เหลียนเซวียนยืนอยู่กลางสระน้ำ ลาดไหล่กว้างกล้ามเนื้อเป็มัดได้สัดส่วน ผิวของเขาค่อนข้างซีดขาว เรือนผมดำดุจน้ำหมึกแนบลู่ไปบนแผ่นหลัง หยาดน้ำเม็ดใหญ่ๆ หยดพราวจากจอนผมลงบนแผงอกเปลือย
ยามโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำ จึงพบว่านางก็อยู่ที่นั่น
เขาเอี้ยวศีรษะไปมอง สตรีผู้นั้นยืนอยู่บนโขดหิน ริมฝีปากรูปผลอิงเถาเผยอค้างเล็กน้อย ท่าทางตะลึงลานอยู่กับที่
เหลียนเซวียนกดตัวลงไปเงียบๆ เพื่อปิดบังส่วนที่ควรสงวนไว้
ก่อนหน้านี้ เขาขึ้นไปที่สูงเพื่อตรวจสอบเบาะแสของศัตรู ยามกลับมาถึงลำธาร เห็นนางดมเสื้อของของเขาหลังจากนั้นก็ทำหน้าสะอิดสะเอียนแล้วหยิบไปซักที่ข้างลำธาร
เหลียนเซวียนก้มลงมองสภาพของตนเองทันที ทั้งเนื้อตัวมีแต่เหงื่อเหม็นเปรี้ยว
ครั้นแล้วจึงย้อนกลับมาข้างสระน้ำ คิดจะล้างเนื้อตัวให้สะอาด ใครจะรู้ว่านางจะตามมาพบเร็วเพียงนี้
"เหลียนเซวียน เหตุใดลงไปแช่ในสระเช่นนั้นเล่า" เซวียเสี่ยวหรั่นตะลึงงัน ก่อนที่จะเผยความดีใจออกมา
ละอองน้ำที่กระเซ็นจากน้ำตกทอประกายวาววับภายใต้แสงตะวันยามรุ่งอรุณ สระน้ำสีมรกตใสแจ๋วกลางฤดูร้อน เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล
"แฮ่ม อากาศค่อนข้างร้อน ข้าเลยมาแช่น้ำให้เย็นสบายขึ้นหน่อย" เหลียนเซวียนค่อยๆ ดำลงไปอย่างไม่กระโตกกระตาก เขาจำได้ว่าตอนอยู่ในถ้ำ ยังเคยถูกนางจับเขาถอดเสื้อเพื่อทายาให้
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่หลบเลี่ยงสักนิด ยังจับก้อนหินปีนลงมา น้ำสีมรกตใสแจ๋วช่างน่าดึงดูดใจเสียเหลือเกิน
เหลียนเซวียนรู้สึกจนปัญญา ก่อนยกแขนดำผุดดำว่ายไปยังตำแหน่งที่มีม่านน้ำตกสาดกระเซ็น
หลังเซวียเสี่ยวหรั่นปีนลงมาจากโขดหินแล้ว ก็วิ่งหน้าชื่นเข้ามาริมสระน้ำย่อตัวลงแล้วก้มมองสระน้ำใสสะอาดจนมองเห็นก้นบ่อ
"ว้าว น้ำใสจังเลย มีปลากำลังว่ายอยู่ที่ก้นสระด้วย"
เธอยื่นมือลงไปแตะน้ำเย็นเฉียบในสระ สีหน้ายิ่งเต็มไปด้วยความริษยา
เงาของูเาเขียวครามสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ ทิวทัศน์กลมกลืนเป็อันหนึ่งอันเดียวกัน สภาพแวดล้อมอันตระการตาเหมือนมีมนต์ขลังน่าหลงใหล จนนึกอยากะโลงไปว่ายน้ำสักรอบ
เธอช้อนตาขึ้นมองไปกลางสระ กลับพบว่าเหลียนเซวียนไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว มองไปไกลอีกนิด ศีรษะของเหลียนเซวียนไปโผล่ข้างน้ำม่านน้ำตกพอดี กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการถูกน้ำตกสาดเต็มหน้า
หลังได้สติกลับมา เซวียเสี่ยวหรั่นก็ชี้ไปที่เขาพลางหัวเราะฮ่าๆ เสียงดังลั่น
เหลียนเซวียนขยับไปข้างหน้า ให้พ้นจากสายน้ำที่สาดกระเซ็นลงมา ยกแขนปาดหยาดน้ำบนใบหน้า
ดวงตาสีนิลสุกสกาวมองเห็นเซวียเสี่ยวหรั่นซึ่งกำลังเบิกบานอย่างยิ่งริมสระน้ำ ก็ดำลงไปทันที
เซวียเสี่ยวหรั่นมัวแต่หัวเราะ ถึงเพิ่งตระหนักได้ภายหลังว่าเหลียนเซวียนหายไปจากใต้ม่านน้ำตกแล้ว
"เอ๋?"
