เอาเป็ว่าหลังจากที่หลิวหย่งมาถึง เป็ขณะเดียวกับที่คู่หมายของเสี่ยวโหรวกำลังนำพรรคพวกเจ็ดแปดคนพังห้องเต้นรำอยู่
เสี่ยวโหรวมีาแบนใบหน้า
หลิวหย่งเห็นมุมปากเธอแตก แก้มมีรอยฟกช้ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง นอกจากนี้เขายังเห็นเสื้อของเธอถูกคนฉีกกระชากก็เกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
ผู้ชายคนหนึ่งห่วยแตกถึงขนาดต้องให้ผู้หญิงของตัวเองออกมาทำงานเป็เด็กนั่งดริงก์ไม่พอ ยังมากระทำการอุกอาจเช่นนี้อีก แต่หากไม่รู้เื่นี้จริงๆ หลังรู้เื่แล้วทั้งสองคนก็สามารถตกลงกันได้ว่าจะไม่ทำงานนี้อีก และเปลี่ยนให้ฝ่ายชายไปทำงานหาเงินแทน เผิงเฉิงนั้นเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย หากได้ทำงานในโรงงานข้ามชาติ เดือนๆ หนึ่งคงได้เงินหลายร้อยหยวน หรือต่อให้ไม่ได้ทำงานที่โรงงานข้ามชาติ อย่างไรทำงานอื่นที่เผิงเฉิงเงินเดือนก็สูงกว่าเมืองอื่นๆ อยู่ดี กล่าวได้ว่าเมื่ออยู่ที่นี่คุณไม่จำเป็ต้องกลุ้มใจว่าจะไม่มีงานทำ
ถ้ารับไม่ได้ที่เสี่ยวโหรวเคยเป็เด็กนั่งดริงก์ เช่นนั้นเลิกรากันไปก็หมดเื่
พอจับตัวได้ก็ลงไม้ลงมือ หลิวหย่งไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายผู้หญิง เนื่องจากหลิวเฟินน้องสาวของเขาเคยประสบกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยเขามารู้ทีหลังว่าตอนเมาเหล้าเซี่ยต้าจวินเคยทำร้ายหลิวเฟิน เป็เหตุให้ตอนยังไม่หย่าร้างหลิวเฟินจึงมักจะหลบหน้าหลบตาคนในครอบครัวอยู่เสมอ หลังหลิวหย่งรู้เื่เขาก็โมโหจนเืขึ้นหน้า
“พี่เทียนเฉวียน นี่มันเื่อะไรกัน”
“เฮ้อ น้องชาย พี่ผิดต่อน้องจริงๆ เสี่ยวโหรวถูกซ้อมแล้วพวกเขาถึงได้มาบอกพี่ พี่เลยรีบเรียกน้องมาอย่างไรล่ะ!”
เดิมทีคู่คหมายของเสี่ยวโหรวถูกคนของหลิวเทียนเฉวียนจับตัวไว้ แต่ไม่ทันไรก็ดิ้นหลุดจนได้
“นี่คือชู้ของเธอใช่ไหม บ้าเอ้ย ฉันจะฆ่าแก!”
เสี่ยวโหรวะโห้าม และวิ่งไปกอดผู้ชายคนนั้น “เื่นี้ไม่เกี่ยวกับพี่หย่ง จะทำก็ทำฉัน...”
“เรียกพี่หย่งเสียคล่องปากแบบนี้ ยังจะบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมันอีก?”
เสี่ยวโหรวถูกตบหน้าอย่างแรง หลิวหย่งเห็นแล้วรู้สึกปวดหัวไม่น้อย
หลี่ต้งเหลียงต้องรับผิดชอบดูแลโครงการอีกสองแห่งที่หลิวหย่งรับงานไว้ ดังนั้นจึงเป็เก่อเจี้ยนที่มากับหลิวหย่ง พอหลิวหย่งออกคำสั่ง เก่อเจี้ยนจึงดึงตัวผู้ชายคนนั้นออกมาทันที
ตอนตบผู้หญิงนั้นดุราวกับสุนัข แต่พออยู่ใต้เงื้อมมือของเก่อเจี้ยนกลับปวกเปียกเสียยิ่งกว่าไก่อ่อน
หลิวหย่งไม่อยากทะเลาะกับอีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาดูออกถึงความผิดปกติ “พี่เทียนเฉวียน นี่เป็เื่ในครอบครัวคนอื่น ผมไม่ควรยุ่งกระมังครับ”
มีคนตบตีผู้หญิง เ้าของร้านไม่สนใจ หลิวเทียนเฉวียนไม่สนใจ ทว่ากลับเรียกเขามา?
