สองสามีภรรยาพร้อมใจกำหมัด
“จัดการนาง!”
“เ้าจัดการนาง!”
“เอ่อ ข้าเป็สตรี เ้าเป็บุรุษของข้า พวกเราสองคนจัดการนางไม่ได้”
“ง่ายดายนัก ตู้ซินถงเป็ตัวเลือกที่เหมาะสมไม่ใช่หรือ?”
“ชิ ตู้ซินถงเ้ากะเทยนั่น!” เฉินเนี้ยนหรานแสดงออกมาว่าไม่พอใจ
แม้หนิงเซียงจะมีบางเวลาที่ทำตัวน่ารังเกียจไปบ้าง แต่เฉินเนี้ยนหรานไม่ยอมให้นางไปหากะเทยนั่นหรอก
แม้ตู้ซินถงจะหน้าตาไม่เลว แต่รู้สึกว่าเขาได้ทั้งบุรุษทั้งสตรี จะอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับหนิงเซียงที่เป็สตรีฉลาด สิ่งสำคัญที่สุดคือนางได้ยินมาว่าตอนนี้องค์หญิงสามกับบุรุษบำเรอในเรือนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ในตอนกลางวันทั้งสองคนยังทำเื่อย่างว่าด้านนอก
บุรุษที่หน้าไม่อายเช่นนี้ จะเหมาะสมกับหนิงเซียงได้อย่างไร
“เฮ้อ ความจริงแล้ว ประเด็นคือในใจของหนิงเซียงมีปัญหา นางน่ะ ยังไม่ปล่อยวางจากบุรุษที่ไม่ควรเกี่ยวข้องคนนั้น” โจวอ้าวเสวียนส่ายหน้า
พอพูดขึ้นมา ความอยากรู้อยากเห็นของเฉินเนี้ยนหรานพลันแล่นขึ้นมา ทั้งสองคนเดินไปที่ห้องด้วยกัน นางยังคอยถามไม่หยุด
เมื่อรับมือกับการถูกความอยากรู้อยากเห็นของภรรยารักโจมตีไม่ไหว สุดท้ายโจวอ้าวเสวียนจึงทำได้เพียงเปิดเผยเื่ราวออกไปเล็กน้อย
“หา คนที่หนิงเซียงรัก...คือองค์ชาย อ๊าก นี่ นี่มันเป็ไปได้อย่างไร? องค์ชาย คนเช่นนี้ เหตุใดถึงมาเกี่ยวพันกันได้ ฮ่องเต้ก็ด้วย เหตุใดถึงให้องค์ชายมายุ่งเกี่ยวกับสามัญชนด้วย”
“สรุปก็คือ หลังจากที่องค์ชายคนนั้นเข้าเมืองหลวงไป เื่ของหนิงเซียงกับเขาจึงเหินห่างกันไป อีกอย่าง เื่ขององค์ชายคนนั้นกับนาง พวกเราพูดกันไม่ได้ว่าผู้ใดสนใจกันมากกว่า แต่จากความรู้สึกแล้ว มีแค่หนิงเซียงที่ถลำลึก ส่วนคนคนนั้น...เพียงแค่มาเล่นสนุกเท่านั้น...”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เฉินเนี้ยนหรานเงียบไป จู่ๆ นางก็คิดถึงตอนที่ออกมาครั้งแรกขึ้นมาได้ ตอนที่ทั้งสองคนพูดเื่ราวให้ซึ่งกันและกันฟัง นึกถึงประโยคที่หนิงเซียงเคยพูดกับตนเอง
“ความจริงแล้ว เ้ายังสามารถร้องไห้ที่สูญเสียลูกชายไป แต่ข้ากลับไม่สามารถเห็นหน้าเขาสักครั้ง”
หนิงเซียงในตอนนั้น จะต้องปวดใจเพียงใดที่พูดมันออกมา หรือก็คือ ตอนนั้น นางเคยตั้งครรภ์ลูกของบุรุษคนนั้น แต่เด็กกลับไม่ได้ถือกำเนิดออกมา
นางดื่มโอสถขับลูกเช่นนั้นได้อย่างไร!
ทันใดนั้น เฉินเนี้ยนหรานรู้สึกว่าตนเองใส่ใจหนิงเซียงน้อยเกินไปสักหน่อย ภายใต้รอยยิ้มเข้มแข็ง มีความน้อยใจ ปวดใจเท่าไรกัน...
ด้านหลังสตรีที่เข็มแข็ง มักจะมีบุรุษอยู่อีกหลายคน หนิงเซียงเป็หนึ่งในตัวอย่างที่เป็จริง
ตัวนางเล่า? จะมีวันเวลาเช่นนี้หรือไม่?
