ตอนที่ 1
วีรกรรมของหวังเทียนอี้ั้แ่วันแรกที่มาเยือนฮ่องกงดังกระฉ่อนกลายเป็ข่าวใหญ่ใน่เวลาเพียงข้ามคืน เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ต่อว่าที่ภรรยาของผู้นำกลุ่มจินหลงว่าประพฤติตนไร้อารยธรรม หักหน้าสามีตัวเองกลางงานเฉลิมฉลอง ในขณะที่ตัวการกลับไม่มีท่าทีเป็เดือดเป็ร้อนแต่อย่างใด
"ห้องนอนของคุณเทียนจะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกนะครับ"
ดวงตาคมสวยกวาดมองตามทิศทางที่บอดี้การ์ดเอ่ยแจ้ง เบื้องหน้าคือคฤหาสน์หลังใหญ่ มีการออกแบบเป็ทรงยุโรปทว่ายังผสมกลิ่นอายจีนดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหล่าคนรับใช้ที่ยืนรออยู่หน้าประตูโถงรีบก้มหน้าให้อย่างนอบน้อมทั้งสีหน้ากระอักกระอ่วน
เสียงรถยนต์ดังตามหลังมาไม่ไกล ก่อนจะจอดลงบริเวณหน้าคฤหาสน์ เทียนอี้ปรายตามองพร้อมกับสีหน้าที่เริ่มบึ้งตึงเมื่อเห็นว่าคนที่ลงจากรถมาเป็ใคร ในขณะที่จางเหวินซานยังคงมีท่าทีเป็ปกติ
ร่างสูงในชุดเสื้อคอจีนสีดำเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ระยะห่างที่ถูกลดทอนลงเป็ผลให้สังเกตุเห็นส่วนสูงที่แตกต่างได้อย่างชัดเจน ถึงแม้เทียนอี้จะมีส่วนสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเิเ ทว่าศีรษะกลับอยู่ถึงเพียงบริเวณริมฝีปากของอีกฝ่ายเท่านั้น
"ห้องนอนที่จองไว้ให้เมื่อคืนนอนสบายดีไหม?"
ห้องนอนที่ถูกกล่าวถึงคือห้องนอนในโรงแรมที่ถูกใช้เป็สถานที่จัดเลี้ยงฉลองเมื่อคืนนี้ แม้จะถูกเขาหักหน้ากลางงานของตนทว่าคนอายุมากกว่ากลับยังจองห้องนอนภายในโรงแรมไว้ให้อย่างใจดี
ทว่าครั้นเมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นเพียงเตียงเล็กๆซ้ำยังต้องนอนบนฟูกแข็งพานให้รู้สึกปวดหลังตลอดทั้งคืน ดูอย่างไรก็รู้ว่ามันคือวิธีการทำโทษกันทางอ้อม...แล้วอย่างนี้ยังจะมีหน้ามาถามถึงความสบายกันอีกหรือไง
"เตียงนอนบ้านฉันที่ปักกิ่งนอนสบายกว่านี้มาก"
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพยายามปรับตัว ทำตัวให้ชิน"
"..."
"เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์เลือกมากขนาดนั้น"
น้ำเสียงนุ่มทุ้มหยุดลงเว้นจังหวะครู่หนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยของผู้ฟังช้อนขึ้นมองสบกันอย่างไม่ชอบใจในรูปประโยค คล้ายกับว่าตัวเขาในตอนนี้เป็ได้เพียงสิ่งไร้ค่าที่ต้องเกาะแขนเกาะขาคนอื่นเพื่อพยุงตัวไปวันๆอย่างไม่มีจุดหมาย
"ที่ต้องมาที่นี่ก็เพราะไม่มีทางอื่นให้ไปแล้วไม่ใช่หรือไง...คงต้องอยู่ที่ฮ่องกงอีกนาน"
น้ำเสียงที่เอากล่าวช่างราบเรียบ ผิดกับผู้ฟังที่เริ่มอารมณ์ร้อนเป็เพลิงกัลป์ คนอายุน้อยกว่าทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ทว่ากลับถูดบอดี้การ์ดจับล็อกตัวไว้ เหวินซานเพียงเหลือบสายตามองครู่หนึ่งก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับผู้ติดตามของตน
"พาอาเทียนไปดูห้อง...แล้วก็เตรียมวัดตัวตัดชุดแต่งงานด้วย"
"ครับนายท่าน"
ร่างสูงเดินกลับหายเข้าไปในตัวคฤหาสน์ เช่นเดียวกับผู้ติดตามและคนรับใช้ที่เดินตามหลังนายของตนไป เหลือเพียงเทียนอี้และบอดี้การ์ดติดตัวอีกหนึ่งคน ฝ่ามือขาวรับกระเป๋าเสื้อผ้ามาถือไว้ด้วยตัวเองก่อนจะโบกมือไล่อีกฝ่ายเบาๆ
"ฉันถือกระเป๋าไปเก็บเอง นายไปพักเถอะ"
ผู้ฟังมีท่าทีอึกอักเล็กน้อยคล้ายกับว่ายังทำหน้าที่ได้ไม่เสร็จสมบูรณ์ ครั้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นายเริ่มขมวดคิ้วมองใส่จึงยอมพยักหน้ารับแล้วเดินแยกออกไปแต่โดยดี เทียนอี้ทอดถอนหายใจกับตัวเองอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะตัดสินใจลากกระเป๋าเดินเข้าประตูไปเพียงคนเดียว
ระยะเวลาผ่านไปั้แ่เช้าจนถึง่หัวค่ำ เทียนอี้ที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันอย่างเบื่อหน่ายครั้นเมื่อผ่านไปหลายชั่วโมงจึงออกมาอีกครั้งพร้อมชุดคลุมอาบน้ำสีดำ ห้องนอนของตนกว้างใหญ่ มีเครื่องอำนายความสะดวกครบครัน กระนั้นประตูห้องน้ำกลับถูกปิดตายเอาไว้ไม่สามารถใช้ได้
คฤหาสน์ตระกูลจางถูกแบ่งออกเป็สองฝั่ง ฝั่งทางปีกทิศตะวันออกคล้ายจะถูกออกแบบให้เป็พื้นที่ส่วนตัว ภาพถ่ายของผู้นำตระกูลั้แ่ยุคแรกเริ่มตราบกระทั่งถึงคนปัจจุบันถูกติดไว้บนผนังระหว่างโถงทางเดิน ปลายเท้าที่ก้าวเดินหยุดชะงักลงที่กรอบภาพสุดท้าย
"ภาพของเฮียมันมีอะไรแปลกหรือเปล่า อาเทียนถึงได้เอาแต่มองมันอย่างนั้น"
เสียงของผู้มาใหม่เป็ผลให้คนที่เอาแต่ยืนเหม่อเผลอสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความใ ร่างสูงของเหวินซานในชุดคลุมอาบน้ำยืนกอดอกพิงผนังอยู่ในระยะไม่ใกล้ไม่ไกล ดวงตาคมสวยฉายแววแข็งกระด้างใส่ทันที
"มาั้แ่เมื่อไหร่"
"ผู้ใหญ่ถามก็ตอบ ไม่ใช่ถามคำถามกลับ...ท่านเฟยฉีไม่ได้สั่งสอนลูกชายคนโตเื่นี้บ้างเลยหรือไง"
แม้จะเป็เพียงการตั้งประโยคคำถามกับตัวเองอย่างเรียบง่าย กลับสามารถทำให้ผู้ฟังโกรธจนเืขึ้นหน้า เทียนอี้กัดฟันเข้าหากันจนสันกรามปูดนูน เดินจ้ำอ้าวพุ่งเข้าใส่พร้อมกับฝ่ามือที่ง้างขึ้นทว่ากลับถูกจับข้อมือรับไว้ได้อย่งพอดิบพอดี
"อย่ามาลามปามเตี่ยฉัน---อึก!"
