ณ ทะเลพิษ ไอปราณหมอกพิษหนาแน่นอย่างที่สุด!
หากไม่มีแผนที่เดินเรือชี้นำย่อมไม่อาจจำแนกทิศทางโดยเด็ดขาด ต่อให้นาวาเคลื่นตัวไปข้างหน้าก็ไม่อาจเห็นได้ไกล
“จูเยี่ยน เ้าเลิกวอกแวกทีจะได้ไหม ที่นี่มีสัตว์อสูรยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เกิดเรือเบนออกจากเส้นทางพลัดหลงเข้าไปในดงสัตว์อสูรขึ้นมา ข้ายังไม่เท่าไหร่ แต่ด้วยสารรูปเ้าตอนนี้มีหวังได้ลงไปอยู่ในท้องพวกมันแน่! อย่าเดินเรือมั่วซั่ว บังคับให้มันดีๆ ประเดี๋ยวพอถึงฝั่งแล้วความผิดพ้องหมองใจระหว่างเราถือเป็อันสิ้นสุดเพียงเท่านี้!” หวังเค่อนั่งอยู่หน้าลำเรือร้องะโมาทางด้านหลัง
จูเยี่ยนที่อยู่ห้องคนขับสีหน้าไม่น่าดู จูเยี่ยนเสียสมาธิอย่างที่หวังเค่อว่ามาจริงจนพาอีกฝ่ายเบนออกนอกเส้นทางเดิม แต่พอได้ยินคำของหวังเค่อมันก็เกิดกลัวขึ้นมาเหมือนกัน
ตนช่างอาภัพยิ่งนัก! ขืนเจออสูรทะเลเข้าสักตัวไม่เป็อันจบเห่กันพอดีรึ
“อย่ามองข้าด้วยแววตาแบบนั้น ข้าไม่ได้เป็คนฝากาแพวกนั้นไว้บนตัวเ้าเสียหน่อย!” หวังเค่อถลึงตามาแต่ไกล
จูเยี่ยนเดือดจัดจนเนื้อตัวสั่นเทิ้ม จริงอยู่ที่เ้าไม่ได้เป็คนลงมือเอง แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีเ้าเป็ต้นสายปลายเหตุไม่ใช่รึไง?
หวังเค่อไม่แยแสสนใจจูเยี่ยน นั่งหลับตาััรับรู้ถึงสัจปราณขุ่นภายในร่างที่เปลี่ยนเป็สีเทาไปแล้ว
สีเทา? อีกเพียงก้าวเดียวก็จะเป็สีดำอยู่แล้ว!
แล้วนี่จะทำอย่างไรดี?
“ร้อนเหลือเกิน สัจปราณขุ่นสีเทานี้ไฉนถึงได้เหมือนน้ำเดือดพลุ่งพล่านไปตลอดทั้งร่างเลยเล่า! สุดจะทนจริงๆ!” หวังเค่อหดหู่อยู่นาน
ขณะกำลังหดหู่ บนฝ่ามือก็ค่อยๆ ผนึกขึ้นเป็สัจปราณขุ่น
สัจปราณขุ่นสีเทามองเผินๆ ให้ความรู้สึกเสื่อมสลายบางประการ
“เชี๊ยะ!”
หวังเค่อจุดไม้ขีดแล้วนำมาจ่อกับสัจปราณขุ่น
“บรึ้ม~~~~~~~~~~~~~!”
