จ้าวหงฮวาโกรธทันที “ดีนี่ จ้าวสุ่ยเซิง ข้าก็คิดอยู่ว่าเหตุใดพวกเ้าไม่้าข้าแล้ว ที่แท้ก็มีคนมาแทนที่ข้าแล้วนี่เอง นังโสเภณีนี่เป็ผู้ใดกันเล่า? นังจิ้งจอกแพศยา มาใช้มารยาถึงบ้านพวกเราแล้ว!”
กลับถึงบ้านแต่ไม่เรียกพ่อแม่สักคำ หันไปอาละวาดโวยวายแทนเสียนี่
ป้าสองจ้าววางชามลงกับโต๊ะเต็มแรง นางเพิ่งเตรียมจะลุกตัวขึ้น จ้าวสุ่ยเซิงก็ชิงตัดหน้าไปตบหน้าจ้าวหงฮวาก่อน
“เ้ายังเห็นบ้านนี้อยู่ในสายตาหรือไม่? กลับถึงบ้านไม่ทักทายสักคำก็เอ่ยปากด่าคน เห็นท่านพ่อท่านแม่หรือไม่า? ไสหัวออกไป!”
พูดจบก็จับจ้าวหงฮวาโยนออกไปด้านนอก
“สุ่ยเซิง” ป้าสองจ้าวร้องเรียก “ปิดประตู อย่าให้คนอื่นเห็นเื่ขายหน้า”
“ท่านแม่บุญธรรม เช่นนั้นข้ากลับห้องก่อนนะเ้าคะ” เสิ่นอวิ้นทำตัวไม่ถูก นางไม่เคยได้ยินคำหยาบคายเช่นนี้มาก่อน ดวงตาแดงพร่าทันที
“นั่นมันห้องของข้า!” จ้าวหงฮวาเห็นเสิ่นอวิ้นเดินเข้าห้องตัวเองก็ะเิอารมณ์อีกรอบ
เสิ่นอวิ้นตัวเซเล็กน้อย ป้าสองจ้าวพูดกับนางว่า “เ้าเก็บของย้ายไปที่ห้องสุ่ยเซิง สุ่ยเซิงไปทำงานที่อำเภอแล้ว ไม่กลับมาบ้าน”
“ใช่ๆ เ้ามาอยู่ห้องข้า…เอ่อคือ ข้าจะเปลี่ยนผ้าปูให้ประเดี๋ยวนี้”
“สุ่ยเซิงเกอ ข้าเปลี่ยนเองได้เ้าค่ะ” เสิ่นอวิ้นพูด นางตามป้าสองจ้าวเข้าไปเก็บของเงียบๆ แล้วย้ายห้อง ท่าทีที่นางอดทนต่อความเสียใจทำให้จ้าวสุ่ยเซิงสงสารนางมาก
“หน้าไม่อาย นอนห้องพี่ชายข้า!” แต่จ้าวหงฮวาไม่ยอมปล่อยเสิ่นอวิ้น ยังคงด่าต่อ
เสิ่นอวิ้นมาจากตระกูลใหญ่ เจอเหตุะเืใจแค่ครั้งเดียวก็จิตใจเปราะบางมากพอแล้ว ตอนนี้ยังมาถูกจ้าวหงฮวาด่าด้วยคำหยาบคาย นางไม่มีหน้าจะอยู่บ้านจ้าวต่อไปจริงๆ
“หุบปาก ผ่าน่ปีใหม่ข้าก็จะแต่งอาอวิ้นเข้าบ้านแล้ว!” จ้าวสุ่ยเซิงตวาด “ผู้ใดกันแน่ที่เป็คนหน้าไม่อายในบ้านเรา? จะให้ข้าป่าวประกาศบอกทั้งหมู่บ้านหรือไม่?”
“ท่านแม่…ท่านดูเอ้อร์เกอสิ…เอ้อร์เกอรังแกข้า…เพียงเพื่อสตรีหน้าไม่อาย เขาตีข้า แล้วยังจะ…” จ้าวหงฮวาปิดหน้าร้องไห้
“เพี้ยะ…” ป้าสองจ้าวเดินมาตบหน้าจ้าวหงฮวา “เอ้อร์เกอเ้าพูดถูกแล้ว หากเ้ากล้าพูดพล่อยๆ อีก ข้านี่แหละจะไล่เ้าออกไปเอง!”
