สถานการณ์ในห้องเวลานี้ตึงเครียดอย่างถึงที่สุด
ไม่มีใครกล้าอ่อนข้อ!
จ้าวอี้ทางนี้ไม่กล้าปล่อยตัวประกัน พวกเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าปล่อยสองคนนี้ไป ผลสุดท้าย ก็คือถูกกราดยิงจนตาย อย่างไม่ต้องสงสัย ดูจากการแสดงออกของคนเหล่านี้ พวกเขาเคยฆ่าคนมาก่อน จึงไม่น่าใจอ่อนในการลงมือ
น้องชายเหยียนร้องะโอย่างบ้าคลั่งในทันใด ทำให้คนของพวกเขาโอบล้อมอย่างคิดไม่ดี
คนร้าย มาตรฐานนอกกฎหมาย
จ้าวอี้รู้ ถ้าไม่ทำอะไร คงหลีกเลี่ยงฉากการนองเืไม่ได้!
จ้าวอี้ยิงปืนอย่างเด็ดขาด!
ปัง!
ปืนนัดนี้ยิงเข้าที่ขาของน้องชายเหยียน!
“หุบปาก! ถ้าไม่หุบปาก ฉันจะยิงแกให้ตาย!” สายตาเ็าของเขากวาดไปที่ทุกคนในเหตุการณ์ ปืนนัดเมื่อครู่ แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของเขา
เสียงปืนทำให้เฉียนเหล่าลิ่วสะดุ้งโหยง มองเห็นเืสดๆไหลออกมา เขาก็เหมือนกับมดบนกระทะร้อน
“อย่ายิงๆ!”
เขาะโเสียงสูงอย่างต่อเนื่อง ในห้องนี้มีที่โล่งขนาดนี้ ถ้ายิง เขาก็ไม่มีทางหลบเลี่ยงเช่นกัน
เสียงปืนของจ้าวอี้ทำให้คนหวาดกลัวไปชั่วขณะ น้องชายเหยียนดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าจ้าวอี้จะเด็ดขาดขนาดนี้ สีหน้าซีดขาวยิ่งซีดขาวกว่าเดิมเพราะเสียเื เม้มปากไม่พูดจา
ดูแล้ว เขาไม่ได้คิดอยากตายจริงๆ แต่บีบบังคับจ้าวอี้ให้ยินยอม
“พวกเราใจเย็นก่อนดีไหม? น้องชายเหยียน ให้พี่น้องของนายวางปืนก่อนได้ไหม คนมากมายของนาย?” เฉียนเหล่าลิ่วเป็คนมากประสบการณ์ที่แท้จริง รู้ว่าตอนนี้ฝ่ายหนึ่งต้องยินยอม และฝ่ายของจ้าวอี้คงไม่ยินยอมแน่ นี่เป็ความกังวลถึงชีวิตของตน
น้องชายเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย เหล่าพี่น้องของเขาก็ชี้ปากกระบอกปืนลงด้านล่าง แสดงให้เห็นว่ายังไม่ละทิ้งความระแวดระวังทั้งหมด
“คุณสองคน พวกเขายอมแล้ว ทำแผลให้น้องชายเหยียนก่อนไหม? ไม่อย่างนั้นเสียเืมากเกิน ก็อาจไม่เหมาะสมคุณว่าใช่ไหม?”
จ้าวอี้คิด “ได้ คุณมาทำแผล ทำช้าหน่อย อย่าให้คนอื่นขยับ”
“ยังไม่รีบหาผ้าพันแผลอีก!” เฉียนเหล่าลิ่วยินดีอย่างมาก ยินดีที่ได้ะโใส่ลูกน้องของน้องชายเหยียน
ผ้าพันแผลถูกส่งถึงมือเขาทันที การกระทำของเฉียนเหล่าลิ่วช้ามาก กลัวที่จะปลุกเร้าความสงสัยของจ้าวอี้ ท่าทางเมื่อครู่ของจ้าวอี้ แสดงว่าเมื่อคุกคามพวกเขา แม้ว่าทางเลือกของจ้าวอี้ก็คือพินาศไปด้วยกัน เขาก็จะไม่ใจอ่อน แม้ว่าเฉียนเหล่าลิ่วจะมีความคิดอะไร ใต้สายตาระวังเช่นนี้ของจ้าวอี้ ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร
สองฝ่ายต่างมีความคิดยินยอม บรรยากาศจึงดึกว่าเมื่อครู่อย่างไม่ต้องสงสัย
ทำแผลเสร็จ เฉียนเหล่าลิ่วเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก พูดพลางยิ้มขื่น “ฉันว่า สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ใช่ทางเลือก ไม่งั้นพวกเราสองฝั่งถอยคนละก้าวไหม?”