ข้อมือขาวถูกบีบแรงขึ้นเรื่อยๆจนผู้ถูกกระทำเริ่มเบ้หน้า ดวงตาทั้งสองคู่สบกันแน่นิ่งชั่วขณะหนึ่งก่อนที่ข้อมือจะถูกกระชากเข้าไปหากระทั่งััได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่ตีกระทบใบหน้าจากระยะห่างระหว่างกันที่ลดน้อยลง
"เธอก็เหมือนกัน"
"..."
"อย่ามาลามปามเฮีย เฮียไม่พูดไม่ได้หมายความว่าเฮียชอบพอในสิ่งที่เธอทำ"
เพียงคำพูดประโยคสั้นๆกลับสามารถทำให้ผู้ฟังเข้าใจได้เป็อย่างดี การทำตัวไม่ให้เกียรติสามีนับเป็กิริยาที่หยาบคาย กระนั้นเทียนอี้ก็ยังเป็ว่าที่ภรรยาที่หยิ่งทระนงในตนเอง ไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้ใดแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ดวงหน้าเชิดขึ้นมองสบตาอีกคนพลางแค่นหัวเราะออกมาเสียงขึ้นจมูก
"เหอะ! เดือดร้อนหรือไง?"
"อย่าหาเื่ใส่ตัว เทียนอี้"
ร่างสูงสมส่วนหลุดร้องออกมาเสียงเบาเมื่อข้อมือขาวถูกดึงกระชากเข้าไปหาอีกครั้งกระทั่งปลายจมูกโด่งเกลี่ยกันไปมา ยิ่งพยายามขัดขืนแรงบีบรัดพันธนาการก็ยิ่งทวีคูณขึ้นกระทั่งต้องเป็ฝ่ายยอมอยู่นิ่งให้อย่างจำใจ
"ในตอนนี้เฮียปล่อยให้เธอทำอะไรตามใจได้...แต่ถ้าถึงวันที่เราแต่งงานเข้าห้องหอด้วยกันเมื่อไหร่"
"..."
"นั่นหมายถึงว่าเฮียคือคนปกครองเธอ เป็สามีของเธอ...มีสิทธิ์ที่จะทำโทษหากภรรยาทำตัวพยศ ไม่อยู่ในกฏในกรอบอย่างที่ควรจะเป็"
ฤกษ์ยามที่กำหนดไว้กำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ เทียนอี้ที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระมาตลอดครั้นเมื่อรู้ตัวว่าต้องอยู่ใต้อาณัติของใครอีกคนเรียวคิ้วก็ยิ่งขมวดมุ่นเข้าหากันทั้งสีหน้าบึ้งตึง เกิดความเงียบสงบโอบล้อมรอบกายชั่วขณะหนึ่ง ก่อนริมฝีปากบางจะฉีกแย้มรอยยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง
"ครับ เหล่ากง"
"..."
"ภรรยาคนนี้จะเป็คนดีเชื่อฟังคำสั่งสามีทุกประการ"
บรรยากาศรอบตัวถูกรายล้อมไปด้วยความเงียบสงบชวนอึดอัด รอยยิ้มที่เคยประดับอยู่บนใบหน้าเริ่มจางหายลงไปพร้อมกับคำพูดแข็งกระด้างที่เอ่ยออกมาอีกครั้งอย่างจงใจ
"ถ้าแกจะเอาฉันลงได้ล่ะก็นะ"
!!!
ตึง!