ความน่าเกรงขามของป้าสองจ้าวยังคงอยู่ จ้าวหงฮวาใตัวสั่นเทา ไม่กล้าร้องไห้หรือโวยวายอีก ได้แต่ก้มหน้าเดินกลับห้อง
ป้าสองจ้าวถามจ้าวสุ่ยเซิง “เ้าจะแต่งงานกับอาอวิ้นจริงหรือ?”
จ้าวสุ่ยเซิงพยักหน้า “ขอรับ เดิมทีก็คิดไว้ว่าจะลองถามอาอวิ้นวันนี้” เขาพูดจบก็แอบมองไปที่อาอวิ้น
ป้าสองจ้าวถอนหายใจ เข้าห้องไปถามเสิ่นอวิ้น “อาอวิ้น เ้าเป็สตรีสาวจากตระกูลมีเกียรติ ครอบครัวเรา…เป็แค่ชาวไร่ชาวนา สุ่ยเซิงทำงานที่บ่อน ข้ารู้สึกว่าสุ่ยเซิงไม่คู่ควรกับเ้าจึงไม่ได้ถาม แต่ตอนนี้…สุ่ยเซิงเป็ฝ่ายพูดขึ้น แม่บุญธรรมขอถามเ้า เ้ายินดีแต่งงานกับสุ่ยเซิงหรือไม่ หากยินดี แม่ยินดีจะช่วยจัดการ แต่หากไม่ยินดี เช่นนั้นเ้าก็คิดเสียว่าสุ่ยเซิงไม่ได้พูด แม่บุญธรรมจะช่วยไปหาแม่สื่อในอำเภอมาให้ หาบัณฑิตที่เรียนหนังสือ…”
“แม่บุญธรรม…ข้ายินดีเ้าค่ะ ข้ายินดีแต่งงานกับสุ่ยเซิงเกอ สุ่ยเซิงเกอเป็คนช่วยชีวิตข้า…กลัวก็แต่พวกท่านจะรังเกียจ…”
“ปัดโธ่ ลูกสาวแสนดีของข้า…แม่บุญธรรมจะรังเกียจเ้าได้อย่างไร…เ้าอย่าเก็บคำพูดจ้าวหงฮวามาใส่ใจ นับจากวันนี้ เ้าก็คือภรรยาสุ่ยเซิง คือคนบ้านจ้าว!”
“เ้าค่ะ…” คำพูดของป้าสองจ้าวทำให้เสิ่นอวิ้นซาบซึ้งใจมาก นางรู้สึกอุ่นใจและมั่นคง
“ท่านแม่…” จ้าวสุ่ยเซิงเฝ้าอยู่นอกประตู มองป้าสองจ้าวที่เดินออกมาอย่างคาดหวัง
“อาอวิ้นตอบตกลงแล้ว อีกสองวันแม่จะให้คนช่วยดูดวงชะตาและฤกษ์ให้”
“ขอรับ!” จ้าวสุ่ยเซิงดีใจมาก คิดกับตัวเองว่ากำลังจะแต่งงานแล้ว ต้องหาวิธีมาหาเงินเพิ่มจึงจะดี
“ท่านแม่ เช่นนั้นข้ากลับอำเภอก่อนนะขอรับ!” พูดจบก็ะโเข้าไปบอกเสิ่นอวิ้น “อาอวิ้น เ้ารักษาตัวให้ดีนะ ไม่ต้องไปสนใจคำพูดคนบางคน คิดเสียว่าคำพูดนางเป็เสียงผายลม!”
เสิ่นอวิ้นที่หลบอยู่ในห้องหน้าแดงระเรื่อ “สุ่ยเซิงเกอเดินทางปลอดภัยนะเ้าคะ”
“อื้ม!” จ้าวสุ่ยเซิงขานรับอย่างมีความสุข ในที่สุด่นี้ก็มีเื่น่ายินดีสักที
“เ้ารอประเดี๋ยว พาหงฮวาไปที่อำเภอด้วย” ป้าสองจ้าวบอกจ้าวสุ่ยเซิง
“ท่านแม่ ข้าไม่ไปอำเภอเ้าค่ะ อีกไม่กี่วันนายน้อยเจ็ดตระกูลกู่ก็จะส่งคนมาสู่ขอที่บ้านพวกเราแล้ว ข้าไปไม่ได้ ท่านแม่ นายน้อยเจ็ดตระกูลกู่แต่งงานแล้วจะได้แยกบ้าน ได้บ้านขนาดสองลานในอำเภอหนึ่งหลัง บ่าวใช้หกคน เงินสองพันตำลึง ร้านค้าสองแห่ง ที่ดินห้าสิบไร่… ท่านแม่ ท่านไม่อยากให้ลูกสาวไปได้ดีหรือ?”
