เย่เฟิงและเหล่าปีศาจพิภพต่างตั้งหน้าตั้งตารอ ในขณะนั้นมือข้างหนึ่งของเย่เฟิงก็ลูบคลำบริเวณกระเป๋าพลางคิดในใจว่า “ครั้งนี้คงต้องพึ่งเ้าแล้ว”
คราวก่อนที่เขตเวทีประลองทดสอบของตระกูลตู๋กู แม้ซื่อหุนจะใช้เคล็ดวิชาิญญาสังหาร เย่เฟิงก็ยังคงฆ่าอีกฝ่ายได้ โดยพึ่งพาพลังของไข่มุก ดูดพลังชีวิตของซื่อหุนจนกลายเป็ซากศพ นับแต่นั้นมาเย่เฟิงก็ได้รู้ว่าไข่มุกมีความสามารถฝืนลิขิต์ในการดูดซับพลังงานจากผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์ได้ แต่ครั้งนี้สิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าคือสัตว์อสูรปลายยอดระดับพิภพ ดังนั้นเย่เฟิงจึงกังวลอยู่ไม่น้อย
“วูบ!” ขณะนั้นมีปราณอสูรที่น่าหวาดกลัวสายหนึ่งมาเยือน ก่อนจะกลายเป็แรงกดดันมหาศาลเข้าปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ทำให้เย่เฟิงและเหล่าปีศาจพิภพหายใจไม่ออกและสีหน้าซีดลง นาทีต่อมาเห็นเงาร่างหนึ่งร่อนลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งก็คือหัวหน้าจิ้งจอกขาวนั้นเอง
เหล่าปีศาจพิภพต่างโค้งคำนับหัวหน้าจิ้งจอกขาวทันที พร้อมแววตาสั่นระริกไปด้วยความหวาดกลัว และความกลัวนี้มาจากก้นบึ้งจิติญญา มิอาจกำจัดออกไปได้
หัวหน้าจิ้งจอกขาวกวาดตามองเหล่าปีศาจพิภพ ก่อนจะหยุดอยู่ที่เย่เฟิงพลางเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ “ไม่เลวนี่ ระดับการบ่มเพาะขั้นรวมชี่ที่ 2 ถือว่าเสถียรเลยทีเดียว เห็นทีเ้าไม่ได้ใช้ยาเม็ดไปอย่างเปล่าประโยชน์”
“ผู้าุโให้ยาเม็ดทั้งที ผู้เยาว์ย่อมไม่ทำให้มันเสียเปล่า” เย่เฟิงกล่าว
“ฮ่า ๆ ๆ เ้านี่นะช่างพูดช่างจาเสียจริง” หัวหน้าจิ้งจอกขาวระบายยิ้ม พร้อมพูดต่อ “เห็นเ้าพูดเช่นนี้ ข้ายิ่งอยากครองร่างเ้าแล้วสิ!”
เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้น ดวงตาพลันวาบประกายเยือกเย็นพลางคิดในใจว่า “สมกับเป็สัตว์อสูร ช่างตรงไปตรงมาและไม่เกรงกลัวสิ่งใด อยากยึดครองร่างข้าก็พูดออกมาตรง ๆ!”
“ผู้าุโอยากยึดร่างข้าหรือ?” เย่เฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และทำท่าทีเป็ไม่รู้
“ทำไม เ้าไม่ยอมหรือ?” หัวหน้าจิ้งจอกขาวได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็เย็นเยียบขึ้นมา
“ผู้เยาว์มิบังอาจ” เย่เฟิงกล่าว แต่ในใจกลับสาปแช่งหัวหน้าจิ้งจอกขาวยัน 18 ชั่วโคตร
“การที่ให้ข้าครองร่างเ้า ถือว่าเป็เกียรติยศของเ้า ถึงเวลานั้นข้าจะใช้ร่างนี้ของเ้าพิชิตทั้งอาณาจักรจ้าว ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางทำให้เ้าเสื่อมเสียเกียรติ!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวเชิดหน้าชูตาอย่างหยิ่งผยอง ราวกับว่าการที่ถูกเขายึดร่างเป็ความโชคดีของเย่เฟิง
เมื่อสิ้นเสียง ปราณอสูรปะทุออกจากร่างหัวหน้าจิ้งจอกขาว กลายเป็ฝ่ามืออสูรขนาดมหึมาสองข้าง ก่อนจะคว้าจับร่างเย่เฟิง เย่เฟิงรู้สึกว่าร่างกายถูกบีบรัดจนขยับตัวไม่ได้ ขณะเดียวกันมีแรงกดดันกดทับเขา ทำให้เขาหายใจไม่ค่อยออก
