จ้านอู๋มิ่งทราบเื่จากปากของปราชญ์ทั้งห้าแห่งเหอซี ทราบถึงเื่ราวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ในน่านน้ำมหาสมุทร เขาคิดไม่ถึงว่าราชันโอสถ ราชันกระบี่และราชันวายุกลับหยิ่งผยองถึงเพียงนี้ ประกาศต่อสาธารณชนว่า้าสังหารตน ราชันโอสถ สื่อรั่วหนานยังเสนอเม็ดโอสถทลายข้อจำกัดเป็รางวัลอีกด้วย ทุ่มทุนก้อนใหญ่เสียจริง
ถึงแม้จะปล้นทรัพย์ของปราชญ์ทั้งห้าแห่งเหอซีจนหมดเกลี้ยง แต่ว่าจ้านอู๋มิ่งก็ได้คืนผลประโยชน์แก่พวกเขาอย่างหนึ่ง ก็คือให้ปราชญ์ทั้งห้าแห่งเหอซีเป็ผู้แจ้งข่าวของตนกับราชันโอสถ สื่อรั่วหนาน
หมากกระดานนี้พอมีสื่อรั่วหนานเข้ามาร่วมด้วยแล้วก็น่าสนใจขึ้นแล้ว จ้านอู๋มิ่ง้าพบสื่อรั่วหนาน สตรีผู้แสนดุดันผู้นี้โดยเร็วจนแทบทนรอมิไหวแล้ว
ได้ยินมาว่าสื่อรั่วหนานเคยถูกบุรุษทอดทิ้งมาก่อน และยังออกค้นหาคนไปทั่วใต้หล้า ทำให้สำนักหลอมโอสถรู้สึกเสียหน้ามาก มิทราบว่าบุรุษคนนั้นมีบทบาทเช่นไร ช่างเป็ผู้ที่มองการณ์ไกลจริงๆ มิฉะนั้นรอจนกระทั่งสตรีผู้นั้นแปลงร่างขึ้นมา ถึงเป็ผู้ชายก็ต้องใจนหนีกระเจิดกระเจิง
เมื่อทราบว่าสถานพำนักของคุนเผิงได้ปรากฏขึ้นแล้ว จ้านอู๋มิ่งก็ไม่อยากเสียเวลาระหว่างเดินทาง ตนเสียเวลาอยู่บนเกาะมากกว่ายี่สิบวันแล้ว สันนิษฐานว่าเกาะอื่นๆ คงถูกผู้คนเหยียบย่ำไปหมดแล้ว เขาก็ไม่จำเป็ต้องเสียเวลาเช่นกัน วิธีการที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็คือการยึดเอาสมบัติธรรมชาติที่สะสมเรียบร้อยในแหวนจักรวาลของผู้อื่นมาโดยตรง
ตลอดทาง จ้านอู๋มิ่งเบิกบานสำราญใจเป็พิเศษ เขารู้สึกว่าตนยิ่งมา ยิ่งได้รับการต้อนรับมากขึ้นแล้ว มีบางคนถึงกับถือภาพเขียนมาเปรียบเทียบกัน คนเ่าั้ล้วนรู้สึกยินดีปรีดาเมื่อได้เห็นเขา ะโเอะอะโวยวาย พากันล้อมวงเข้ามา
จ้านอู๋มิ่งกระทำเื่เช่นที่ทำกับปราชญ์ทั้งห้าแห่งเหอซีครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้ที่มิยอมศิโรราบ ก็ทุบด้วยหมัด เตะด้วยเท้าจนยอมสยบจึงยุติ หากยอมแพ้แล้วก็มอบแหวนจักรวาลออกมาให้ ทองคำหนึ่งแท่งต่อหนึ่งคน ผู้ชายเหลือกางเกงไว้ให้หนึ่งตัว สตรีอนุญาตให้เหลือเสื้อผ้าหนึ่งชุด อย่าคาดหวังจะได้ซักล้างผลัดเปลี่ยน