ร่างของคนอายุน้อยกว่าที่พุ่งเข้าใส่ถูกจับรวบไว้ได้อย่างพอดิบพอดี ฝ่ามือหนายกขึ้นจับท้ายทอยของอีกฝ่ายแล้วจับบังคับให้เสี้ยวหน้าดื้อดึงแนบลงกับผนังเย็นชืด ดวงหน้าหล่อเหลาโน้มลงเข้าใกล้ เกลี่ยปลายจมูกโด่งข้างแก้มขาวไปมาทั้งเอ่ยเสียงกระซิบแ่เบาข้างใบหูของอีกฝ่าย
"คิดว่าเฮียเอาเธอไม่ลงเหรออาเทียน"
"..."
"เฮียเอาเธอลงได้นะ"
ลมหายใจของร่างในอาณัติเริ่มถี่กระชั้นขึ้นด้วยความกรุ่นโกรธซ้ำยังพยศหยัก มือข้างซ้ายที่กำอยู่กับกำแพงถูกกอบกุมด้วยฝ่ามือของอีกฝ่าย ั์ตาคมสวยสีน้ำตาลสะท้อนภาพรอยสักและตัวอักษรที่เขาไม่รู้จักประดับอยู่บนหลังมือ ก่อนจะหลุดร้องออกมาอีกครั้งเมื่อแรงบีบบริเวณท้ายทอยเริ่มทวีแรงหนักขึ้น
"อ้ะ!!"
"เอาเธอจนร้องไห้ได้ตาบวมเป็เด็กก็ยังได้...เหล่าผอของเฮียอยากจะลองดูบ้างไหม?"
คำว่าเหล่าผอที่หลุดออกมาจากริมฝีปากของอีกฝ่ายดูจะเป็การพูดถึงสถานะอย่างประชดประชันเสียมากกว่า เสี้ยวหน้าหันกลับไปมองผู้เป็สามีทั้งยังแยกเขี้ยวใส่อย่างไม่ยอมความ ทว่าความเจ็บจากการถูกบีบบริเวณท้ายทอยกลับเป็ผลให้ต้องผินใบหน้าหนีแล้วหลุดสบถหยาบออกมาอีกครั้ง
"แม่ง! ไอ้เวรเอ้ย!!"
"นะ นายท่านคะ...อ่างอาบน้ำพร้อมแล้วค่ะ"
าเล็กๆบริเวณโถงทางเดินถูกหยุดเอาไว้ชั่วคราวโดยสาวรับใช้ที่เดินเข้ามารายงานหน้าที่ของตนพอดี น้ำเสียงหวานของหญิงสาวเริ่มแ่เบาลงซ้ำยังสั่นเครือเมื่อเห็นสภาพของคุณเทียนที่ถูกจิกหลังคอกดหัวกับกำแพงทั้งผ่าคลุมอาบน้ำที่เริ่มไหลร่นลงจนแทบจะเห็นส่วนลับภายใน
"!!!!"
แรงบีบบริเวณหลังคอที่ผ่อนแรงลงเป็ผลให้ผู้ถูกควบคุมได้โอกาส ตัดสินใจดิ้นหนีออกจากพันธนาการก่อนจะกดเขี้ยวฟันกัดบริเวณท่อนแขนของอีกฝ่ายอย่างแรงจนได้ยินเสียงร้องหลุดออกมาเบาๆ ร่างขาวผละกายหนีออกมาพลางยกหลังมือขึ้นเช็ดหยาดน้ำลายที่เปรอะข้างมุมปาก ริมฝีปากบางกระตุกแย้มรอยยิ้มร้ายอย่างอวดดี
"บอกแล้วไง ว่าอย่าพลาด"
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะหยามเหยียดดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศความเงียบสงบที่เข้าปกคลุมรอบกาย เส้นผมที่ลู่ลงปรกใบหน้าถูกเสยไปด้านหลังอย่างลวกๆเผยใบหน้าที่ฉายแววพยศดื้อดึง เหวินซานเพียงเกลี่ยปลายนิ้วโป้งลูบบริเวณแผลที่โดนกัดเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอบสบกัน
"คิดว่าฉันแต่งงานเข้ามาเพื่อเป็ภรรยาที่ต้องปฏิบัติตัวภายใต้การปกครองของใครหรือไง...ไปนอนหลับตาฝันเอาแล้วกันนะเหล่ากง"
คราวนี้คนอายุมากกว่าแค่นหัวเราะเสียงขึ้นจมูก
"เก่งนี่อาเทียน จะปากเก่งกับเหล่ากงได้นานสักแค่ไหนเชียว?"