น้องชายเหยียนคิด พยักหน้า “ได้!”
เฉียนเหล่าลิ่วใบหน้ายินดี “เอาอย่างนี้ น้องชายเหยียนไว้หน้าฉัน พวกเขาปล่อยนาย นายก็ปล่อยพวกเขา นายก็ทำเหมือนพวกเราไม่เคยมาที่นี่ นายว่าเป็ไง? สองท่าน ที่พวกคุณทำก็เป็งานของคุณ ทำไมถึงต้องเอาชีวิตด้วย? อยู่ก็ยังดีกว่าตาย คราวหน้าผมจะให้คุณสองคนยี่สิบล้าน คุณสองคนก็ทำเป็ไม่รู้ข้อมูลของน้องชายเหยียนเป็ยังไง?”
เขาไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย เสนอวิธีที่ดูเป็ไปได้
น้องชายเหยียนตกลง “เพื่อไว้หน้าเฉียนเหล่าลิ่ว ฉันตกลง ปล่อยพวกเขาไป”
เซี่ยตันใจเต้นเล็กน้อย สายตามองทางจ้าวอี้ ตอนนี้ปล่อยพวกเขา ไม่ได้หมายถึงการล้มเลิก แต่คราวหน้าจะมากับกำลังเสริม แล้วค่อยกวาดพวกเขาไม่ให้เหลือ นี่ก็เป็วิธีการอย่างหนึ่ง
จ้าวอี้กลับยิ้ม “วิธีนี้ไม่ได้ผล เกรงว่าน้องชายเหยียนคนนี้จะต้องไปกับเรา วางใจได้ พวกเราไปถึงครึ่งทางก็จะปล่อยเขา ยังไง พวกเราก็ต้องทำ”
พริบตาก็รู้สึกถึงช่องโหว่ จ้าวอี้ใจเด็ดเดี่ยว ตอนนี้ยื้อสถานการณ์ต่อไปมีผลดีกับจ้าวอี้สองคน เพราะเมื่อครู่โทรศัพท์ของเซี่ยตันโทรติดแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้พูด แต่สันนิษฐานว่าเฉินตงได้กำลังเดินทาง ถึงแม้จะไม่โทรไป เฉินตงก็ต้องคิดหาวิธีระบุตำแหน่งของพวกเขาสองคนแน่
ต้องรู้ว่า มาตรฐานของคอมพิวเตอร์ในสำนักงานไม่ต่ำ เครื่องรบกวนนั้นใช้การได้ แต่กลับไม่สามารถบดบังตำแหน่งของทั้งสองคนได้
เพียงต้องใช้เวลา
สีหน้าของน้องชายเหยียนมืดมนลง “พวกแกคิดจะมีชีวิตต่อจริงใช่ไหม?”
“เป็แกที่ไม่ไว้ชีวิตเรา แกคิดว่าพวกเราโง่ขนาดนั้น? ถ้าพวกเราปล่อยแก จะเดินออกจากบ้านได้?” จ้าวอี้ถามกลับประโยคหนึ่ง
น้องชายเหยียนคิดดู วิจารณ์ด้วยจิตใจที่สงบ ถ้าพวกจ้าวอี้ปล่อยตน เขาต้องจัดการสองคนนี้แน่ ความกลัวนี้ก็เป็เื่ปกติ
“ตกลง พวกแกชนะแล้ว ฉันจะไปกับพวกแก เฉียนเหล่าลิ่ว เื่นี้ครั้งหน้าคุณต้องอธิบายกับฉัน ไม่งั้น ลูกพี่ของฉันคงไม่ใจดีแบบฉัน”
เื่ทั้งหมดนี้ อย่างไรก็ตามเป็เพราะความเข้าใจผิดของเฉียนลิ่วเหย คำพูดนี้ออกมา เฉียนลิ่วเหยก็รู้ ว่าน้องชายเหยียนคนนี้ได้เกลียดตนแล้ว
บนหน้าของเขามีความขื่นขม ใครจะคิดว่าผู้เฒ่ามาจะหลอกเขา?
