ตอนที่ 2
“แกร๊บ !”
ในขณะที่กวินกำลังวิ่งกลับเตะเข้ากับขวดน้ำเปล่าบนพื้นถนนจนเกิดเสียงดัง ซึ่งเป็จังหวะเดียวกับที่ฝนเบาลงพอดี กวินรีบมองไปยังบริเวณที่ชายฉกรรจ์พวกนั้นยืนอยู่ด้วยสัญชาตญาณ ก่อนจะออกวิ่งอีกครั้งพร้อมห่าฝนที่เทลงมาอีกรอบ
“ไปเอาตัวมันมา หัวหน้าของพวกชายฉกรรจ์ออกคำสั่งลูกน้อง”
เสียงดุดันดังไปทั่วบริเวณ กวินมั่นใจว่าถ้าถูกจับได้คงมีแค่ความตายที่จะมาเยือน เขาคงไม่มีโอกาสได้กลับไปกอดแม่อีกแน่ ๆ สิ่งที่ทำได้คือวิ่ง หวังเพียงเอาชีวิตรอดเท่านั้น กวินไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังวิ่งไปที่ไหน เข้าซอยนั้นออกซอยนี้ทะลุไปเรื่อย เป็ค่ำคืนที่วุ่นวายที่สุดในชีวิตที่เขานั้นพบเจอ เมื่อวิ่งมาได้สักระยะเขาจึงหาที่แอบเพื่อพักเหนื่อย หากพวกมันมีจำนวนไม่มากและไม่มีอาวุธมาด้วยเขาคงไม่ต้องลำบากหนี
“เห้ย ! มันอยู่นั่นไปเอาตัวมา เร็วๆ พวกมึงวิ่งไปดักทางนู้น ถ้ามันรอดไปได้นายใหญ่ฆ่าพวกเราตายแน่”
หนึ่งในชายฉกรรจ์ะโขึ้นเมื่อเห็นกวิน ทั้งหมดก็รีบวิ่งกรูกันมาอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากฝูงไฮยีน่าที่กำลังล่าเนื้อกวางแสนหวาน
กวินวิ่งหายเข้าไปในความมืดก่อนจะกลืนหายไป เขาพยายามหายใจให้เบาที่สุดยืนมองพวกมันวิ่งผ่านไปจนคนสุดท้าย มันหยุดยืนไม่ไกลนักซึ่งคาดว่ามันน่าจะเห็นเขาแล้ว กวินไม่รอช้าใช้สันมือสับไปยังมือหนาที่ปืนของมันเต็มแรง ทำให้ปืนหล่นและไถลไปกับพื้นปูน อาศัยจังหวะที่มันจังไม่ทันตั้งตัวใช้สองแขนของตัวเองจับคออีกฝ่ายล็อคก่อนจะบิดเต็มแรง
“กร๊อบ ตุบ ! / มันอยู่นั่น !!!” เสียงกระดูกดังลั่น ร่างหนาทรุดตัวลงราวกับผลไม้ที่สุกงอมร่วงลงพื้น แต่ยังไม่ทันที่กวินจะได้เก็บปืนกระบอกนั้นก็ต้องออกวิ่งอีกครั้งเมื่อพวกมันรู้แล้วว่าเขาไม่ไปทางนั้น
“ปัง ! ปัง !”
