พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างลอยอยู่กลางท้องฟ้า เสี่ยวหงเดินเข้าออกซื้อชุดใหม่หลายชุด เครื่องประดับอีกหลายชิ้นอย่างเพลิดเพลิน
"อิ๋งเอ๋อร์ข้าหิวแล้ว เ้าพาข้าไปหาของกินหน่อยสิ"
"ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยมเ้าค่ะคุณหนู"
เสี่ยวหงกลอกตาไปมา นางเคยอ่านเจอในนิยายจีนโบราณมาไม่น้อย นางเอกเกิดหิวจึงไปที่โรงเตี๊ยมแล้วพบรักกับพระเอก นางไม่้าพบชายใดทั้งนั้นนอกจากเขา อวิ๋นหลัวซี
"เ้ามีที่อื่นหรือไม่ ข้าไม่อยากไปโรงเตี๊ยม"
"เอ๋?"
เสี่ยวหงหันซ้ายหันขวาก่อนจะพบกับร้านหมั่นโถวร้านหนึ่งไม่ไกลออกไปเท่าใดนัก นางยิ้มตาหยีก่อนจะจูงมืออิ๋งเอ๋อร์ให้ตามไป
"เถ้าแก่ หมั่นโถวลูกใหญ่สองลูก"
เถ้าแก่พยักหน้ารับก่อนจะยื่นหมั่นโถวส่งให้เสี่ยวหง นางกัดชิมไปคำนึงด้วยแววตาเป็ประกาย
อร่อยยิ่งนัก!!!
"คุณหนูเ้าคะ ท่านอยากเดินเที่ยวต่อหรือไม่"
เสี่ยวหงส่ายหน้าไปมา นางเหนื่อยแล้วอยากกลับไปพักผ่อนที่จวนเหลือเกิน
เสี่ยวหงเดินตามทางมาเรื่อยๆ จนผู้คนเริ่มน้อยลง ระหว่างนั้นกลับมีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาขวางทางนางไว้
เสี่ยวหงขมวดคิ้วแน่น นางพิจารณามองบุรุษตรงหน้า เขาดูสง่างามอย่างผู้สูงศักดิ์ รูปร่างสูงสง่า ใบหน้างดงามดั่งภาพวาด
หยางเส้าเฉินมองพิจารณาเสี่ยวหงอย่างไม่ละสายตาจนนางเริ่มรู้สึกประหม่า
"เ้าคือแม่นางน้อยที่ชนะการประกวดว่าวสวยงามเมื่อครู่"
เสี่ยวหงพยักหน้าอย่างมึนงง เขาเป็ใครกัน รู้จักนางเช่นนั้นหรือ?
"คุณชายรู้จักข้าหรือ หากว่าไม่เช่นนั้นขออภัยด้วยข้าไม่รู้จักท่านมาก่อน ต้องขอตัว"
เสี่ยวหงพยายามคิดในหัวว่าเ้าของร่างเดิมเคยรู้จักชายตรงหน้าหรือไม่ แต่ก็ไม่ปรากฏภาพของเขาในความทรงจำของนางเลยแม้แต่น้อย
หยางเส้าเฉินขยับกายมาขวางทางเสี่ยวหงเอาไว้ ดวงตาล้ำลึกของเขาจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง
"เช่นนั้นก็มาทำความรู้จักกันเสียหน่อย"
เสี่ยวหงสบถในใจอย่างหงุดหงิด ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการออกมาเที่ยวนอกจวนวันนี้จะเจอผู้ชายขี้ตื๊อน่ารำคาญเช่นนี้
"ข้าไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น อิ๋งเอ๋อร์กลับจวน!!!"
"คุณหนู!!!"
เสี่ยวหงหันไปมองพบว่าอิ๋งเอ๋อร์ถูกชายชุดดำจับตัวเอาไว้
"ท่านคิดจะทำอะไร? ข้ากับท่านไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เหตุใดจึงจับตัวสาวใช้ของข้าไว้!!!"