หลิวหย่งรู้สึกว่า จะต้องมีเื่เข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน!
ทันทีที่เขาบอกว่าตัวเองไม่ควรยุ่ง สายตาของคนในร้านล้วนพากันจ้องมองมาที่เขา ขนตาของเสี่ยวโหรวสั่นเล็กน้อย เธอทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดกลางคัน
เก่อเจี้ยนคิดในใจ หรือคนพวกนี้คิดจะโทษเ้านายเขา?
เฮ้อ คนพวกนี้ทำไมต้องหาเื่ด้วย เก่อเจี้ยนได้ยินว่าคุณผู้หญิงเซี่ยมาถึงเผิงเฉิงแล้ว
คุณผู้หญิงเซี่ยคือคนที่หาเื่ได้ง่ายๆ หรืออย่างไรกัน
มีเพียงหลิวหย่งที่ไม่รู้ว่าหลานสาวของตนได้เดินทางมาเผิงเฉิง แถมยังพาลูกเมียของเขามาพร้อมกันอีกด้วย อย่างไรก็ตามเขาอยากคุยงานกับหลิวเทียนเฉวียน แต่พอมาถึงกลับต้องมาสะสางเื่ในครอบครัวของเสี่ยวโหรว เสี่ยวโหรวเป็คนรู้จักวางตัว ทุกครั้งเธอมักจะทำให้หลิวหย่งไม่รู้สึกลำบากใจมากนัก ไม่เหมือนเด็กนั่งดริงก์คนอื่นๆ ที่พยายามเอาหน้าอกมาแนบตัวหลิวหย่ง แต่ทุกคนกลับคาดหวังให้หลิวหย่งมาจัดการปัญหาภายในครอบครัวของเธอ ทำเอาตัวเขาถึงกับมึนงงเลยทีเดียว
เขายังไม่ทันได้ตั้งสติ ก็ได้ยินคู่หมายของเสี่ยวโหรวประกาศกร้าวว่า จะฆ่าชายชู้ให้ตาย เมื่อเก่อเจี้ยนไม่มีทีท่าว่าจะลงมือ หลิวเทียนเฉวียนจึงสั่งลูกน้องให้ไล่พรรคพวกของชายคนนั้นออกไป ก่อนจะตบไหล่หลิวหย่ง
“น้องชาย ถ้าปล่อยให้เสี่ยวโหรวอยู่ที่ห้องเต้นรำอีกคงไม่เหมาะ ถ้าเช่นนั้นพี่ช่วยหาที่อยู่ให้เธอแทนน้องดีไหม”
หลิวหย่งขมวดคิ้ว “พี่เทียนเฉวียน เื่แบบนี้อย่าล้อเล่นเหลวไหลสิครับ”
หลิวเทียนเฉวียนหัวเราะร่า “นี่น้องยังกลัวแม่เสือแก่ที่บ้านอีกหรือ ไม่เห็นจะเป็เื่ใหญ่ตรงไหน คนหนึ่งอยู่บ้าน อีกคนอยู่เผิงเฉิง ผู้ชายอย่างเราออกมาทำงานหาเงิน จะไม่มีคนคอยดูแลอยู่ข้างกายเลยใช้ได้ที่ไหนกัน! คนรวยที่ฮ่องกงก็มีเมียหลายคนด้วยกันทั้งนั้น ถูกต้องทั้งกฎหมายและหลักเหตุผล อีกอย่างพี่คิดว่าผู้ชายพวกนั้นคงตามราวีเธอไม่เลิก เสี่ยวโหรวเป็คนอาภัพถึงได้ถูกผู้ชายแบบนั้นตามตอแย ตอนนี้เธอคงทำงานอยู่ที่ห้องเต้นรำไม่ได้อีกแล้วล่ะ เพราะจะกระทบกับกิจการของร้านได้”
ให้หาเมียนอกบ้านอีกคน?
