“ท่านอ๋องเพคะ ในเมื่อท่านสี่อยากชม เช่นนั้นก็ช่วยให้เขาได้สมปรารถนาทีเถิด มิใช่ว่าในที่นี้จะมีคุณหนูมีตระกูล ทั้งจากตระกูลขุนนางและตระกูลร่ำรวยอยู่หลายท่านหรอกหรือ พวกนางล้วนต้องผ่านการร่ำเรียนกวี ดนตรี ร้องรำ ดีดพิณ เล่นหมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพมาแต่ยังเล็ก ยากนักที่พวกนางจะได้มารวมตัวกันเช่นนี้ หากไม่สร้างความสำราญมาช่วยเติมเต็มบ้าง ก็ช่างน่าเสียดายเกินไปนะเพคะ” อวิ๋นซีคล้องแขนจวินเหยียนพลางแย้มยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยแนะ ทว่าสายตาที่นางมองบุรุษข้างกายกลับแฝงไว้ด้วยแววเตือนราวกับกำลังจะบอกว่า หากท่านกล้ารื้อเวทีข้า ข้าก็จะให้ท่านตายอย่างอนาถ
เมื่อจวินเหยียนเห็นเช่นนั้นก็อมยิ้มมองนาง ก่อนจะยื่นมือเข้าไปช่วยจัดปอยผมที่คลอเคลียข้างแก้มของอีกฝ่ายอย่างแ่เบา จากนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วย “แล้วแต่ชายาเถิด”
เพียงประโยคเดียวที่เอื้อนเอ่ยก็ไม่ต่างจากการที่เขาบอกแก่ทุกคนว่า ในจวนอ๋องแห่งนี้ ขอแค่สิ่งนั้นเป็ที่พึงพอใจของพระชายา ไม่ว่าจะเป็สิ่งใดก็นับว่าดีทั้งสิ้น ส่วนตัวเขาก็จะไม่แม้แต่ก้าวก่าย อีกทั้ง คำพูดนั้นยังทำให้ทุกคนได้เห็นถึงสถานะในจวนอ๋องของพระชายาที่มาจากสามัญชนผู้นี้
อวิ๋นซียิ้มพยักหน้า ก่อนที่สายตาจะตกลงบนร่างของลู่อวี้ฉิง นางยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น “ในบรรดาคุณหนูทั้งหลายที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้าก็รู้จักแค่คุณหนูลู่จากจวนใต้เท้าลู่ ถ้าอย่างนั้นก็ให้คุณหนูลู่เป็ผู้เริ่มแสดงความสามารถเป็คนแรกดีหรือไม่”
ลู่อวี้ฉิงที่มัวแต่เป็กังวลว่า ฮูหยินลู่ผู้เป็มารดาตนจะเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆ ยามนี้นางกังวลเสียจนรู้สึกสับสนปนเปไปหมดถึงขนาดที่คิดไม่ตกว่า ตนควรจะทำเช่นไรต่อไปดี ในชั่วขณะนั้นนางยังคงจมอยู่กับความคิดเหล่านี้ จึงไม่ทันได้รู้สึกตัวว่าอวิ๋นซีกำลังเรียกขานตน
ฮูหยินลู่ดึงบุตรสาวที่นั่งเหม่อลอยอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็พูดเสียงเบา “อวี้เอ๋อร์ พระชายาให้เ้าออกไปแสดงความสามารถน่ะ”
ฉับพลันนั้นลู่อวี้ฉิงก็สามารถดึงสติตนให้กลับมาได้ ในตอนนั้นนางสบเข้ากับดวงตายิ้มน้อยๆ คู่นั้นของอวิ๋นซีพอดี จึงได้แต่กัดริมฝีปาก ก่อนจะก้าวออกมาด้านหน้า ยอบกายคารวะแล้วกล่าวตอบ “หม่อมฉันดีดพิณได้เพียงเพลงง่ายๆ เท่านั้นเพคะ หากว่าท่านอ๋องและพระชายาไม่ทรงรังเกียจ เช่นนั้นหม่อมฉันคงต้องหน้าไม่อายแล้ว”
