หยวนจุนนึกไม่ถึงว่าโรงเรียนยุทธ์เสวียนจีจะยังคงใช้วิธีการเก่าแก่เช่นนี้ ซึ่งสำหรับเขาแล้ว วิธีนี้สามารถช่วยเขาได้มากทีเดียว
นักยุทธ์ที่อยู่หัวแถวรวมปราณดาราทั้งหมดที่อยู่ในร่างกายไว้ที่กำปั้น จากนั้นจึงทุบลงบนหินเหล็กเทียนกังที่มีความสูงพอกันกับตนเอง
เมื่อเสียงหึ่งดังออกมาจาก้าของหินสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ คลื่นปราณดาราเ่าั้จึงสลายไป ก่อนที่นักยุทธ์ฝ่ายในของโรงเรียนที่ยืนอยู่ด้านหลังหินเหล็กเทียนกังจะเอ่ยขึ้นว่า “ระดับสาม ศิษย์ฝ่ายนอก!”
แม้นักยุทธ์ผู้นั้นจะถอนหายใจออกมา แต่เขาก็ยังไม่ถึงกับหมดหวัง มีนักยุทธ์มากมายที่ไม่มีโอกาสได้เข้าโรงเรียนยุทธ์เสวียนจี การที่ได้เป็ศิษย์ฝ่ายนอกจึงถือว่าโชคดีมากแล้ว เพราะในอนาคตเขายังสามารถเลื่อนขั้นเป็ศิษย์ฝ่ายในได้
บนลานทดสอบขนาดใหญ่นี้มีหินเหล็กเทียนกังจำนวน 22 ก้อน ภายในลานมีเสียงโห่ร้องปนกับเสียงอุทานใมาเป็ระยะๆ มีทั้งผู้ที่ดีใจและมีทั้งผู้ที่เสียใจ
“โอ้โห นักยุทธ์ผู้นั้นอยู่ในระดับวงแหวนใหญ่ขั้นเจ็ด! จนถึงตอนนี้เขาน่าจะเป็ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว!”
ขณะที่หยวนจุนกำลังประหลาดใจอยู่นั้น เขาได้ยินเสียงใของหานปี้ฉือดังขึ้น ก่อนจะรีบฝ่าฝูงชนที่กำลังแสดงอาการตกตะลึงไปหานางทันที
“เหตุใดนักยุทธ์ผู้นั้นถึงได้ดูคุ้นตานัก...”
เมื่อหานปี้ฉือเห็นใบหน้าที่นิ่งเฉยราวกับสายน้ำที่ไม่มีคลื่นของหยวนจุน นางจึงเอ่ยปากออกมาว่า “เอาล่ะเอาล่ะ ข้าอนุญาตให้เ้าพูดได้แล้ว”
“เหอะเหอะ ไม่นึกเลยว่าเขาจะเข้าร่วมการคัดเลือกของโรงเรียนยุทธ์เสวียนจีด้วย ศัตรูมักโคจรมาเจอกันจริงๆ”
เมื่อได้ยินหยวนจุนกล่าวออกมาเช่นนั้น หานปี้ฉือจึงตกอยู่ในอาการงงงันทันที นางอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองอย่างละเอียด ก่อนที่ร่างกายจะแข็งทื่อแล้วกล่าวว่า “นั่นคือนักยุทธ์ที่เราเจอที่ค่ายกลทะลุมิติเมื่อครั้งอยู่เมืองหลวงชั้นนอกของจักรวรรดิชิงหยางนี่...ชื่อหนิวอะไรสักอย่างนี่ล่ะ!”
เมื่อเห็นว่านางลืมชื่อของหนิวหาวอย่างรวดเร็ว หยวนจุนจึงหัวเราะออกมาเบาๆ โดยที่มิได้สนใจเสียงผู้คนที่กำลังโห่ร้องชื่นชม
เป็ไปตามคาด สองพี่น้องที่ติดตามหนิวหาวสามารถเข้าเป็ศิษย์ฝ่ายในได้ด้วยการบ่มเพาะพลังยุทธ์ถึงวงแหวนเล็กขั้นเจ็ด ซึ่งทำให้ผู้คนส่งเสียงโห่ร้องยินดีออกมาเช่นกัน
แม้แต่ศิษย์ฝ่ายในที่ดูแลเื่การทดสอบยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม เรียกได้ว่าทั้งสามเป็ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่โรงเรียนเสวียนจีรับมาในรอบห้าปี
ซึ่งระดับพลังยุทธ์ของพวกเขานั้นสูงกว่าศิษย์ฝ่ายในบางคนเสียอีก
เป็ไปอย่างที่คิด ผลการทดสอบของหานปี้ฉือก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงเช่นกัน อายุยังน้อย อีกทั้งรูปร่างก็ยังอรชรอ้อนแอ้น นึกไม่ถึงว่านางจะเข้าสู่ระดับวงแหวนเล็กขั้นเจ็ดแล้ว!