แค่พริบตาเดียวไปหลบที่ไหนแล้วล่ะ?
เซวียเสี่ยวหรั่นมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะขึ้นมาบนฝั่ง แม้จะตระหนักได้ถึงความลำบากใจของเขา แต่ยังมิวายเดินไปมองก้นสระ
"ซ่า..."
เหลียนเซวียนซึ่งเปลือยท่อนบนโผล่พรวดขึ้นมา น้ำกระเซ็นใส่เซวียเสี่ยวหรั่นทั้งตัว
เซวียเสี่ยวหรั่นหยาดน้ำเต็มหน้า ทำตาปริบๆ มองเหลียนเซวียนซึ่งอยู่ห่างออกไปหนึ่ง่แขนอย่างไม่อยากเชื่อ สองมือของเขาจับโขดหินข้างสระ ครึ่งตัวบนโผล่พ้นผิวน้ำ รูปร่างผอมเพรียวแข็งแรง หุ่นกระชับได้รูป กางเกงตัวในสีขาวห้อยหลวมๆ อยู่ที่สะโพก
หยาดน้ำใสแจ๋วไหลลงมาตามร่องกล้ามคมชัด
เขา... เขา... เขาจะทำอะไร?
ใบหน้าของเซวียเสี่ยวหรั่นยังเต็มไปด้วยหยาดน้ำที่ถูกเขาสาดใส่ ริมฝีปากสีชมพูอ้าค้างอย่างตะลึงพรึงเพริด ดวงตาดำขลับสุกใสมองเหลียนเซวียนั้แ่บนลงล่างโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายสายตาไปหยุดอยู่ที่กล้ามท้องแน่นๆ ของเขา
สายตาของเหลียนเซวียนฉายแววซับซ้อนคลุมเครือ
หลังกลับเมืองหลวง ปัญหาเื่สถานะแม้จะแก้ไขได้ แต่เขากลับคาดเดาความคิดและท่าทีของนางไม่ได้เลย
ถ้าจะบอกว่านางไม่สนใจเขาเลย มิใช่แน่นอน เขารู้ดีว่านางเชื่อมั่นในตัวเขาแค่ไหน
ถ้าจะบอกว่าสนใจ ก็เหมือนขาดอะไรบางอย่าง พอเข้าใกล้นางเพิ่มขึ้นก้าวหนึ่ง นางก็จะหดถอยกลับไป
คิดแต่จะแยกออกไปสร้างครอบครัวอย่างเป็อิสระ คล้ายไม่อยากสานสัมพันธ์กับเขาแม้แต่น้อย
บางครั้งเหลียนเซวียนก็รู้สึกกลัดกลุ้ม เขาเยือกเย็น ควบคุมตนเองอย่างดี ครองตัวบริสุทธิ์ผุดผ่องเสมอมา ไม่เคยสนใจไยดีใครเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกอันละเอียดอ่อนสุดพรรณนานี้ทำให้เขาไม่อาจควบคุมตนเองเมื่ออยู่ร่วมกันกับนาง
เมื่อครู่ยามเห็นเธอหัวเราะร่าเสียงดัง ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงว่ายน้ำเข้าไปหาโดยไม่ตัว
ยามนี้พอเห็นนางทำท่าตกตะลึง ยังมองสำรวจเขาอย่างเปิดเผย เหลียนเซวียนก็ไม่รู้ว่าควรจะโมโหหรือหัวเราะขบขัน
"าแบนตัวท่านยังหายไม่หมดเลยนี่" เซวียเสี่ยวหรั่นชี้ไปที่รอยแผลเป็จางๆ ที่หน้าท้องของเขา
ไยนางถึงเพ่งความสนใจแต่ที่แผลเป็เล่า? เหลียนเซวียนหนังตากระตุก มองนางด้วยแววตาล้ำลึก
พอถูกดวงตาดำขลับของเขาจ้องเขม็ง พวงแก้มของเซวียเสี่ยวหรั่นก็เริ่มแดงระเรื่อ
"ทะ... ท่าน ท่านรีบไปสวมเสื้อผ้าสิ คนลามกมายืนเปลือยอยู่ได้"
