาคาร่า คาเชียและคนอื่นๆ เขาไม่ได้ซ่อนความยินดีในใจไว้เลยสักนิด เขา้าคำยืนยัน “นี่เื่จริงหรือเปล่า? ข้ากลายเป็ผู้นำสูงสุดของ 'ค่ายโร้ก'?”
“เื่จริง” ยัยป้าอาคาร่ามองซุนเฟยที่ทำตัวเหมือนเป็คางคกขึ้นวอก็อยากจะเอาเท้าของตนแนบหน้าเขาใจจะขาด แต่เมื่อมันเกี่ยวข้องกับพันธสัญญาของบรรพบุรุษ นางจึงไม่อาจไม่ปฏิบัติตามได้ ทำได้เพียงตอบอย่างอดทน
ผู้นำทหารคาเชียและช่างตีเหล็กชาร์ซีกับคนอื่นๆ ต่างผงกหัว
“ฮ่าๆ ไม่ใช่ว่าหลังจากนี้ไปม้วนคัมภีร์และน้ำยาในตัวแม่ชีอาคาร่า ทหารรับจ้างของคาเชียและไอเทมในตัวชาร์ซี ข้าก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อแล้วใช่เปล่า? ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ...” ซุนเฟยหัวเราะอย่างเบิกบาน แสดงสันดานที่แท้จริงออกมา แทบจะโพล่งความคิดคดโกงออกมาทันที
ชีวิตที่ดีและรุ่งโรจน์กำลังกวักมือมาทางซุนเฟย ราวกับเชื้อเชิญให้เขาพุ่งเข้ามา
แต่
“นี่ไม่อาจทำได้ แม้ว่าจะเป็คำสาบานของบรรพบุรุษ แต่ในค่าย แม้แต่ผู้นำสูงสุดก็ไม่อาจรับของฟรีได้...นายท่านซุนเฟย ท่านยังไม่ตื่นหรือเปล่า ในฐานะผู้นำสูงสุด ท่านมีอำนาจที่จะให้ทุกคนใน 'ค่ายโร้ก' รับใช้ท่าน นอกจากนี้ยังมีสิทธิที่จะผูกมัดใครก็ได้ แต่ท่านก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องต่อสู้ปกป้องพวกเราทุกคน บ้านเรือนพวกเรา หรือแม้แต่วัวทุกและตัวไก่ทุกตัวใน 'ค่ายโร้ก' ข้าเคยพูดไปตั้งนานแล้วว่าในโลกนี้ หากได้รับบางอย่างก็ต้องจ่ายบางอย่างคืนด้วยเช่นกัน มันเป็กฎของที่นี่...แน่นอนว่าเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้นำสูงสุด นับจากวันนี้ไป สินค้าทุกชนิดของทุกคนในค่าย 'ค่ายโร้ก' ไม่ว่าจะเป็น้ำยาหรือม้วนคัมภีร์ของข้า ท่านสามารถซื้อได้ครึ่งราคา” ยัยป้าหน้าเือาคาร่าพูดเสียงลอดไรฟัน ทำลายความฝันอันงดงามของซุนเฟยแหลกไม่มีชิ้นดี
“ฮะ...ครึ่งราคา?” ซุนเฟยพลันสิ้นหวัง สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “แม้ว่าราคาจะแพงมาก แต่ครึ่งราคาฟังแล้วน่าดึงดูดใจพอสมควร เอางั้นก็ได้”
“นายท่านซุนเฟยที่เคารพ พวกเรากำลังเตรียมเปิดแทนบูชาสาบานของบรรพบุรุษ หลังผ่านพิธีบูชาแล้ว ท่านจะกลายเป็ผู้นำสูงสุดของ 'ค่ายโร้ก' อย่างเป็ทางการ...” ตาเฒ่าเคนเดินแหวกฝูงชนเข้ามา ในมือถือไม้ค้ำยันไว้ “ตามตำนานของแผ่นดินโร้ก หากกลายเป็ผู้นำสูงสุดของพวกเาาวโร้กได้ ก็สามารถเข้าพิธีบูชาและได้รับความสามารถที่น่าเหลือเชื่อสามประการที่พระเ้าประทานให้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว พวกเรารีบเริ่มพิธีเถอะ!”
ซุนเฟยพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลก Diablo กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่รู้จัก
-------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้