เฉียนลิ่วเหยคิดว่า สองปีมานี้ความสัมพันธ์กับผู้เฒ่าหม่าค่อนข้างดี ใครจะรู้ว่าคนที่เขาแนะนำมาจะสร้างความเสียหายขนาดนี้?
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเื่นี้
ถอยออกจากห้อง จ้าวอี้จับน้องชายเหยียน พูดกับเซี่ยตัน "คุณไปห้องคนขับเถอะ ผมจะดูพวกเขาอยู่ด้านหลัง"
พวกเขา รวมไปถึงเฉียนลิ่วเหย จ้าวอี้ก็ไม่วางใจเขาเช่นกัน
เซี่ยตันชะงัก มองจ้าวอี้ “งั้นนายก็ระวัง”
เธออยากจะพูดว่าเธอจะรับผิดชอบคอยดูอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายมีสามคน ในรถ SUV แคบเล็ก เซี่ยตันคิดว่าจ้าวอี้คงไม่อาจให้เธอต้องพบความเสี่ยง จึงตกลง
พูดได้ว่า สถานการณ์อันตรายเช่นวันนี้ ส่วนใหญ่จะตกไปเป็ความเสี่ยงของเซี่ยตัน
กดดันให้น้องชายเหยียนกับอาหัวขึ้นรถ ขณะนี้ ปากกระบอกปืนของจ้าวอี้ยังคงไม่ออกห่างจากน้องชายเหยียน เพื่อนเขาที่คิดจะขยับ ในที่สุดก็ไม่กล้าหุนหันพลันแล่น
คนขับของเฉียนเหล่าลิ่วไม่ได้ลงจากรถ เซี่ยตันนั่งที่นั่งด้านข้าง ใช้ปืนจ่อไปที่เขา “ปิดเครื่องรบกวน แล้วกลับไป”
แท้จริงแล้วที่นี่คือรังโจร แม้ว่าจะให้เขากลับไป เซี่ยตันก็รับได้ ใครก็ดูออกว่าน้องชายเหยียนเป็หัวหน้า สิ่งที่เขารู้ต้องมากกว่าคนอื่นแน่ ลูกน้องเ่าั้ คราวหลังค่อยจับก็ไม่สาย
“ออกรถ!”
คนขับตัวสั่น รีบออกรถ ความเร็วของรถ SUV ก็เพิ่มขึ้น
ปืนของจ้าวอี้ยังไม่ออกห่าง มืออีกข้างเปิดผ้าม่านออก มองไปทางด้านหลัง เพื่อนของน้องชายเหยียนมีไมตรีจริงๆ ขับรถตามมาติดๆอยู่ด้านหลัง
"อย่าให้คนของนายตามเรามา"
น้องชายเหยียนไม่สนใจคำพูดของจ้าวอี้แม้แต่น้อย พิงเบาะหลังอย่างสบายใจ รินชา ดื่มจิบหนึ่ง “ชาของลิ่วเหยหอมขนาดนี้ รสชาติยังเหมือนเมื่อก่อน”
ในทางกลับกันอาหัวมองจ้าวอี้อย่างโกรธเคือง คำรามเสียงกระด้าง “อย่าแม้แต่จะคิด ถ้าพวกแกไม่ปล่อยเราล่ะ?”
จ้าวอี้หมดคำพูด
ทางแยกแรกของหมู่บ้านไม่ราบเรียบ เมื่อครู่ค่อนข้างสั่นะเื รถเลี้ยวไปเลี้ยวมาค่อนข้างเร็ว ร่างกายจึงโอนเอนภายใต้ความเฉื่อย!
แววตาของน้องชายเหยียนปรายกายความบ้าคลั่ง ทันใดนั้นก็นำน้ำชาสาดไปทางจ้าวอี้!
จ้าวอี้ยิงปืนอย่างไม่รู้ตัว!
เขาไม่ได้หลบ!