“ฮ่าๆ เฉินเนี้ยนหราน เ้าคิดมากเกินไปแล้ว แม้จะมีวันนั้นแล้วอย่างไร หากเป็เช่นนั้นจริง ทำได้แค่พูดว่าสายตาของเ้าไม่ดี ดวงยอดแย่ แทนที่จะรู้สึกเศร้าสร้อยอยู่เช่นนี้ สู้มีความสุขในทุกๆ วันจะดีกว่า”
ให้ความสำคัญกับคนตรงหน้า มีความสุขร่วมกับเขาในทุกวัน
“โจวอ้าวเสวียน หากวันหนึ่งเ้ารู้สึกไม่ชอบข้าแล้ว ต้องพูดกับข้าออกมาตรงๆ อย่างกล้าหาญ อย่ามีความสัมพันธ์กับสตรีอื่นในตอนที่ยังมีข้าอยู่ แค่เ้าพูดว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับข้าแล้ว ข้าจะจากเ้าไปอย่างสงบหรือไม่ต้องให้เ้าพูด ข้าย่อมจะยิ้มแล้วจากเ้าไป รบกวนช่วยรับปากด้วยว่า ไม่ว่าอย่างไร จะต้องรอให้ข้าจากเ้าไปก่อนจึงจะอยู่กับสตรีอื่น จำเอาไว้ หากเ้ากล้าคบหาสตรีคนอื่นในตอนที่ยังมีข้าอยู่ แม้เป็พวกสาวใช้ข้างห้องอะไรพวกนี้ ข้าจะมองเ้าเป็ศัตรู ชั่วชีวิตไม่มีทางให้อภัยเ้า”
นางกัดฟันประกาศโพล่งใส่เขาเสียงดัง ดวงตาเปล่งประกายราวกับไฟ ยิ่งแฝงไปด้วยความยึดมั่น
นางที่เป็เช่นนี้ทำให้ใจของโจวอ้าวเสวียนอ่อนยวบ
สตรีคนนี้ ยังเชื่อใจเขาไม่พอ
เขาโยนผ้าคลุมอาบน้ำที่ห่อตัวออก เผยให้เห็นหน้าอกแน่น ทำให้ใบหน้าของเฉินเนี้ยนหรานที่มองภาพนั้นเป็สีแดงก่ำ ยิ่งเข้าไปใกล้ยิ่งได้กลิ่นอายความเป็บุรุษของเขา
“แม่นางไม่กล้ามองข้าแล้ว เมื่อครู่พูดเสียงดังเพียงนั้น ตอนนี้ไม่กล้ามองข้าแล้ว อืม จะพูดอีกรอบหรือไม่?”
เขาเชยคางนางขึ้น แล้วค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ คำพูดที่ค่อยๆ พ่นออกมาทีละคำ ทำให้นางรู้สึกว่าใจของตนเองสั่นไหว
“ข้า ข้า ข้า...”
นาง้าแก้ว่า ทั้งหมดนี้มีความเป็ไปได้ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงเพียงพูดไว้ก่อนล่วงหน้า ทว่ายังไม่ทันได้อ้าปาก กลับถูกเขาประกบริมฝีปากลงมาอย่างเอาแต่ใจ
“จำเอาไว้ คนที่ข้าเลือกคือเ้า ไม่ใช่ดอกไม้หรือต้นหญ้า ต่อไปหากข้าได้ยินเ้าพูดเช่นนี้อีก ข้าจะลงโทษเ้าเพิ่มเป็เท่าตัว”
เขาอุ้มสตรีที่ชอบคิดมากด้วยท่าอุ้มเ้าหญิง สายตาที่มองไปยังนางราวกับสุนัขป่า
“อ๊ะ...ช่วยด้วย...”
