“ได้เ้าค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอาหารค่ำ ไปเดินเล่นกันก่อนดีหรือไม่?”
ฮวาชีเยว่เอ่ยขึ้น ทันใดนั้นก็เห็นบุรุษอีกผู้หนึ่งในรถม้า เป็อวิ๋นสือโม่
ฮวาชีเยว่แปลกใจอยู่บ้าง มิคาดเขาจะมาอยู่ตรงนี้ได้ เทียนซีโบกไม้โบกมือให้อวิ๋นสือโม่เมื่อเห็นท่านหมอที่ช่วยขจัดพิษจากร่างให้เขาอย่างคุ้นเคย
อวิ๋นสือโม่ยิ้มให้เด็กน้อยบางๆ ทำให้ฮวาชีเยว่รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง เหตุใดจึงบุรุษผู้เ็าจึงยิ้มเช่นนั้นเล่า? หรือเขาคิดจะแย่งชิงลูกของนางไป?
คิดเช่นนี้ขึ้นมานางก็กลัวจนรีบรักษากิริยาอย่างรวดเร็ว จากนั้นรถมาสกุลจี้ก็ตามหลังรถม้าพวกนางมา อย่างไรนางก็คิดจะผ่อนคลายก่อนจะถึงการแข่งต่อในวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว
เมื่อผ่านร้านเซาปิ่ง เทียนซีก็ดึงชายเสื้อของฮวาชีเยว่แล้วชี้ไปยังร้านนั้น
ฮวาชีเยว่ส่งสัญญาณให้รถม้าหยุดก่อนจะเดินลงไปพร้อมเทียนซี “เทียนซี อยากได้เซาปิ่งหรือ? ”
ฮวาชีเยว่จำได้ว่านางแทบจะไม่ค่อยได้เดินเล่นพร้อมเทียนซี เท่าที่จำได้มีเพียงสามครั้งเท่านั้น ทว่าทุกครั้งเทียนซีจะบอกว่าอยากกินเซาปิ่ง นางปฏิเสธไปทุกครั้งด้วยเื่ความสะอาด
เทียนซีพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวเปลือก เป็จังหวะที่จี้จิงและจี้เฟิงลงจากรถม้าพอดี กลิ่นหอมอร่อยของเซาปิ่งทำให้ทั้งคู่ที่กำลังเดินเข้าร้านน้ำลายสอ
ร้านนี้เป็ร้านที่เชี่ยวชาญด้านการปิ้งและย่างเป็พิเศษ มีทั้งไก่ย่าง เป็ดย่างและเซาปิ่ง ทั้งยังมีข้าวโพดปิ้ง เป็ดและไก่เสียบไม้ปิ้ง รวมไปถึงหมึกปิ้ง
ตอนนี้เป็หน้าร้อนจึงมีคนมาทานอาหารไม่มาก จึงได้เหลือโต๊ะว่างอีกสองตัว
ฮวาชีเยว่จูงมือเทียนซีเข้าร้าน เมื่อเข้าไปเ้าของร้านก็เข้ามาทักทาย
เมื่อทั้งกลุ่มนั่งลง เทียนซีก็ชี้เซาปิ่งกับไก่ ฮวาชีเยว่พยักหน้า ยิ้มเบิกบาน “เทียนซีชอบ เช่นนั้นก็เอาทุกอย่างมาเลยเถอะ”
ได้ยินเช่นนั้นเ้าของร้านก็พยักหน้าระรัว “ขอรับ แม้ร้านเราจะเล็กทว่าอาหารอร่อยและสะอาดสะอ้าน หากไม่เชื่อสามารถมาดูขั้นตอนการปรุงอาหารได้เลยขอรับ”
อย่างไรเสียอยู่ๆ ก็มีกลุ่มคนร่ำรวยมาเยือน เ้าของร้านย่อมไม่กล้าไม่เคารพ ทว่าเพื่อมิให้คนกลุ่มนี้ตำหนิเอาได้ จึงได้รีบยืนยันเื่ความสะอาดขึ้นมาทันที
จี้จิงหิวมานานแล้ว “อย่าเสียเวลาเลย เอาของอร่อยมาให้หมด!”
จี้เฟิงส่ายหน้า “น้องสาวตะกละนัก ว่าที่สามีเ้าต้องไม่ชอบเ้าเพราะแบบนี้แน่!”
จี้จิงได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา นางลอบมองอวิ๋นสือโม่ ทว่ายังคงโต้แย้ง “พี่ชาย หากเขาชอบข้า เขาย่อม้าให้ข้ากินมากขึ้น ให้ข้าอ้วนจนไม่มีบุรุษอื่นมาสนใจข้า!”
