กู้ซือเหยียนเพิ่งบอก ‘ความลับอันยิ่งใหญ่’ กับเซี่ยเสี่ยวหลาน สำหรับเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เธอไม่คิดระแวงแม้แต่น้อย
ชั้นเรียนกวดวิชาที่เหอเจียเรียนอยู่หาใช่หน่วยงานลับ แม่ของกู้ซือเหยียนยังเกือบส่งลูกสาวไปเรียนที่นั่นด้วยซ้ำ กู้เจิ้งชิงจึงสืบเื่ความสามารถของเหล่าอาจารย์มาและคิดว่าใช้ไม่ได้ กู้ซือเหยียนถึงไม่ได้ไปเรียนกวดวิชา แต่เหอเจียได้ไปร่ำเรียนที่นั่น หลังจากนั้นจึงได้คบหากับเด็กหนุ่มร่วมชั้นเรียนคนหนึ่ง จนกระทั่งปัจจุบันจึงตกอยู่ในสภาพนี้
ชั้นเรียนกวดวิชาของนักศึกษาวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง!
ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็ชั้นเรียนกวดวิชาของเซี่ยจื่ออวี้สินะ... หลากหลายความคิดวูบเข้ามาในสมองของเซี่ยเสี่ยวหลานภายในชั่วพริบตา ชั้นเรียนกวดวิชาของเซี่ยจื่ออวี้เกิดเื่เช่นนี้ในเวลานี้ช่างเหมาะเจาะเหลือเกิน เพราะเื่นี้สามารถทำลายกิจการที่กำลังก่อร่างสร้างตัวของเซี่ยจื่ออวี้จนย่อยยับได้ ทั้งยังทำให้ตัวเซี่ยจื่ออวี้ไม่อาจพลิกสถานการณ์กลับมาอีกด้วย
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาทันที
นอกจากตอนเจอกันโดยบังเอิญที่โรงพยาบาล เธอไม่รู้จักมักคุ้นกับเหอเจียแม้แต่น้อย เธอไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับความคิดของเด็กสาวแปลกหน้าคนหนึ่งด้วยซ้ำ
แต่หากทำเช่นนั้น เธอจะต่างอะไรกับเซี่ยจื่ออวี้เล่า?
เด็กที่ชื่อเหอเจียคนนั้นยังไม่ทันบรรลุนิติภาวะ ด้วยความใคร่รู้เื่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่นหนุ่มสาว จะทำเื่ล้ำเส้นไปบ้างหาใช่เื่แปลกอะไร เหอเจียเพียงแค่โชคร้าย นั่นเพราะเธอตั้งครรภ์แล้วน่ะสิ!
หากเซี่ยเสี่ยวหลานใช้เื่นี้เป็อาวุธโจมตีเซี่ยจื่ออวี้ เหอเจียที่อยู่ตรงใจกลางมรสุมของปัญหาจะกลายเป็ผู้ที่ต้องแบกรับแรงกดดันเอาไว้มากที่สุด
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากบีบเด็กสาวไร้เดียงสาคนหนึ่งให้หลังชนฝา เื่นี้จะปล่อยให้ลุกลามจนรู้กันทั่วไม่ได้
“อย่าบอกอาจารย์ ทางที่ดีควรบอกผู้ปกครองของเหอเจียโดยตรง แต่เธอต้องเตรียมใจเสียเพื่อนคนนี้ไปด้วยนะ... บางครั้งเพราะความหวังดีต่อเพื่อน พวกเราต้องยอมทำสิ่งที่เพื่อนไม่ชอบบ้าง”
กู้ซือเหยียนตัดสินใจแล้วเช่นกัน “ต่อให้เธอโทษฉันว่าผิดคำสัญญา ฉันก็ไม่โกรธเธอหรอกค่ะ”
เฮ้อ เด็กโง่ นี่ไม่ใช่แค่เื่ผิดคำสัญญาธรรมดาหรอกนะ
บางครั้งการรักษาความลับอันยิ่งใหญ่ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
แต่บางครั้งก็ตรงกันข้ามกัน หากความลับนั้นหนักอึ้งเกินไป เ้าของเื่จะเลือกตีตัวออกหากเพื่อนที่รู้ความลับของตนแทน
อย่าเพิ่งคิดว่าเหอเจียจะว่าอย่างไร ต่อจากนี้ผู้ปกครองของเหอเจียคงอยากให้เหอเจียอยู่ใหห่างจากกู้ซือเหยียนไกลได้เท่าไรก็ยิ่งดีน่ะสิ
—--------------------------------------------------
กว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะปลอบใจกู้ซือเหยียนได้ก็ไม่ง่ายเลยสักนิด เฉินซีเหลียงที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไปบุกฝ่ายบรรณาธิการ《ภาพยนตร์ดัง》ก็กลับมาพร้อมความพ่ายแพ้
“คุณหญิงเซี่ยเจ๊เธอว่าเสื้อกันหนาวสำหรับบุรุษที่ฉันออกแบบมันไม่สวยหรือ”
ให้เซี่ยเสี่ยวหลานพูดจากใจจริงคงต้องบอกว่าดูดีแน่นอน
แต่เฉินซีเหลียงชอบทำอะไรไม่เป็ไปตามกฎเกณฑ์เป็ทุนเดิมอยู่แล้วหากไม่ใช่เพราะเขาดื่มเหล้าเมามายร้องจะไล่ตามความฝันของการเป็นักออกแบบ และทำการปรับแก้แบบเสื้อที่ลูกค้าสั่งจองไว้โดยพลการ อีกฝ่ายก็คงไม่ปฏิเสธที่จะรับสินค้า เสื้อกันหนาวขนแกะพวกนี้ไม่เพียงแต่หาเงินไม่ได้ ซ้ำร้ายยังกลายเป็สินค้าคงค้างสะสมอีกด้วย จะขายราคาเท่าทุนยังยากเลย
ดูท่าเฉินซีเหลียงจะไม่ค่อยราบรื่นกับฝ่ายบรรณาธิการ《ภาพยนตร์ดัง》สักเท่าไรสินะ
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกเหมือนตนเองได้กลายเป็พี่สาวผู้รู้ใจในรายการวิทยุ ไม่ว่าใครก็มักเอาปัญหาใหญ่มาปรึกษาเธอ!
