ะเิชีวเคมีไม่ใช่ะเิธรรมดา มันจะสร้างความร้อนที่รุนแรงจากการะเิที่มีรัศมีขว้างขวางเนื่องจากมันใช้ไวรัสชนิดพิเศษของพวกแบคทีเรีย และจุลินทรีย์หลายชนิดเมื่อมันะเิมันจะกระจายออกไปในทุกทิศทาง และรุกรานเข้าสู่ร่างกาย
ยาพิษชนิดนี้มักจะทำให้คนยอมตายดีกว่ามีชีวิตอยู่แม้ว่าพวกเขาจะพยายามรักษามัน พวกเขาก็ไม่อาจรักษามันให้หายได้อย่างถาวรและจะต้องอยู่อย่างทรมานจากอาการเจ็บป่วยไปชั่วชีวิตมันเป็อาวุธไร้มนุษยธรรมที่ถูกห้ามใช้ไปทั่วโลก
เสียงในโทรศัพท์ฟังดูหยิ่งทะนงแต่ความหยิ่งทะนงนี้ก็สามารถทำให้ทุกคนหมดสิ้นหนทาง เพราะทุกคนย่อมหวาดกลัวต่อความตายด้วยกันทั้งนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตายด้วยความทุกข์ทรมาน!
“ในเมื่อแกยังไม่สั่งะเิที่นี่ั้แ่แรกดังนั้นแกมีเป้าหมายอะไรก็พูดมา!” หลี่เต๋อเซินะโกร้าว
เสียงในโทรศัพท์นิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านประธานหลี่ยังเก่งอยู่เหมือนเดิมนะครับสิ่งที่ผม้าก็แค่เงินจำนวนยี่สิบล้านหยวนภายในคืนนี้ ง่ายมากใช่มั้ยล่ะครับ”
“แก้าเงินหรือ?” หลี่เต๋อเซินเหลือบมองไปที่ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาหลายคนดูเหมือนจะหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งหมดนี้คนคนนี้แค่้าเงินดังนั้นจึงยังมีโอกาสที่จะไกล่เกลี่ยสถานการณ์
“ตระกูลหลี่ที่รวยมหาศาลแค่ยี่สิบล้านน่าจะง่ายจริงมั้ย? ผมสามารถควบคุมสถานการณ์ภายในวิลล่าได้ตลอดเวลาหากพบว่าคุณกล้าโทรหาตำรวจ รวมตัวกันออกจากวิลล่า ผมจะสั่งให้ะเิทำงานทันที...”
หลี่เต๋อเซินระงับความโกรธของเขาไว้ “แค่พูดน่ะมันง่าย ถึงเราจะมีเงินยี่สิบล้านจริงๆแต่มันก็ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ฉันตกลงที่จะจ่ายเงินจำนวนยี่สิบล้านนี้ฉันหวังว่าแกจะทำตามที่พูด แก้าให้ฉันโอนเงินหรือถอนเงินสดให้?”
"โอนเหรอ!? คุณคิดว่าผมโง่หรือคุณโง่เองกันแน่? ผม้าเงินสดภายในหนึ่งชั่วโมงส่งมันไปที่คลังสินค้าที่สามของท่าเรือจินเจ๋อวานจะต้องเป็ท่านประธานหลี่หรือคุณชายรองเป็คนส่งมอบของเท่านั้นหากเป็คนอื่นผมจะกดปุ่มะเิทันที! นอกจากนี้ ถ้าผมเห็นเ้าหน้าที่ตำรวจล่ะก็ผมก็จะกดะเิทันทีเช่นเดียวกัน!” พอสิ้นสุดเสียงสายก็ถูกตัดไป
หลายคนในตอนนี้อ้าปากค้างผู้ก่อการร้ายคนนี้เรียกร้องให้คนในตระกูลหลี่เป็คนนำเงินไปให้นี่เป็การเรียกค่าไถ่หรือ? นี่มันเป็การเรียกร้องเอาชีวิตชัดๆ
“พ่อครับ เราควรทำตามที่มันสั่ง”หลี่มู่หัวพูดสีหน้าจริงจัง
หลี่เต๋อเซินถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าเื่นี้เราไม่ควรเสี่ยงเราต้องส่งเงินออกไป”
แขกคนสำคัญของ Twilight Villa มีอย่างน้อยร้อยกว่าคนถ้าแม้แต่หนึ่งหรือสองคนถูกฆ่าตายด้วยะเิชีวเคมีเื่แบบนี้มันจะต้องไม่เกิดขึ้น ตระกูลหลี่ไม่ควรมาเสี่ยงแบบนี้!