ผลการทดสอบนี้ถึงกับทำให้ผู้คนส่งเสียงใออกมา รวมถึงหนิวหาวและสองพี่น้องตระกูลโม่ก็สนใจด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นหานปี้ฉือและหยวนจุน หนิวหาวก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแสดงสีหน้ามีเลศนัยที่ยากจะคาดเดาออกมา
เขากับหยวนจุนสบตากันและกัน เมื่อไม่มีใครยอมใคร เขาจึงใช้มือทำท่าปาดคอส่งไปยังหยวนจุน
“เ้าโง่นั่นก็เข้าร่วมการคัดเลือกของโรงเรียนยุทธ์ด้วยหรือ? คิดว่าที่นี่เป็ตลาดหรืออย่างไร เหอะเหอะ คนไม่เจียมตัวเช่นนี้ช่างมีเยอะเสียจริงๆ” โม่หลิงที่ยืนอยู่ด้านหลังหนิวหาวชำเลืองมองหยวนจุนแล้วเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
ขณะที่หยวนจุนกำลังก้าวขึ้นไปบนแท่นหินวัดระดับ เขามองไปที่หินเหล็กเทียนกังสีเขียวเข้มด้วยความใจเย็น จากนั้นจึงค่อยๆ งอแขนเพื่อเตรียมออกหมัด
“เมื่อวานนี้เ้านั่นก็เข้าร่วมการคัดเลือกของโรงเรียนยุทธ์จูเสียพร้อมกับพวกเรามิใช่หรือ! ไม่รู้ว่าพวกเ้าได้ยินเื่นี้แล้วหรือยัง ที่ว่าเมื่อวานนี้โรงเรียนจูเสียมีเื่ประหลาดเกิดขึ้นน่ะ!”
“ข้าเห็นกับตาเลยว่าแผ่นทองเหลืองที่ใช้วัดระดับของนักยุทธ์แสดงผลออกมาว่าเ้านั่นมีระดับการบรรลุเส้นปราณถึงหนึ่งพันห้าร้อยเส้น! ฮาฮา”
“แต่เขากลับไม่มีระดับของการบ่มเพาะพลังยุทธ์เลย! พวกเ้าคิดว่าแปลกหรือไม่?”
ทุกคนที่ได้ยินเื่นี้ต่างมองไปที่หยวนจุนด้วยความสนใจ อยากรู้ว่าผู้ที่ไม่มีคลื่นปราณดาราในร่างกายจะมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้ประหลาดใจเหมือนเมื่อวานนี้หรือไม่
อักษรลับเก้าตะวันวนรอบหยวนจุนอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่สนใจเสียงแหลมสูงที่ดังออกมา และทุบกำปั้นลงบนหินเหล็กเทียนกังสีเขียวเข้มทันที
“ตุ้บ”
หินเหล็กสั่นะเือยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพลังสลายไป ศิษย์ฝ่ายในจึงเปิดปากแล้วกล่าวว่า “วงแหวนใหญ่ขั้นหก! เข้าเป็ศิษย์ฝ่ายใน!”
“โอ้โห”
เสียงเซ็งแซ่ดังออกมาจากข้างลานทันที พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อว่าหยวนจุนที่บ่มเพาะพลังยุทธ์ถึงเพียงวงแหวนใหญ่ขั้นหกจะสามารถซ่อนพลังปราณได้อย่างสมบูรณ์
จนทำให้รู้สึกเหมือนเป็คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีปราณดารา!