ไอ้เหี้ยเอ้ย ไม่ใช่ไม่เคยโดนไล่ยิงเพราะเขาก็ไม่ใช่เด็กดีอะไร เื่ต่อยตีคือธรรมดาของเด็กผู้ชายมากๆ แต่ก็ไม่เคยโดนตามเป็ฝูงแบบนี้มาก่อน และที่แย่ไปกว่านั้นคือกวินไม่มีอาวุธอะไรเลย ปืนที่พกก็อยู่ในรถ ซึ่งกุญแจลงไปนอนเล่นอยู่ตรงก้นท่อระบายน้ำ ฝนตกหนักขนาดนี้คงไหลตามกระแสน้ำไปออกที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ทางรอดเดียวคือการวิ่ง และห้ามหยุด
“ปังๆ ซี๊ดดดด ! โดนจนได้”
มันไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้เพราะเขาคงไม่เก่งพอที่จะสามารถหลบะุได้ทุกนัด กวินกัดกรามเข้าหากันแน่นร้องซี๊ดด้วยความรู้สึกเจ็บ กลิ่นเผาไหม้ของดินปืนและกลิ่นคาวเืที่คละคลุ้งมันทำให้เขารู้สึกแย่ ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริงๆ เขายกมือขึ้นกดแผลที่ไหล่เพื่อห้ามเื ในระหว่างวิ่งนี้ก็ตรวจดูาแไปด้วย
“เวรจริงะุฝังใน”
เขาสบถเป็รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจทราบได้ กวินเริ่มตั้งสติอีกครั้งและครั้งนี้เขาจะไม่หนีมั่ว ๆ อีกแล้ว
“พวกมึง เมื่อกี้กูมั่นใจว่ากูยิงโดน มันต้องอยู่แถวๆ นี้ หาให้ทั่ว”
“พวกมึงไปทางนั้น”
“เดี๋ยวกูแยกไปทางนี้”
เมื่อเห็นช่องเล็กๆ ที่สามารถลอดทะลุไปอีกฝ่ายได้ กวินไม่ลังเลสักนิดที่จะสอดตัวเข้ามาในช่องแคบ ๆ นั่น แต่ถึงจะทิ้งห่างพวกมันได้มากเขาก็ยังไม่วางใจ ยังคงวิ่งต่อไปโดยไม่คิดจะหยุดพัก
“ฟู่ววว หนาวชิป”
ตอนนี้ความเหน็บหนาวมันสอดแทรกเข้ามาในกระดูก าแที่เคยเจ็บตอนนี้มันชาจนไม่รู้สึก ริมฝีปากที่เคยแดงระเรื่อเริ่มซีดเพราะเสียเืค่อนข้างเยอะ
หลังจากที่วิ่งมาเกือบยี่สิบนาทีจึงหาที่ซ่อนตัว บริเวณเป็เหมือนแผงตลาดสดยามเช้าจึงมีที่มากมายให้เขาหลบซ่อน
“มันหายไปไหนวะ ?!”
“กูว่ามันต้องอยู่แถวนี้ พวกมึงหาให้ทั่ว กูว่ามันจะต้องหลบอยู่แถวนี้”
เสียงโครมครามจากการรื้อข้าวของบริเวณห่างจากกวินไม่ไกลนัก ไล่มาทางที่เขาหลบอยู่เรื่อย ๆ หัวใจของกะวินสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น เขาขยับเท้าเพียงเล็กน้อยก็เหมือนกับว่าโดนเข้ากับอะไรบางอย่าง พอดูดี ๆ ปรากฏว่าเป็มีดทำครัว มุมปากสีซีดยกยิ้มกริ่ม
“พวกมึงบังคับให้กูต้องทำเองนะ ไอ้พวกเวร”
“เห้ยพวกมึง ! มันอยู่ทางนั้น !!!”
ในขณะที่พวกมันกำลังจะมาถึงตัวก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น แต่ทว่ายังมีหนึ่งคนที่เดินมาทางนี้พร้อมปืนในมือ
กวินจับมีดไว้แน่นแล้วแทงออกไปจนสุดแรงในตำแหน่งที่คิดว่าใช่ ก่อนจะหมุนมีดแล้วปาดไปที่คอมันอีกครั้งหนึ่ง ร่างชายฉกรรจ์ทรุดลงพื้นทั้งที่ตายังไม่หลับ พวกมันที่เหลือไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนมันหายไป เพราะตอนนี้พวกที่เหลือกำลังวุ่นวายอยู่กับคนบ้า ในระหว่างนั้นเขาก็ค่อยๆ ลากศพมาแอบไว้ข้างตัว ด้วยความใจดีเขาจึงใช้มือปิดเปลือกตาของศพให้สนิท
“พวกมึงมายุ่งอะไรกับอาณาจักรของกู กูกำลังหลับอยู่ในวิมานไม่เห็นรึ วุ่นวายนัก กูจักสั่งให้ไพร่พลมาฆ่าพวกมึงให้หมด ฮ่าๆๆๆๆ”
“คนบ้า ไอ้สัส ! เสียเวลาฉิปหาย”