สัจปราณขุ่นขนาดเท่ากำปั้นพลันลุกวาบออกเป็ลูกเพลิงขนาดั์ เพียงเสี้ยวพริบตาก็ปะทุออกเหมือนลูกะเิ เปลวเพลิงแถบใหญ่พุ่งขึ้นฟ้าไป เพลิงั์นี้ทำให้จูเยี่ยนที่กำลังเดินเรือต้องตัวสั่นงันงก
“นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน? นี่คือคาถาอาคมเพลิงประเภทไหน? เหตุใดถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?” จูเยี่ยนอุทาน
“สัจปราณขุ่นทรงพลังขึ้นตามกระบวนการเปลี่ยนผ่านจากสีทองไปเป็สีดำอย่างที่คิดไว้เลย เพราะงั้นไฟที่ข้าใช้ตอนนี้ก็เลยทรงพลังขนาดนี้สินะ?” หวังเค่อครางอย่างตื่นตะลึง
ที่สำคัญคือสัจปราณขุ่นนี้ติดทนนาน ต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะมอดดับ
“ไม่ได้การๆ ตอนนี้ไฟพวกนี้ทรงพลังขนาดนี้ ทันทีที่ลุกพรึบขึ้นมา สัจปราณขุ่นมากมายในร่างข้าจะต้องเปลี่ยนข้าเป็เถ้าถ่านในพริบตาอย่างแน่นอน! ไม่ได้การ จะขวางไม่ให้สัจปราณขุ่นพวกนี้ลุกไหม้ขึ้นเองก็ไม่ได้ ข้าจะต้องลดปริมาณลง ต้องทำให้สัจปราณขุ่นในร่างหายไปให้หมด!” หวังเค่อเผยสีหน้าหวาดวิตกออกมา
ทำให้หมดไป? เมื่อไม่มีสัจปราณขุ่นก็จะติดไฟลุกพรึบไม่ได้อีก
บอกว่าทำก็คือทำ หวังเค่อเหยียดแขนออกทั้งสองข้าง ขับเคลื่อนสัจปราณขุ่นทั้งหมดออกจากตัวในทันที
“ครืนนน!”
ตรงหน้าหวังเค่อค่อยปรากฏลูกโป่งสีเทาขึ้นมาทีละน้อยๆ สัจปราณขุ่นในกาลก่อนมีขนาดเพียงไข่ไก่ แต่ครั้งนี้มันกลับมีขนาดเท่าผลแอปเปิล จากนั้นก็ขยายใหญ่จนมีขนาดเท่าผลแตงโม ผ่านไปอีกสักพักก็มีขนาดเท่าอ่างอาบน้ำ
หวังเค่อพยายามขับดันสัจปราณขุ่นทั้งหมดทั้งมวลออกนอกกายอย่างเข้าตาจน
จูเยี่ยนในห้องคนขับเบิกตาโต มองหวังเค่อด้วยสายตางุนงงไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ตรงนั้น
มันเห็นหวังเค่อชูมือเหนือศีรษะ ้ามีบอลสีเทาขนาดใหญ่ลอยอยู่?
“หวังเค่อกำลังทำอะไรของมัน? วาดลวดลายอันใดอยู่กันแน่?” จูเยี่ยนรำพึงอย่างเหม่อๆ
จากนั้นก็เห็นหวังเค่อโยนบอลสีเทาขนาดใหญ่ลงทะเลตรงหน้าไปอย่างกะทันหัน
“ไสหัวไป!” หวังเค่อะโอย่างตื่นเต้นยินดี
บอลสีเทาที่ถูกไล่พุ่งตัวลงไปในทะเลที่อยู่หลังม่านหมอก หวังเค่อะเิเสียงหัวร่ออย่างตื่นเต้นยินดี
แต่ก็หัวร่ออยู่ไม่ได้นาน
“บรึ๊ม~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดเสียงดังคราหนึ่ง นาวาคล้ายชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนสั่นะเืไปทั้งลำ
หวังเค่อที่อยู่บนดาดฟ้าเรือเปลี่ยนสีหน้า “เกิดอะไรขึ้น? จูเยี่ยน!”
“ข้า ข้าไม่รู้ บางทีอาจจะชนเข้ากับแนวปะการังก็ได้!” จูเยี่ยนยังคงเหม่อ
“แนวปะการัง?” หวังเค่อผงะไปเล็กน้อย
จริงด้วย อยู่กลางทะเลจะไปชนอะไรได้อีก? หากไม่ใชู่เาน้ำแข็งก็ต้องเป็ปะการังนั่นแหละ
แต่ด้วยบรรยากาศแบบนี้ชัดเจนว่าไม่ใชู่เาน้ำแข็ง นั่นจะต้องเป็ปะการังแน่ๆ
“ซู่!”