!!!
ร่างทั้งร่างลอยหวือเมื่อถูกจับอุ้มพาดบ่าอย่างกับตัวเขาเป็กระสอบทราย ยิ่งเห็นหญิงสาวรับใช้คอยยืนมองอยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนก็ยิ่งรู้สึกอับอาย ดวงตาคมสวยเบิกกว้าง ทุบกำปั้นลงกับแผ่นหลังของว่าที่สามีไปหนึ่งทีแล้วเอ่ยกระแทกเสียงถามทันที
"ทำอะไร!!"
"พาหมาไปอาบน้ำ"
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก เบื้องหน้าคืออ่างน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้อย่างดี เทียนอี้ที่มองไม่เห็นทัศนวิสัยใดๆจึงทำได้เพียงขบเม้มริมฝีปากแล้วทุบแผ่นหลังกว้างตรงหน้าไปอีกหนึ่งครั้ง เอ่ยถกเถียงกลับไปโดยไม่รู้สำนึก
"แม่ง! ว่าใครเป็หมาวะ!---"
ตูม!!
"แค่ก!!"
ร่างทั้งร่างถูกปล่อยทิ้งลงอ่างอาบน้ำอย่างแรงจนได้ยินเสียงน้ำกระฉอกไหลล้นจากอ่างดังไปทั่วห้อง เนื้อผ้าคลุมอาบน้ำสีดำไหลร่นลงจากไหล่เผยผิวเนื้อขาวนวลเนียนฉ่ำน้ำ ร่างสูงยังคงยืนนิ่งบิดนวดข้อมือไปมาเพื่อบรรเทาความรู้สึกเมื่อยขบก่อนจะเอ่ยตอบกลับมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่สื่อถึงอารมณ์ใดๆ
"ก็คงจะเป็ตัวที่อยู่ในอ่าง"
ดวงตาคมสีรัตติกาลหลุบลงมองร่างที่นอนแช่อยู่ในอ่างอย่างพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย
"มีเขี้ยวเล็บเยอะ กัดเจ็บพอตัว"
"..."
"คงจะต้องจับตัดเล็บหักเขี้ยวสักที จะได้ไม่ไปก่อเื่ที่ไหนอีกให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล"
"ไอ้เวร"
"ปากดี"
มวนซิการ์ในมือถูกชี้ใส่หน้าคนที่ยังคงนอนแช่น้ำอยู่ในอ่าง น้ำเสียงที่เริ่มกดต่ำลงบ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้พูดที่เริ่มคุกรุ่นจากนิสัยดื้อดึงซ้ำยังพยศหนักของอีกฝ่าย ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงบ มีเพียงเสียงจุดไม้ขีดไฟพร้อมทั้งประกายไฟที่จุดติดบริเวณปลายมวนที่ถูกตัดส่วนหัวออกแล้ว
เสียงสูดหายใจดังขึ้นเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลากดลงเล็กน้อยพลางพ่นลมหายใจออกให้กลุ่มควันสีหม่นลอยขึ้นสู่อากาศ กลิ่นสารเสพติดลอยอบอวลผสมกับกลิ่นหอมจากเครื่องหอมจีนในอ่างอาบน้ำอย่างลงตัว นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นดูเพื่อจับเวลา ก่อนที่น้ำเสียงทุ้มนุ่มจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"ให้เวลายี่สิบนาที...คืนนี้เราต้องออกไปคุยเื่งานแต่งงานด้วยกัน"
คราวนี้ผู้ฟังกระตุกแย้มรอยยิ้มร้ายกาจ ขยับริมฝีปากเอ่ยถามยอกย้อนคนที่นั่งเฝ้าอยู่บริเวณเก้าอี้ริมอ่างอย่างนึกกวนประสาท
"ถ้าไม่ไปล่ะ? จะอกแตกตายไหม?"