“ไหนว่ามาสิ คุณไปทำอะไรมาอีกล่ะ!”
เฉินซีเหลียงพูดแล้วก็โมโห “บรรณาธิการพวกนั้น ฉันเริ่มไปมาหาสู่กับพวกเขาั้แ่หลายเดือนก่อน ปกติก็ดื่มเหล้าด้วยกันประจำ ให้ของขวัญก็ไม่น้อย ทั้งที่บอกว่าจะแนะนำนักแสดงชายชื่อดังให้รู้จัก ทว่าเอาแต่ผัดวันประกันพรุ่ง ตอนหลังมีผู้หวังดีมาบอกฉันว่า พวกเขาเห็นฉันเป็แค่ผู้ประกอบการหัวเดียวกระเทียมลีบ มีแค่หน้าร้านเล็กๆ เท่านั้น ส่งเสื้อผ้าให้พวกเขาเอาไปถ่ายแบบโดยเปล่าพวกเขายังไม่อยากได้เลย...”
เฉิงซีเหลียงโมโหยิ่งนัก ถึงจะไม่ใช่เสื้อที่ตัดเย็บด้วยขนแกะทั้งตัว แต่เสื้อกันหนาวพวกนั้นคุณภาพไม่แย่เลยจริงๆ
ดูถูกสินค้าคนอื่น เสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่ไม่แน่อาจจะสู้เสื้อตัวนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
เฉินซีเหลียงไม่ได้ทะเลาะกับอีกฝ่ายทันที ทว่ายังคงยิ้มแย้มติดต่อกับพวกเขาไปอีกหลายวัน ในที่สุดก็มั่นใจแล้วว่าจะได้โจววั่งจิง นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงเมื่อปีที่แล้วมาถ่ายแบบให้ และเนื่องจาก่นี้เฉินซีเหลียงกำลังไปได้สวย ทำอะไรก็ได้กำไร ดังนั้นมีหรือที่เขาจะทนกับเื่นี้ได้
โรงงานผลิตเสื้อผ้าเฉินอวี่เป็โรงงานผลิต จึงไม่มีแบรนด์สินค้าของตัวเอง
สินค้าของหยางเฉิงสู้สินค้าเซี่ยงไฮ้ไม่ได้?
คนพวกนั้นไม่รู้เลยว่า เสื้อผ้าที่ขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้าในเซี่ยงไฮ้ล้วนผลิตจากหยางเฉิงทั้งสิ้น!
ปัญหาที่เจอกับ《ภาพยนตร์ดัง》เฉินซีเหลียงไม่ได้เพิ่งประสบเป็ครั้งแรก ตอนวิ่งเต้นที่《สมัยนิยม》ก็พบปัญหาแบบเดียวกัน เพียงแต่แวดวงแฟชั่นของประเทศจีนในยุค 80 นั้นไม่ได้มีอิทธิพลต่อสังคมมากมายนัก ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด จึงไม่อาจเื่มากกับประวัติความเป็มาของเฉินซีเหลียง ทั้งสองฝ่ายจึงร่วมมือกันอย่างนับว่าราบรื่นดี
แตกต่างจาก《ภาพยนตร์ดัง》นิตยสารเล่มนี้ได้รับความนิยมในวงกว้าง เนื่องจากเป็นิตยสารเก่าแก่ และมีมาตรฐานที่สูงกว่า
การที่พวกเขาเรียกนักแสดงคนไหนมาขึ้นปก หาใช่้าให้นักแสดงเป็ตัวกระตุ้นยอดขายของนิตยสารไม่ แต่เป็การโปรโมตนักแสดงต่างหาก พ่อค้าตัวเล็กๆ อย่างเฉินซีเหลียงที่คอยเลี้ยงข้าว ให้เหล้าบุหรี่เป็ของขวัญ คิดหรือว่าจะสามารถควบคุมแวดวงภาพยนตร์ได้?