ในเวลากลางดึกเช่นนี้ทุกได้ยินเสียงลูกชายตระกูลหลี่คนโตจากที่ไกลๆ แหกปากะโด้วยเสียงอันดังว่า “ออกไป! ออกไป! ไปให้พ้น! ปล่อยฉันฉันจะไปหาพ่อ!”
หลี่มู่เฉิงใส่ชุดนอนร้องโหวกเหวกโวยวายขึ้นในขณะที่เซไปเซมา เขาล้มลงต่อหน้าหลี่เต๋อเซินและร้องไห้ฟูมฟายด้วยความหวาดกลัว “พ่อครับ!ผมได้ยินใครบางคนบอกว่ามีะเิเคมีในวิลล่าหรือครับ!? นี่เป็ความจริงหรือเปล่า?”
“ฮึ่ม แกกลัวกับอีแค่ะเิงั้นหรือ?น่าสมเพช!” หลี่เต๋อเซินพูดด้วยความโกรธ
หลี่มู่เฉิงมีใบหน้าที่ซีดเผือด
“พ่อพ่อต้องไปหาวิธีที่จะจัดการกับมันนะ ผมยังอายุน้อย ผมยังไม่อยากตาย! ฮือๆ...”
ขณะที่กำลังพูดคุย หลี่มู่เฉิงก็ร้องไห้คร่ำครวญออกมาจริงๆ
“ขี้ขลาด… งี่เง่า...นอกจากร้องไห้แล้ว แกทำอะไรได้อีกมั้ย?” หลี่เต๋อเซินโกรธเป็อย่างมากตอนนี้เป็่หัวเลี้ยวหัวต่อ และลูกชายยังทำตัวแบบนี้นี่จะไม่ให้เขาโมโหได้ยังไงกัน!?
“ผมกำลังจะตายผมร้องไห้ไม่ได้หรือครับ? ฮือๆ...” หลี่มู่เฉิงมีทั้งน้ำมูกและน้ำตาไหลพรากออกมา เป็สภาพที่ดูน่าเกลียดเป็ที่สุด
หลี่เต๋อเซินไม่สามารถทนมองลูกชายคนโตผู้นี้ได้อีกเขาโบกมือให้บอดี้การ์ดแล้วพูดว่า “เอาสิ่งไร้ประโยชน์นี้กลับไปที่ห้องของมัน!”
บอดี้การ์ดเ่าั้เดินเข้ามาทันทีหลี่เิเป็บอดี้การ์ดส่วนตัวของหลี่มู่เฉิง มันช่วยอุ้มเขาขึ้นมาและพาตัวหลี่มู่เฉิงออกจากห้องน้ำชาอย่างรวดเร็วแต่เสียงะโของเขายังคงได้ยินเป็ระยะๆ
หลี่มู่หัวเฝ้าดูพี่ชายของเขาถูกลากออกไปจากนั้นถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม และพูดว่า
“พ่อครับให้ผมเป็คนไปส่งเงินเถอะครับ”
“แกหรือ?” หลี่เต๋อเซินขมวดคิ้ว“ไม่มีทาง ในอนาคตแกยังจำเป็ต้องเป็ผู้นำมู่หยุนคอร์ปอเรชั่นตระกูลหลี่จะเสียแกไปไม่ได้ในขณะที่พี่ชายผู้ไร้ประโยชน์ของแกไม่สามารถหวังอะไรได้เลยนี่จึงเหลือเพียงกระดูกใกล้ผุพังอย่างฉันเท่านั้นมันจะดีกว่าถ้าฉันเป็คนส่งเงินด้วยตัวเอง”
“ไม่มีทาง!” หลี่มู่หัวพูดอย่างจริงจังว่า“พ่อ เื่อื่นๆ ผมเชื่อฟังพ่อนะ แต่ไม่ใช่เื่นี้ในฐานะลูกชายของพ่อถ้าผมเห็นพ่อเผชิญหน้าเข้าสู่อันตรายอย่างนี้โดยไม่สามารถหยุดพ่อได้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อ ผมจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปยังไง!”
