ความจริงแล้วเย่ชิงหานได้สติกลับมาั้แ่ที่เสว่เอ้อถูกเ้าสไปโนซอรัสฟาดปลิวลอยออกไป พลังปราณรบที่เสว่อีปล่อยออกมาเปลี่ยนเป็ฝ่ามือโจมตีใส่แม้จะทำให้เขาาเ็ไปอย่างหนัก อวัยวะภายในหลายแห่งถูกกระแทกจนได้รับาเ็ กระดูกสันหลังหลายซี่เกือบจะแตกหัก แต่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด เพราะแหวนทองเหลืองที่อยู่นิ้วนางปล่อยกระแสพลังสีขาวมหัศจรรย์ออกมารักษาอาการาเ็ให้เขาั้แ่วินาทีแรกที่ได้รับาเ็แล้ว
ดังนั้น หลังจากที่เย่ชิงหานได้สติกลับมาสิ่งแรกที่เขาทำคือไม่ใช่ห่วงอาการาเ็ แต่ทำการสดับฟังสถานการณ์โดยรอบแล้วจึงหรี่ตามองเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
สถานการณ์ยังไม่ถือว่าเลวร้ายมาก ตอนนี้ทั้งสามฝ่ายกำลังต่อสู้กันนัวเนียไม่มีฝ่ายใดให้ความสนใจกับ “ซากศพ” อย่างเขา แต่ตนเองก็ทำได้เพียงแค่หรี่ตามองไม่กล้าขยับเขยื้อน เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยเท่าใดนัก บวกกับร่างกายที่ยังไม่หายดี และการต่อสู้ของทั้งสามฝ่ายก็เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นยังไม่ถึงกับชุลมุนมาก หากบุ่มบ่ามพุ่งทะยานออกไปอาจจะกลายเป็เป้าให้ทั้งสามฝ่ายโจมตีเสียเอง
นึกถึงหางที่ราวกับเหล็กกล้าของเ้าสไปโนซอรัสและฝ่ามือพลังปราณรบสีเหลืองของเสว่อี เย่ชิงหานถึงกับรู้สึกตัวงอขึ้นมาในทันที แต่ทันใดนั้นคล้ายกลับว่านึกอะไรขึ้นมาได้ เอ๊ะ...ทำไมไม่เห็นาาหมาป่าเพลิง?
เพื่อหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย เขาเริ่มขยับศีรษะทีละน้อยแล้วเริ่มหรี่ตามองตรวจสอบไปทั่วทุกทิศทาง สุดท้ายเขาพบร่างของาาหมาป่าเพลิงนอนตายอยู่้าถัดขึ้นไปไม่ไกลจากตำแหน่งที่เขาอยู่
าาหมาป่าเพลิงเสร็จมันเสียแล้ว? แถมร่างยังนอนอยู่ไม่ห่างจากตนเอง?
มองดูร่างกายที่ใหญ่โตของาาหมาป่าเพลิง สมองของเย่ชิงหานเริ่มทำงานขึ้นในทันที มารอสูรระดับห้าขั้นสูงสุดาาหมาป่าเพลิงที่ตายแล้ว ถ้าหากตนเองคิดหาวิธีงัดเอาแก่นผลึกมารอสูรออกมาให้เสี่ยวเฮยกินได้ เสี่ยวเฮยก็จะเลื่อนขึ้นสู่่ระยะเติบโตได้ในทันที?
สัตว์อสูรเมื่อเข้าสู่่ระยะเติบโต สำหรับลูกหลานตระกูลเย่แล้วถือว่าเป็เส้นแบ่งเขตของความแตกต่างเลยก็ว่าได้ เพราะว่าสัตว์อสูรเมื่อเข้าสู่่ระยะเติบโตสามารถรวมร่างกับผู้เป็เ้าของได้ เมื่อรวมร่างจะเพิ่มพลัง ความเร็ว ประสาทััและด้านอื่นๆ อีกมากมายให้แก่เ้าของ หรือกระทั่งมีโอกาสปรากฏความสามารถพิเศษออกมาก็เป็ได้
แต่ที่รู้ๆ คือเสี่ยวเฮยเป็อสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย ปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในมิติลับแดนอสูร ่ระยะอ่อนแอที่ยาวนาน ยังไม่ข้ามผ่าน่ระยะอ่อนแอแต่กลับมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัว อีกทั้งยังสามารถส่งกระแสเสียงผ่านทางิญญาติดต่อกับผู้เป็เ้าของได้ ทั้งหมดทั้งมวลแสดงให้เห็นว่าเสี่ยวเฮยไม่ธรรมดา ถ้าหากได้รวมร่างกับเสี่ยวเฮยพลังฝีมือของตนไม่รู้ว่าจะเพิ่มพูนขึ้นขนาดไหน? เฝ้ารอปรารถนาเป็อย่างยิ่ง?