น่าเสียดาย การร้องขอความช่วยเหลือนี้ สุดท้ายกลายเป็ทั้งสองคนเกี่ยวพันกันไม่มีที่สิ้นสุด
จนกระทั่ง หลังจากที่นางร้องขอ ขอไว้ชีวิตไม่หยุด พูดคำพูดดีๆ ออกมาเป็กระบุง สุดท้ายจึงทำให้ชายหนุ่มที่คอยตอแยยอมปล่อยนาง
วันต่อมา เป็อย่างที่โจวอ้าวเสวียนพูด เขายังคงแต่งกายเป็สตรีแล้วตามนางออกไปที่ร้าน
ทั้งสองคนไปดูที่กระโจมทำชุดสำเร็จรูปก่อนรอบหนึ่ง
ที่นี่ จ้างช่างเย็บผ้ายี่สิบคนมาทำชุดสำเร็จรูปตลอดวัน แม้จะเป็เช่นนั้น ความเร็วในการทำชุดกลับตามจำนวนการซื้อไม่ทัน
“เฮ้อ ยังต้องเพิ่มจำนวนคนขึ้น จะให้ดีที่สุดคือสามารถทำเครื่องจักรที่สามารถทำชุดสำเร็จรูปออกมาได้”
นางเพียงพูดออกไปอย่างนั้น เพราะในตอนนี้คิดถึงเครื่องจักรเย็บผ้าในชาติก่อน แต่โจวอ้าวเสวียนที่ตามมากลับเห็นด้วย
“จริงด้วย หากมีการผลิตจำนวนมากเช่นนี้ เ้าจะได้กังวลใจน้อยลง เมื่อเป็เช่นนี้ กิจการของพวกเราย่อมจะสามารถทำออกมาเป็จำนวนมากได้ ถึงยามนั้น เกรงว่าธุรกิจนี้จะต้องเปลี่ยนสายตาของฮ่องเต้และคนในครอบครัวที่มองมาที่พวกเราได้”
เฉินเนี้ยนหรานหยุดฝีเท้าลง นางจ้องโจวอ้าวเสวียนที่อยู่ด้านข้างนิ่ง
“ถ้าหาก ข้าพูดว่าถ้าหากว่าข้าสามารถคิดค้นสิ่งของที่สามารถผลิตเสื้อผ้าจำนวนมากออกมาได้ จะเป็ประโยชน์ต่อพวกเรามากกว่าหรือไม่?”
เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของโจวอ้าวเสวียนกระตุก
“เ้า คงไม่ได้มีวิธีทำเช่นนี้จริงๆ ใช่หรือไม่? แต่มันเป็ไปไม่ได้นี่? ไม่ ไม่สิ ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ เขาบอกว่าอุตสาหกรรมในโลกนี้ล้าหลังมากเกินไป หากเป็ยุคปัจจุบัน การทำเสื้อผ้าออกมา มีรูปแบบมากมาย การผลิตรูปแบบหนึ่งออกมาจำนวนมากเช่นงานนี้ การทำชุดๆ หนึ่งจะต้องถัก ทั้งทอ และยังต้องให้คนมาเย็บมันขึ้นมา พวกเ้า...”
เขากุมมือนางเอาไว้ “ตามข้ามา”
ตอนนี้ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนใหญ่ พูดเื่ที่พัฒนาแล้วในอนาคตย่อมไม่สะดวกสักเท่าใด ครั้นเดินมาถึงสถานที่ที่ค่อนข้างไร้ผู้คนแล้ว เฉินเนี้ยนหรานจึงได้เริ่มพูดความคิดของตนเองออกมา
“สามี ข้ามีวิธีจริงๆ มีแต่เ้าไม่รู้ ที่นั่น พวกเรามีเครื่องจักรที่สามารถผลิตของออกมาเป็จำนวนมากได้ แต่ข้ารู้สึกว่า แทนที่จะทำเครื่องเย็บผ้า สู้คิดค้นเครื่องถักผ้าอีก ขอแค่คิดค้นเครื่องแบบนี้ออกมาได้ พวกเราจึงจะสามารถขายผ้าออกมาได้ และสามารถแก้ไขปัญหาเื่เสื้อผ้าที่สวมใส่ของผู้คนได้ไม่น้อย เพียงแต่ เครื่องจักรเช่นนี้ลึกล้ำมาก ข้าอาจต้องศึกษาค้นคว้ากับท่านอาจารย์ถึงจะทำอะไหล่ของเครื่องจักรออกมาได้”
นางไม่ได้เรียนการผลิตเครื่องจักรมา พวกสิ่งของเช่นเครื่องจักร แค่พูดย่อมพูดออกมาได้ แต่ให้ทำออกมานั้นไม่ได้ ทว่าโจวอ้าวเสวียนกลับส่ายหน้า
“ไม่ ท่านอาจารย์เองก็ทำไม่ได้ ชาติก่อนของเขา แม้จะผ่านเื่ราวมาไม่น้อย แต่ได้ยินเขาบอกว่า เขาไม่เคยเรียนเื่การสร้างเครื่องจักรมาก่อน หากทำได้ เขาคงสร้างมันออกมานานแล้ว ดังนั้นอย่าคาดหวังกับเขา”
ความหวังนี้ถูกพังลงในชั่วพริบตา
เฉินเนี้ยนหรานไม่ยอมตัดใจ “ข้ารู้ว่าอะไหล่นั้นทำอย่างไร แต่ตรงส่วนที่เชื่อมต่อกัน และความแม่นยำเื่ขนาดเล็กใหญ่ ข้าอาจแย่ไปสักหน่อย เฮ้อ ช่างเถิด ค่อยคิดหาวิธีแล้วกัน ไม่แน่นะ เราอาจจะรู้ถึงของพวกนี้ หวังว่าจะยังมีคนข้ามมิติมา”
เพราะโจวอ้าวเสวียนรู้ว่านางคือคนที่ข้ามมิติมา ดังนั้นการพูดเช่นนี้นางไม่รับผิดชอบมันทั้งนั้น
“ความจริงแล้ว ข้าแปลกใจมาตลอด เหตุใดถึงได้มีคนจากมิติอื่นอย่างพวกเ้าข้ามมามากมาย? พูดกันตามหลักเหตุผลแล้ว ไม่สมควรมีมากเช่นนี้สิ? หากมีพวกเ้าสามคนที่เป็คนข้ามมิติจริง นั่นหมายความว่า...บางทีอาจมีคนอื่น แต่หวังว่าอย่าได้เป็ศัตรูกับทางเราเลย”
ปัญหานี้ได้เตือนสติเฉินเนี้ยนหราน การจัดการบางอย่าง จะทำเป็แบบยุคปัจจุบันมากเกินไปไม่ได้
หากทำแบบยุคปัจจุบันมากเกินไป หากถูกคนข้ามมิติคนอื่นนำไปใช้ประโยชน์ นางจะไม่ตายอย่างอนาถหรือ?