ฮวาชีเยว่ได้ยินก็ยิ้มออกมา
ลู่ซินและโหย่วชุ่ยพากันปิดปากหัวเราะคิกคัก แม้คำพูดจี้จิงจะดูแปลกประหลาดไปบ้างทว่าสมเหตุสมผล แต่การจะหาบุรุษที่รักภรรยาได้เท่าที่รักตนเองในสังคมที่บุรุษเป็ใหญ่เช่นนี้นับว่าเป็ไปไม่ได้!
“ลู่ซิน โหย่วชุ่ย ไปนั่งโต๊ะอีกตัวแล้วสั่งของที่อยากทานเถอะ” ฮวาชีเยว่ยิ้ม ชี้ไปที่โต๊ะด้านข้าง
ลู่ซินและโหย่วชุ่ยมองหน้ากัน พวกนางย่อมทราบว่ากฎมิอาจฝืน ทว่ายังคงนั่งลงด้วยถูกกลิ่นหอมของอาหารล่อลวง
ผ่านไปสักพัก เซาปิ่งและไก่ย่างของเทียนซีก็มาถึง อวิ๋นสือโม่ใช้น้ำของทางร้านล้างมือแล้วจึงตัดไก่ออกเป็ชิ้นเล็กๆ
ความเอาใจใส่ของอวิ๋นสือโม่ทำให้ฮวาชีเยว่นิ่วหน้าสงสัย หรือเขาจะ้าแย่งเทียนซีไปจากนางจริงๆ?
“พี่ชีเยว่ มิคาดบุตรบุญธรรมท่านจะน่ารักเพียงนี้ แต่ได้ยินว่าเขาเคยถูกสาวใช้ทรมานจนทั้งผอมทั้งดำหรือ?” จี้จิงมองเทียนซีที่น่ารักอวบอ้วน อดดันจานน่องไก่ไปตรงหน้าเด็กน้อยไม่ได้
เทียนซีมองน่องไก่ที่ดูน่าอร่อยเบื้องหน้าด้วยดวงตาปรารถนา กระทั่งได้รับอนุญาตจากฮวาชีเยว่แล้วเขาจึงได้ยิ้มให้จี้จิง เริ่มทานน่องไก่อันนั้น
เห็นลูกชายดูพออกพอใจ ฮวาชีเยว่ก็ยินดี
“เป็เช่นนั้น ทว่าเื่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว จวนสกุลฮวาย่อมดูแลเขาเป็อย่างดี” ฮวาชีเยว่ยิ้มบางๆ จี้เฟิงจงใจจ้องมองอวิ๋นสือโม่ขณะคีบน่องไก่ลงในถ้วยของฮวาชีเยว่
ฮึ่ม ในเมื่อเ้าเอาใจคนเป็ลูก ข้าก็จะเอาใจคนเป็แม่แล้วกัน
ฮวาชีเยว่หน้าแดงขึ้นมา “ขอบคุณพี่จี้เ้าค่ะ”
อวิ๋นสือโม่เห็นฮวาชีเยว่หน้าแดงก็โมโหขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็นึกชอบฮวาชีเยว่ที่โง่งมขึ้นมา เช่นนั้นนางจะมิได้ดึงดูดบุรุษนัก
เมื่อทานจนเสร็จแล้วทุกคนก็อิ่มกันเต็มที่ จึงได้ตัดสินใจเดินเล่นช่วยย่อยเสียรอบหนึ่ง
เทียนซีดึงมือฮวาชีเยว่ไปยังโรงเรียนใกล้ๆ เขามองเด็กๆ ที่เข้าเรียนด้วยสายตากระตือรือร้น
ฮวาชีเยว่ตกตะลึง นางสนใจเื่การฝึกวิชาและการแก้แค้นมากเกินไปจนไม่สังเกตว่าเทียนซี้าอะไร!
ยามอยู่จวนสกุลโจว นางวุ่นวายอยู่กับกิจการ โจวจื่อเฉิงเองก็ไม่อยากส่งเทียนซีเข้าเรียน เื่จึงได้ลากยาวมาโดยตลอด
เห็นสายตาปรารถนาของเทียนซี ฮวาชีเยว่ก็นั่งลง จับมือเล็กนุ่มเอาไว้ “เทียนซี ประเดี๋ยวอีกไม่กี่วัน แม่จะหาโรงเรียนดีๆ ให้เ้า ดีหรือไม่?”