เย่ชิงหานที่นอนอยู่บนพื้นใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรถึงจะเข้าไปใกล้ร่างของาาหมาป่าเพลิงได้แบบไม่เป็ที่สนใจ
ปัง!
ทันใดนั้นเอง สายตาของเขามีประกายของความรู้สึกโชคร้ายและอับจนปัญญาวาบผ่าน ลูกไฟลูกหนึ่งลอยมาตกถูกขากางเกงของเขา ความรู้สึกที่ถูกลูกไฟตกกระทบนั้นเขาไม่ได้สนใจแต่อย่างใด แต่ที่เป็ปัญหาคือไฟที่ค่อยๆ ลามไหม้ขึ้นมาเรื่อยๆ ที่ทำให้เขารู้สึกอยากจะกระอักเืออกมาตรงนั้นเลยจริงๆ
ตอนนี้เย่ชิงหานเริ่มรู้สึกจะเกลียดชังไอ้พวกลูกสัตว์หมาป่าที่พ่นไฟได้พวกนี้แล้ว ดุร้ายไม่พอยังจะพ่นไฟได้อีก เออก็ได้! พ่นไฟได้ข้าไม่ว่า แต่ทำไมต้องพ่นออกมามั่วๆ ด้วย? ต้องเข้าใจสิว่าแม้จะไม่ได้พ่นใส่ใครแต่พ่นออกไปถูกต้นไม้ใบหญ้ามันก็ทำให้ทัศนียภาพเสียหายรู้ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้พวกแกพ่นออกมาถูกคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยอย่างข้า! พวกเ้าอยากสู้ก็สู้กันไปสิ ข้านอนอยู่นิ่งๆ ตรงนี้ไปเกี่ยวอะไรด้วย?
รู้สึกได้ถึงไฟที่กำลังไหม้ลุกลามอย่างต่อเนื่องและกลิ่นเนื้อไหม้ที่โชยมาจนแสบสมูก เย่ชิงหานตัดสินใจว่าจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว หากยังทนอยู่อย่างนี้คงได้กลายเป็หมูย่างอย่างแน่นอน
ในขณะที่เขากำลังเตรียมจะทำการกลิ้งไปมาเพื่อทำการดับเปลวไฟ ด้านหลังพลันมีร่างของหมาป่าเพลิงร่างหนึ่งลอยตรงมา มันเป็ร่างที่ส่วนหัวถูกโจมตีจนแหลกเละเืสีแดงสดไหลหยดออกมาเป็ทาง
์ช่างเมตตาข้าจริงๆ!
เมื่อััได้แรงปะทะที่ใกล้เข้ามาทางด้านหลัง เย่ชิงหานดีใจจนแทบจะบ้าคลั่ง ทั่วทั้งร่างกายผ่อนคลายลงไม่สร้างแรงต่อต้านใดๆ ยืมแรงส่งจากร่างของหมาป่าเพลิงกลิ้งออกไปอย่างเป็ธรรมชาติ จะมีก็เพียงแค่เท้าเท่านั้นที่ออกแรงนิดหน่อยเพื่อบังคับทิศทางในขณะที่กลิ้งออกไป
กลิ้งไปกลิ้งมา สุดท้ายกลิ้งไปถูกร่างของาาหมาป่าเพลิงที่ขวางอยู่ทำให้ไปต่อไม่ได้ จากนั้นเย่ชิงหานกลิ้งขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนส่วนหัวของร่างาาหมาป่าเพลิงอย่างเป็ธรรมชาติ เปลวไฟที่ไหม้อยู่ที่ขาก็ดับลงปรากฏให้เห็นเนื้อส่วนที่ถูกไฟไหม้จนดำเกรียมและกางเกงที่ขาดรุ่งริ่ง
โอกาสมาถึงแล้ว!