"ใคร เธอน่ะเหรอ"
ซ่า!!
"แค่ก!!!"
น้ำอุ่นจากฝักบัวไหลท่วมลงมาห่าใหญ่ เทียนอี้ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเผลอสูดลมหายใจเข้าสำลักน้ำไปเต็มๆ ในขณะที่ผู้มองเพียงนั่งเอนแผ่นหลังพิงกับกำแพงอย่างผ่อนคลาย ยกนาฬิกาขึ้นบอกเวลาที่เริ่มลดหลั่นลงไปเรือยๆ
"เหลืออีกสิบเก้านาที"
"จะจับเวลาให้มันได้อะไรขึ้นมา!?"
"สิบเก้านาทียี่สิบวินาที"
นอกจากจะไม่ตอบคำถามแล้ว ยังเอ่ยบอกเวลาต่อไปเรื่อยๆเพื่อเป็การกดดันกัน ครั้นเมื่อเห็นคนในอ่างอาบน้ำยังคงปั้นสีหน้าดื้อดึงจ้องมองมาที่ตนจึงโน้มใบหน้าลงเข้าไปหา มวนซิการ์ถูกคีบออกมาพร้อมกับควันสีหม่นที่ถูกพ่นออกมาจากริมฝีปาก บดบังทัศนวิสัยระหว่างกัน
"จะอาบเอง หรือจะให้เฮียลงไปอาบให้เธอ?"
ชุดคลุมอาบน้ำสีดำที่แช่แนบกับผิวเนื้อถูกเรียวนิ้วดึงกระตุกเบาๆ ดวงตาทั้งสองคู่สบกันแน่นิ่งท่ามกลางความเงียบสงบที่เข้าโอบล้อมรอบกาย
"ถ้าให้ลงไปอาบให้ ก็ไม่แน่ว่าอาเทียนจะได้ขึ้นจากอ่างในสภาพไหนเหมือนกัน"
"จะจับหัวถ่วงน้ำกันหรือไง"
"ถ้าเธอยังเอาแต่ต่อปากต่อคำกันแบบนี้...เฮียอาจจะต้องลงไปอาบให้เธอจริงๆ"
ร่างสูงคีบมวนซิการ์ขึ้นสูบอีกเป็ครั้งสุดท้าย ก่อนจะวางลงกับขอบอ่างอาบน้ำแล้วจึงหยัดกายลุกขึ้น ไม่วายยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองเพื่อบอกเวลาที่เหลืออยู่อีกเป็ครั้งสุดท้าย
"เหลืออีกสิบแปดนาที"
ผ้าม่านถูกปิดให้บดบังทัศนวิสัยจากภายนอกพร้อมกับผู้เป็ว่าที่สามีที่เดินออกไป เปิดโอกาสให้คนในอ่างได้ชำระร่างกายอย่างเป็ส่วนตัว เทียนอี้แต่ได้ตีมือกับน้ำในอ่างเป็การระบายอารมณ์ทั้งเรียวคิ้วที่ยังขมวดมุ่นเข้าหากันแน่นโดยไม่มีท่าทีจะคลายออกง่ายๆ
....
"อะไร?"
ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา ภาพเบื้องหน้ากลับทำให้ผู้มองทำหน้ายุ่งหนักกว่าเดิม เหล่าหญิงรับใช้ยืนเรียงรายกันเป็แถว ในมือถือถาดหยกที่วางบรรจุบรรดาเข็ม เทียน น้ำหมึกอินเดียและอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมายที่ถูกจัดวางอยู่บนภาชนะอย่างปรานีตบรรจง
"อุปกรณ์สักค่ะคุณเทียน"
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างประหม่า มือที่ถือถาดหยกเริ่มสั่นแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ครั้นเมื่อยังไม่รับคำพูดเอ่ยตอบกลับจึงกล่าวเสริมประโยคขึ้นมาอีกครั้ง
"ทุกคนที่เข้ามาเป็สมาชิกกลุ่มจินหลงจะต้องสักลัญลักษณ์ของกลุ่มลงไป---"
"ฉันไม่สัก" เอ่ยปฏิเสธอย่างหนักแน่นชัดเจนแล้วก้าวขาเตรียมจะเดินออกไป นอกจากการดื่มชาจีนแล้ว การที่ต้องทิ่มเข็มลงบนผิวเนื้อของตนเองนับเป็สิ่งที่เทียนอี้เกลียดที่สุด ต่อให้ต้องค้านหัวชนฝาอย่างไรก็ไม่มีทางยอมทำอะไรพวกนี้อย่างแน่นอน
"แต่คุณเทียนคะ"
"..."
"หน้าที่ของพวกเราคือต้องสักให้คุณเทียนจนเสร็จ"
ปลายเท้าที่ก้าวเดินหยุดชะงักลงกะทันหัน พร้อมกับร่างสูงสมส่วนที่หันหลังกลับมามองแล้วพูดตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทำเอาผู้ฟังที่ยืนอยู่หน้าเสียกันเป็แถบๆ
"เป็ปัญหาของฉันหรือไง?"
ครั้นเมื่อหันหน้ากลับจะเดินออกนอกประตูอีกครั้งกลับพบร่างของใครอีกคนที่ยืนกอดอกพิงผนังมองดูอยู่อย่างเงียบๆ จางเหวินซานเดินเข้าไปแย่งถาดหยกในมือของหญิงสาวมาถือเองก่อนจะเอ่ย
"ฉันทำเอง พวกเธอออกไปให้หมดแล้วก็ปิดประตูไว้ด้วย...ยืนรออยู่หน้าห้อง เผื่อต้องเรียกให้ช่วยอะไร"
เหล่าคนรับใช้รีบก้มหน้าโน้มตัวรับคำแล้วรีบเดินออกไปตามคำสั่งแต่โดยดี ไม่ลืมปิดประตูลงกลอนให้อย่างมิดชิด ครั้นเมื่อภายในห้องเหลือสมาชิกอยู่เพียงสองคน ผู้เป็ว่าที่ภรรยาก็แผลงฤทธิ์ทันที
"ฉันไม่สัก"
"มันเป็กฏ"
"บอกว่าไม่ไง---"
!!!
ร่างที่วางแผนเตรียมจะเดินหนีกลับถูกคว้าเอวเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที ส่วนบริเวณท้ายทอยถูกจับไว้มั่นพร้อมกับใบหน้าที่ถูกกดลงจนแนบกับเคาน์เตอร์หน้ากระจก ยิ่งเห็นเข็มสักที่ถูกถืออยู่ในมือของอีกฝ่าย ั์ตาคมสวยก็ยิ่งเบิกกว้างขึ้น
"เหวินซาน บอกว่าไม่สักไง!"
"ลองเรียกเหล่ากงแบบไม่ประชดประชันดูสักครั้ง เฮียอาจจะลองเก็บไปคิดดู"
"ฝันอยู่หรือไง?--โอ๊ย!!!"
ชุดคลุมอาบน้ำถูกดึงกระชากลงเผยแผ่นหลังขาวเปลือยเปล่า ปลายเข็มจิ้มลงบนผิวเนื้อบริเวณกระดูกสะบักเบาๆ เท่านั้นก็ประสิทธิภาพมากพอทำให้ร่างใต้อาณัติหลุดร้องออกมาทั้งสีหน้าที่เริ่มฉายแววพยศอย่างสุดกำลัง ผู้นำกลุ่มจินหลงถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆก่อนจะเอ่ยถามกลับไป
"ร้องได้ แปลว่าไม่ได้ฝันอยู่หรอกใช่ไหม"
"ไอ้เวรเอ้ย!"