บนฟ้าคล้ายมีวัตถุบางอย่างลดตัวต่ำลงมา จวบกระทั่งบรรลุถึงดาดฟ้าเรือที่หวังเค่ออยู่
หวังเค่อเกร็งตัวตามสัญชาตญาณ ตื่นตัวขึ้นมาโดยพลัน เมื่อกี้หวังเค่อเพิ่งจะโยนสัจปราณขุ่นส่วนใหญ่ในร่างออกไป ตอนนี้มีคนโผล่มาโจมตี?
หวังเค่อเงยหน้ามอง เห็นชัดว่าวัตถุที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากบนฟ้าคือลูกทรงกลมขนาดเท่าผลแตงโมลูกหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับแก้วกระจก
“เพล้ง!”
แก้วใสขนาดเท่าผลแตงโมนั้นร่วงกระแทกกับดาดฟ้าเรือ จากนั้นก็แตกออกเป็เสี่ยงๆ ทันที!
“ลูกแก้วทรงกลม? ร่วงลงมาจากฟ้าเนี่ยนะ?” หวังเค่อมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยสีหน้าเหม่อลอย
ข้าโยนบอลสัจปราณลงไป แต่ทำไมถึงได้มีแก้วทรงกลมพุ่งลงมาจากฟ้าได้? แถมยังตกแตกไม่มีชิ้นดีอีก?
หวังเค่อมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มหัว
หนึ่งวันก่อน หาดทรายทางเหนือเกาะเทพั!
บนหาดทรายไม่ได้เรียบโล่งหมดจดเหมือนตอนที่หวังเค่อมาเยือน แต่คลาคล่ำไปด้วยอสรพิษมากมายสุดนับคำนวณ อสรพิษส่งเสียงขู่ฟ่อฉกกัดกันเอง แต่ละตัวดูดุร้ายน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
ตอนนั้นเองอสรพิษขนาดสี่จั้งก็ค่อยๆ คืบคลานมาบนผืนทราย ขนาดความยาวสี่จั้ง นั่นสูงเท่ากับตึกสี่ชั้นเลยด้วยซ้ำ! เมื่องูั์ตัวนี้มาถึง อสรพิษรอบด้านทยอยเปิดทางให้ ลิ้นแฉกของพวกมันผลุบเข้าผลุบออกขณะจับจ้องงูั์ตัวนี้
“เหล่างูทั้งหลายจงฟังให้ดี าาส่งข้ามาถ่ายทอดคำสั่ง พลังฝีมือของาาบรรลุถึงจุดสำคัญและกำลังจะทะลวงด่านในอีกไม่ช้า ท่านจำต้องกลืนกินแก่นไอตะวันจันทรา กักตนทะลวงสู่ขอบเขตทารกแกนิญญา ทันทีที่ทะลวงด่าน ต่อให้เป็ทารกแกนิญญาทั่วไปของเผ่ามนุษย์ก็ใช่ว่าจะเป็คู่มือให้าาได้อีก าาสั่งว่านับจากนี้พวกเราจะเคลื่อนไหวปิดผนึกเขตทะเลทั่วสารทิศ เลี่ยงไม่ให้สัตว์อสูรอื่นๆ มาขัดจังหวะการทะลวงด่านของาา ใครกล้าล่วงล้ำเข้ามาในถิ่นอสรพิษของพวกเรา ฆ่า กิน แพร่พิษ อย่าให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว ฆ่าทิ้งให้หมด!” อสรพิษั์แผดเสียงสั่งการ
“ฟ่ออออออ!” ฝูงงูส่งเสียงตอบรับอย่างยินดีปรีดา
เมื่องูั์ถ่ายทอดคำสั่งออกไป เหล่าอสรพิษที่อยู่ในป่าเขารอบหาดก็ได้รับข่าว พวกมันแห่แหนกันมาที่หาดทราย จากนั้นก็เร่งเดินทางเข้าสู่มหาสมุทร ปิดล้อมพื้นที่ตลอดรอบฝั่ง กันไม่ให้คนนอกรุกรานเข้ามา
