เคอโยวหรานยกยิ้มเอ่ย “เต้าหู้ทั้งหมดล้วนมีผู้าุโเป็คนทำ เงินเหล่านี้ท่านผู้าุโสมควรจะได้รับเ้าค่ะ”
ผู้ใหญ่บ้านเฉินกล่าวอย่างกระดากใจว่า “โยวหราน เงินปันส่วนที่ข้ามอบให้พวกเ้าก่อนหน้านี้ เมื่อแบ่งกันแต่ละครอบครัวก็เป็เงินเพียงห้าสิบกว่าตำลึงเท่านั้น
จู่ๆ เ้าเอาเงินตั้งมากมายถึงเพียงนี้มาให้ข้า ภายในใจของข้ารู้สึกว่าไม่ถูกต้องจริงๆ!”
เคอโยวหรานคลี่ยิ้ม ใช้น้ำเสียงเกลี้ยกล่อมโดยไม่ยอมให้ปฏิเสธ “ท่านผู้าุโอย่าได้คิดมากจนเกินไปเ้าค่ะ เต้าหู้และเต้าฮวยที่ท่านขายให้โรงสุราฟู่หยวนถูกคิดในราคายี่สิบอีแปะต่อหนึ่งจิน
แต่เงินปันส่วนที่ข้าได้มาเป็เงินที่คิดจากการขายเต้าหู้และเต้าฮวยแต่ละชาม ย่อมไม่เหมือนกันเลยสักนิด แน่นอนว่าเงินปันส่วนจะต้องแตกต่างกันอย่างมาก
คนทั้งครอบครัวของท่านผู้าุโต้องตื่นมาบดถั่วเหลืองั้แ่เช้า มิหนำซ้ำยังต้องกรองน้ำเต้าหู้ทำเต้าฮวย ล้วนเป็เงินที่หามาด้วยความยากลำบาก เงินเหล่านี้เป็เงินที่ครอบครัวของท่านสมควรได้รับ อีกประเดี๋ยวข้าจะบอกพี่ใหญ่ให้เขาเอาเงินไปส่งที่เรือนของท่านนะเ้าคะ”
ผู้ใหญ่บ้านเฉินขอบตาแดงก่ำทันใด ภายในใจรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน ชั่วชีวิตนี้ของเขาพบเจอเื่ทุกข์ยากมามากมายแต่ไม่เคยร้องไห้สักครั้ง ยามนี้กลับถูกความรู้สึกตื้นตันที่มีต่อเคอโยวหรานทำให้น้ำตาไหลรินเสียแล้ว...
การตรวจสอบโรงงานเต้าหู้ในวันนี้ทำให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตา ทั้งยังทำให้คนสกุลเคอริษยาจนแทบเสียสติเช่นกัน
หลังกลับเรือน เคอโยวหรานเรียกทุกคนในครอบครัวมายังห้องโถงรับรอง ไป๋ซื่อยังคงหลบเลี่ยงโดยอ้างว่ารู้สึกไม่สบายกายนัก
ไป๋ซื่อรู้ว่าตนนิสัยใจคออ่อนแอ หากรู้เื่ต่างๆ มากเกินไปแล้วภายหน้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อตัวนางเองหรือคนที่นางใส่ใจถูกศัตรูจับตัวไป
ครั้นอีกฝ่ายใช้พวกเขาบีบบังคับนาง ไป๋ซื่อกลัวว่าตนเองจะใจอ่อนไปชั่วขณะและบอกสิ่งที่รู้ออกไปเพื่อแลกกับความปลอดภัยของคนที่ตนรัก
เมื่อเป็เช่นนี้จะยิ่งทำให้สกุลต้วนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม มิสู้ไม่ต้องรับรู้สิ่งใดั้แ่ต้นเสียดีกว่า
หยวนซื่อถึงกับดวงตาแดงก่ำ นางอยากรู้ยิ่งนักว่าสกุลต้วนจะหารือเื่อันใด แต่ในเมื่อไป๋ซื่อออกไปแล้ว หากนางยังรั้งอยู่ที่นี่ก็คงจะดูไม่ดีเกินไปกระมัง?