“เ้าโง่เอ๊ย! แกเรียงลำดับความสำคัญไม่ได้หรือไง!?”
หลี่มู่หัวคุกเข่าลงกับพื้นโดยไม่ลังเลและสายตามุ่งมั่นจ้องเขม็งไปที่หลี่เต๋อเซินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น “พ่อครับไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพ่อที่อยู่ในใจของผม!”
ณ จุดนี้ ทุกคนเงียบกริบคำพูดของหลี่มู่หัวตรงเข้าไปในจิตใจของทุกคน หลี่มู่หัวไม่ใช่แค่ซีอีโอหนุ่มที่มีพร์และชาญฉลาดเขาไม่ได้เป็เพียงผู้สืบทอดตระกูลอันยิ่งใหญ่นี้เท่านั้นแต่เขายังเป็ลูกชายที่เต็มไปด้วยความเรียบง่าย และตรงไปตรงมา
ถึงแม้หลี่เต๋อเซินจะวางท่าทีที่เข้มงวดจริงจังอยู่เสมอแต่การได้ฟังลูกชายคนโปรดของเขาเอ่ยคำเหล่านี้ เขาก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้
“ไอ้ตัวน้อยของพ่อ...อย่าคุกเข่าอีกเลย” หลี่เต๋อเซินถอนหายใจแรงเหมือนคนอายุมากแต่แล้วใบหน้าย่นๆ ของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกปลื้มปริ่ม
“พ่อครับ ถ้าพ่อไม่ปล่อยให้ผมไปผมก็จะไม่ลุกขึ้น” หลี่มู่หัวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่และชัดเจน
หลี่เต๋อเซินหัวเราะเบาๆ ว่า “พ่ออายุมากแล้วแต่ใจของพ่อยังชัดเจนอยู่ แม้ว่าพ่อจะไม่ปล่อยให้แกไปเดี๋ยวนี้แน่นอนแกคงหาวิธีไปที่นั่นจนได้ แกไม่เคยทำให้ฉันลำบากใจเหมือนพี่ชายของแกแต่แกก็ยังทำให้ฉันต้องกังวลจนได้ ไม่เป็ไร... ฉันจะเชื่อฟังแกละกัน พ่อจะส่งแกไป”
หลี่มู่หัวสูดลมหายใจด้วยความโล่งอกเขายืนขึ้นและพูดว่า “ขอบคุณครับพ่อผมจะได้ให้คนเตรียมเงินยี่สิบล้าน และส่งมันด้วยตัวผมเอง”
“เอ...” หลี่เต๋อเซินเอื้อมมือออกไปและคว้ามือหลี่มู่หัวไว้ เขาบีบมือคู่นั่นอย่างแน่นแฟ้น “จำไว้นะตราบใดที่หนึ่งคนยังมีชีวิตอยู่ เขาจะยังคงมีทุกอย่าง อย่าทำอะไรวู่วาม!”