เธอมองเขาด้วยใบหน้าแดงซ่าน พูดติดๆ ขัดๆ ขึ้นมาทันควัน
อืม ก็ยังดี ยังรู้จักหน้าแดง
"ข้าจำได้ ใครบางคนเคยบอกว่าเคยเห็นบุรุษเปลือยอกมาแล้ว" เขาจ้องนางพลางรื้อฟื้นความหลัง
เซวียเสี่ยวหรั่นอ้าปากค้าง "นะ... นั่นก็แค่เห็นไกลๆ แค่แวบเดียว ไม่เหมือนอย่างท่านตอนนี้นี่"
"อ้อ แต่ใครบางคนยังเคยลงมือถอดเสื้อผ้าผู้อื่นด้วยนะ" เหลียนเซวียนเม้มริมฝีปาก พยายามไม่ให้มุมปากยกสูงขึ้น
ดวงหน้าแฉล้มถลึงตาใส่เขาอย่างโกรธเคือง เจือไปด้วยความขัดเขิน
เหลียนเซวียนเกือบสะกดกลั้นรอยยิ้มบนมุมปากไม่อยู่
"ที่ข้ามียาอยู่ เ้าจะช่วยทาให้ข้าหรือไม่" เสียงของเขากดต่ำแหบพร่าน้อยๆ ยั่วยวนนาง
"หา? ทายาอะไร" เซวียเสี่ยวหรั่นมองดวงหน้าคมสัน ไร้การตอบสนองไปชั่วขณะ
"เ้าบอกว่าแผลเป็ยังหายไม่หมดมิใช่หรือ" มุมปากของเหลียนเซวียนโค้งขึ้นน้อยๆ จดจ้องพวงแก้มแดงระเรื่อของนาง
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ท่าทางเหลอหลาอยู่บ้าง แต่เขาถึงกับรู้สึกว่านางทึ่มทื่อได้น่ารักเหลือเกิน
หลังจากอึ้งไปชั่วขณะ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ทำตาขึงใส่ทันที ดวงหน้าร้อนผ่าวราวกับถูกเผา สีโลหิตลามจากพวงแก้มไปถึงใบหู "ท่าน.... ตนเองก็มีมือชัดๆ "
หลังกล่าวจบก็ลุกขึ้น หมุนตัววิ่งตึงๆๆ หนีไปทันที
เหลียนเซวียนมองใบหน้าซีกข้างซึ่งแดงปลั่งราวกับแสงแรกแห่งอรุโณทัยของนาง รอยยิ้มค่อยๆ ผลิเผยบนใบหน้า
หลังจากถูกเกี้ยว เซวียเสี่ยวหรั่นก็โมโหฮึดฮัดปีนขึ้นไปบนโขดหิน แต่ก็อดใจหันกลับไปมองไม่ได้
ข้างสระน้ำไม่มีเงาร่างของเขาแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นแค่นเสียงหึ ก่อนเดินกลับไปตามทางที่มา
เธอกลับไปข้างลำธาร ไม่ช้า เหลียนเซวียนซึ่งสวมชุดตัวในสีขาวกับกางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม มือหนึ่งถือกระบี่ยาว อีกมือถือไม้เสียบปลาสองตัวกลับมาด้วย
ใบหน้าของเซวียเสี่ยวหรั่นยังแดงไม่หาย เหลียนเซวียนเห็นแล้วดวงตาก็ฉายแววยิ้ม
ประเสริฐยิ่ง อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ว้าวุ่นหลงรักนางอยู่ข้างเดียว
หลังจากถลึงตาใส่เขาแล้ว ก็แกล้งถามเสียงเบา "พวกเรายังไม่ออกเดินทางกันหรือ"
แล้วศัตรูที่ไล่ล่าเขาเ่าั้ล่ะ? ไม่กลัวพวกเขาจะตามมาทันหรือ
"ไม่รีบ เมื่อคืนทิ้ง่หนีมาค่อนข้างไกล พวกเขาจะตามมาไม่ทันสักพัก"
เหลียนเซวียนสงบผ่อนคลายอย่างมั่นใจ