หากสตรีนางใดรูปร่างหน้าตาดี เค้าหน้าสะคราญ รูปโฉมงดงามจนต้องตาจ้านอู๋มิ่งแล้วละก็จะเหลือทองคำเพิ่มให้อีกหนึ่งก้อน โฉมสะคราญย่อมต้องมีสิทธิ์พิเศษของสาวงามอยู่แล้ว แต่หลังจากปล้นชิงบ่อยครั้ง จ้านอู๋มิ่งก็ตัดสินใจจะปฏิบัติต่อทุกท่านอย่างเสมอภาค ผู้ที่เป็สตรีล้วนเหลือทองคำเพิ่มให้อีกหนึ่งก้อน…มิว่าจะมีการลูบก้นหรือไม่ ปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งหมด
และแล้ว น่านน้ำมหาสมุทรสถานพำนักของคุนเผิงก็มีข่าวสะพัดออกมาอย่างรวดเร็ว ข่าวที่มหาโจรผู้โดดเดี่ยวพบเห็นผู้คนก็ปล้นชิงทรัพย์ทันที ผู้ที่ถูกปล้นเสื่อมเสียชื่อเสียงหมดสิ้น อเนจอนาถน่าสังเวชยิ่ง ยังมีบางคนเปลือยกายมาปรากฏตัวเล่าให้ฟัง
มีบางคนก็ว่ามหาโจรคืออสูรจอมโหดแห่งชนเผ่าสมุทร บางคนว่าจอมโจรก็คือจ้านอู๋มิ่งที่ราชันหลายคนประกาศตั้งรางวัลไล่ล่าผู้นั้นนั่นเอง สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ้าทรัพย์ มิ้าชีวิตของเหยื่อ ขอเพียงมอบแหวนจักรวาลและทรัพย์สินมีค่าติดตัวออกมาแต่โดยดี ก็จะไม่ถูกทุบตีอย่างทารุณ หากมิยอมมอบออกมาแต่โดยดี ก็จะถูกทุบตีอย่างโหดร้ายรอบหนึ่ง ทั้งบุรุษและสตรีล้วนมิมีข้อยกเว้น
มหาโจรเมื่อเห็นศิษย์ของสำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงก็จะบันดาลโทสะ เกรี้ยวกราดดุร้ายยิ่งนัก ผู้ชายจะถูกเปลือยกายโดนทุบตีอย่างหนัก ผู้หญิงกลับมีเสื้อผ้าให้สวมใส่อยู่ แต่จะถูกฟาดก้นหนักๆ รอบหนึ่ง รวมทั้งเรือเหาะยังถูกทำลายจนพังพินาศสิ้น ปล่อยให้ศิษย์ที่เป็บุรุษที่าเ็สาหัสและศิษย์สตรีที่ปวดก้นมากเ่าั้ได้แต่เหาะอยู่เหนือน่านน้ำมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ส่วนจะเื่ที่ว่าจะใช้พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้จนหมดสิ้นแล้วจมน้ำทะเลเสียชีวิตหรือถูกสัตว์อสูรกลืนกินหรือไม่นั้น คนผู้นั้นมิแยแสสนใจ เมื่อพบกับคนที่ขัดหูขัดตา มหาโจรยังมิทันระวังก็บีบคอจนสิ้นชีวิตอีกด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดก็มีคนยืนยันแล้ว จอมโจรที่ผู้คนเรียกขานกันก็คือชายหนุ่มผู้ล้ำเลิศ จ้านอู๋มิ่งนั่นเอง บุคคลที่ยืนยันเป็ศิษย์ของสำนักกระบี่ิญญาที่เคยถูกจอมโจรทุบตีอย่างโหดร้าย ทุกข์ทรมานแต่ชะตายังมิถึงฆาตผู้หนึ่ง สาเหตุที่เขาไม่ตาย เป็เพราะจอมโจรให้เขาส่งข่าวต่อสำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงว่าเหนือน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้ ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงทั้งหมด เขา จ้านอู๋มิ่งเจอครั้งหนึ่งก็จะทุบตีครั้งหนึ่ง และให้ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยกับราชันวายุ หนานกงเฉิงล้างก้นรอให้สะอาดเรียบร้อย รอคอยการมาเยือนอย่างมีเกียรติของเขา…