หลังจากความคิดโรมรันกันครู่หนึ่ง หยวนซื่อไม่อยากออกไปเหลือเกิน ทว่าเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเพียบพร้อมเปี่ยมคุณธรรมของตน นางจึงทำความเคารพพลางเอ่ยไปทางมารดาสกุลต้วนว่า
“ท่านแม่ ข้ารู้สึกไม่สบายเท่าใด ต้องขอตัวออกไปก่อนนะเ้าคะ”
มารดาสกุลต้วนเอ่ยด้วยความเป็ห่วง “อืม ในเมื่อไม่สบาย เช่นนั้นก็กลับไปนอนพักผ่อนดีๆ เถิด!”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หยวนซื่อได้ยินในหูกลับกลายเป็ว่ามารดาสกุลต้วนบอกให้ตนรีบออกไป
หยวนซื่อโมโหจนปอดแทบจะะเิ หลังเดินออกจากประตูห้องโถงรับรอง นางก็ดึงทึ้งผ้าเช็ดหน้าภายในมือของตนพลางเดินออกจากลานเรือน มุ่งหน้าไปทางเชิงเขาต้าชิงที่อยู่ห่างไกลออกไปด้วยความคับแค้นใจ
ยามนี้นาง้าสถานที่ระบายโทสะสักแห่ง มีสิทธิ์อันใดที่ตนถูกไล่ออกมา แต่เคอโยวหรานกลับยังนั่งอยู่ข้างในนั้นหน้าตาเฉยกัน?
หยวนซื่อกลับไม่คิดแม้แต่นิดว่าสกุลต้วนมิได้ไล่ให้นางออกมา ทั้งหมดนี้เป็เพราะนางจิตใจคับแคบไปเองเท่านั้น
หลังจากเดินมาไกล หยวนซื่อหยุดยืนอยู่หน้าตอไม้เน่าเปื่อยก่อนจะออกแรงเตะมันด้วยความโกรธไปคราหนึ่ง
ผู้ใดจะนึกว่านางออกแรงมากเกินไป เจ็บเสียจนต้องทิ้งบั้นท้ายนั่งลงกับพื้น เอามือกุมปลายเท้าของตนที่เจ็บจากแรงเตะ น้ำตาไหลอาบใบหน้า แต่กลับกัดริมฝีปากไว้แน่นไม่ยอมเปล่งเสียงใดออกมา
ละแวกใกล้เคียงล้วนคือนายช่างที่กำลังทำงาน หากมีคนเห็นสภาพจนตรอกของนางเข้า เช่นนั้นภาพลักษณ์เพียบพร้อมเปี่ยมคุณธรรมของนางก็คงหายไปจนสิ้น
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง หยวนซื่อจึงค่อยสงบสติอารมณ์ลง นางเอามือค้ำยันตอไม้เพื่อลุกขึ้น แต่กลับเหลือบไปเห็นว่าด้านหลังตอไม้มีเห็ดหูหนูดำจำนวนมากโดยมิได้ตั้งใจ
หยวนซื่อพลันหรี่ดวงตาลง มุมปากหยักยกโดยมิอาจสังเกต หากนางจำไม่ผิด
ตอนยังเป็คุณหนูอยู่ในจวน แม่นมที่เลี้ยงดูตนเคยบอกว่า สตรีมีครรภ์อย่ากินเห็ดหูหนูดำมากนัก
ของสิ่งนี้มีสรรพคุณขับและสลายเื หากสตรีมีครรภ์กินเข้าไปจำนวนมากจะทำให้เกิดอาการตกเืได้
ไป๋ซื่อมีสิทธิ์อันใดมาตั้งครรภ์ก่อนนาง? ตนยังไม่ทันมีสักคน ครอบครัวรองก็คิดจะมีทายาทคนโตให้สกุลต้วนตัดหน้าครอบครัวใหญ่เสียแล้ว?