อวิ๋นซีหยิกเอวจวินเหยียนไปทีหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณให้เขาเปิดปากพูด จวินเหยียนหันมองนางเพียงครู่ก็พอจะเข้าใจในความหมายนั้นจึงยิ้มตอบ “คุณหนูลู่ เ้าเพียงแสดงความสามารถที่ตัวเ้าคิดว่าดีที่สุดก็เป็พอ เพราะทุกคนในที่นี้เพียง้าหาความสำราญใจเท่านั้น”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินแล้วก็เหงื่อตกทันใด ท่านอ๋อง การจะพูดดีๆ กับผู้อื่นสักสองสามประโยค หรือเอ่ยปากชมเชยผู้อื่นก่อนสักเล็กน้อยจะถือว่ายากเย็นมากหรือไร
เมื่อหานอ๋องกล่าวจบ ลู่อวี้ฉิงก็ออกไปด้านหน้า เพื่อดีดพิณเป็เพลงท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของดินแดนตะวันตกนี้เพียงบทหนึ่ง แม้ทุกคนจะเคยได้ฟังอยู่บ่อยๆ ทว่า เมื่อได้ฟังจากลู่อวี้ฉิงก็ให้ได้อรรถรสไปอีกแบบ และแทบจะในทันทีที่การแสดงจบลง อวิ๋นซีก็เป็คนแรกที่ปรบมือพร้อมกล่าวชื่นชม จากนั้นจึงกวักมือไปทางลู่อวี้ฉิง เพื่อบอกให้อีกฝ่ายเข้ามาหา
เมื่อลู่อวี้ฉิงเห็นเช่นนั้น ถึงแม้ในใจจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมรุดเข้าไปหาอีกฝ่าย อวิ๋นซีดึงมือแม่นางน้อยเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ยิ้มและพินิจพิจารณา “มือคู่นี้ของเ้าเป็มือที่ดียิ่ง มิน่าเล่าถึงได้ดีดเพลงพิณออกมาได้อย่างไพเราะเพียงนี้ ไม่เสียทีที่เป็ถึงคุณหนูตระกูลลู่” เมื่อพูดจบ อวิ๋นซีก็ถอดกำไลหยกเขียววงหนึ่งที่ตนสวมอยู่ออกมาสวมบนข้อมือของลู่อวี้ฉิง “กำไลวงนี้เป็ท่านอ๋องที่ประทานให้ข้าตอนวันแต่งงาน ตอนนี้ข้ามอบให้เ้าแล้ว”
แน่นอนว่าลู่อวี้ฉิงย่อมรู้ดีว่ากำไลวงนี้เป็ของดี แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็หานอ๋องที่ประทานให้อวิ๋นซี ดังนั้น ในเมื่อกำไลนี่มาอยู่บนข้อมือตนแล้ว เช่นนั้นก็เปรียบเสมือนท่านอ๋องเป็ผู้มอบให้จะได้หรือไม่ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นางก็ยิ้มมองไปทางอวิ๋นซีพร้อมกล่าวขอบคุณ
อวิ๋นซีมองเงาหลังของลู่อวี้ฉิง ก่อนจะยกจอกสุราขึ้นจิบไปคำหนึ่ง อย่างน้อยๆ ทุกสิ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายของนางไปทั้งหมด ยามนี้ลู่อวี้ฉิงตั้งครรภ์แล้ว เพียงแต่ มิอาจทราบได้ว่า เด็กในท้องของอีกฝ่ายที่แท้แล้วจะเป็ของลู่เหวินเจิ้นหรือว่าของผู้ใดกัน
หลังสิ้นสุดการแสดงของลู่อวี้ฉิง คุณหนูคุณชายอีกมากมายก็ออกมาแสดงความสามารถเช่นกัน
ทว่า เมื่อมาถึง่หลัง จู่ๆ หยวนอวี่ก็บอกว่าตนรู้สึกไม่สบาย จึงขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน ในตอนนั้นอวิ๋นซีก็ทำได้แค่พูดปลอบใจไปสองสามประโยคก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้ปลีกตัวกลับเรือนไปก่อน...ไม่สบาย? อวิ๋นซียิ้มเย็น ดูแล้วไม่น่าใช่กระมัง
เมื่ออีกฝ่ายจากไปแล้ว อวิ๋นซีก็หันไปพูดเสียงเบากับจวินเหยียน “คนอุตส่าห์แต่งกายมางดงามเพียงนี้ แต่ตัวท่านกลับไม่แม้แต่จะชายตามอง เห็นหรือไม่ ตอนนี้นางโกรธเข้าให้แล้ว ท่านไม่ปวดใจหรือไร”