ส่วนสื่อรั่วหนาน ชายหนุ่มผู้สุดยอดล้ำเลิศยังส่งข่าวอีกว่าสตรีผู้แสนดุดันนางนั้น พี่มิสนใจในตัวเ้า แต่ว่าหากเ้ายอมนำสิ่งของทั้งหมดในแหวนจักรวาลมามอบให้พี่ บางทีพี่อาจจะฝืนใจยอมพบหน้ากับเ้าสักครั้งก็เป็ได้
สุดแสนจะก้าวร้าว สุดแสนหยิ่งผยอง! น่านน้ำมหาสมุทรสถานพำนักคุนเผิงล้วนเดือดพล่านแล้ว ทุกคนมิรู้สึกว่าเม็ดโอสถทลายข้อจำกัดของราชันโอสถ สื่อรั่วหนานน่าสนใจอีกต่อไปแล้ว เมื่อเห็นจ้านอู๋มิ่งจากไกลๆ ก็พากันหลบหนีทันที ราวกับหลีกเลี่ยงเทพเ้าโรคระบาดมิมีผิด เวลานี้ผู้ใด้าเจอจ้านอู๋มิ่ง ผู้นั้นก็คือตัวโง่งม!
และแล้ว บรรดาศิษย์สำนักกระบี่ิญญาก็รวมตัวกันเดินทางเป็กลุ่ม เสาะแสวงหาจ้านอู๋มิ่ง แต่ว่ายามที่พวกเขารวมตัวกันจำนวนมาก กลับมิเห็นแม้แต่เงาของจ้านอู๋มิ่ง พอพวกเขาอยู่คนเดียวเท่านั้น ก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นแล้ว มิทราบเช่นกันว่าจ้านอู๋มิ่งใช้วิธีการใด ขอเพียงเขายังมิ้าออกมา ท่านก็มิสามารถหาเขาพบ รอจนเวลาที่ท่านหาเขาเจอ ก็คือเวลาที่เขาจัดการท่านอย่างอยู่หมัดนั่นเอง
และแล้ว จ้านอู๋มิ่งก็เปลี่ยนจากจอมโจรกลายเป็อสูรร้ายไปแล้ว อสูรร้ายที่มีนิสัยชอบปล้นชิงทรัพย์ตนหนึ่ง
ยามนี้ในน่านน้ำมหาสมุทรแถบนี้ คนที่มีความสุขมากที่สุดมิมีผู้ใดเกินสำนักบริบาลเดรัจฉานแล้ว ภาคภูมิใจและปลาบปลื้มใจยิ่งนัก สำนักกระบี่ิญญาก้าวร้าวนักมิใช่หรือ? ตระกูลหนานกงหยิ่งผยองนักมิใช่หรือ? ไล่ล่าพวกบิดาจนหนีกันหัวซุกหัวซุน ฮึ เวลานี้ถึงคราวซวยของพวกเ้าแล้ว!
ปล้นชิงทรัพย์มาตลอดทาง ศิษย์แต่ละสำนักนิกายได้ค้นพบปัญหาข้อหนึ่ง ปรมาจารย์นักยุทธ์ระดับสูงสุดผู้ล้ำเลิศคนนี้ กลับมีพลังการต่อสู้สูงส่งไร้เทียมทาน อาศัยพลังของกายเนื้อล้วนๆ ลงมือจัดการกับผู้อื่น ทำลายคู่ต่อสู้ เก่งกาจด้วยพละกำลัง
ไม่ว่าท่านจะฝึกฝนพลังจิติญญาแห่งการต่อสู้ชนิดใด ภายใต้หมัดและเท้าของเขาแล้วล้วนเป็ดั่งกระดาษบางๆ แผ่นหนึ่ง ทันทีที่เขาลงมือ ก็จะเหมือนพวกอันธพาลยามลงมือก็มิปาน พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้แบบไหน ทักษะการต่อสู้ชนิดใด ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!