นี่เป็ผลจากการฝึกฝน!
ปัง!
ปืนนัดนี้ยิงทะลุหลังคารถ!
ไม่รู้ว่าน้องชายเหยียนส่งสัญญาณให้อาหัวั้แ่เมื่อไหร่ ขณะเดียวกันกับที่น้องชายเหยียนสาดน้ำ ร่างกายของอาหัวก็กระแทกเข้าที่แขนของจ้าวอี้ ะุนัดนี้จึงเปล่าประโยชน์
เฉียนเหล่าลิ่วตัวสั่น ทั้งร่างขดอยู่ตรงนั้น กุมหัว หดตัวเป็ก้อนอย่างสุดความสามารถ หลีกเลี่ยงไม่ให้าเ็ เขาไม่อยากจะประสมโรงกับเื่นี้จริงๆ ตอนนี้ในใจของเขาค่อนข้างเสียใจ!
มือที่ถือปืนของจ้าวอี้กระแทกอย่างแรงที่กระจกรถ ความเ็ปทำให้เขาปล่อยมืออย่างไม่รู้ตัว
อาหัวเหมือนกับคนดื้อดึงทั้งร่างชิดกับตัวจ้าวอี้ ใช้หัวกระแทกเข้าที่หัวของจ้าวอี้อย่างบ้าคลั่ง และน้องชายเหยียน ใช้มือที่สวมกุญแจมือจับแขนของจ้าวอี้ หยุดจ้าวอี้จากการโจมตีกลับ
ไม่พูดไม่ได้ การโจมตี้แบบไม่ทันตั้งตัวของเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จทีเดียว
สักครู่จ้าวอี้ก็ตอบสนองอย่างยากลำบาก หัวก็ถูกกระแทกส่งเสียงหึ่งๆอยู่ตลอด
ทันใดนั้น จ้าวอี้ก็เริ่มโจมตีกลับ
ปืนก็ได้แยกออกจากสายตาของจ้าวอี้ จ้าวอี้ใช้มือเดียวที่สามารถขยับได้ หนึ่งหมัดต่อยเข้าที่ขมับของอาหัว การโจมตีนี้ค่อนข้างรุนแรง อาหัวสะบัดหัว ทั้งร่างไม่สู้ดีแล้ว แต่ยังคงกดอยู่บนตัวจ้าวอี้
“เฉียนเหล่าลิ่ว ถ้าคุณไม่ช่วย ลูกพี่ฉันต้องฆ่าคุณแน่!”
น้องชายเหยียนแค่มอง แล้วะโอย่างเสียสติทันที
ร่างกายของเฉียนเหล่าลิ่วสั่นไหว ราวกับคิดอะไรออก
ขณะเดียวกันจ้าวอี้ก็เรียก “เฉียนเหล่าลิ่ว คุณกิจการใหญ่ขนาดนั้น พวกเราจับคุณอย่างมากก็แค่ติดคุกไม่กี่ปี ถ้าคุณปรากฏตนให้ความช่วยเหลือ ไม่แน่อาจไม่ติดคุกสักปี!”
ตอนนี้ เฉียนลิ่วเหยเป็ตัวแปร!
แม้เขาจะอายุไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดก็ยังเป็ผู้ชายคนหนึ่ง พูดได้ว่า ตอนนี้เขาเป็ตัวแปรสำคัญ!