เพียงไม่นานหาดทรายก็กลายเป็โล่งโจ้งเกลี้ยงเกลา พอหวังเค่อมาถึงจึงเห็นแค่ไข่งูอยู่ตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง
ฝูงงูช่วยกันปิดล้อมเขตสมุทรทั้งสี่ด้าน มัจฉาสมุทรใดที่คืบใกล้ไม่แคล้วถูกฝูงอสรพิษรุมฉก ทั้งหมดก็เพื่อการทะลวงด่านของาาอสรพิษที่อยู่ในห้วงสมุทร
าาอสรพิษคืออสรพิษั์สีดำมะเมื่อมตัวหนึ่งมีขนาดความยาวสิบจั้ง หรือก็คือมีส่วนสูงอันน่าสะพรึงเทียบเท่ากับตึกสิบชั้น ร่างของมันใหญ่โตมโหฬาร แม้มองจากที่ไกลๆ ก็ยังเป็อสูรใหญ่ั์ตัวหนึ่ง
แต่าาอสรพิษรู้ดีว่าทะเลพิษผืนนี้ยังมีสัตว์อสูรตัวอื่นที่สร้างภัยคุกคามแก่ตนได้ ดังนั้นมันจึงระวังตัวเป็พิเศษ ต่อให้สั่งให้ฝูงอสรพิษช่วยกันปิดผนึกรอบทิศทางแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้แจ้งฝูงอสรพิษถึงพิกัดตำแหน่งของตัวเอง
าาอสรพิษสีดำมาถึงเขตสมุทรแห่งหนึ่งเพียงลำพัง รายล้อมด้วยหมอกพิษไอพิษนับไม่ถ้วน ต่อให้อยู่ใกล้ก็ยังยากพบเห็นาาอสรพิษ ไม่มีใครรู้ว่าาาอสรพิษกำลังทะลวงด่านอยู่ที่นี่
าาอสรพิษเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าพ่นบอลสีดำขนาดเท่าผลแตงโมที่กำจายด้วยไอพิษออกมาลูกหนึ่งอย่างกะทันหัน นี่ก็คือดวงธาตุของาาอสรพิษ
“ฟ่อ!”
าาอสรพิษกู่ร้องขึ้นไปบนฟ้าอย่างดุร้ายหมายขวัญ ดวงธาตุสีดำค่อยๆ ลอยสูงขึ้นฟ้าไป ยิ่งมายิ่งสูง ยิ่งมายิ่งสูง ทีละน้อยๆ ค่อยลอยไปถึงบริเวณที่เป็หมอกพิษ
“ฟ่อ!”
าาอสรพิษคำรามต่ำ ทันใดนั้น ดวงธาตุที่ลอยอยู่กลางเวหาก็โคจรหมุนวน ขณะเดียวกันคล้ายเกิดแรงดูดบางอย่างกลืนเอาไอหมอกพิษจากสี่ทิศแปดทาง ในเวลาเดียวกันนั้นดวงธาตุทองคำเองก็ดูดซับแสงจากตะวันจันทราบนฟ้า แสงตะวันเบื้องบนเปลี่ยนเป็มืดมัวสุดเปรียบ
เมื่ออาทิตย์อัสดง ดวงธาตุที่ดูดซับแก่นแสงตะวันจำนวนสุดคณานับก็ค่อยๆ ผ่องใส ไม่ได้เปล่งแสงไอพิษอีกต่อไป
คืนนั้นแสงจันทร์ราตรีช่วยเติมเต็มแก่นจันทราสุดคณานับให้กับดวงธาตุ ภายใต้การกล่อมเกลาจากแก่นจันทราอันไร้สิ้นสุด ดวงธาตุยิ่งมาก็ยิ่งกระจ่างใส ดวงธาตุที่เคยเป็สีดำค่อยกลับกลายเป็โปร่งสว่าง ทั้งยังซุกงำประกายเรืองรองผ่องแผ้วบริสุทธิ์ไว้
าาอสรพิษดีใจจนเนื้อเต้น กำลังจะสำเร็จแล้วสินะ?