คนผู้นี้ก็คือสัตว์อสูรในร่างมนุษย์ดีๆ นี่เอง พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้โจมตีใส่ร่างเขา อย่างมากที่สุดก็คือแค่ทำลายเสื้อผ้าจนฉีกขาด ไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย เส้นขนสักเส้นก็มิเสียหาย พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้ของราชันาระดับต้นทั้งหมดไม่มีผลกระทบใดๆ เลยแม้แต่น้อยสำหรับเขา
พลังกายเนื้อเช่นนี้ทำให้ทุกคนพากันปากอ้าตาค้าง ปรมาจารย์นักยุทธ์น้อยๆ ผู้หนึ่ง เผชิญหน้ากับราชันาหกถึงเจ็ดคน ถึงกับลงมือโดยมิลังเลแม้แต่น้อย กลุ่มราชันามิตอบโต้ยังดีอยู่ หากขัดขืนย่อมรับประกันได้เลยว่าจะโดนทุบตีจนแม้กระทั่งมารดาก็จำเขาไม่ได้แล้ว ถ้าเป็คณะที่มีจำนวนต่ำกว่าสิบคน วิธีการที่ดีที่สุดก็คือถ้าสามารถหนีได้ก็ให้รีบหนีไป หากไม่สามารถหนีก็รีบมอบเงินทองให้เขาไป ห้ามต่อสู้ขัดขืนอย่างเด็ดขาด ยิ่งต่อสู้ขัดขืนก็จะยิ่งอเนจอนาถ
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีคนเปิดวงพนันรับวางเดิมพันขึ้น ณ บริเวณนอกสถานพำนักคุนเผิง พนันกันถึงผลของศึกการต่อสู้ระหว่างสุดยอดผู้ล้ำเลิศคนนี้กับบรรดาราชันหลายคน ผู้ใดคือผู้ที่จะชนะเลิศในตอนท้ายสุดกันแน่ ผู้เปิดสถานที่รับวางเดิมพันคือนายน้อยว่านฉงโหลวแห่งหอสมบัติวิเศษจิติญญา ชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของหอสมบัติจิติญญามิเคยมีผู้ใดสงสัยมาก่อน ดังนั้นวงพนันจึงได้รับการต้อนรับเป็อย่างดี เป็ที่นิยมอย่างยิ่ง คนจำนวนมากวางเดิมพันข้างสามราชัน แต่ก็มีคนมิน้อยที่วางเดิมพันข้างจ้านอู๋มิ่ง ผลตอบแทนฝั่งจ้านอู๋มิ่งค่อนข้างสูง อัตราต่อรองหนึ่งต่อห้า หากเดิมพันข้างจ้านอู๋มิ่งด้วยหนึ่งเหรียญทองคำ หากจ้านอู๋มิ่งชนะแล้ว สามารถได้รับห้าเหรียญทอง ถ้าเดิมพันข้างสามราชัน วางเดิมพันห้าเหรียญทองคำ จ่ายแค่หนึ่งเหรียญทองคำ
จ้านอู๋มิ่งมีกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบคลั่งไคล้อยู่มิน้อย อันดับแรก บรรดาศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานทั้งหมดล้วนคลั่งไคล้จ้านอู๋มิ่งอย่างยิ่งอยู่แล้ว ราชันสัตว์ร้ายเก็บตัวเงียบหายไป ถ้า้าจะกู้หน้าของสำนักบริบาลเดรัจฉาน ก็ต้องพึ่งพาจ้านอู๋มิ่งแล้ว ถึงแม้เื่ราวการปล้นชิงทรัพย์ของจ้านอู๋มิ่งจะทำให้สำนักบริบาลเดรัจฉานเสื่อมเสีย ถูกต่อว่าและตำหนิอยู่มิน้อย แต่ก็ย่อมประเสริฐกว่าถูกผู้อื่นข่มเหงรังแก เหยียบอยู่บนศีรษะกระมัง