“หากว่าเป็เ้าที่โกรธ ข้ารับประกันได้เลยว่าตัวข้าย่อมปวดใจยิ่ง ไม่ว่าอย่างไรคนอื่นๆ ก็ล้วนไม่เกี่ยวข้องอันใดกับข้า” เขายิ้มพลางบีบมือนาง นอกจากอวิ๋นซีและหวานหว่านแล้ว ไม่ว่าสตรีอื่นจะเป็หรือตายก็ล้วนไม่ข้องเกี่ยวกับตัวเขามากนัก
เมื่ออวิ๋นซีเห็นเช่นนี้ ในใจก็ทั้งปลงทั้งขำ
เพียงไม่นานหลังจากนั้น อวิ๋นซีก็เห็นว่าชิวิเองก็ลุกออกไปจากงานเช่นกัน ทันทีที่เห็นเป็เช่นนั้น นางก็ส่งสัญญาณให้เซียงเอ๋อร์รีบติดตามไป เพื่อจะได้ดูว่ายามนี้พวกเขาไปยังที่แห่งใด ทว่า เวลาผ่านไปได้เพียงครู่หนึ่ง เซียงเอ๋อร์ก็กลับมารายงานว่า ยามนี้หยวนอวี่มิได้กลับไปเรือนฉิ่นเยว่ แต่มุ่งหน้าไปยังศาลาริมน้ำข้างสระบัวเหมือนดั่งค่ำคืนก่อน และหลังจากนั้นก็เป็ชิวิที่ติดตามไป
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็ยิ้มพยักหน้า ดีมาก! ขอแค่คนทั้งสองได้อยู่ใกล้กันก็พอแล้ว
นายบ่าวสองคนนี้ทำทีมีลับลมคมใน ทำให้จวินเหยียนเป็ต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ชายารัก ในน้ำเต้าของเ้าที่แท้แล้วใส่อะไรไว้กันแน่? [1] ”
“พี่รอง พี่สะใภ้รอง พวกท่านสองคนเอาแต่ซุบซิบอันใดกัน ข้าอยากฟังด้วย” เทียนหลานยิ้มแย้มร่ำร้องอยากจะฟังด้วย
อวิ๋นซีเห็นท่าทีของอีกฝ่ายเป็เช่นนี้ก็ได้แต่เม้มปากยิ้ม และเป็เซียงเอ๋อร์ที่กล่าวตอบ “ท่านสี่เพคะ หลายวันก่อนตอนที่พระชายาเสด็จออกไปด้านนอก พระองค์บังเอิญเจอถานฮวา [2] สองสามต้นบนเขา เมื่อครู่นี้สาวใช้จึงให้หม่อมฉันมาทูลว่า ถานฮวาที่พระชายามีรับสั่งให้ย้ายมาปลูกในจวนนั้น ยามนี้เบ่งบานแล้ว ยิ่งกว่านั้น ถานฮวาแค่ไม่กี่ต้นยังสามารถออกดอกได้กว่ายี่สิบดอกเชียวนะเพคะ ท่านอ๋องและพระชายาจึงปรึกษากันอยู่ว่า หากให้แขกคนสำคัญทั้งหลายได้ไปชื่นชมความงามเ่าั้เสียสักหน่อยจะดีหรือไม่”
หลัวซืออวี่ที่มีใจสงสัยใคร่รู้รีบยิ้มแล้วเอ่ยถาม “พระชายา พระชายาเพคะ อวี่เอ๋อร์อยากไปดูดอกถานฮวา จะได้หรือไม่เพคะ? ”
อวิ๋นซีมองท่าทางน่ารักไร้เดียงสาของหลัวซืออวี่ก็พยักหน้ารับ “ได้แน่นอน”
องค์ชายสี่โอวหยางเทียนหลานเองก็โอดครวญ เพราะอยากจะไปชมด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ร่วมงานเกือบสามสิบคนจึงมุ่งหน้าเข้าไปยังเรือนชั้นสาม ขณะนั้นอวิ๋นซีก็ยิ้มกล่าว “นอกจากพวกท่านจะสามารถชมดอกถานฮวาได้แล้ว ในเรือนชั้นนี้ยังมีสระบัวด้วย เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ค่ำแล้วอาจจะไม่งดงามนัก แต่หากทุกท่านอยากจะชมเสียสักครั้งก็สามารถเข้าไปชมได้”
จู่ๆ ไม่รู้ว่าเป็คุณหนูท่านใดในขบวนก็พูดแทรกขึ้น “ดอกบัวในยามค่ำคืนก็น่าชมเช่นกันเพคะ เพียงได้มองก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ แตกต่างไปจากการได้ชมในยามกลางวันโดยสิ้นเชิง”