ขอบเขตทารกดวงธาตุคล้ายคลึงกับขอบเขตทารกแกนิญญาของพวกมนุษย์ ไม่สิ เทียบกันแล้วยังทรงพลังยิ่งกว่า
าาอสรพิษยิ่งเปี่ยมล้นด้วยความคาดหวัง มันเห็นว่าภายในดวงธาตุที่โปร่งใสค่อยปรากฏเงาร่างอสรพิษขึ้นเลือนราง เงาร่างนั้นก็คือการสำแดงตนของทารกดวงธาตุ
ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วสิ?
“โฟ่วว!”
ตอนนั้นเองฉลามสามตัวพลันแหวกว่ายข้ามกระแสน้ำเข้าหาาาอสรพิษ
าาอสรพิษตาวาวโรจน์ด้วยประกายเยียบเย็น “สามพี่น้องาาฉลาม? พวกเ้าััเฉียบคมนัก ถึงกับรู้ว่าข้ากำลังทะลวงด่านอยู่ที่นี่ เพราะงั้นก็เลยฝ่าวงล้อมของสมุนข้าตั้งใจจะมาขวางการทะลวงด่าน?”
สามฉลามพุ่งแฉลบเข้ามาอย่างดุดัน รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
“เร่งมือเข้า าาอสรพิษกำลังทะลวงด่าน ดวงธาตุของมันจึงอยู่นอกร่าง นี่คือ่เวลาที่มันอ่อนแอที่สุด!”
“ฉวยจังหวะที่มันอ่อนแอเอาชีวิตมัน!”
“ฉวยจังหวะที่มันระโหยโรยแรง ฉีกทึ้งมัน ่ชิงดวงธาตุมา!”
“ตูม!”
สามฉลามตัวเขื่องพุ่งชนกับร่างของาาอสรพิษ าาอสรพิษตัวส่ายโงนเงน
ทว่าการที่าาอสรพิษอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้ชื่อเสียงของมันย่อมไม่ใช่เื่แหกตา ศีรษะของมันหันขวับมาพร้อมแสยะปากเผยคมเขี้ยวฝังลงบนร่างของฉลามั์ตัวหนึ่ง
“อ้าก!”
พิษงูแทรกซึมเข้าร่าง ฉลามตัวนั้นกรีดร้องโหยหวน ปรากฏฟองพิษนับไม่ถ้วนผุดฟอดขึ้นตลอดทั้งตัว เพียงชั่วประกายไฟแลบ เนื้อตัวของฉลามตัวนั้นก็เน่าสลายไป
“เหล่าซาน[1]!” สองฉลามอุทานอย่างตื่นตระหนก
ขณะกำลังร้องเสียงหลงพวกมันก็ขย้ำาาอสรพิษอย่างกะทันหัน เอาชีวิตเข้าแลก หมายมาดว่าจะต้องฉีกาาอสรพิษออกเป็สองส่วนให้ได้
าาอสรพิษถูกกัดกระชากจนเ็ปทุรนทุราย แต่าาอสรพิษทรงพลังอย่างเหลือแสน หางของมันเหวี่ยงฟาดอย่างแรงก็สลัดหลุดจากคมเขี้ยวของฉลามตัวหนึ่ง ขณะเดียวกันหางเส้นนั้นก็พุ่งตัวลงมาดุจฟ้าผ่า
“ตูม!”