สุงสิงกับสัตว์เดรัจฉานมามากแล้ว หนังหน้าก็หนาเช่นหนังสัตว์อสูรไปแล้ว สำนักบริบาลเดรัจฉานมิเคยกลัวคนด่ามาก่อน และก็มิกลัวปัญหายุ่งยากเช่นกัน กลัวแต่เพียงจะเสียหน้าที่พ่ายแพ้ผู้อื่น ดังนั้นบรรดาศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานจึงรวบรวมเงินเข้าด้วยกัน นำมาวางเป็เดิมพันก้อนใหญ่
บรรดาศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานเดิมพันห้าล้านเหรียญทองและหินอัคคีิญญาระดับต่ำมากกว่าห้าร้อยชิ้นในคราวเดียว
ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานแสดงออกเช่นนี้ ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงก็มิอาจพ่ายแพ้เช่นกัน ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาโเี้กว่า วางเดิมพันมากถึงสิบล้านและหินอัคคีิญญาระดับต่ำมากกว่าพันก้อน ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาแทบจะนำเงินส่วนตัวออกมาจนหมดแล้ว ถ้ามิใช่เพราะถูกจ้านอู๋มิ่งปล้นไปมิน้อย คาดกันว่าการเดิมพันจะสูงยิ่งกว่านี้ ศิษย์ตระกูลหนานกงก็รวบรวมเหรียญทองได้สี่ล้านเหรียญและหินอัคคีิญญาระดับต่ำอีกกว่าร้อยก้อน
ลูกศิษย์ของสำนักหลอมโอสถร่ำรวยที่สุด กล่าวถึงที่สุดแล้ว สื่อรั่วหนานเป็บุตรี์ที่น่าภาคภูมิใจของสำนักหลอมโอสถ จะไม่สนับสนุนนางได้อย่างไร และแล้วเม็ดโอสถจิติญญาและโอสถวิเศษชนิดต่างๆ หินอัคคีิญญาระดับกลาง วัสดุยาหายากต่างๆ ล้วนนำมาวางเดิมพันแล้ว ทุกคนได้แต่ทอดถอนใจ สำนักหลอมโอสถร่ำรวยมั่งคั่งจริงๆ! คนที่ขายโอสถแผ่นแปะหนังสุนัขต่างๆ ย่อมแตกต่างอย่างแน่นอน ในกระเป๋าของศิษย์คนไหนก็ตาม อย่างไรก็มีหินอัคคีิญญาระดับกลางจำนวนมิน้อยแล้ว
สีหน้าศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานมิค่อยน่าดูนัก แต่พวกเขาถูกเล่นงานจนน่าเวทนาจริงๆ ระหว่างต่อสู้กับสำนักกระบี่ิญญากับตระกูลหนานกงนั้น ศิษย์ในสำนักาเ็ล้มตายไปมิน้อย จำนวนยิ่งคนน้อย ศิษย์ในสำนักบริบาลเดรัจฉานแต่ละคนมีย่อมค่าใช้จ่ายสูง ปกติเงินทองส่วนใหญ่ถูกนำไปซื้อโอสถชนิดต่างๆ และอาหารเลี้ยงสัตว์อสูรจิติญญาจนหมด
ควรทราบว่า เงินทองที่ใช้จ่ายไปกับการเลี้ยงสัตว์อสูรจิติญญาตัวหนึ่งมากกว่าคนมากมายนัก ดังนั้น ระหว่างแต่ละสำนักนิกาย พูดถึงพลังการต่อสู้ สู้กันตัวต่อตัว ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานร้ายกาจที่สุด เนื่องจากแม้จะเรียกว่าสู้กันตัวต่อตัว ทว่าท่านจะต้องสู้กับเขาหนึ่งคนและหนึ่งสัตว์อสูร ดังนั้นพลังการต่อสู้จึงแข็งแกร่งที่สุด แต่ทว่าถ้า้าแข่งความร่ำรวยมั่งคั่ง ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานกลับอัตคัดขัดสนที่สุด