ลับหลังพวกนั้นคงหัวเราะเยาะเขาที่ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว แค่มีเงินนิดหน่อยก็ทำตัวกร่างน่ะสิ
เฉินซีเหลียงอดกลั้นความรู้สึกจนการเจรจาลุล่วงด้วยดี แต่เขา้าหาคนระบายความคิดของตัวเอง และเขาไม่รู้จักใครในปักกิ่ง จึงตามติดเซี่ยเสี่ยวหลานแจ
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกเหนื่อยสายตัวแทบขาด เธอพยายามกลั้นหาวอย่างเต็มที่
“งั้นคุณก็ทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองดีหรือไม่ อีกหน่อยก็ใช้เสื้อผ้าที่ออกแบบเองไปเชิญนักแสดงมาถ่ายโฆษณา ไม่ต้องสนใจนิตยสารอะไรนั่นอีก ทำโฆษณาที่ฉายทางทีวีแบบนั้น...”
เฉินซีเหลียงฟังแล้วตกตะลึง “ทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง?”
งานของเขาในตอนนี้คือการเกาะพี่เขยอย่างเหอฉงเซิงกิน โรงงานผลิตอะไรมา เขาก็ขายส่งสินค้านั้น ยอดสั่งผลิตชุดออกกำลังกายครั้งนี้ถือเป็ครั้งแรกที่เฉินซีเหลียงเป็ผู้ดูแลเอง ยอดสั่งซื้อรวมทั้งสิ้นสามหมื่นชุดถูกขายจนหมดเกลี้ยง งานนี้ทำให้เฉินซีเหลียงกับเซี่ยเสี่ยวหลานได้กำไรถึงเจ็ดแปดหมื่นเลยทีเดียว!
เฉินซีเหลียงอยากทำมานานแล้ว
แน่นอนว่าเขาไม่พอใจกับการเป็แค่พ่อค้าขายส่งเท่าไรนัก แต่เขาก็ไม่รู้แน่ชัดว่าตนอยากทำอะไรกันแน่ ถ้าลอกเลียนแบบชุดจากนิตยสารแฟชั่นต่างประเทศ จากนั้นก็ลองเดิมพันดูว่าจะขายดีหรือไม่ หากผลิตออกมาแล้วจะขายหมดหรือเปล่า?
ตามหาแบบชุดไปเรื่อยๆ และรวบรวมมันเอาไว้ภายใต้ ‘แบรนด์’ เดียว
เฉินซีเหลียงเริ่มรู้สึกอยากลองสักตั้ง
“เธอคือบรรพบุรุษของฉันชัดๆ! บรรพบุรุษเซี่ย พวกเรามาลงทุนทำเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเองกันเถอะ อย่างที่เธอบอก หาดารามาถ่ายโฆษณาสักคน ฉันไม่เชื่อว่าจะดังขึ้นมาไม่ได้!”
นี่เธอกระตุ้นเฉินซีเหลียงมากไปหน่อยหรือเปล่า เฉินซีเหลียงกำลังจะกลายเป็วาฬแห่งธุรกิจเสื้อผ้าก่อนเวลาแล้วอย่างนั้นหรือ?
ทำธุรกิจกับเฉินซีเหลียงย่อมได้กำไรแน่นอน
ชาติที่แล้วไม่เคยมีใครกระตุ้นเฉินซีเหลียงมาก่อน แต่เขาคนนี้อีกสิบกว่าปีข้างหน้าก็สามารถสร้างอาณาจักรเสื้อผ้ามูลค่ากว่าร้อยล้านขึ้นมาได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินซีเหลียงถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่จนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ธุรกิจเสื้อผ้าของเครือเฉินอาจจะไม่ถึงจุดจบก็เป็ได้ การสร้างแบรนด์เสื้อผ้าในประเทศจีนนั้นเป็เื่ยาก ั้แ่ปี 2000 เป็ต้นไป ธุรกิจเสื้อผ้าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ก็มีแบรนด์จำนวนหนึ่งที่สามารถผ่านพ้นจุดต่ำสุดของธุรกิจนี้ไปได้ และอาศัยแพลตฟอร์มการขายสินค้าออนไลน์ในการฟื้นตัว
ธุรกิจเสื้อผ้าซบเซา เป็เื่ในอีกยี่สิบปีให้หลัง
ในยุค 80 ธุรกิจนี้สามารถทำกำไรได้เป็อย่างมาก ปัจจุบันมูลค่าในตัวเซี่ยเสี่ยวหลานเกินกว่าครึ่งเกิดจากการขายเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็การค้าปลีก หรือการผลิตตามการสั่งซื้อ.... แต่สิ่งที่เธอคิดมาตลอดมีแต่การค้าปลีกนี่นา
“ไม่ได้ ขอเวลาฉันคิดก่อน”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้