หลังจากออกมาจากห้องพิเศษของจ้าวหงฟาง หยีเฉิงิให้พนักงานบริการย้ายที่นั่งของฉินหลางกับจ้าวเหว่ยเข้าไปในห้องพิเศษ และเปลี่ยนกับข้าวบนโต๊ะเป็ชุดใหม่ทั้งหมด หยีเฉิงิทำธุรกิจเป็จริงๆ ด้วย ไม่น่าธุรกิจภัตตาคาร และโรงแรมของเขายิ่งทำก็ยิ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ฉิน สงสัยหม่าหงเลี่ยงมันจะขาดการสั่งสอน จะให้ผมหาคนจัดการมันไหมครับ—”
“อาฉาง วันๆ นายไม่มีอะไรทำหรือไง” ฉินหลางตาขวางใส่ฮานซานฉาง “หม่าหงเลี่ยงเป็แค่ตัวละครเล็กๆ ไม่มีเวลาไปจัดการคนแบบนี้ นายพูดเื่ที่ฉันบอกให้นายไปทำเมื่อวานดีกว่า”
“อ๋อ ผมตั้งใจจะมาบอกพี่เื่นี้นั่นแหละ—แล้วน้องจ้าวนี่…”
“จ้าวเหว่ยเป็พี่น้องที่เชื่อใจได้ อาฉางนายพูดเถอะ”
ดังที่ว่าไม่ไว้ใจใครอย่าใช้ ใช้ใครต้องไว้ใจ ในเมื่อเขาตัดสินใจจะให้จ้าวเหว่ยเข้าร่วมด้วยแล้ว ฉินหลางจึงตั้งใจว่าจะไม่ปิดบังจ้าวเหว่ย
“ครับ ผมกับกระทิงให้คนไปสืบมาแล้ว ที่อันหยางมันสามารถทำได้ขนาดนี้ เพราะเื้ัมันมีผู้มีอิทธิพลสนับสนุนอยู่ เขาน่าจะเป็พวกของแก๊งชิงหวน นอกจากนี้ ที่ครั้งนี้อันหยางทำเสียงดังอย่างนี้ เพราะ้าจะแก้แค้นให้อันเต๋อเซิ่งพ่อของมัน และแย่งกิจการของพ่อมันคืน—พี่ฉิน พี่ระวังหน่อยนะ!”
“พอดีเลยจะได้ดูด้วยว่าพ่อกับลูกเนี่ยใครมันจะเก่งกว่ากัน?” ฉินหลางยิ้ม
“พี่ฉาง แก๊งชิงหวนที่นายพูดถึงเมื่อกี้ เป็แก๊งที่ปกครองหลายอำเภอในเมืองเซี่ยหยางใช่ไหม?” จ้าวเหว่ยถามขึ้น
“นายรู้จักเหรอ?” ฉินหลางมองจ้าวเหว่ยอย่างสงสัย “แก๊งชิงหวนอะไรนี่ มีชื่อเสียงมากเลยเหรอ?”
“มีชื่อเสียงอยู่พอสมควร!” จ้าวเหว่ยอธิบาย “ในเมืองเซี่ยหยาง คนที่ได้ยินชื่อแก๊งชิงหวนไม่เยอะ แต่ในหลายๆ เมืองที่อยู่ใกล้ๆ เมืองเซี่ยหยาง โดยเฉพาะในเมืองหนานผิง เรียกได้ว่าเป็พื้นที่อำเภอชิงหวนเลยก็ได้! ใช่ไหมครับ พี่ฉาง?”
“อืม” ฮานซานฉางพยักหน้าด้วยสีหน้าซีเรียส
“งั้นก็แปลก ในเมื่อแก๊งชิงหวนเจ๋งขนาดนั้น ทำไมจะต้องอยู่แค่ในอำเภอ แล้วไม่ขยายอิทธิพลไปจนทั่วเมืองเซี่ยหยางล่ะ?”
“พี่ฉิน นั่นเป็เพราะว่าแก๊งชิงหวนมีถิ่นฐานอยู่ที่อำเภอหนานผิง พวกเขาขยายอิทธิพลมาจากอำเภอหนานผิง แล้วอีกอย่าง แม้ว่าอำเภอหนานผิงจะเก็บค่าคุ้มครองได้ไม่เท่าเมืองเซี่ยหยาง แต่ก็ยากที่ตำรวจจะเข้าไปกวาดล้าง ดังนั้น แก๊งชิงหวนน่าจะสะสมกำลังอยู่ ตอนนี้เริ่มปีกกล้าขาแข็งแล้ว ก็เลยเริ่มขยายอิทธิพลเข้ามาในเมืองเซี่ยหยาง อันเต๋อเซิ่งในอดีต เหมือนจะมีความสัมพันธ์กับแก๊งชิงหวนอยู่ไม่น้อย”
“เหอะ…แก๊งชิงหวนนี้ยังรู้จักกลยุทธ์ล้อมรอบนอกเมืองให้ทั่วก่อนแล้วค่อยเข้าไปในเมืองด้วยเหรอ” ฉินหลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเป็อย่างนั้น รอให้ฐานอิทธิพลในเขตเฉิงเป่ย กับเขตเฉิงซีมั่นคงแล้ว อันหยางก็จะต้องมาหาเื่พวกเราแน่เลย?”