“อืม นี่นับเป็ปัญหา ต่อไปข้าจะระวังเื่นี้ เอาเถิด เื่เครื่องจักรวางเอาไว้ก่อนชั่วคราว บางทีในสักวันหนึ่ง ข้าอาจเจอกับคนที่เข้าใจเื่เครื่องจักรนะ”
จะอย่างไรเฉินเนี้ยนหรานย่อมคาดไม่ถึงเลยว่า เื่ที่นางกำลังกังวลอยู่นี้ จะจัดการมันได้อย่างราบรื่น
สามวันหลังจากนั้น ตอนที่นางกับหนิงเซียงนำผ้าที่รับกลับมาด้วยกัน หนิงเซียงก็บ่นออกมา
“เฮ้อ เหตุใดข้าไม่ใช้สมองแล้วทำเครื่องทอผ้าออกมากัน?”
เฉินเนี้ยนหรานกำลังกังวลถึงเื่นี้เหมือนกัน
ผ้าที่รับมา มีบางครั้งที่ได้ผ้าดีๆ ซึ่งกว่าจะหามาได้นั้นยากมาก เนื้อผ้าในครั้งนี้หากนำมาทำเสื้อผ้า ราคาคงจะดึงขึ้นไม่ได้ บรรดาชนชั้นสูงคงจะไม่ชอบ
เมื่อเป็เช่นนี้ หากนางอยากจะพัฒนาให้ทำเสื้อผ้าออกมามากๆ ก็ไม่มีทางทำได้แล้ว
จนถึงตอนนี้ เสื้อผ้าพวกนี้จึงอยู่ในสภาวะจำนวนของไม่ถึงตามความ้า หากสามารถทำผ้าให้ตามทันจำนวนความ้าได้ นางจึงจะหมดเื่ให้ต้องกังวลไปอีกมาก
“หนิงเซียงเอ๋ย มิใช่ข้าจะว่าอะไรนะ ปัญหาเื่ผ้าข้าก็คิดมานานแล้ว เ้าคิดเหมือนกันหรือไม่ว่าเครื่องจักรของพวกเราที่นั่นดีมากเพียงใด มีเครื่องทอผ้าก็เรียบร้อยไปแล้ว เหมือนเช่นตอนนี้ พวกเราแค่รอผ้าจากคุณหนูหลัวซานกลับรอมานานมากแล้ว เพราะผ้าของคุณหนูหลัวซานทอออกมาดี ดังนั้นพวกเราจึง้าให้นางนำสินค้ามาให้ หากมีวันหนึ่ง คุณหนูหลัวซานคนนี้ไม่ส่งสินค้าให้กับพวกเราแล้ว พวกเราจะไม่ขาดแหล่งนำเข้าสินค้าไปอย่างนั้นหรือ!”
หนิงเซียงดึงผ้านั้นออกมาดู
“ก็ใช่นะ จะว่าไป ในสถานที่แห่งนี้มีผ้าทอของคุณหนูหลัวซานที่ทำออกมาได้ดีที่สุด หากวันหนึ่งมีคนมาเสนอราคาเพิ่มขึ้น พวกเราย่อมไม่มีผ้าที่มีคุณภาพดีแล้ว ดังนั้นแม่นาง เ้าจะต้องรีบคิดหาวิธี และทำสัญญากับคุณหนูหลัวซานคนนี้ อย่าให้คนมาแทรกกลางได้”