"เหล่ากง"
"..."
"เหล่ากง...เทียนอี้สัญญาว่าจะทำตัวเป็เด็กดี จะไม่ดื้อกับเหล่ากงอีก...ไหนลองพูดสิ"
"เหอะ!" แขนทั้งสองข้างถูกอีกฝ่ายดึงไปจับไขว้หลังพันธนาการไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว เสี้ยวหน้าที่แนบอยู่กับเนื้อหินอ่อนเย็นชืดหันมองผู้ที่กำลังถือไพ่เหนือกว่าก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาอย่างไม่ยอมความ
"ถ้าอย่างนั้นก็ลองสักตัวอักษรจีนดูสักคำ"
"เหล่ากง!"
"คนจีนทางเหนือเขาเรียกสามีกันด้วยน้ำเสียงฝืดหูแบบนี้กันทุกคนเลยหรือเปล่า?"
ไอ้บัดซบนี่...
"...เหล่ากง"
แม้จะรู้สึกอยากเอาชนะมากเพียงใด ทว่าหวังเทียนอี้ในตอนนี้กลับถูกต้อนให้กลายเป็ผู้แพ้อย่างเต็มรูปแบบ ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าน้ำเสียงของตนที่ใช้เอื้อนเอ่ยช่างอ่อนหวานเสียจนไม่น่าเชื่อ
"เทียนอี้สัญญา...ว่าจะทำตัวเป็เด็กดี"
ดวงตาสีน้ำตาลคมสวยตวัดช้อนขึ้นมองสบกับผู้เป็ว่าที่สามีผ่านกระจกบานใหญ่ ั์ตาที่ถูกเติมเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีแม้จะถูกไล่ต้อนให้จนตรอกกลับทำให้ผู้มองเผยแย้มรอยยิ้มบางๆอย่างพึงพอใจ
"จะไม่ดื้อกับเหล่ากงอีก"
"..."
!!!
มือทั้งสองข้างที่ถูกกอบกุมพันธนาการไว้ถูกปลดปล่อยให้เป็อิสระ เทียนอี้ครั้นเมื่อสบโอกาสจึงข่วนปลายเล็บลงกับหลังมือประดับรอยสักของอีกฝ่ายทันที ยิ่งเห็นว่ามีเืไหลซิบออกมาด้วยฝีมือของตนก็ยิ่งกระตุกยิ้มร้ายอย่างคะนองตน ตวัดสายตาช้อนขึ้นมองสบสายตากับบุคคลด้านหลังผ่านกระจก
"แต่ไอ้แผลบนมือนี่...เทียนอี้ไม่นับว่าห้ามทำ--อึก!"
ร่างทั้งร่างถูกพลิกกลับให้เอนหงายลงบนเคาน์เตอร์หน้ากระจก ร่างสูงโน้มกายเข้ามาใกล้กระทั่งเห็นกล้ามเนื้อภายใต้ร่มผ้า รวมถึงรอยสักที่ประดับอยู่เต็มบริเวณอกข้างซ้าย ดวงหน้าถูกจับบังคับให้แหงนเชิดขึ้นพร้อมกับปลายคางที่ถูกบีบแรงขึ้นจนต้องแอบเบ้หน้าหนีด้วยความรู้สึกเจ็บ
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเริ่มคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำตา กระนั้นก็ยังยกมือขึ้นมาจิกเล็บลงกับท่อนแขนของร่างเหนืออาณัติอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
"เทียนอี้"
"..." จางเหวินซานแค่นยิ้มหัวเราะเสียงต่ำ
"เธอนี่มันอวดดีหาใครเปรียบไม่ได้เลยจริงๆ"
...
"เอาเธอจนร้องไห้ได้ตาบวมเป็เด็กก็ยังได้...เหล่าผอของเฮียอยากจะลองดูบ้างไหม?"
- จางเหวินซาน -
...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้