สักครู่หนึ่ง เฉียนลิ่วเหยจมอยู่ในความลังเล
อาหัวกดจ้าวอี้อย่างสุดความสามารถ มองจ้าวอี้ที่คออย่างใกล้ๆ ในใจปรากฏความคิดที่บ้าคลั่งหนึ่งอย่าง เล็งไปที่คอของจ้าวอี้แล้วกัดเข้าไป
ฟันขาวๆ พกความดุร้ายบ้าคลั่ง เมื่อมองเห็นก็ทำให้จ้าวอี้รู้สึกกลัว
ที่จริงน้องชายเหยียนเกิดการต่อต้านจนถึงตอนนี้ จ้าวอี้ก็ค่อนข้างอยากยั้งมือเพื่อไว้ไมตรี
สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ตอนอยู่กองทัพต่างเป็ทักษะการฆ่าคน ไม่ค่อยได้ัักับการจับกุมเท่าไหร่ ขณะเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จ้าวอี้จึงรู้ดีอยู่แก่ใจ เขาไม่สามารถลังเลได้อีก
หัวค่อยๆก้มลง เล็งกระแทกอย่างแรงไปที่ใบหน้าของอาหัว ขณะนี้ อาหัวที่ถูกกระแทกมีเืไหลจากจมูก ถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว
จุดนี้ ได้กำหนดระยะห่างของ์และนรก
มือข้างหนึ่งของจ้าวอี้ได้รับการปลดปล่อย
มือของเขาเหมือนคีมเหล็กจิกอย่างแม่นยำไปที่คอของอาหัว เส้นเืดำบนคอของอาหัวปูดขึ้นในทันที ใบหน้ากลายเป็สีแดง ลิ้นยื่นออกมา
จ้าวอี้วางแผนจะลงมือฆ่าเขาจริงๆ!
“เฉียนเหล่าลิ่ว! คุณอยากตายเหรอ!”
น้องชายเหยียนโกรธเกรี้ยว ความเล็กแคบของรถ SUV อย่างมากก็สามารถมีเพียงหนึ่งคนที่อยู่เผชิญหน้ากับจ้าวอี้ และน้องชายเหยียนก็ถูกกุญแจมือล๊อคไว้ นี่ตัดสินว่า เขาคุกคามจ้าวอี้ไม่ได้ชั่วคราว แต่เฉียนเหล่าลิ่วยังสามารถ เขาอยู่ที่ด้านข้างของจ้าวอี้ สามารถช่วยอาหัวได้
เหตุผลกลับคืนสู่จ้าวอี้ เขาคิดว่าไม่สามารถบีบคออาหัวจนตาย
เพียงปล่อยมือ อาหัวเริ่มไออย่างรุนแรง กำหมัดของจ้าวอี้ตรงเข้าต่อยไปที่ใบหน้าของเขา คนคนนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งเป็สิ่งที่ไม่อาจล่าถอย ต้องยืนหยัดจัดการต่อไป
เฉียนเหล่าลิ่วะเิทันที!
เขายืนขึ้น สองตาแดงก่ำจ้องไปที่น้องชายเหยียน “ใครให้นายบังคับฉัน!”
พูดแล้วเท้าข้างหนึ่งก็เตะเข้าที่ใบหน้าของน้องชายเหยียน เท้าข้างนี้ ทำให้หางตาของน้องชายเหยียนแตก เืสีแดงสดอาบลงบนหน้าซีดขาวของเขา เท้าข้างต่อไป ประทับลงบนขาที่าเ็ของน้องชายเหยียน เหยียบไปด้วย ปากของเแียนเหล่าลิ่วก็ก่นด่าไปด้วย “ใครให้นายบังคับฉัน! นายให้ฉันไปตาย! ฉันเพียงคิดจะหาเงิน หาเงินมันยากขนาดนี้เหรอ? อย่ามาบังคับฉัน!”
เท้าข้างหนึ่งต่อด้วยอีกข้างหนึ่ง ไม่มีความเมตตาใดๆ เหยียบจนน้องชายเหยียนกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง
เสียงวุ่นวายขนาดนั้นที่ด้านหลัง ด้านหน้าย่อมได้ยินเป็ธรรมดา
"จ้าวอี้!"
เสียงของเซี่ยตันมีความไม่สบายใจ
“ไม่เป็ไร ขับต่อไป!” จ้าวอี้ตอบกลับประโยคหนึ่ง
เขาถอนใจ อาหัวได้ถูกทำให้งุนงง จ้าวอี้เล็งหาโอกาส ทำให้เขาสลบ
“สกุลเหยียน ซื่อสัตย์หน่อย เฉียนเหล่าลิ่ว มีเชือกไหม?”
จ้าวอี้ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย
“มี!”
เฉียนเหล่าลิ่วได้เลือกทางเลือกแล้ว ย่อมไม่อาจลังเลอีก หาเชือกออกมา นำสองคนผูกอย่างแ่า ขณะนี้ พวกเขาได้ซื่อตรงแล้ว
[1] เปรียบเปรย หมายถึงร้อนใจดั่งไฟสุมอก