ยังมีหญิงแก่ถงซื่อผู้นั้น กระทั่งบุตรสาวยังออกเรือนแล้วแท้ๆ อีกฝ่ายเป็ถึงสตรีอายุสามสิบกว่า ยังคิดจะมีบุตรอย่างหน้าไม่อาย
ช่างไม่เอากระจกมาส่องดูเงาตนเองสักนิดว่าคู่ควรหรือไม่
เมื่อคิดเช่นนี้ หยวนซื่อก็มองสำรวจรอบข้าง พอเห็นว่าเหล่านายช่างกำลังยุ่งกับงานในมือ ไม่มีผู้ใดหันมาสนใจทางที่นางอยู่แม้แต่นิด
หยวนซื่อพลันย่อกายลง เอาผ้าเช็ดหน้าที่พกติดกายออกมา จากนั้นเก็บเห็ดหูหนูดำไว้ในผ้าเช็ดหน้าของตนเอง...
......
ภายในห้องรับรองของสกุลต้วน
ครั้นน้องสาวทั้งสองของเคอโยวหรานเห็นไป๋ซื่อกับหยวนซื่อต่างพากันออกไป พวกนางจึงหันมองคนสกุลต้วนแล้วเตรียมจะขอตัวออกไปเช่นกัน
ต้วนเหลยถิงเอ่ยห้ามเอาไว้ “ท่านแม่ โยวหลาน โยวเยวี่ย พวกท่านไม่จำเป็ต้องออกไป พวกเราล้วนเป็คนครอบครัวเดียวกัน มีหลายเื่ที่พวกท่านมีสิทธิ์จะได้รับรู้
ขอเพียงไม่แพร่งพรายเื่ที่พวกเราหารือกันเป็การส่วนตัวออกไป หากจะฟังย่อมไม่เป็อันใด”
ทุกคนในสกุลต้วนอยู่ร่วมกับครอบครัวของเคอเจิ้งตงมานานถึงเพียงนี้ ต่างรู้ดีว่าพวกเขาหนึ่งครอบครัวมิใช่คนปากสว่าง ทั้งยังไม่มีทางออกไปพูดจาซี้ซั้วข้างนอกอย่างแน่นอน
ดังนั้นจึงเห็นด้วยที่จะให้ถงซื่อกับน้องสาวทั้งสองในสกุลเคอรั้งอยู่ต่อ ครั้นมารดาสกุลต้วนเห็นถงซื่อสำรวมตัว จึงกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้พลางเอ่ยว่า
“น้องหญิง ซานหลางพูดถูก พวกเราเป็ครอบครัวเดียวกัน เ้าต้องอยู่ฟังสักหน่อย
โยวหรานเป็คนมีความสามารถ จากความฉลาดหลักแหลมของนาง ภายหน้าครอบครัวของพวกเราจะต้องก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
เ้ากับบุตรสาวทั้งสองก็ควรเรียนรู้เื่ดูแลเรือนเอาไว้บ้าง ภายหน้าทุกคนยังต้องดูแลกิจการร่วมกัน”
เมื่อก่อนตอนอยู่ในสกุลเคอ ทันทีที่ถงซื่อกับสองพี่น้องลืมตัว หากไม่ถูกตำหนิก็ต้องถูกด่าทอ มีหรือจะเคยถูกเห็นความสำคัญเช่นนี้มาก่อน?