เย่ชิงหานไม่สนใจต่อความรู้สึกแสบร้อนที่ขาหรือลูกไฟที่ลอยมาอย่างต่อเนื่องอยู่ไม่ขาดนั้น เขาเริ่มทำการติดต่อกับเสี่ยวเฮยผ่านทางิญญา ผ่านไปไม่นานด้านล่างหน้าอกที่นอนคว่ำอยู่ปรากฏกระแสพลังสีดำค่อยๆ พวยพุ่งออกมา มันค่อยๆ รวมตัวกันขึ้นเป็สัตว์อสูรตัวน้อยที่มีขนาดเท่าหัวของเด็กทารก
เสี่ยวเฮยเมื่อออกมาก็รีบมุดเข้าไปภายในเสื้อของเย่ชิงหานโดยทันที มันทำเพียงแค่ยื่นอุ้งมือน้อยๆ ของมันออกมา “ขุด” ลงไปยังส่วนหัวของร่างาาหมาป่าเพลิงอย่างช้าๆ แม้กรงเล็บที่อุ้งมือของมันจะไม่ได้แหลมคมและแข็งแกร่งเหมือนเขี้ยวฟัน แต่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ ที่จะขุดลงไปภายในส่วนหัวของาาหมาป่าเพลิงที่ตายไปแล้วเช่นนี้ จะกลัวก็เพียงแค่การทำจนเตะตาเกินไปเท่านั้นเอง ดังนั้นเสี่ยวเฮยจึงปฏิบัติตามที่เย่ชิงหานบอกทำการขุดอย่างระมัดระวังอย่างที่สุด
.................................
ตอนนี้สถานการณ์ของสนามรบเข้าสู่่ที่ชุลมุนที่สุด แม้ว่าเสว่อีจะสามารถควบคุมตำแหน่งการต่อสู้ของเขากับสไปโนซอรัสให้ค่อยๆ ขยับเคลื่อนไปทางซ้ายได้ แต่ว่าหางอันใหญ่ยาวของสไปโนซอรัสก็ยังมีโอกาสที่จะฟาดกวาดมาทางนี้บ้างเป็บางครั้ง ส่วนเสว่อู่ได้นำเส่วเอ้อมามัดไว้บนหลังของตนเองเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงะโเข้าร่วมมือกับเสว่ซานและเสว่ซื่อช่วยกันฆ่าฝูงหมาป่าเพลิง
หมาป่าเพลิงแม้จะเป็มารอสูรระดับสี่ แต่พวกเสว่ซานล้วนมีพลังฝีมืออยู่ในระดับขอบเขตยอดยุทธ์จึงไม่ได้รู้สึกกลัวพวกมันแต่อย่างใด ขอแค่เพียงสามารถหลบลูกไฟและเข้าใกล้ตัวพวกมันได้ก็จะสามารถฆ่าได้อย่างง่ายดาย
หมาป่าเพลิงที่นอนตายอยู่บนพื้นในตอนนี้มีจำนวนประมาณยี่สิบกว่าตัวเห็นจะได้ ทางด้านฝ่ายมนุษย์มีเพียงแค่เสว่อู่ที่ต้องปกป้องเสว่เอ้อที่อยู่ด้านหลังด้วยจึงถูกลูกไฟไหม้เข้าที่หน้าท้องและบริเวณอกเป็รอยดำได้รับาเ็ ส่วนเสว่ซานและเสว่ซื่อมีเพียงแค่าแเล็กน้อย สถานการณ์โดยรวมค่อยๆ อยู่ในการควบคุมของพี่น้องเสว่ทั้งสาม
ส่วนเสว่อีที่อยู่ทางนั้นยิ่งสู้รบยิ่งห้าวหาญ ความคับอกคับใจที่เกิดขึ้นกับภารกิจที่น่าเบื่อหน่ายเดือนกว่าๆ นี้ บวกกับอารมณ์โกรธที่เสว่เอ้อถูกเ้าสไปโนซอรัสใช้หางฟาดจนสลบหมดสติไป ตอนนี้อารมณ์เ่าั้ได้กลายเป็พลังที่กล้าแกร่ง พลังฝีมือระดับขั้นที่สองของขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ที่ผ่านศึกเป็ตายมานับไม่ถ้วน ทำให้พลังของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งอย่างที่สุด พลังของสไปโนซอรัสจากเดิมที่สามารถเทียบได้กับระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ แต่หลังจากผ่านการต่อสู้กับาาหมาป่าเพลิงและถูกการโจมตีครั้งสุดท้ายก่อนตายของาาหมาป่าเพลิงจนได้รับาเ็ ทำให้เสว่อีค่อยๆ เริ่มครองความได้เปรียบขึ้นทีละน้อย เริ่มทำการโจมตีเข้าใส่สไปโนซอรัสอยู่ฝ่ายเดียว
“เสี่ยวเฮย...เร่งมือให้เร็วกว่านี้อีก!”