ได้ยินเช่นนั้นเทียนซีก็ดีใจยิ่ง เขาใช้ใบหน้าตนถูไถกับแขนของฮวาชีเยว่อย่างแรง ทำให้นางน้ำตาคลอขึ้นมา
เห็นเช่นนี้ ทั้งจี้เฟิงและอวิ๋นสือโม่ต่างก็เงียบไป กระทั่งจี้จิงที่มักส่งเสียงดังก็ยังเงียบลง
ทั้งกลุ่มพากันเดินเที่ยว ซื้อของเล่นและขนมมากมายให้เทียนซี ล้วนเป็ของที่ฮวาชีเยว่เคยห้ามมิให้เขาซื้อ
ระหว่างเดินเล่นนี้ จี้เฟิงเอาใจใส่ฮวาชีเยว่เป็พิเศษ ยังมีหลายคนสังเกตเห็นว่าหนานอ๋องคนดังที่มิเคยเดินซื้อของกับใคร วันนี้กลับมาเดินเล่นกับเด็กสาวโง่งมสกุลฮวา!
แต่โดยมากผู้คนยังคงเชื่อว่าอวิ๋นสือโม่เพียงมาเดินเล่นเป็เพื่อนจี้จิงและจี้เฟิงเท่านั้น
ดังนั้น คนเ่าั้จึงยิ่งสับสนว่าเหตุใดสตรีโง่งมคนนั้นจึงทำให้จี้เฟิงสนใจได้
เมื่อถึงเวลาอาหาร ทั้งกลุ่มก็เดินเข้าภัตตาคารวั่งเยว่
ในเมืองหลวงนี้ ภัตตาคารวั่งเยว่โด่งดังเทียบเท่าภัตตาคารต้งไห่ ที่เหนือกว่าคือมีชื่อที่สง่างาม
ก่อนฮวาชีเยว่จะแต่งเข้าไป ภัตตาคารวั่งเยว่คือร้านอาหารอันดับหนึ่งของเมืองหลวง เมื่อฮวาชีเยว่เปลี่ยนรายการอาหารและวัตถุดิบ เติมรสชาติเข้าไปในอาหาร กิจการร้านอาหารของนางก็ค่อยๆ ดีขึ้น จนแซงหน้าร้านวั่งเยว่ไปได้อย่างรวดเร็ว
ทว่า ทันทีที่เดินเข้าไปในภัตตาคารวั่งเยว่ ฮวาชีเยว่ก็ได้ยินเสียงผู้คนกำลังเอ่ยถึงภัตตาคารต้งไห่ขึ้นมา
“ไม่ทราบเหตุใด่หลังนี้อาหารของภัตตาคารต้งไห่จึงรสชาติย่ำแย่นัก”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น ได้ยินว่าคนสกุลจี้ถึงกับเสาะท้องเพราะไปทานอาหารที่นั่นเข้า จุ๊ๆ...”
“ใช่แล้ว ข้าเองก็ท้องเสียเช่นกัน ดูไปแล้วพอภรรยานำโชคผู้นั้นสิ้นไปก็คงไม่มีใครดูแลร้านกระมัง!”
เสียงกระซิบของผู้คนหยุดลงทันทีที่กลุ่มฮวาชีเยว่เดินเข้าไป
จี้เฟิงและอวิ๋นสือโม่ต่างก็เป็คนดังของเมืองหลวง ในขณะที่จี้จิงยังคงเยาว์วัยและงดงาม
ฮวาชีเยว่เองก็เป็คนดังแห่งเมืองหลวงเช่นกัน ชื่อเสียงนางมาจากการเป็สตรีไม่แต่งงานที่รับเลี้ยงบุตรบุญธรรม และเพิ่งจะชนะพนันกับตระกูลผู้ดีมีเงินมาได้เมื่อวาน ที่กระทั่งฮ่องเต้ยังทรงเข้าร่วม
ยิ่งกว่านั้น ท้ายสุดฮวาชีเยว่ยังชนะ ทำให้ทุกคนตกตะลึงยิ่งนัก ฮวาชีเยว่เป็คนดังแล้ว ยังโด่งดังยิ่งกว่าหนานอ๋องเสียอีก
เห็นคนดังเหล่านี้ตัวเป็ๆ เ้าของร้านสกุลจ้าวก็วิ่งออกมายิ้มทักทายก่อนจะนำทางขึ้นไปยังห้องพิเศษที่ชั้นบน
แต่ก่อนฮวาชีเยว่จะเข้าห้อง นางก็เห็นองค์หญิงฮุ่ยเจินที่หางตา เด็กน้อยเื้ันางก็เห็นองค์หญิงเช่นกัน เขาเริ่มตัวสั่นขั้นมา จับมือฮวาชีเยว่แน่นคล้ายเกรงนางจะผลักเขาเข้าหาองค์หญิงฮุ่ยเจิน
ฮวาชีเยว่นั่งลง กระซิบข้างหูเทียนซี “เทียนซีไม่ต้องกลัว...เวรกรรมย่อมตามทันพวกมัน เข้าใจหรือไม่? ”
เทียนซีกะพริบตา ไม่เข้าใจสิ่งที่มารดาเอ่ย
“พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่ทำร้ายเ้าย่อมต้องได้รับการลงโทษ” ฮวาชีเยว่ยิ้มปลอบบุตรชาย
ดวงตาของเทียนซีแดงขึ้น นับแต่ฮวาชีเยว่รับเลี้ยง เด็กชายก็ไม่เคยร้องไห้จริงๆ มาก่อน ทว่ายามนี้ น้ำตากลับไหลพร่างพราวราวสายฝน
เทียนซีส่ายหน้า อ้าปากขึ้น ทว่าเขากลับพูดไม่ได้!