หยางเส้าเฉินยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้าวเดินเข้าไปใกล้นางเรื่อยๆ เสี่ยวหงขยับถอยหนีตามสัญชาตญาณทันที
"ข้าชอบเ้า อยากรู้จักกับเ้า"
"แต่ข้าไม่อยากรู้จักท่าน"
หยางเส้าเฉินยกยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ ก่อนจะยกมือเป็สัญญาณให้ชายชุดดำปล่อยตัวอิ๋งเอ๋อร์
"พอใจเ้าแล้วหรือยัง?"
เสี่ยวหงคว้าข้อมือของอิ๋งเอ๋อร์ก่อนจะดึงนางกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับจวน
หยางเส้าเฉินมองนางเดินหายไปจนลับสายตา ก่อนจะปรายตามองหญิงสาวนางหนึ่งที่แอบอยู่หลังต้นไม้ไม่ไกลเท่าใดนัก
"จะออกมาเองหรือให้คนของข้าไปลากเ้าออกมา"
หญิงสาวสวมชุดนางกำนัลของวังหลวงเดินออกมาจากที่ซ่อนด้วยใบหน้าซีดขาว นางทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นไม่กล้าสบตาหยางเส้าเฉิน
"ขออภัยองค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเพคะ"
"พระชายาเอกส่งเ้ามาตามข้า"
นางกำนัลน้อยนางนั้นแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว นางมีท่าทางลุกลี้ลุกลนหันซ้ายมองขวาอย่างร้อนใจ
"พระชายาเอกหลิวเย่ว์หลีเ้าออกมาเถิด หรือจะให้เราสังหารนางกำนัลของเ้าทิ้งเสีย"
"อย่าเพคะองค์รัชทายาท"
หลิวเย่ว์หลีบุตรสาวคนโตตระกูลหลิว บิดาดำรงตำแหน่งเ้ากรมอาญา นางเป็ชายาเอกของหยางเส้าเฉินที่เพิ่งอภิเษกเข้ามาวังหลวง
หลิวเย่ว์หลีก้าวเดินออกมาจากหลังต้นดอกเหมยด้วยสีหน้าเรียบเฉย เดิมทีวันนี้นางเพียงอยากออกจากวังมาเที่ยวเล่นชมเทศกาลละเล่นว่าวเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะพบกับสวามีของตนกำลังเกี้ยวพาสตรีน้อยนางหนึ่งเข้า
"เ้าตามเรามาหรือ?"
"หามิได้เพคะ หม่อมฉันเพียงออกมาเที่ยวเล่นกับนางกำนัล"
หยางเส้าเฉินส่งเสียเฮอะในลำคอ ก่อนจะปรายตามองหลิวเย่ว์หลีด้วยสายตาเ็า
"เ้าเป็ถึงชายาเอกของเรา แต่กลับมีใจอยากออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกเหมือนสตรีที่ยังมิได้ออกเรือน?"
"ไม่ใช่นะเพคะ"
"กลับตำหนักไปเสียอย่าให้เราต้องนำเื่นี้ทูลต่อเสด็จแม่"
หลิวเย่ว์หลีมีสีหน้าซีดเผือดไม่น้อย มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ถึงความโหดร้ายของฮองเฮาพระองค์นี้
เหมยฮองเฮา นามว่าเหมยอิ๋ง เป็ธิดาคนโตของตระกูล ท่านปู่ของพระนางเป็ถึงพระราชครูของฮ่องเต้พระองค์ก่อน บิดาของนางก็เป็อาจารย์ผู้มีชื่อเสียง สั่งสอนบัณฑิตที่เก่งกาจลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วน ฐานอำนาจของตระกูลนางนั้นแข็งแกร่งไม่น้อย