“แน่นอน!” ฮานซานฉางพยักหน้าพลางพูด “ดังนั้นผมกับฮานซานฉางปรึกษากันแล้วว่า—เราจะเป็ฝ่ายลงมือก่อน! ต่อให้แก๊งชิงหวนจะเก่งสักแค่ไหน แต่ยังไงเมืองเซี่ยหยางก็เป็ถิ่นของพวกเรา พวกมันยังไม่มีสิทธิ์!”
“ลงมือก่อนแล้วจะดีกว่าเหรอ?” ฉินหลางส่ายหน้า “ตอนนี้ถ้าเราลงมือละก็ นายกับพวกของกระทิงต้องไปนั่งในห้องขังแน่”
“พี่ฉิน แล้วพี่ว่ายังไง?”
“ครั้งก่อนที่กวาดล้างในเมืองเซี่ยหยาง อันเต๋อเซิ่งกับซางคุนก็โดนเก็บกวาดไปแล้ว รัฐบาลเมืองเซี่ยหยางป่าวประกาศเื่นี้เป็ผลงานชิ้นใหญ่ ครั้งนี้ถ้านายกับกระทิงเป็คนประกาศาขึ้นอีก นายจะให้พวกนั้นเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” ฉินหลางพูดเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว
แน่นอน นั่นยังต้องยกความดีความชอบให้วู่เวินซ๋าง ที่ทำให้ฉินหลางมองสถานการณ์ตอนนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น
ฮานซานฉางได้ยินแล้ว รู้สึกขนลุกโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาตั้งใจจะจัดการกับอันหยางแล้วกลายเป็พี่ใหญ่ของเมืองเซี่ยหยาง แต่กลับไม่เคยคิดว่ามันจะกลายเป็หนามตำตาของตำรวจในเมืองเซี่ยหยาง
แม้ว่าปกติพวกฮานซานฉางกับกระทิงจะหยิ่งผยองมาก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปมีเื่กับทางการเมืองเซี่ยหยางโดยตรง
“พี่ฉิน พี่นี่วิสัยทัศน์กว้างไกลจริงๆ!” ฮานซานฉางประจบฉินหลาง “งั้นพี่ฉินว่าจะทำยังไงต่อละครับ?”
“เื่ที่จะฟอกขาว จะต้องรีบดำเนินการ ในขณะเดียวกันก็ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของอันหยางด้วย” ฉินหลางกล่าว “เอาเป็ว่า เราต้องทำให้ดีทั้งสองอย่าง”
“เื่การฟอกขาว? พวกเราฟอกขาวแล้วไม่ใช่เหรอครับ?” ฮานซานฉางถามด้วยความสงสัย “เราจดทะเบียนบริษัทกระเป๋ารองเท้าหนังไว้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“นายคิดว่าหลอกตาทางการได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉินหลางสบถ “การฟอกขาวจริงๆ จะต้องทำการบริหารจัดการในบริษัทจริงๆ และรับประกันว่าทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้กฎหมาย จ้าวเหว่ย นายมาอธิบายกับพี่ฉางหน่อย”
“ได้ พี่ฉาง เป็อย่างนี้ครับ…ตัวอย่างเช่น พวกเราเก็บค่าคุ้มครองจากร้านเหล้า ผับ บาร์มันไม่ถูกกฎหมายแน่นอน แต่ถ้าเราเก็บเงินจากพวกเขาโดยการเซ็นสัญญาในนามบริษัทรักษาความปลอดภัย เราก็จะสามารถเก็บเงินจากพวกเขาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย” จ้าวเหว่ยยกตัวอย่างง่ายๆ
“เอ๋ วิธีการนี้ไม่เลว” ฮานซานฉางพยักหน้า “เพียงแต่ ถ้าทำสัญญาก็ต้องจ่ายภาษีสิ?”