เสียงลูกไฟหวีดหวิวลอยผ่านอากาศดังอยู่ข้างหู เย่ชิงหานรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ในสนามรบตอนนี้ชุลมุนเป็อย่างมากแล้ว หากเสี่ยวเฮยยังขุดอยู่อย่างเชื่องช้าเช่นนี้ ไม่แน่ว่าวินาทีถัดไปอาจจะมีลูกไฟใหญ่ลอยมาตกใส่ร่างของตนเองอีกก็เป็ได้ แผนการแกล้งตายก็จะถูกเปิดโปงออก ดังนั้น ควรรีบฉวยโอกาสตอนที่ชุลมุนกันอย่างหนักนี่แหละ เสี่ยงเร่งความเร็วในการขุดน่าจะดีกว่า
“รับทราบลูกพี่!”
เสี่ยวเฮยขานรับด้วยความยินดี แม้กระดูกส่วนหัวของาาหมาป่าเพลิงจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อถูกกรงเล็บอันแหลมคมที่อุ้งเท้าของเสี่ยวเฮยขุดอยู่สองสามทีก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นมันสมองสีขาวและแก่นผลึกมารอสูรสีเขียวเม็ดหนึ่ง เสี่ยวเฮยดวงตาเป็ประกายคว้าหมับโยนเข้าปากกลืนลงไปในทันที จากนั้นมันหลับตาปี๋แล้วก็นอนลงไป
“ลูกพี่ อดทนอีกหน่อย แก่นผลึกมารอสูรเม็ดนี้มีพลังงานมหาศาล น่าจะเพียงพอให้ข้าข้ามผ่าน่ระยะอ่อนแอไปได้ แต่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายพลังสักพัก”
เสี่ยวเฮยส่งกระแสเสียงเสร็จก็เข้าสู่สภาพของการนอนหลับอีกครั้ง เย่ชิงหานกลอกตามองบนในใจกลัดกลุ้มเป็ที่สุด ยังจะใช้เวลาย่อยสลายอีกรึ? เมื่อก่อนไม่ใช่ว่ากลืนลงไปก็ย่อยเลย? เ้าเด็กคนนี้มันอย่างไรกันบอกว่าจะนอนก็นอนไปเลย! ตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกเริ่มจะเป็เหน็บชาขึ้นมาแล้ว แม้ว่าเวลาจะผ่านมาได้ระยะหนึ่งแล้วและอาการาเ็ภายในก็ดีขึ้นเจ็ดถึงแปดส่วน แต่ถ้าร่างกายเริ่มเป็เหน็บชามันก็ทำให้รู้สึกไม่สบายไปทั่วทั้งร่างได้เช่นกัน
“อิ๋ง!” “บรู๊ว” “โฮก”
ข้างหูแว่วเสียงเห่าหอนร้องคำรามดังมาเป็ระยะๆ และยังมีเสียงลูกไฟลอยแหวกผ่านอากาศกับเสียงคำรามของพวกเสว่ซาน แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การสู้รบในขณะนี้ดำเนินมาถึง่เวลาที่ดุเดือดที่สุดแล้ว ยิ่งทำให้เย่ชิงหานไม่กล้าที่จะขยับตัว ทำแค่เพียงอาศัยแรงจากร่างของหมาป่าเพลิงตัวหนึ่งที่ลอยมากระทบร่างของาาหมาป่าเพลิงทำการขยับร่างกายเล็กน้อย ตอนนี้เขาไม่ได้นอนคว่ำอยู่บริเวณส่วนหัวของาาหมาป่าเพลิงแล้ว แต่เลื่อนไปนอนขนานคู่กับส่วนหัวของมันอีกด้านฝั่งแทน พอดีใช้ร่างของมันเป็เกราะกำบังลูกไฟที่พุ่งเข้ามา