“ผมเข้าใจครับ”
เมื่อทุกคนได้เห็นเหตุการณ์นี้พวกเขาทั้งสุขใจและทุกข์ใจกับพวกเขาสำหรับหลี่เต๋อเซินที่มีลูกชายที่แสนประเสริฐเช่นนี้นับเป็มรดกที่มีค่าที่สุดของตระกูลหลี่ แต่ก็เป็ที่น่าเสียดายที่อาชญากรคนนี้ทำสิ่งที่น่ากลัวและบังคับให้ตระกูลหลี่ต้องเสี่ยงเช่นนี้
ในเวลาเดียวกัน หลายคนก็เสียใจว่าทำไมลูกๆของตระกูลหลี่ หลี่มู่เฉิง พี่ชายของหลี่มู่หัวไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยแม้แต่น้อยแถมยังสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นอีก!?
“ทุกคนครับ โปรดกลับไปที่ห้องพักก่อนเถอะครับเราต้องไม่ปล่อยให้แขกคนอื่นแตกตื่น แกล้งทำเป็ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!” หลี่มู่หัวส่งคำสั่งออกมาด้วยความเฉียบขาดให้กับพนักงานของตระกูลหลี่ทุกคน
พนักงานตอบรับด้วยความพร้อมเพรียงกันชัดเจนว่าสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่จะทำได้คือแกล้งทำเป็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมิฉะนั้นถ้าแขกใ คนร้ายอาจใช้ะเิ!
หลังจากที่พนักงานเหล่านี้ออกจากห้องไปแล้วหลี่เต๋อเซินก็พาบอดี้การ์ดของเขาออกจากห้องน้ำชา เขาไว้ใจลูกชายของเขาและทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขานี่เป็ข้อความที่เห็นได้ชัดถึงหลี่มู่หัวว่าเขาต้องมีชีวิตอยู่!เพราะเขาเป็อนาคตของตระกูลหลี่!
หลี่มู่หัวสูดหายใจลึกๆ เพื่อสงบจิตใจของเขาแล้วค่อยๆ พูดกับหยางเฉินและคนอื่นๆ
“ทุกคนครับผมไม่เคยคิดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะดึงดูดปัญหามากมายผมไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก คนร้ายในครั้งนี้อาจเป็วิธีการของตระกูลซู ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาทำแบบนี้ แต่โชคร้ายที่พวกเขาทำสำเร็จ”
“บอสหลี่ครับ คุณจะไม่ไปจริงๆได้มั้ย!? นี่เป็การเดินไปสู่ความตายโดยไม่ได้รู้ว่าคุณจะตายยังไงเลยนะ!”อู๋เต๋าอาจจะขี้ขลาด แต่เขาก็ไม่โง่ และพยายามเกลี้ยกล่อมหลี่มู่หัว
โม่เชี่ยนนีพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมคิ้วที่ยกขึ้นเธอพูดว่า “ฉันว่าคุณควรแจ้งตำรวจฮ่องกงหรืออะไรบางอย่างที่เหมือนหน่วยฝูงบินไทเกอร์นะฝูงบินไทเกอร์ส่งเงินอย่างนี้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ คิดไปก็ไม่ช่วยอะไรคุณอาจกลายเป็ตัวประกันของอาชญากร และพวกเขาจะยังคงรีดไถเงินต่อไปเรื่อยๆ”
“ทุกคนหยุดให้ความเห็นที่ขาดความรับผิดชอบสักทีเถอะครับ”หยางเฉินกล่าวในขณะกำลังยืดเอวในท่าทางที่สบายๆ ของเขา “ในสถานการณ์ปัจจุบันของเรา เราจะเสี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะเป็การยืนยันจุดที่ะเิถูกซ่อนอยู่หรือถอยออกจาก Twilight Villa ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คนร้ายไม่ทราบตำแหน่งที่ชัดเจนของเราตอนนี้ดูเหมือนว่าคนร้ายมีสายลับคอยรายงาน