หลิวหย่งไม่เคยคิดเื่นี้จริงๆ เขาอยู่เป็โสดจนอายุสามสิบกว่าถึงจะได้แต่งเมีย อีกทั้งเขากับหลี่เฟิ่งเหมยยังรักกันดี ่ที่เขายากจนที่สุด หลี่เฟิ่งเหมยยังแอบหยิบยืมเงินจากทางฝั่งครอบครัวตัวเองมาเพื่อประทังชีวิต สาเหตุที่หลิวหย่งออกมาทำงานหาเงินก็เพราะอยากให้ลูกเมียมีชีวิตที่ดี และเขา้าดูแลคนรอบข้างได้
คนรวยที่ฮ่องกงมีเมียน้อยหลายคนได้ แต่หลิวหย่งไม่ใช่คนรวยจากฮ่องกงเสียหน่อย ชาวแผ่นดินใหญ่เช่นพวกเขาล้วนอยู่กันแบบผัวเดียวเมียเดียวมานานมากแล้ว บ้านเกิดเขาที่ชนบท คนที่แต่งงานแล้วไม่ว่าชายหรือหญิง หากออกไปคบชู้ จะถูกเรียกว่าพวก ‘รองเท้าผุพัง’ !
หลิวเทียนเฉวียนนึกว่าที่หลิวหย่งเงียบไปเพราะกำลังพิจารณาคำพูดของตน เขาจึงส่งสายตาให้เสี่ยวโหรว เพื่อให้เธอช่วยสุมไฟ
เสี่ยวโหรวเดินโซซัดโซเซ ก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าหลิวเทียนเฉวียน
“เถ้าแก่คะ พี่หย่งไม่ใช่คนแบบนั้น โปรดอย่าบังคับเขาเลยค่ะ เขาเป็ผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง คนอย่างฉันมีหรือที่จะคู่ควรกับเขา ฉันเกิดมาอาภัพ พี่หย่งไม่ได้คิดแบบนั้นกับฉัน เป็อย่างนี้ดีแล้วค่ะ ฉันไม่อยากทำให้พี่หย่งต้องเดือดร้อน...”
เสี่ยวโหรวก้มศีรษะ พร้อมทั้งร้องไห้ออกมาจนไหล่สั่น
เมื่อก่อนเด็กนั่งดริงก์คนอื่นๆ ไม่ค่อยชอบหน้าเสี่ยวโหรวนัก เพราะเธอมาถึงก็ได้รับความดูแลจากหลิวเทียนเฉวียน เธอไม่ต้องรับแขกคนอื่นๆ ไม่ต้องถูกพวกผู้ชายน่ารังเกียจเอาเปรียบ เป้าหมายเดียวของเธอคือหลิวหย่ง อีกทั้งเสี่ยวโหรวยังทำตัวสูงส่ง เด็กนั่งดริงก์คนอื่นเห็นแล้วย่อมรู้สึกหมั่นไส้ แต่วันนี้เสี่ยวโหรวถูกคู่หมายที่บ้านเกิดตบตีจนใบหน้าฟกช้ำ พวกเธอจึงเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
หรือว่าคนที่เคยเป็เด็กนั่งดริงก์เช่นพวกเธอจะไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปาก?
แม้แต่ผู้รับเหมาตัวเล็กๆ อย่างหลิวหย่งก็ยังรังเกียจเสี่ยวโหรว?
พวกผู้หญิงเริ่มซุบซิบกัน
“เสี่ยวโหรวรักเดียวใจเดียวกับเขา ไม่ยอมต้อนรับแขกคนอื่นเลย วันๆ เธอเอาแต่เฝ้ารอเขามาที่ร้าน”
“ทำไมคู่หมายเธอต้องมาที่นี่ด้วย เสี่ยวโหรวส่งจดหมายไปบอกเลิกแล้วนี่ ห้องเต้นรำไม่อยากเก็บเสี่ยวโหรวไว้ แถมอดีตคู่ครองก็ยังโหดเสียขนาดนั้น คราวนี้เหมือนบีบเธอให้ะโน้ำตายชัดๆ !”