แต่ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานสมัครสมานสามัคคีกัน ทั้งยังหยิ่งทระนง คลุกคลีกับสัตว์อสูรนานๆ เข้ากลายเป็มิค่อยมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไปแล้ว ล้วนอุปนิสัยซื่อตรงและก็สู้เพื่อชื่อเสียง พวกเขาไม่มีเงินทองแล้ว ต่อให้ต้องไปยืมเงินทองก็ต้องยืมมาเพื่อวางเดิมพัน ถึงอย่างไรก็มิอาจวางเดิมพันน้อยกว่าสำนักกระบี่ิญญามิใช่หรือ? และแล้ว ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานก็ไปยืมเงินทองและหินอัคคีิญญากับบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย
และก็เป็เช่นนี้ หนึ่งคนไปหาหนึ่งท่าน ในที่สุดแต่ละสำนักนิกายหลักทั้งหมดล้วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางเดิมพันในครั้งนี้ แม้แต่เมืองวันสิ้นโลกก็เข้ามาร่วมสนุกด้วย นำโดยคนของคฤหาสน์เ้าเมืองวันสิ้นโลก ถึงกับเดิมพันข้างจ้านอู๋มิ่งสิบล้านเหรียญทองและหินอัคคีิญญาระดับต่ำมากกว่าห้าร้อยก้อน การวางเดิมพันนี้ ทำให้ผู้คนคาดมิถึงยิ่งนัก เนื่องเพราะผู้คนจำนวนมากล้วนมีความเชื่อมั่นในสิบราชันอย่างมิลืมหูลืมตาชนิดหนึ่ง กล่าวถึงที่สุด สิบราชันมีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน ชื่อเสียงเลื่องลือระบือไกล
การเดิมพันครั้งใหญ่นี้ทำให้ตัวประหลาดของสำนักนิกายตื่นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ว่านฉงโหลวเจตนาปล่อยข่าวการพนันแพร่ออกมาจากสถานพำนักคุนเผิง หอสมบัติวิเศษจิติญญาเปิดสถานรับวางเดิมพันขึ้นนอกสถานพำนักคุนเผิง รับวางเดิมพันของบรรดาตัวประหลาดเฒ่า
การวางเดิมพันของบรรดาตัวประหลาดเฒ่ากลับยิ่งใหญ่มากแล้ว ไม่มีการวางเหรียญทอง ทั้งหมดล้วนเป็หินอัคคีิญญา หินอัคคีิญญาระดับต่ำนั้นน่าอับอายเกินกว่าจะนำออกมา อย่างน้อยต้องเป็หินอัคคีิญญาระดับกลาง ตามด้วยสมบัติล้ำค่าหายากจากธรรมชาติอีกส่วนหนึ่งด้วย
ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานรู้สึกขุ่นข้องหงุดหงิดแล้ว หอสมบัติวิเศษจิติญญาทำเช่นนี้เท่ากับเจตนาให้สำนักบริบาลเดรัจฉานตกที่นั่งลำบาก นำการวางเดิมพันของสำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงออกมาเปิดเผยอย่างชัดเจน
นี่คือการวางเดิมพันแกมบังคับ สำนักบริบาลเดรัจฉานมิรับก็ไม่ได้ การวางเดิมพันมิอาจน้อยกว่า มิฉะนั้นพอเปรียบเทียบกับสำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงแล้ว นี่จะเสื่อมเสียถึงหน้าตาของสำนัก!
