ผู้เฒ่าจี๋เล่อรู้ว่าหลังจากที่ตนกล่าวเช่นนี้ออกไปแล้ว เสิ่นเสวียนไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเขาอีก
ไม่ว่าใครที่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ ต่างยินยอมจำนนต่อเขา ถึงกับคุกเข่าลงเพื่อคารวะเขาเป็อาจารย์ในทันที
ขั้นศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของคนทั่วไปเป็ระดับขั้นที่มิอาจเอื้อม ทั่วทั้งทวีปผู้ไปถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์มีน้อยมากจนนับได้ด้วยมือเดียว ใครจะยังปฏิเสธได้อีก
ทว่าเขายังคำนวณพลาดไป
เสิ่นเสวียนไม่สนใจคำของเขาเลย
หากกล่าวถึงของล้ำค่า อีกฝ่ายไม่มีอะไรจะมอบให้จริงๆ หากกล่าวถึงประสบการณ์การฝึกฝน อีกฝ่ายเป็เพียงเด็กคนหนึ่งสำหรับเขาเท่านั้น
ในส่วนของแรงดึงดูดนั้น คือความเข้าใจในพลังของโลกนี้ของอีกฝ่ายซึ่งมีมากกว่าเขา อีกฝ่ายอาจช่วยให้เขาทะลวงเลื่อนไปถึงขั้นมหายานได้ด้วยวิธีการที่เร็วที่สุด
“เลื่อนถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ ข้าอาจลองพิจารณาดูได้ แต่หากรับข้าเป็ศิษย์ ไม่เป็ไรดีกว่า”
อาจารย์ในสายตาของเสิ่นเสวียนมีเพียงคนเดียว นั่นคือหลี่ฉุนเฟิง
นอกจากนี้ก็ไม่มีใครอื่นอีกแล้ว
“เ้าไม่อยากหรือ”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อได้ยินคำของเสิ่นเสวียนก็รู้สึกใ ตนเองหูฝาดไปหรือเปล่า หรืออีกฝ่ายเลอะเลือนไปแล้ว
“ข้าไม่สนใจเื่อาจารย์ศิษย์อะไรนี่เลย แต่เื่อื่นยังคุยกันได้”
เสิ่นเสวียนกล่าวเสียงเรียบ
“เ้ารู้ไหมว่าเ้ากล่าวอะไรออกมา”
“ข้ารู้ตัวดี หากท่านไม่พอใจ ข้าไปก็ได้”
เมื่อกล่าวจบ เสิ่นเสวียนะโลงพื้นเตรียมออกไปจากตรงนั้นทันที
้ามีช่องว่างอยู่ หากเขาคิดไม่ผิด สถานที่ที่ตนเองอยู่ตอนนี้น่าจะเป็ด้านล่างของถ้ำก่อนหน้านี้
แท่นหินที่อยู่ใต้โลงศพสีดำคือปัจจัยสำคัญในการเข้าออกที่นี่
“ช้าก่อน”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อเห็นเสิ่นเสวียนกำลังจะออกไปจึงส่งเสียงเรียกเขาไว้ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเื่ที่คนอื่นได้เพียงใฝ่ฝันถึง กลับไม่มีค่าเลยสำหรับเสิ่นเสวียน สิ่งที่เขาไม่รู้เลยก็คือ ตอนนี้เขากำลังบอกเสิ่นเสวียนด้วยท่าทางของผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง ไม่ได้คิดที่จะหารือกับเสิ่นเสวียนเลย
ซึ่งเสิ่นเสวียนเบื่อหน่ายในเื่นี้มาก
“ว่าอย่างไร ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ”
เสิ่นเสวียนถาม
“ในเมื่อเ้าไม่้า ข้าก็จะไม่บังคับ เ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงพาเ้ามาที่นี่”
“ไม่รู้” เสิ่นเสวียนส่ายหัว
“เ้าขับไล่เขาไปได้ และเ้ายังน่าอัศจรรย์มากอีกด้วย ภายหน้าเ้าต้องประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ข้าติดอยู่ในขั้นนี้มากว่าพันปีแล้ว ้าคนมาช่วยปลดปล่อยข้าออกไป และเ้าก็คือคนที่ข้า้า”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อเปิดเผยความลับของเขาต่อเสิ่นเสวียน