“เฮ้อ คนชอบพูดว่าโสเภณีไร้หัวใจ แต่ฉันว่าผู้ชายต่างหากที่ไร้หัวใจที่สุด”
หลิวหย่งรู้สึกปวดหัวจนแทบะเิ
เื่นี้มีแต่พิรุธเต็มไปหมด ทำไมไปๆ มาๆ กลับกลายเป็ความรับผิดชอบของเขาไปได้?
—-------------------------------------------
หากเซี่ยเสี่ยวหลานอยากเจอหลิวหย่ง ขอแค่หาตัวหลิวเทียนเฉวียนเจอก็พอแล้ว
ขณะที่ไป๋เจินจูอยู่กับหลี่เฟิ่งเหมย เซี่ยเสี่ยวหลานฉวยโอกาสนี้บอกว่าตนมีธุระต้องไปทำ ก่อนจะพาคังเหว่ยกับพานซานออกไปด้วยกัน หลิวเทียนเฉวียนอยู่ที่ไหนนั้นสืบได้ไม่ยาก ถึงอย่างไรเขาก็มีชื่อเสียงอยู่บ้าง และมักจัดกิจกรรมที่ห้องเต้นรำหนานหยางอยู่บ่อยๆ
ห้องเต้นรำหนานหยางมีชื่อเสียงโด่งดังในเผิงเฉิง เนื่องจากเมื่อก่อนเผิงเฉิงมีห้องเต้นรำแค่แห่งเดียวอยู่ที่โรงแรมจู๋หยวน
ห้องเต้นรำหนานหยางเปิดกิจการเป็เอกเทศ แสงไฟมืดสลัว เสียงเพลงก้องกังวาน มีสุราหลากหลายแบบ ทั้งยังมีเด็กนั่งดริงก์ที่คอยดื่มเหล้าและเต้นรำเป็เพื่อนแขกผู้มาเยือน ชาวท้องถิ่นของเผิงเฉิง แม้แต่คราบโคลนบนขากางเกงยังล้างไม่สะอาด มีหรือจะเคยพบเห็นสถานที่แบบนี้!
นอกจากห้องเต้นรำหนานหยาง ยังมีห้องเต้นรำซีย่วนซึ่งตั้งอยู่ในแถบหมู่บ้านทางใต้ สองร้านนี้คือร้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
แน่นอนว่าหากปีหน้าหมู่บ้านพักตากอากาศเซียงมี่หูเปิดทำการ ไนต์คลับเซียงมี่หูที่ขึ้นชื่อว่าเป็ไนต์คลับแห่งแสงสีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผยโฉมหน้าให้ผู้คนได้ชื่นชมเมื่อไร กิจการห้องเต้นรำหนานหยางก็คงซบเซาลง... ไนต์คลับเซียงมี่หู เซี่ยเสี่ยวหลานเคยไปมาครั้งสองครั้ง แต่ห้องเต้นรำอะไรนี่ ชาติที่แล้วตอนทำงานอยู่ที่เผิงเฉิง เธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยสักครั้ง
พอเซี่ยเสี่ยวหลานมาถึง ผู้ชายสองคนที่คงเป็ลูกน้องก็เดินตรงมาหาเธอ
สาวสวยเช่นนี้ ทำเอาเด็กนั่งดริงก์ที่สวยที่สุดในร้านพวกเขาดูหมองไปเลย
คังเหว่ยขับรถมา พานซานก็ดูไม่น่าหาเื่ด้วย ไม่อย่างนั้นสองคนนี้คงเอ่ยปากแซวเธอเป็แน่
“ทั้งสามท่าน ห้องเต้นรำของพวกเรายังไม่เปิดให้บริการครับ...”
“พวกเธอคิดว่าฉันเหมือนคนมาเต้นรำหรือ ฉันมาหาเถ้าแก่หลิวเทียนเฉวียน”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้