นี่ยังต้องวางเดิมพันกันอีกหรือ? จ้านอู๋มิ่งสามารถชนะสิบราชันได้จริงหรือ? สิบราชันพั่วเหยียนนั้นเป็ราชันในหมู่อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมานาน ได้ผ่านประสบการณ์ทดสอบอันยากลำบากมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว ผงาดขึ้นมามีชื่อเสียงอย่างแท้จริง จ้านอู๋มิ่งเพิ่งจะมามีชื่อเสียงไม่นานนี้เอง ทุกคนในสิบราชันล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงมานานกว่าเขาหลายสิบปีเลยเชียวนะ!
ถึงแม้จะพูดว่าการแข่งขันเช่นนี้ไม่ยุติธรรม แต่ย่อมไม่สามารถพูดเช่นนี้กับคนที่เปิดรับวางเดิมพันได้ ยึดหลักสัจธรรม แม้คนพ่ายแต่ปณิธานมิอาจแพ้ ต่อให้รู้ว่าจะต้องพ่ายแพ้แต่ก็ยังต้องยืนหยัด ถึงฟันหักก็กลืนลงท้องพร้อมเื สำนักบริบาลเดรัจฉานไม่สามารถทอดทิ้งคนผู้นี้ไปได้!
และแล้ว บรรดาตัวประหลาดเฒ่าในสำนักบริบาลเดรัจฉานรู้สึกอับจนปัญญา ได้แต่รวบรวมหินอัคคีิญญาระดับกลางทั้งหมดหนึ่งหมื่นก้อนเพิ่มเข้าไป และยังใส่เม็ดโอสถจิติญญาอีกหลายเม็ด
บรรดาตัวประหลาดเฒ่าของสำนักบริบาลเดรัจฉานที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกขุ่นเคืองแต่ก็ทำอันใดมิได้ เยว่หลิงซาน บรรพบุรุษผู้เฒ่าเคยกล่าวไว้ หากลงมือในน่านน้ำสถานพำนักคุนเผิง เขามิมีวาจาจะว่ากล่าว แม้แต่สิบราชัน ในน่านน้ำมหาสมุทรสถานพำนักคุนเผิงก็สามารถใช้ได้แค่พลังราชันาระดับเริ่มต้นเท่านั้น ขอบเขตนี้แทบจะระดับเดียวกับจ้านอู๋มิ่ง หากจ้านอู๋มิ่งพ่ายแพ้แล้ว หรือเสียชีวิตแล้ว ก็กล่าวโทษคนอื่นมิได้เช่นกัน
ดังนั้น ต่อให้สิบราชันจะร่ำร้องว่า้าสังหารจ้านอู๋มิ่ง สำนักบริบาลเดรัจฉานก็ได้แต่ลืมตาข้างหนึ่ง หลับตาข้างหนึ่ง พวกเขารู้สึกได้ระบายความโกรธเคืองอย่างมากจากการโจมตีกลับของจ้านอู๋มิ่ง กล้าที่จะตอบโต้ แสดงให้ว่าเด็กคนนี้ยังขวัญกล้ามาก มิทำให้สำนักบริบาลเดรัจฉานต้องเสียหน้า ส่วนเื่ปล้นชิงทรัพย์นั่นนับเป็เื่ใดได้เล่า ทรัพย์สมบัติในใต้หล้า ผู้เปี่ยมคุณธรรมเป็ผู้รับไว้ พวกเ้าจะไปจับคน ผลปรากฏว่าจับคนมิสำเร็จกลับถูกปล้นชิงกลับมา ย่อมเป็เพราะฝีมือตนเองสู้ผู้อื่นไม่ได้ เช่นนั้นแล้วจะให้ทำอย่างไรเล่า?
พูดขึ้นมาแล้ว จ้านอู๋มิ่งเพียง้าทรัพย์ มิ้าชีวิต ดูสิ! พวกเราสำนักบริบาลเดรัจฉานอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ได้ดีมากเพียงใด แต่ละคนรู้จักความพอเพียงประมาณตนด้วยนะ!