“ต้องจ่ายอยู่แล้ว” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงแต่ นายสามารถมองภาษีเป็การจ่ายค่าคุ้มครองให้ทางการ อย่างนั้น ต่อไปธุรกิจของนายก็จะถูกกฎหมาย สามารถหาเงินได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตำรวจจับอีก”
“มันก็จริง!” ฮานซานฉางพยักหน้า “เพียงแต่ถ้าดำเนินกิจการในรูปแบบของบริษัททั้งหมด มันจะยุ่งยากมากหรือเปล่าครับ? และก็ต้องใช้เงินมากขึ้นด้วย”
“นั่นเป็เื่ธรรมดาอยู่แล้ว” ฉินหลางพูดด้วยท่าทีจริงจัง “พี่ฉาง นายเองก็คงอยากให้พวกพี่น้องทำงานได้อย่างปลอดภัยเหมือนกัน ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรอีกไม่ใช่เหรอ? แล้วอีกอย่าง ต่อไปจะได้ทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย ยังสามารถมีประกันสังคมในรูปแบบต่างๆ อีก ไม่ต้องห่วงว่าจะมีปัญหาอะไรตามมา มันไม่ดีเหรอ?”
“อันนี้…มันเป็เื่ดีจริงๆ ครับ! เพียงแต่ รู้สึกว่ามันยุ่งยากมากเกินไป ผมกลัวว่าจะทำไม่ได้!”
“ไม่ต้องห่วง เื่ยุ่งยากพวกนี้ ต่อไปฉันจะให้จ้าวเหว่ยมาช่วยทำ เขารับผิดชอบการจัดการภายในบริษัท อาฉาง นายกับกระทิง รับผิดชอบธุรกิจของบริษัท” ฉินหลางแบ่งหน้าที่คร่าวๆ “แน่นอนว่า ตอนนี้เื่ที่ต้องจัดการภายในบริษัทยังไม่มาก จ้าวเหว่ยนายก็สามารถให้พ่อนายช่วยได้ หรืออาจจะหาคนที่เก่งด้านนี้ และเชื่อถือได้เข้ามาช่วย ชื่อบริษัทฉันคิดไว้แล้ว ชื่อ ‘บริษัทรักษาความปลอดภัยหยวนผิง’ อีกสองสามวัน ขั้นตอนในการเปิดบริษัททั้งหมดก็จะเรียบร้อยแล้ว หลังจากเปิดบริษัทแล้ว จะต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ั้แ่นี้เป็ต้นไป จะให้ตำรวจมองว่าเราเป็พวกคนที่ไม่ถูกกฎหมายไม่ได้! ส่วนพี่ฉาง ต่อไปนายก็จะเป็นักธุรกิจแล้ว!”
“ฮึๆ…นักธุรกิจ คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งคนอย่างฉัน ฮานซานฉางจะได้เป็นักธุรกิจกับเขาด้วย!” ฮานซานฉางหัวเราะร่า
“เอาเป็ว่า สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดตอนนี้ ก็คือเปิดบริษัทตามแผนที่วางเอาไว้ ขั้นตอนต่างๆ พวกนายไม่ต้องเป็ห่วง จ้าวเหว่ย พี่ฉาง พวกนายปรึกษากันรีบเปิดบริษัทให้เร็วที่สุดก็พอ รอให้พี่น้องพวกเรากลายเป็พลเมืองที่ถูกกฎหมายแล้ว ค่อยได้จัดการกับพวกอันหยาง ตอนนั้นความกล้ากับความมั่นใจของเราจะได้มีมากขึ้น!” ฉินหลางพูดความคิดของตัวเอง
“ได้ งั้นเรารีบกันเลย!” จ้าวเหว่ยรับคำ สามารถร่วมเปิดบริษัทกับฉินหลางได้ ตอนนี้จ้าวเหว่ยรู้สึกกระตือรือร้นมาก
“พี่ฉิน เดี๋ยวพวกเราจะรีบจัดการให้เรียบร้อย เพียงแต่ผมยังสงสัยอยู่นิดหน่อย ทำไมบริษัทของเราถึงชื่อ ‘บริษัทรักษาความปลอดภัยหยวนผิง’ ละครับ? รู้สึกเหมือนไม่ค่อยเท่เท่าไหร่เลย ทำไมไม่ชื่อ ‘*จินจ่าปิง’ ‘**เซินตุ้น’ ‘***ป้าฟง’ พวกนี้ดูเท่ และยิ่งใหญ่กว่าตั้งเยอะ? ” ฮานซานฉางอดไม่ได้ จึงถามขึ้นคำหนึ่ง เพราะสามชื่อนี้เขาคิดมาตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ได้พูดเขารู้สึกไม่บายใจ
“เหอะๆ พี่ฉาง สามชื่อนี้นายคิดมานานมาเลยใช่ไหม? เพียงแต่ ชื่อเปลี่ยนไม่ได้ เอาชื่อนี้แหละ” ที่ฉินหลางยืนยันจะใช้ชื่อนี้ เพราะว่าตาเฒ่าพิษชื่อ ‘ผางหยวนผิง’
*จินจ่าปิง : ทหารเกาะทอง
**เซินตุ้น : เกราะเทพ
***ป้าฟง : รูปแบบของผู้ยิ่งใหญ่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้