แม้ตอนที่เขามีชีวิตอยู่จะยอดเยี่ยมมาก แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่เข้ามาที่นี่เข้าใจในระดับพลัง่หลังน้อยมาก เขาไม่รู้ว่าจะฝึกฝนต่อไปอย่างไรดี แต่เมื่อเจอกับเสิ่นเสวียน หากเสิ่นเสวียนฝึกฝนถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์แล้วอาจเจอปัญหาเดียวกับที่เขาเจอ ถึงตอนนั้นอาจมีวิธีแก้ปัญหาก็ได้
หลังจากได้ฟังผู้เฒ่าจี๋เล่อกล่าวแล้วเสิ่นเสวียนก็ยิ้มออกมาทันที หากเป็คนอื่นอาจเกิดเื่ยุ่งยากขึ้นก็ได้
แต่สำหรับเขาแล้ว มันเป็เื่ง่ายดายมาก
“ข้าช่วยท่านได้ แต่ข้าก็มีบางอย่าง้าความช่วยเหลือ”
“อะไร”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อสงสัยในปัญหาของเสิ่นเสวียน คนที่แม้แต่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ยังไม่้า ยังมีสิ่งใดที่สามารถดึงดูดใจเขาได้อีก
“ข้า้าพลังธาตุทองของท่าน”
ขณะที่กล่าว เสิ่นเสวียนออกแรงเล็กน้อย ทำให้เกราะเกล็ดทองที่ซ่อนเร้นไปก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นทันที
เกราะเกล็ดทองนี้สร้างขึ้นจากการเคล้ากันของพลังธาตุทองและพลังธาตุไม้ โดยที่มีธาตุทองเป็หลัก ภายในถ้ำของผู้เฒ่าจี๋เล่อแห่งนี้ เขาััได้ถึงไอพลังธาตุทองอัดแน่นกันอยู่ กล่าวได้ว่าที่นี่มีพลังธาตุทองที่เขา้า
คนชุดดำก่อนหน้านี้ฝึกฝนธาตุไม้เป็หลัก ภายในร่างไร้ิญญาร่างนั้นจึงมีพลังธาตุไม้อัดแน่นอยู่ การดูดซับออกมานั้นไม่ใช่ปัญหา หากรวมกับพลังธาตุทองของที่นี่เข้าไปด้วย นับว่าเขารวบรวมพลังห้าธาตุสำเร็จแล้ว
และขั้นหยวนก่อกำเนิดห้าธาตุจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
“เด็กอย่างเ้ารู้ไหมว่าธาตุทองมีมูลค่ามากขนาดไหน”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อได้ฟังคำของเสิ่นเสวียนจึงถามขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“เรียกได้ว่าค่อนข้างล้ำค่า” เสิ่นเสวียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก ธาตุทองเน้นโจมตีเป็หลัก เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในห้าธาตุ เมื่อเทียบกันแล้ว ความสำคัญของธาตุทองมีมากกว่าธาตุอื่นและยังหาได้ยากมาก จึงต้องล้ำค่าเป็ธรรมดา
แต่ก็มีเพียงแค่นี้ ไม่ถึงขั้นที่อีกฝ่ายเกิดความเสียดายได้
“สุสานแห่งนี้ของข้าค้ำจุนด้วยพลังธาตุทอง หากมอบให้เ้าไปแล้ว สุสานแห่งนี้จะพังทลายลง เ้าคิดว่าข้าจะมอบให้เ้าไหม”
“หืม?”
เสิ่นเสวียนได้ฟังแล้วรู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงเดินไปที่ผนัง แม้แต่บนผนังยังวาดภาพเกี่ยวกับอาณาจักรเซียนเอาไว้และมีบ้านเรือนเรียงราย เสิ่นเสวียนใช้นิ้วมือลูบไปบนผนัง หลังจากััดูแล้วเขาจึงพบว่าผนังเหล่านี้ล้วนเป็ธาตุทอง
เขาที่ยังไม่แน่ใจนักจึงหมุนตัวแล้วเดินไปดูผนังอีกหลายด้าน รวมไปถึงที่พื้นเขาก็ทดสอบพลังดูเหมือนกัน แต่ก็เป็ไปตามที่คิด ทุกส่วนในที่นี้มีพลังธาตุทองรวมตัวอยู่จริงๆ
ที่นี่เหมือนูเาทองลูกหนึ่ง และสร้างสุสานไว้ภายในโครงสร้างของูเาทอง
“เห็นแล้วใช่ไหม นี่คือทองที่ข้ารวบรวมมาทั้งชีวิต กว่าจะสร้างสุสานแห่งนี้ขึ้นมาได้”
ผู้เฒ่าจี๋เล่ออธิบายให้เสิ่นเสวียนฟังพลางยิ้มน้อยๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ให้ แต่เขาให้ไม่ได้จริงๆ