ป้าสองจ้าวไม่สนใจ ถามแค่ว่า “เ้าหนีออกจากบ้านแล้วเป็ขอทานมาโดยตลอด?”
จ้าวหงฮวาพยักหน้า
หัวใจป้าสองจ้าวเ็า ฟังจากที่ลูกชายเล่าคือเื่หนึ่ง ความจริงนางยังคาดหวังว่าลูกสาวจะกลับตัว น่าเสียดาย…จะตายอยู่แล้วก็ยังไม่กลับใจ
“ในเมื่อเ้าเป็ขอทาน เช่นนั้นนายน้อยตระกูลกู่จะมาชอบพอเ้าได้อย่างไร ทั้งยังจะส่งคนมาสู่ขออีก?”
“ข้า…วันนั้นข้าเพิ่งไปถึงอำเภอเป็วันแรก ถูกคนเบียดไปล้มในอ้อมแขนเขาพอดี เขาเป็บัณฑิต อนาคตต้องสอบเคอจวี่ ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมาก ถามั้แ่ตอนนั้นแล้วว่าบ้านข้าอยู่ที่ใด…”
“เช่นนั้นเหตุใดเ้าไม่กลับมา? ผ่านมาตั้งหลายวัน เหตุใดต้องเป็ขอทานอยู่ด้านนอก?” ป้าสองจ้าวถามต่อ น้ำเสียงเย็นยะเยียบขึ้นเรื่อยๆ
“ข้า…” สายตาจ้าวหงฮวาลอกแลกไปมา จากนั้นร้องไห้ “ข้ากลัวท่านแม่ลงโทษ ไม่กล้ากลับมา วันนี้…หากวันนี้ไม่เจอเอ้อร์เกอ…ข้า…”
“เอาเถิดๆ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิด สภาพดูไม่ได้เช่นนี้ พวกเรามารอ...รอให้นายน้อยตระกูลกู่มาสู่ขอเ้า”
มีแต่คำโกหก!
ทว่าอย่างไรก็อุ้มท้องมาสิบเดือน ถึงในใจจะเ็าเพียงใด…ป้าสองจ้าวก็ไม่ใจร้ายถึงขั้นไล่จ้าวหงฮวาออกจากบ้าน
“ท่านแม่…หงฮวาเจอโชคครั้งใหญ่แล้ว!” จางซื่อได้ยินคุณสมบัติของนายน้อยตระกูลกู่ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
“เราต้องปิดบังเื่ของหงฮวาให้ดี หากเล็ดลอดออกไป…นายน้อยตระกูลกู่ไม่มาสู่ขอคงน่าเสียดายแย่!” จางซื่อพูดต่อ
ป้าสองจ้าวชำเลืองตามองนาง “หากเ้าปิดปากตัวเองให้ดีก็ไม่มีผู้ใดทำเล็ดลอดเป็แน่”
จางซื่อเอามือปิดปาก “ท่านแม่ ข้าจะไม่ปิดออกไปเป็แน่!”
เดิมทีป้าสองจ้าวคิดว่าจ้าวหงฮวาโกหก คิดไม่ถึงว่าสองวันต่อจากนั้น นายน้อยตระกูลกู่กับแม่สื่อจะมาหาที่บ้านจริงๆ
เห็นนายน้อยเจ็ดตระกูลกู่ผู้สุภาพมีมารยาทมายืนอยู่ตรงหน้า จ้าวหงฮวาถึงกับใจลอย
กระทั่งอีกฝ่ายกลับไปแล้วก็ยังเรียกสติกลับมาไม่ได้
จ้าวหงฮวาถูกลูกชายตระกูลใหญ่ในเมืองมาชอบพอ สินสอดเป็ร้อยตำลึง ทั้งยังมีของกำนัลอีกไม่รู้เท่าไร…ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็วประหนึ่งติดปีก
หลินหวั่นชิวที่อยู่ในอำเภอย่อมได้ยินข่าวนี้เช่นกัน นางคิดในใจว่าจางซื่อช่างลงทุนจริงๆ หาคนมาจ่ายสินสอดให้จ้าวหงฮวาเป็ร้อยตำลึง…ั้แ่ที่จางซื่อมาหมู่บ้านเค่าซาน รวมทั้งหมดก็น่าจะเสียเป็พันตำลึงแล้ว
ตระกูลเถียนไม่ได้ขาดแคลนเงิน นี่หมายความอย่างไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้