หยางเส้าเฉินยกยิ้มมุมปาก ทุกครั้งที่อ้างเสด็จแม่ หลิวเย่ว์หลีก็แพ้เขาทุกครั้ง อย่างครั้งก่อนที่เขา้ารับสนมเพิ่มเสด็จแม่ก็จัดการจนหลิวเย่ว์หลีไม่สามารถทำอะไรได้
เขาเคยชอบหลิวเย่ว์หลีก่อนที่จะแต่งนางเข้ามาเป็ชายาเอก แต่ก่อนนางงดงามดั่งดอกไม้แรกแย้มชวนให้เขาเชยชม แต่นานวันเข้านางก็ยิ่งทำตัวน่าเบื่อทุกวัน เขาแต่งนางเข้าวังสองปีแล้วยังคงไร้วี่แววกำเนิดทายาทเสียที
"เช่นนั้นหม่อมฉันทูลลาเพคะ"
"เชิญ"
หยางเส้าเฉินไม่แม้แต่จะหันกลับมามองหลิวเย่ว์หลีด้วยซ้ำ นางถอนหายใจออกมาหนักๆ ครั้งหนึ่ง แต่ก่อนหยางเส้าเฉินเป็บุรุษที่นางใฝ่ฝัน นางชื่นชอบเขายิ่งนัก เขาเองก็มีใจแก่นาง ทั้งสองเหมือนจะรักกันอย่างสุดซึ้ง จนกระทั่งวันที่นางสนมมากหน้าหลายตาเข้ามาในตำหนักคนแล้วคนเล่า นางเองไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากกล้ำกลืนความอัปยศนี้ลงท้อง
"พระชายาเพคะ ส่งคนไปจัดการหญิงแพศยานางนั้นดีหรือไม่เ้าคะ"
หลิวเย่ว์หลีส่ายหน้าไปมาอย่างช้าๆ ให้นางกำนัลข้างกายของตน
"ปล่อยนางไปเถิด จากที่ข้าเห็นเมื่อครู่ นางเองก็ไม่ได้มีใจชื่นชอบองค์รัชทายาทเท่าใดนัก"
"แต่ว่า"
"กลับวังหลวงเถิด"
เสี่ยวหงที่เที่ยวเล่นจนเหน็ดเหนื่อย เมื่อมองดูท้องฟ้าที่ใกล้จะมืดค่ำแล้วนางก็พาอิ๋งเอ๋อร์กลับเรือน
เมื่อกลับมาถึงเรือนหลังจากที่อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้ว เสี่ยวหงที่กำลังทิ้งร่างกายเอนลงบนเตียงกลับได้ยินเสียงจากด้านนอก ก่อนจะพบว่าอิ๋งเอ๋อร์กำลังเดินเข้ามาหานางด้วยใบหน้าซีดเผือด
"มีอะไร?"
"คุณหนูเ้าคะ เกิดเื่แล้วเ้าค่ะ เสี่ยวกุ้ยเฟยส่งแม่นมจากในวังหลวงมาอบรมคุณหนูเ้าค่ะ"
"เสี่ยวกุ้ยเฟย?".
เสี่ยวหงหลับตาลงนึกคิดถึงสตรีผู้นี้ ก่อนจะปรากฏภาพหญิงสาวที่ผิวขาวราวหิมะใบหน้างดงามสูงศักดิ์
เสี่ยวหลิง น้องสาวร่วมมารดาของเสนาบดีเสี่ยวเถียนนี่เอง
เสี่ยวหลิงเป็บุตรสาวคนเล็กของท่านย่า ที่ถูกพระทัยฮ่องเต้จนได้รับแต่งตั้งเป็กุ้ยเฟยในวังหลวง นางไม่ชอบเสี่ยวหงแต่แรก และที่โหดร้ายไปกว่านั้นนางเป็คนยุยงเสี่ยวชิงให้แย่งชิงชินอ๋องหยางเทียนฉีจากเสี่ยวหง
หน้าไม่อายทั้งอาทั้งหลานจริงๆ
เสี่ยวหงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าเรือนกุ้ยฮวา นางพบกับสตรีสูงวัยนางหนึ่ง ท่าทางหยิ่งยโส จ้องมองมาที่นางด้วยสายตาดูแคลนไม่น้อย
"คารวะแม่นม"
"คุณหนูเกรงใจเกินไปแล้วเ้าค่ะ ข้าน้อยนามว่าแม่นมซูเป็แม่นมคนสนิทของเสี่ยวกุ้ยเฟยเ้าค่ะ"
"ท่านมาหาข้ามีเื่อันใดหรือ?"