เมื่อเห็นผลที่เกิดขึ้น หนิวหาวจึงแสดงแววตาที่ไม่แยแสออกมาแล้วกล่าวว่า “วงแหวนใหญ่ขั้นหกไม่อยู่ในสายตาของข้าอยู่แล้ว เหอะเหอะ คิดว่าเขาเป็คนธรรมดาเสียอีก ที่แท้ก็พอมีพลังอยู่บ้าง”
“ชิงอู่ หลังจากที่เข้าเป็ศิษย์ฝ่ายในแล้ว หาโอกาสทดสอบเขาเสีย เพราะการที่เขาสามารถซ่อนคลื่นพลังปราณดาราได้ ร่างกายของเขาจะต้องมีอะไรดีอย่างแน่นอน”
หนิวหาวหันไปหาโม่ชิงอู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วกล่าวเสียงเบา
“ยินดีกับเ้าด้วยนะ ได้เลื่อนขั้นเป็ศิษย์ฝ่ายในของโรงเรียนยุทธ์เสวียนจีแล้ว จากนี้ไปเราคือพี่น้องโรงเรียนเดียวกัน ข้าผ่านการทดสอบก่อนเ้า พบกันก็อย่าลืมเรียกข้าว่าศิษย์พี่เล็กนะ ฮิฮิ”
เมื่อเห็นหานปี้ฉือแสดงท่าทางดีใจออกมา หยวนจุนก็หันหน้าไปอีกทางอย่างไม่อยากจะสนใจนาง
แม้จะมีเพียงยี่สิบแถวแต่ก็ยังต้องใช้เวลาทั้งวันในการคัดเลือก เมื่อการคัดเลือกสิ้นสุดลงแล้ว ปีนี้โรงเรียนเสวียนจีรับศิษย์ฝ่ายนอกจำนวนเจ็ดพันคน และศิษย์ฝ่ายในจำนวนห้าร้อยเก้าสิบคน ซึ่งถือเป็จำนวนที่มากทีเดียว
ด้วยคำว่าศิษย์ฝ่ายในที่เป็ตัวอักษรขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่บนป้ายหยก ทำให้หยวนจุนและหานปี้ฉือได้รับห้องพักเดี่ยวและชุดเครื่องแบบของโรงเรียนที่เหมาะสมกับพวกเขา
เมื่อหยวนจุนเปลี่ยนเป็ชุดคลุมยุทธ์ของโรงเรียนยุทธ์เสวียนจี เขานั้นดูสง่างามขึ้นมาทันที ในขณะที่หานปี้ฉือเลือกแต่งตัวลักษณะเดียวกันกับพี่สาวของนาง คือ ขาเรียวยาวถูกหุ้มด้วยถุงน่องสีดำ แล้วสวมทับด้วยถุงเท้าที่ยาวถึงหัวเข่า ซึ่งดูแล้วสะดุดตาเป็อย่างมาก
ส่วนเสื้อผ้า่บนนั้นแผ่ออกมาเหมือนกับกระโปรงบาน เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและหัวไหล่ ซึ่งทำให้ผู้คนที่ได้มองอดไม่ได้ที่จะคิดไม่ดีกับนาง
“เป็อย่างไร? ดึงดูดความสนใจจากเ้าได้บ้างหรือไม่?”
หานปี้ฉือหมุนตัวอยู่ด้านหน้าหยวนจุน นางยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับว่าชอบชุดของตนเองเป็อย่างมาก
หยวนจุนมองนางอย่างละเอียดั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาไม่ชอบสตรีที่สวมชุดเปิดเผยเช่นนี้อยู่แล้วจึงตอบออกไปทันทีว่า “โรงเรียนยุทธ์เสวียนจีมีพวกหมาล่าเนื้ออยู่มาก ทางที่ดีไม่ควรแต่งกายเช่นนี้ออกไป”
“การเป็นักยุทธ์ แม้จะอยู่ในโรงเรียนยุทธ์ก็ต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เ้าจะได้อยู่อย่างกินอิ่มนอนหลับหรอกนะ!”
เมื่อหยวนจุนกล่าวจบ เสียงเรียบก็ดังมาจากทางด้านหน้า “ข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด เ้าเป็ลูกสาวของท่านพ่อ แต่กลับไม่ใส่ใจภาพลักษณ์ของตนเองเลย!”
หานโหรวสวมรองเท้าหนังหุ้มข้อที่ค่อนข้างสูงของโรงเรียนยุทธ์ นางกล่าวเสียงดังขณะที่กำลังเดินมาที่นี่ ใบหน้าแสดงความเ็าที่ออกมาจากภายใน ซึ่งแตกต่างจากที่หานปี้ฉือพยายามแสดงออกมาก่อนหน้านี้
“พี่ยังสวมชุดแบบนี้ได้ แล้วเหตุใดข้าจึงสวมไม่ได้ล่ะ?” หานปี้ฉือที่กำลังฟังคำพูดของหยวนจุน จู่ๆ ก็แสดงความต่อต้านเพราะคำพูดที่พี่สาวของนางเสริมเข้ามา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้