ฉลามตัวที่สองถูกผ่าแยกออกเป็สองท่อนไปในพริบตา ตกตายไปตรงนั้นทันที
“เหล่าเอ้อ[2]!”
ฉลามตัวสุดท้ายแผดเสียงร้องอย่างพรั่นพรึง กรามของมันคลายออกเพราะความใ จากนั้นก็หันหลังพุ่งตัวหนีไปจากที่นั่น
“คิดหนี? ในเมื่อมาแล้ว งั้นวันนี้ก็อย่าได้ไปไหนอีกเลย ฟ่อ!”
าาอสรพิษแสยะปากสีแดงดุจอ่างโลหิต ขย้ำฉลามตัวนั้นลงไปทั้งเป็
เพียงพริบตา ผิวสมุทรก็กลับสู่ความสงบ ฉลามสามตัวที่ลอบโจมตีกลับเป็ฝ่ายพินาศดับสูญไปเสียเอง บนผิวสมุทรมีแต่เืเจิ่งนอง
าาอสรพิษเผยสีหน้าดุร้ายน่าขนลุกขนพอง “ใครกล้ามาขัดการทะลวงด่านของข้า ตายสถานเดียว!”
าาอสรพิษในตอนนี้ยิ่งกลับกลายเป็เกรี้ยวกราดกระหายเื ใน่เวลาสำคัญอย่างการทะลวงด่านของตนนี้ ใครกล้ามาตอแยมันอีกย่อมถูกมันจับกินแน่!
ขณะที่าาอสรพิษกำลังประกาศศักดาข่มขวัญศัตรูอยู่นั้น ไม่ไกลออกไปเท่าใดกลับมีเสียงน้ำแหวกตัวดังขึ้นมาอีกคำรบ
เสียงน้ำแหวกตัวนี้เทียบกับสามฉลามก่อนหน้านี้แล้วดังกว่ากันมาก ส่งผลให้าาอสรพิษที่กำลังจะผ่อนคลายต้องตื่นตัวเผยสีหน้าดุร้ายถมึงทึงออกมาอีกครั้ง
ยังมีพวกไม่กลัวตายอีกหรือนี่? ไม่ว่ามันจะเป็ใคร ในเมื่อกล้ามาข้าก็กล้ากิน!
มาแล้ว มาแล้ว เสียงน้ำแหวกตัวยิ่งมายิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ าาอสรพิษเตรียมพร้อมรับศึกทุกเมื่อ
แต่แล้วท่ามกลางหมอกพิษกลับมีลูกทรงกลมสีเทาดีดตัวออกมา
ลูกทรงกลมสีเทาไม่ได้พุ่งมาทางาาอสรพิษ แต่ทำท่าเหมือนจะร่วงลงสู่ผืนสมุทร ทว่าาาอสรพิษในตอนนั้นถูกสามฉลามกระตุ้นต่อมโทสะจนอารมณ์ยังตกค้าง ใครจะสนกันว่าเ้าคืออะไร? ในเมื่อกล้ามาตอแยตนเองถึงที่ ไม่ว่าเ้าจะเป็ใครก็ต้องตายตกสถานเดียว ส่วนที่ว่าสิ่งนี้คืออะไร? าาอสรพิษไม่แยแสสนใจสักกระผีก าาอสรพิษร้อยพิษไม่อาจกล้ำกราย ต่อให้เป็พิษร้ายแรงข้าก็กลืนลงท้องได้อยู่ดี
“ฟ่ออ!”
าาอสรพิษพลิกตัวแหวกว่ายไปทางลูกทรงกลมสีเทานั้นก่อน ตามด้วยการอ้าปากกลืนลูกทรงกลมสีเทาลงท้องไปในคำเดียว
เมื่อลูกทรงกลมสีเทาเข้าปากไปแล้ว สีหน้าอันดุร้ายเกรี้ยวกราดของาาอสรพิษก็เปลี่ยนไปทันที
ไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้? แต่คล้ายว่าจะเป็แก๊สกลุ่มหนึ่ง?