"ข้าได้รับมอบหมายจากกุ้ยเฟย ให้มาดูแลอบรมเื่กิริยามรรยาทของสตรีให้คุณหนูเ้าค่ะ กุ้ยเฟยทรงเป็ห่วงคุณหนูเกรงว่าออกเรือนไปแล้วจะไม่เป็ที่พอใจของแม่สามี"
เสี่ยวหงส่งเสียงเฮอะในลำคอแต่ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า
"ลำบากกุ้ยเฟยแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้รีบแต่งงานมีสามีเื่มรรยาทพวกนี้คงไม่จำเป็เท่าไหร่"
แม่นมชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แม่นางน้อยผู้นี้เดิมทีก็เป็เพียงผู้อาศัย กล้ามาไล่นางด้วยคำพูดไร้มรรยาทเช่นนี้หรือ
"เป็ความประสงค์ของกุ้ยเฟยข้าไม่อาจขัดได้เ้าค่ะ"
"อ้อออ"
เสี่ยวหงส่งเสียงอ้อในลำคอก่อนจะหันไปส่งยิ้มที่ชวนขนลุกให้แม่นมนางนั้น
"เช่นนั้นแม่นมก็พักที่เรือนรับรองนี่เถิด อิ๋งเอ๋อร์พาแม่นมไปเรือนพักดูแลอย่าให้ขาดเหลือสิ่งใดเป็อันขาด"
"เ้าค่ะคุณหนู"
เสี่ยวหงเดินกลับเข้ามาในห้องนอนก่อนจะนั่งลงและแสยะยิ้มที่มุมปาก
อยากสั่งสอนคนอย่างข้าหรือ?
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเสี่ยวหงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งเตรียมที่จะรับสำรับมื้อค่ำ
"คุณหนูใหญ่ ท่านจะต้องเรียนสี่คำสอนของสตรีก่อนมื้ออาหารทุกวัน หากท่านท่องจำไม่ได้ ข้าคงไม่อาจให้ท่านรับสำรับมื้อเย็นได้เ้าค่ะ"
เสี่ยวหงเงยหน้าไปมองแม่นมนางนั้นก่อนจะยิ้มออกมา แม่นมซูมองอาหารตรงหน้าเสี่ยวหง ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ หยิบตะเกียบอย่างถือดี
"แม่นมซูท่านจะทำอะไร?"
"ข้าต้องรับสำรับเย็นก่อนที่จะสอนคุณหนูใหญ่ อาหารของเรือนท่านหน้าตาน่ากินยิ่งนัก ข้าคงต้องฝากท้องไว้ที่เรือนท่านแล้ว ท่านเองก็นั่งอ่านท่องตำราเหล่านี้รอข้าเถิด รอข้ารับสำรับเย็นเรียบร้อยแล้วข้าจะทดสอบท่าน"
แม่นมซูมองเสี่ยวหงพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน เสี่ยวหงยกยิ้มอย่างเ็า ก่อนจะยื่นมือไปดึงตะเกียบออกจากมือของแม่นมซู
"คุณหนูท่านจะทำสิ่งใด!!!"
แม่นมซูมองเสี่ยวหงด้วยสายตาเ็า เสี่ยวหงวางตะเกียบลงก่อนจะสั่งให้อิ๋งเอ๋อร์ยกอาหารไปเก็บ
"ที่เรือนของข้ามีกฎระเบียบข้อหนึ่งที่แม่นมซูคงยังไม่รู้"
"กฎอะไรเ้าคะ"
เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาในเรือนของข้า หากข้ายังไม่ได้กินข้าว ใครก็ห้ามกินทั้งนั้น"
"คุณหนูใหญ่ข่มขู่ข้าหรือเ้าคะ?"
แม่นมซูมองหน้าเสี่ยวหงอย่างเอาเื่ กฎบ้าบออะไรกัน มีเช่นนี้ที่ไหนนางไม่เคยได้ยินมาก่อน!!!