ทุกการเคลื่อนไหวของเราที่นี่ บางทีคนคนนั้นอาจจะอยู่ท่ามกลางพวกเรา และสามารถที่จะแอบแจ้งคนร้ายได้ตลอดเวลาตราบใดที่เราทำทุกอย่างที่ขัดกับความประสงค์ของคนร้าย ทุกคนจะต้องตายอย่างน่าอนาถดังนั้นการที่คุณชายหลี่เป็คนส่งเงินเป็ทางออกเดียว”
หลี่มู่หัวฝืนยิ้ม “การวิเคราะห์ของคุณหยางมีความแม่นยำมากเราไม่มีทางเลือกอื่น”
“อย่างไรก็ตามรุ่นน้องหลี่คุณไม่ต้องกังวลไปนะครับ” หยางเฉินเรียกหลี่มู่หัวว่า“รุ่นน้องหลี่” อย่างเป็กันเอง และพูดว่า“เนื่องจากคนร้ายเลือกที่จะเรียกค่าไถ่ นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้มีความสนใจในชีวิตของเรามากนักไม่อย่างนั้นเขาจะถามถึงเงินหลายร้อยล้านเพื่ออะไร เราไม่จำเป็ต้องไปส่งเงินเพราะมันเป็ไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเตรียมเงินมากในขณะนั้นเราอาจจะกำลังรอความตายที่กำลังจะเข้ามาอยู่นะ”
“ผมก็คิดเช่นนั้นมันคงดีที่สุดถ้าคนร้ายไม่ได้ถูกส่งมาโดยตระกูลซู วิธีนี้มันคงอันตรายเกินไปสำหรับผมพวกเขาอาจจะทำอะไรเกินเลยหลังจากที่ได้รับเงินไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามจินเจ๋อวานอยู่ใกล้น่านน้ำระหว่างประเทศ” หลี่มู่หัวคิดตาม
เขานิ่งคิด และพูดว่า “อันที่จริงแล้วผมได้เทควันโดสายดำนะถ้าพวกเขามีไม่มากและไม่ได้พกปืน ถ้าพวกเขาจะทำร้ายผม ก็คงไม่ใช่เื่ง่ายนักซึ่งผมสามารถพกอาวุธได้”
ด้วยคำพูดที่ออกมานั้นทุกคนได้ตอบสนองความรู้สึกชื่นชมของพวกเขากลับไปพวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีเื่ราวมากมายในการวิเคราะห์เื่นี้
โม่เชี่ยนนีมองไปที่หยางเฉินอย่างประหลาดใจขณะนี้เขากำลังดื่มชาที่เย็นชืดลงแล้ว โดยไม่มีเศษเสี้ยวของความเย่อหยิ่งหรือ
ใจร้อน...
ดูเหมือนหลัวซีไม่ได้เลือกให้หยางเฉินทำหน้าที่เป็ตัวแทนของการเจรจาแต่เพียงอย่างเดียวแน่นอน…โม่เชี่ยนนียิ้มเบาๆ ขณะที่กำลังคิด
เมื่อตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว นอกเหนือจากหลี่มู่หัวผู้คนที่เหลือก็แยกย้ายกันกลับไปที่ห้องพักของตัวเองเพื่อรอข่าวหลังจากที่คนร้ายพูดไว้ว่าถ้าเขาสังเกตเห็นฝูงชนหลบหนีออกมา เขาจะกดะเิใครจะรู้บ้างว่าคนร้ายมีกี่คน? แต่คิดดูดีๆ แล้วไม่อยากรู้น่าจะดีกว่า
หยางเฉินและโม่เชี่ยนนีเดินกลับไปที่ห้องของพวกเขาด้วยกันเมื่อพวกเขาอยู่บนทางเดินที่ไปยังห้องพัก หยางเฉินก็หยุดฝีเท้าลงกะทันหันเขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ใจผมมันยังเรียกร้องว่าจะหลับผมจะไปที่บาร์ในรีสอร์ตเพื่อจะดื่มสองสามแก้วก่อนนอน คุณกลับไปก่อนได้เลยนะ”พอพูดจบ เขาหันหลังกลับ และเดินจากไป
โม่เชี่ยนนีหันไปจ้องมองแผ่นหลังที่ค่อยๆห่างออกไปของหยางเฉิน ความสงสัยในการกระทำของเขาปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