แก๊สประหลาดกลุ่มนั้นตอนแรกคงสภาพเป็ลูกทรงกลม แต่เมื่อถูกาาอสรพิษขบกัดก็พลันแตกตัวออก กลุ่มอากาศสีเทาขมุกขมัวเจาะทะลวงเข้าไปทุกอณูภายในร่างของาาอสรพิษ แทรกซึมเต็มอัตราศึก
“ซึ่มม!”
ในห้วงความคิดของาาอสรพิษคล้ายปรากฏอสนีบาตกลางฟ้าแจ้ง เพียงชั่วพริบตา าาอสรพิษผู้เกรียงไกรก็ััถึงการล่มสลายจากส่วนลึกภายในดวงจิตของตนเองได้ ราวกับว่าสติสัมปชัญญะถูกกลุ่มแก๊สประหลาดนี้ปิดผนึกเอาไว้โดยสมบูรณ์
“พิษ? นี่เป็พิษประเภทไหนกัน? ทำไมข้าถึงทานรับไม่ไหว? บนโลกนี้ยังมีพิษที่ข้าทานรับไม่ไหวอยู่อีก? ไม่~~~~~~!” มีเพียงหนึ่งความคิดอันสิ้นหวังจนตรอกอย่างสุดท้ายในห้วงคำนึงของาาอสรพิษ
เหม็น! เหม็นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน! าาอสรพิษถูกแก๊สกลุ่มนี้เล่นงานจนตาเหลือกขาว เส้นประสาททั่วร่างถูกผนึกไว้โดยสมบูรณ์ ดวงจิตและสมองกลายเป็ขาวโพลนว่างเปล่า
ข้ากินอะไรลงไปกันแน่?
าาอสรพิษกระอักกระไอจนแทบสิ้นสติอยู่รอมร่อ
าาอสรพิษไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าเสียงน้ำแหวกตัวที่มันได้ยินก่อนหน้านี้มาจากนาวาลำหนึ่ง และนาวาลำนั้นก็กำลังพุ่งตรงมาทางมัน
หากเป็ตอนที่มันยังคงสติดี มันย่อมแกว่งหางฟาดทลายนาวาลำนี้ไปนานแล้ว แต่าาอสรพิษในเวลานี้กำลังอยู่ใน่ดวงจิตพังครืน เนื้อตัวสั่นกระตุกไปตลอดร่าง ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ากำลังมีนาวาแล่นเข้ามา
“โครม~~~~~~~~~~~~~!”
หัวเรือชนเข้ากับหัวของาาอสรพิษเข้าเต็มเปา ซัดเอาสติสัมปชัญญะเสี้ยวสุดท้ายไปจากาาอสรพิษ
าาอสรพิษผู้ยิ่งใหญ่เป็ต้องสลบเหมือดไปในลักษณะนี้เอง
ในเวลาเดียวกันนั้นพริบตาที่าาอสรพิษสลบไป ดวงธาตุของาาอสรพิษที่ลอยอยู่บนฟ้าก็ขาดการเชื่อมต่อ ตกพรวดลงมาทันที
ดวงธาตุาาอสรพิษใสแจ๋วร่วงลงมาประจวบกับที่เป็ทิศของดาดฟ้าเรือพอดี
“เพล้ง!”
ดวงธาตุาาอสรพิษแตกกระจายออกเป็เสี่ยงๆ เงาร่างาาอสรพิษที่เพิ่งจะก่อตัวได้ไม่นานเป็ต้องเสื่อมสลายไปจากดวงธาตุนั้น
“ลูกแก้ว? ร่วงลงมาจากฟ้า?”
หวังเค่อที่อยู่บนดาดฟ้าเรือมองดูลูกแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้น จากนั้นก็แหงนหน้ามองขึ้นฟ้า สีหน้าสับสนงุนงงเป็ที่สุด
[1] เหล่า คำเรียกหาคนสนิท ซาน แปลว่า สาม
[2] เอ้อ แปลว่า สอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้