เสิ่นเสวียนในตอนนี้สีหน้าตื่นเต้นดีใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะเขาเพิกเฉยต่อคำของผู้เฒ่าจี๋เล่อไปอย่างสิ้นเชิง
“ข้าขอบอกเ้าก่อนเลย เ้าอย่าได้คิดเข้าไปยุ่งกับสิ่งเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นเ้าเข้ามาอย่างไร ข้าจะส่งเ้ากลับไปอย่างนั้น”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อเห็นรอยยิ้มของเสิ่นเสวียนพลันรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา จึงกล่าวเตือนเขาไม่หยุดว่าอย่าทำเื่โง่ๆ
“ข้าตัดสินใจแล้ว”
เสิ่นเสวียนนั่งลงที่พื้นทันที มีแนวโน้มว่าจะไม่ออกไปง่ายๆ
“เ้าจะทำอะไร”
“ท่านช่วยปกป้องข้าสักครู่ ข้า้าฝึกฝนที่นี่ ข้าจะไม่เอาสิ่งใดของท่านออกไป ขอเพียงยืมใช้พลังของที่นี่เท่านั้น คงไม่มีปัญหาใช่ไหม”
เสิ่นเสวียนเจอสถานที่ที่เหมาะสมแล้ว จึงตัดสินใจครั้งใหญ่ออกมา
เขา้าหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดห้าธาตุที่นี่ ใช้พลังห้าธาตุทะลวงไปถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดให้ได้ หากไม่ถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดเขาจะไม่ออกไปจากที่นี่เด็ดขาด
“ฝึกฝนที่นี่? เ้าไม่กลัวข้าสังหารเ้าหรือ” ผู้เฒ่าจี๋เล่อถามเสิ่นเสวียน แต่ก็เป็จริง หากเพียงดูดซับพลังจะไม่ส่งผลเสียต่อสุสาน ซึ่งเขาไม่ได้ต่อว่าอะไร
“หากท่านคิดสังหารข้า ท่านคงทำไปนานแล้ว ต้องรอให้ถึงตอนนี้ด้วยหรือ”
เสิ่นเสวียนยิ้มน้อยๆ ผู้เฒ่าจี๋เล่อเป็คนฉลาด รู้ว่าสิ่งใดสำคัญยิ่งกว่า
ผู้เฒ่าจี๋เล่อครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
“ข้ารับปากเ้าได้ ตราบใดที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุสาน แค่นี้ไม่มีปัญหา”
“ข้าต้องขอให้ท่านช่วยข้าอีกอย่างหนึ่ง”
“ว่ามา”
“ข้ายังขาดของอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือหินเฮยเย่า”
“แม้หินเฮยเย่าจะมีอยู่น้อย แต่มีพิษรุนแรงมาก น้อยคนจะใช้เพื่อฝึกฝน คงไม่ยากที่จะหามาหรอกใช่ไหม”
“หาไม่ยากจริงๆ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ข้าเข้ามาที่นี่อย่างกะทันหันจึงลืมเอามาด้วย คงต้องใช้ความสามารถของท่านช่วยข้าหยิบมาสักหน่อย”
“จะให้ข้าเอามาอย่างไร”
เื่นี้ทำให้ผู้เฒ่าจี๋เล่อลำบากเสียแล้ว เขาอยู่ที่นี่นับพันปี ร่างกายสลายไปนานแล้ว ร่างจิติญญาก็มีพลังโจมตีเพียงเล็กน้อย แล้วจะไปเอามาได้อย่างไร อีกอย่าง ในความทรงจำของเขา เขาไม่ได้มีพลังหยิบยื่นของผ่านมิติได้
“อีกเดี๋ยวข้าจะสร้างค่ายกลขึ้นมา ถึงตอนนั้นจำเป็ต้องใช้พลังของท่านประคองไว้ด้วย”
หลังจากนั้นเสิ่นเสวียนก็ติดตั้งค่ายกลดาราเจ็ดมุมขึ้นที่พื้น ดวงตาค่ายกลแต่ละแห่งจะมีพลังดูดซับธาตุแผ่กระจายออกมาจางๆ
ที่พื้นเปี่ยมไปด้วยพลังธาตุทอง แน่นอนว่าต้องรวบรวมพลังธาตุทองมาจากพื้น
นี่คือค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดย่อม แต่อยากควบคุมค่ายกลนี้ให้ได้ต้องมีพลังยุทธ์ถึงขั้นมหายานเสียก่อน และผู้เฒ่าจี๋เล่อก็เข้ามาเติมเต็มได้พอดี
หลังจากนั้นเพียงยี่สิบลมหายใจ ค่ายกลนี้ก็ถูกติดตั้งสำเร็จแล้ว
“มาสิ ะโเข้าไปในนี้”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับผู้เฒ่าจี๋เล่อพลางยิ้ม