ฮวาชีเยว่ปวดใจเหลือเกิด เทียนซีเข้มแข็งมากพอ แม้จะไม่ได้รับข่าวการตายของ “นาง” ทว่าเขาย่อมต้องทราบจากสาวใช้สารเลวผู้นั้น
เทียนซีดึงมือฮวาชีเยว่ขึ้น แม้โจวจื่อเฉิงจะไม่ยอมให้เด็กชายเข้าเรียน ทว่านางยังดึงดันจ้างอาจารย์มาสอนเขาอ่านเขียน
“แม่ตายแล้ว ฆาตกรยังไม่ตาย...”
ฮวาชีเยว่รู้สึกราวกับโดนสายฟ้าฟาด!
ที่แท้ เทียนซีก็รู้ความจริง!
เทียนซีวิ่งเข้าสู่อ้อมแขนฮวาชีเยว่แล้วร้องไห้ออกมา น้ำตาเขาทำให้ชุดหน้าร้อนปักดอกบัวทองของนางเปียกปอน
“เกิดอะไรขึ้นเทียนซี...พี่ชีเยว่ เขาเป็อะไรไป?” นับแต่เข้ามาในห้อง จี้จิงก็เห็นเทียนซีและฮวาชีเยว่ดูแปลกไป จึงได้เร่งร้อนเข้ามาถาม
ฮวาชีเยว่จับหน้าเทียนซี เช็ดน้ำตาจากดวงตาเขา ทั้งที่ตนเองยังคงตาแดงก่ำ “เทียนซี เพื่อปกป้องเ้าและคนที่เ้ารัก เ้าต้องแข็งแกร่งขึ้น โจมตีก่อนศัตรูจะจู่โจมเ้า เข้าใจหรือไม่? อีกไม่กี่วัน แม่จะทำให้เ้ามีความสุข”
นางลดเสียงลงกระซิบ กระทั่งจี้จิงที่อยู่ใกล้ๆ ก็ยังไม่ได้ยิน
เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว ฮวาชีเยว่ก็จูงมือเทียนซีเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลง “ไม่มีอะไร...เทียนซีเพียงงอแงเล็กน้อยเท่านั้น นั่งเถอะ เทียนซี อีกประเดี๋ยวจะมีของอร่อยมากมายให้เ้า”
เทียนซีหยุดร้องไห้ อวิ๋นสือโม่แตะศีรษะเด็กชายเงียบๆ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น ยิ้มทั้งน้ำตา
โชคดี...โชคดีเหลือเกิน ยังมีท่านแม่ ยังมีคนเหล่านี้อยู่...มิเช่นนั้น เทียนซีคงไม่อาจรอด ไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้
ในยามที่อาหารมาถึงและทุกคนกำลังจะเริ่มทาน ก็มีคนเคาะประตูห้องสองครั้งก่อนจะเปิดเข้ามา
เมื่อเห็นไปมองก็เห็นองค์หญิงฮุ่ยหลิง องค์หญิงฮุ่ยเจิน โจวจื่อเฉิง องค์หญิงฮุ่ยหยา และท่านหญิงิจู
องค์หญิงฮุ่ยหลิงได้ยินว่าจี้จิงและจี้เฟิงเข้าภัตตาคารต้งไห่แล้วลุกออกจากร้านอย่างไม่พอใจ ตอนนั้นนางกำลังซื้อของอยู่ก็ได้ยินว่าภัตตาคารวั่งเยว่มีอาหารรายการใหม่ จึงได้มาเพื่อลองชิมดู