ทันใดนั้นคนทั้งสามถึงกับขอบตาแดงระเรื่ออย่างมิอาจหักห้าม มิหนำซ้ำถงซื่อยังยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน
ครั้นเห็นสกุลต้วนยอมรับมารดาและน้องๆ ของนาง เคอโยวหรานพลันยกยิ้มปลื้มใจ
นางจึงบอกเล่าเื่ที่เกิดขึ้นหลังจากตนกับต้วนเหลยถิงไล่ตามชายชุดดำไปให้ทุกคนได้ฟังหนึ่งรอบ
ทว่ายังคงปิดบังเื่ที่พวกนางทำพันธสัญญากับมิติวิเศษเอาไว้
หลังต้วนต้าหลางกับต้วนเอ้อร์หลางได้ยิน ต่างพากันกำหมัดด้วยความตื่นเต้นก่อนจะหันมองหน้ากันด้วยความยินดี
ทางด้านมารดาสกุลต้วนพนมมือขึ้น “อมิตาภพุทธ พระโพธิสัตว์ประทานพร ์คุ้มครองสกุลต้วนของข้า!”
สิ้นคำกล่าว นางพลันหันหน้าไปทางเคอโยวหราน สะใภ้ผู้นี้ได้นำพาความน่ายินดีระคนประหลาดใจมาให้นางหลายเื่จนเกินไปแล้ว
ยามนี้มารดาสกุลต้วนถึงขั้นไม่รู้ว่าควรจะแสดงความรู้สึกขอบคุณจากใจต่อเคอโยวหรานเช่นไรดี
นางลอบคิดในใจ : สะใภ้คนนี้ช่างประเสริฐเกินไปแล้ว ภายหน้าจะต้องตอบแทนโยวหรานเป็เท่าตัวให้จงได้
รอกระทั่งอารมณ์ตื่นเต้นของทุกคนสงบลง เคอโยวหรานยังเอ่ยต่อไปว่า
“ข้าขอเสนอให้หลังจากนี้ไป พวกเราแบ่งงานกันทำเป็อย่างไรเ้าคะ?”
ต้วนเหลยถิงกับเคอโยวหรานความคิดจิตใจเชื่อมโยงกัน คล้ายกับรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง เขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ต้วนต้าหลางเปิดปากถาม “น้องสะใภ้จะแบ่งงานเช่นไรหรือ?”
ทุกคนต่างทอดมองไปทางเคอโยวหรานอย่างเงียบเชียบเพื่อรอคำกล่าวต่อไปของนาง
เคอโยวหรานใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนตอบ “พี่รองกับซานหลางไปยังหุบเขากับบ้านสวน ไม่ว่าจะเป็การไถคราดหรือการฝึกซ้อมก็ดี ทางฝั่งนั้นมีเื่มากมายรอให้พวกท่านไปจัดการเ้าค่ะ
ส่วนพี่ใหญ่อยู่ในเรือนเพื่อดูแลความเรียบร้อย ทั้งยังคอยดูแลบัญชีครัวเรือนอีกด้วยเ้าค่ะ
ส่วนข้าจะปลอมตัวเป็บุรุษ ให้อิ่งซานคอยติดตามข้าไปสำรวจตำบล อำเภอ และเมืองโจวฝู่ใกล้เคียงเพื่อตรวจดูสถานการณ์ตลาดค้าขายโดยรอบเ้าค่ะ”
ถงซื่อถามด้วยความไม่วางใจ “โยวหราน เ้าเป็สตรี จะออกไปเตร็ดเตร่ข้างนอกด้วยเหตุใด? รูปร่างหน้าตาเ้างดงามถึงเพียงนี้ หากพบผู้มีใจคิดร้ายขึ้นมา อิ่งซานเพียงคนเดียวปกป้องเ้าไม่ไหวจะทำเช่นไร?”
เคอโยวหรานอธิบาย “ท่านแม่ โรงงานเต้าหู้สร้างเสร็จแล้ว แต่ละวัน้าส่งออกเป็จำนวนมาก เมื่อเป็เช่นนี้ การขายออกไปก็คือปัญหาเ้าค่ะ
โรงสุราฟู่หยวนไม่้าเต้าหู้กับเต้าฮวยเป็จำนวนมากถึงเพียงนี้ พวกเราจำต้องขยายตลาดเพื่อทำการค้าขายกับภายนอกจึงจะเป็การดีเ้าค่ะ”