"ข้าไม่ได้ข่มขู่เสียหน่อย แม่นมซูเองก็เรียนมรรยาทมาไม่น้อย เหตุใดจึงเสียมรรยาทต่อเ้าบ้านเช่นนี้เล่า"
"คุณหนูใหญ่! ท่าน! ช่างไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ยิ่งนัก"
"สอนมรรยาทข้าเถิด ข้าพร้อมแล้ว"
แม่นมซูกัดฟันอย่างโกรธแค้น มือกำผ้าเช็ดหน้าแน่นอยากจะฉีกร่างเสี่ยวหงเป็ชิ้นๆ
ผ่านไปนานเกือบสองก้านธูป เสี่ยวหงก็ยังคงจำสิ่งที่แม่นมซูพร่ำสอนไม่ได้แม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่านางจำมันไม่ได้ แต่นางไม่อยากจะจำมันมากกว่า
ความจริงแล้วนางเป็อัจฉริยะด้านความจำด้วยซ้ำ แต่เพื่อเล่นกับแม่นมซูผู้นี้นางแกล้งโง่เสียหน่อยคงจะสนุกไม่น้อย
เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปาก มองแม่นมที่หน้าซีดเผือดเหงื่อไหลไคลย้อย กุมท้องอย่างน่าเวทนา หึ! จะให้ข้าอดข้าวแย่งอาหารข้ากิน เ้าฝันไปเถิด!!!
"วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถิด ข้าขอตัวเ้าค่ะ คุณหนูเองก็ท่องจำให้ได้ ตอนเช้าข้าจะมาทดสอบท่านอีกครั้ง"
แม่นมซูเร่งรีบเดินออกไปจากเรือนของเสี่ยวหงด้วยความเจ็บใจ เดิมทีนางคิดว่าจะมาถ่วงเวลาการสอนให้กับเสี่ยวหง ให้นางอับจนหนทางจนน่าสมเพช
แต่เหตุใดจึงกลายเป็นางที่มีสภาพน่าสมเพชแทนเล่า!!!
อิ๋งเอ๋อร์มองแม่นมซูที่เดินจากไป ก่อนจะหันมามองเสี่ยวหงที่มีท่าทางสบายใจอยู่บนเตียง
"คุณหนู แม่นมซูต้องโกรธท่านแน่ๆ เ้าค่ะ"
เสี่ยวหงปรายตามองอิ๋งเอ๋อร์ ก่อนจะยิ้มตาหยี
"ช่างนางสิ!!! นางอยากมาก่อกวนข้าก่อนทำไม"
"แต่นางเป็แม่นมที่เสี่ยวกุ้ยเฟยส่งมานะเ้าคะ"
"ข้าไม่สน ที่นี่คือเรือนของข้า ใครที่เข้ามาสร้างความลำบากใจแก่ข้า ข้าไม่มีทางละเว้น"
อิ๋งเอ๋อร์ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ คุณหนูของนางั้แ่ฟื้นขึ้นมาบางครั้งก็ดูแปลกพิกลยิ่งนัก
"คุณหนูท่านยังไม่ได้รับสำรับเย็นเลยเ้าค่ะ บ่าวจะไปเตรียมให้ท่านใหม่นะเ้าคะ"
"ไม่ต้องข้าอิ่มแล้ว"
"แต่บ่าวเห็นคุณหนูยังไม่ได้รับสำรับเย็นเลยนะเ้าคะ"
"ใครว่าข้ายังไม่ได้รับสำรับเย็น ข้ากินขนมจุกจิกพวกนี้จนอิ่มแล้วต่างหากเล่า!!!"
เสี่ยวหงหยิบขนมกุ้ยฮวากับเกาลัดออกมาจากแขนเสื้อของนางก่อนจะยัดมันเข้าไปในปากพลางยิ้มตาหยี
คุณหนูของนางช่างเ้าเล่ห์ยิ่งนัก มิน่าเล่าถึงได้นั่งอ่านตำราหน้าตาเฉย ขณะที่แม่นมซูผู้โชคร้ายนั่นก็หิวจนตาลาย