พวกชายฉกรรจ์ต่างมองคนบ้าอย่างหัวเสียก่อนจะกระจายกันตามหากวินอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดูปลอดภัยดีแล้วจึงค่อยๆ ออกจากจุดที่เขาหลบซ่อนตัว เดินเลียบไปตามมุมมืดของตึกรามบ้านช่อง
ถ้าเขาจำไม่ผิดสุดซอยนี้จะไปทะลุที่ข้างผับดัง ความหวังเขาอยู่อีกไม่ไกล แต่เืไหลยังคงไหลไม่หยุดเลย ภาวนาให้พ้นจากตรงนี้เร็วๆ แสงสว่างที่อยู่ไม่ไกลนักทำให้กวินฝืนพาตัวเองไปยังจุดนั้นให้ไวที่สุด
“เห้ย ! คุณ”
กวินวิ่งพุ่งตรงไปยังประตูรถที่เปิดออกโดยมีชายชุดดำยืนถือร่มอยู่ข้างๆ ราวกับว่ารอการลงมาของใครบางคน
ความหนาวเย็นที่บาดผิวทำให้กวินตัวสั่นยิ่งกว่าที่เป็ เพราะอากาศภายในรถหนาวยังกับขั้วโลกเหนือ สาบานว่าเปิดแอร์ไม่ใช่แช่เนื้อ กวินได้แต่บ่นกับตัวเองในใจโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองนั่งอยู่บนตักของใครและสุดท้ายสติของเขาก็ดับวูบไป
“ไม่เป็ไร เขาาเ็”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทเตรียมดึงร่างเล็กออกไปจากตัก เมื่อบอสเอ่ยอย่างนั้นเหล่าลูกน้องก็ได้แต่ก้มหน้ารับคำสั่ง
สายตาคู่คมมองเลยผ่านบอดี้การ์ดของตัวเองไปกลับพบว่ามีคนกำลังวิ่งตามมา แน่นอนว่าคนที่พวกมันกำลังหาคือร่างบางที่กำลังสลบไสลอยู่บนขาของเขา ดูเหมือนว่าจะเป็ลูกน้องของ ไอ้แบล็ค
“ฉันจะกลับคอนโด เรียกหมอไปรอ”
วินเซนต์ออกคำสั่งอีกครั้ง หลังจากมองคนตัวเล็กที่้าความช่วยเหลือแค่เล็กน้อย
“เอ่อ บอสจะพาเขากลับไปเหรอครับ แล้วงานที่ร้าน ?”
อาเธอร์ถึงกับงุงงงเขาไม่คิดว่าเ้านายสุดแสนเ็าจะยอมช่วยเหลือเด็กหนุ่ม ความจริงคือแปลกใจั้แ่ที่ให้อีกฝ่ายนอนอยู่บนตัก
“ทำไม ?”
ลูกน้องคนสนิททั้งสองถึงกับขนลุกเกลียวเมื่อได้ยินน้ำเสียงเยือกเย็นที่ดูไม่เป็มิตรนักของเ้านาย
“เปล่าครับ”
จากนั้นทั้งสี่คนก็ตรงกลับคอนโดโดยไม่มีแม้แต่คำพูดใด ลูกน้องคนสนิททั้งสองมองหน้ากันเพื่อสื่อสารผ่านทางสายตา
“ห…หนาวจัง”
คนที่หลับไม่ได้สติเริ่มเพ้อขึ้นเสียงแ่เบาราวกับปุยนุ่น แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ได้ยินอย่างชัดเจน เขาถอดเสื้อสูทคลุมให้เด็กหนุ่มอย่างเบามือนั่นเป็อีกครั้งที่ลูกน้องคนสนิทขมวดคิ้วจนแทบชนกัน
พอมาถึงคอนโดอาเธอร์ก็เป็คนทำหน้าที่อุ้มเด็กหนุ่มขึ้นห้อง เหล่าพนักงานต่างไม่มีใครกล้าถามแม้ว่าเด็กหนุ่มนักศึกษาจะตัวชุ่มไปด้วยเื เพราะสถานที่แห่งนี้เป็ของวินเซนต์ และไม่มีใครอยากโดนไล่ออก ทุกคนต่างทำเป็ไม่รู้ไม่เห็นและปิดปากเงียบ
“เชิญครับบอส หมอรออยู่้าแล้วครับ”
คาลิคที่ทำหน้าที่กดลิฟต์เอ่ยขึ้นเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสี่คนขึ้นไปยังห้องที่อยู่ชั้นสูงสุดของคอนโด
“พาไปวางที่เตียงในห้อง”
อาเธอร์พาเด็กหนุ่มเข้าไปวางบนเตียงนอนของเ้านายตามคำสั่ง สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อสมวัยเพียงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น ปล่อยให้หมอได้ทำหน้าที่รักษาคนไข้
“บอสจะให้ย้ายเขาไปพักที่ห้องอื่นไหมครับ ?”
“ไม่ต้อง คืนนี้ฉันไม่ออกไปไหน”
อาเธอร์กับคาลิคได้แต่มองหน้ากันก่อนจะก้มหัวแล้วเดินออกจากห้องของเ้านายทันที
………………………………………………….