เมื่อมีคนหนึ่งเป็ตัวตั้งตัวตีแล้ว ทุกคนก็พากันเห็นด้วย อวิ๋นซีทำทีขบคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงยิ้มพยักหน้า “ได้ เช่นนั้นหลังจากที่ทุกท่านชมดอกถานฮวาเสร็จแล้ว พวกเราก็ค่อยไปชมดอกบัวด้วยกัน”
ถานฮวาอยู่ฝั่งตะวันตกของเรือนชั้นสาม และอยู่ห่างจากสระบัวพอประมาณ เมื่อทุกคนชมถานฮวาเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าไปยังสระบัวที่อยู่ทางทิศตะวันออก ทว่ายังไม่ทันได้ไปถึงที่กลับได้ยินเสียงคนร้องะโเสียงดัง “อ้า”
ในบรรดาแขกผู้มารับชมความงามตามธรรมชาติของจวนอ๋องมีบางคนที่พอจะทราบว่าเสียงร้องนั้นเป็ของผู้ใด จึงร้องทัก “นั่นเสียงของคุณหนูตะกูลเจียงจากเมืองฝั่งตะวันตก และคุณหนูตระกูลหลี่นี่”
“รีบไปดูเถอะ” โอวหยางเทียนหลานเป็กังวลด้วยเกรงว่า ในจวนของพี่ชายตนจะเกิดเื่อะไรขึ้น จึงรีบสาวเท้าไปยังทิศทางของต้นเสียงอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับเหล่าคุณชายอีกหลายคน
อวิ๋นซีเองก็พยายามเร่งฝีเท้าไปยังทิศทางของต้นเสียงเช่นกัน
โอวหยางเทียนหลานใช้วิชาตัวเบารุดเข้าไปด้านหน้า กระทั่งตัวเขาและคุณชายคนอื่นๆ ตามไปถึงก็ได้เห็นชิวิและหยวนอวี่อยู่ด้วยกันในสภาพเปลือยเปล่า ทันทีที่โอวหยางเทียนหลานเห็นเช่นนั้นก็หันกายกลับทันที ส่วนคุณชายที่เหลือเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน ขณะที่บรรดาคุณหนูที่ส่งเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ยามนี้ล้วนมีใบหน้าแดงก่ำจนแทบจะหยดออกมาเป็เืได้อยู่แล้ว จากนั้นจึงพากันเร่งฝีเท้าเดินจากไปตามเส้นทางที่จากมา
ตอนที่อวิ๋นซีไล่ตามไปถึงก็บังเอิญเจอสตรีกลุ่มนั้นกำลังเดินกลับมาทางตนพอดี ทว่า คุณหนูสองคนในกลุ่มนั้นกลับพูดจากอึกอึกอักอัก ไม่ได้ความ และเป็คุณหนูตระกูลเจียงที่เป็ฝ่ายพูดด้วยเสียงอันเบา “พระชายาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เองจะดีกว่าเพคะ”
เมื่อพูดจบ นางก็ให้อับอายเกินกว่าจะพูดอันใดออกมาได้อีก มิใช่ว่า สตรีผู้นั้นก็คือเสี้ยนจู่ที่มาจากเมืองหลวงหรือ? แต่เหตุใดคนถึงได้กล้ากระทำในสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนี้ ถึงกับ...กับบุรุษที่นี่...เมื่อครุ่นคิดถึงสิ่งที่เห็นอีกครั้ง นางก็รีบพูดต่อ “พระชายาเพคะ จู่ๆ หม่อมฉันก็รู้สึกไม่ค่อยสบาย วันนี้จึงต้องขอทูลลาก่อนเพคะ แล้ววันหน้าหม่อมฉันจะมาขอประทานอภัยต่อเบื้องพระพักตร์พระชายาอีกครั้งเพคะ”
ทันทีที่พูดจบ แม่นางน้อยก็รีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] ในน้ำเต้าที่แท้แล้วใส่อะไรไว้กันแน่(葫芦里到底装了什么)เปรียบเทียบเหมือนการเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ จะมาไม้ไหน
[2] ถานฮวา (昙花) เป็ต้นไม้เตี้ยมีสีเขียวตลอดปี ดอกใหญ่สีขาวจะบานในตอนกลางคืน ่ระยะเวลาบานจะสั้นมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้