“เ้าหนู การที่ข้ายึดครองร่างเ้า ถือเป็เกียรติยศของเ้า ไยต้องทำหน้าตาบึ้งตึงด้วยเล่า วางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้เ้าลำบาก!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวเหยียดยิ้มอย่างเยือกเย็น พร้อมกับปราณอสูรพุ่งสูงเสียดฟ้าจนบริเวณนั้นราวกับกลายเป็ดินแดนปีศาจ จากนั้นมีแสงจ้าปะทุออกจากดวงตาของหัวหน้าจิ้งจอกขาว ซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังิญญาอันแกร่งกล้า มันพุ่งไปที่หว่างคิ้วของเย่เฟิง ทำให้เย่เฟิงรู้สึกเวียนหัว จิติญญาสั่นคลอนราวกับมีพลังิญญาไร้เทียมทานกำลังกัดกร่อนร่างกายของเขา ขณะเดียวกันก็กลืนกินจิติญญาของเขา
เย่เฟิงเผยสีหน้าย่ำแย่ ทันใดนั้นทักษะหล่อิญญาถูกปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พลังิญญาของเขาแข็งแกร่งขึ้น และเข้าต่อต้านการกัดกร่อนจากพลังิญญาของหัวหน้าจิ้งจอกขาว
“เ้าหนู อย่าขัดขืนไปเลย ด้วยพลังอันน้อยนิดของเ้า จะต่อกรกับข้าได้เยี่ยงไร!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวเผยสีหน้าเย็นเยียบเมื่อรับรู้ได้ว่าเย่เฟิงกำลังขัดขืน จากนั้นเห็นเขายกมือชี้นิ้วไปที่เย่เฟิง ก่อนจะมีลำแสงถูกยิงออกมาและพุ่งไปหาเย่เฟิง จนเย่เฟิงส่งเสียงโอดครวญ และมีเืไหลออกตรงมุมปากจาง ๆ
“เป็เด็กดีให้ข้ายึดครองร่างเสียเถิด!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวกล่าว จากนั้นเพิ่มพลังิญญาในการกัดกร่อนร่างกายของเย่เฟิง
เย่เฟิงหน้าซีดขาว ตัวสั่นเทาไม่หยุด เืในกายเดือดพล่าน พลังทุกอย่างที่มีโคจรถึงขีดสุด แต่ยังคงต่อต้านการกัดกร่อนของหัวหน้าจิ้งจอกขาวไม่ได้
เหล่าปีศาจพิภพที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวหน้าจิ้งจอกขาวเผยสีหน้าเป็กังวลขณะมองเย่เฟิงที่ใกล้ทนไม่ไหว แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงเฝ้ามองเท่านั้น
“ทำลาย!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวกล่าว พลันพลังิญญาถูกปลดปล่อยถึงขีดสุด เพื่อ้ากำจัดจิติญญาของเย่เฟิงในคราวเดียว
เย่เฟิงกัดฟันแน่น ก่อนจะส่งเสียงผ่านจิตไปหาเหล่าปีศาจพิภพใน่เวลาสำคัญเช่นนี้ “ผู้าุโ ถึงเวลาลงมือแล้ว ผนึกพลังิญญาของหัวหน้าจิ้งจอกขาวในร่างข้าสักประเดี๋ยว เร็วเข้า!”
เย่เฟิงกล่าวอย่างร้อนใจ เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ดูเหมือนว่าจิติญญาใกล้จะแตกสลายหายไป
เมื่อเหล่าปีศาจพิภพได้ยินเช่นนั้นก็แผดเสียงคำรามทันที ร่างขนาดใหญ่เคลื่อนไหว ก่อนจะบุกโจมตีหัวหน้าจิ้งจอกขาวด้วยความว่องไว
“ปัง ๆ ๆ!” เพียงพริบตาหัวหน้าจิ้งจอกขาวก็โดนโจมตีหลายหน พลังทำลายล้างแพร่กระจายไปทั่วร่างเขาอย่างต่อเนื่อง
แสงแห่งการทำลายล้างะเิ ภายใต้การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวมากมายนั้น กลับทำให้หัวหน้าจิ้งจอกขาวสั่นคลอนเพียงเล็กน้อย ไม่ได้รับาเ็อย่างที่เย่เฟิงคาดการณ์ไว้เลย นี่ทำให้เย่เฟิงใ เห็นทีเขาคงประเมินพลังของปลายยอดปีศาจพิภพต่ำไป การโจมตีน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ในโลกมนุษย์ก็เกรงว่าจะสลายหายไปในพริบตา แต่หัวหน้าจิ้งจอกขาวผู้นี้กลับไม่เป็อะไร พลังระดับนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
ในขณะเดียวกันมีร่างขนาดใหญ่มาเยือนที่ด้านหน้าเย่เฟิง ก่อนจะใช้วิธีการพิเศษเข้าผนึกร่างเย่เฟิงชั่วคราว เมื่อร่างเย่เฟิงถูกปิด ทุกสิ่งหรือแม้แต่พลังิญญาของหัวหน้าจิ้งจอกขาวจึงมิอาจหลุดออกมาได้
พลังิญญาส่วนใหญ่ถูกปิดผนึก ทำให้สีหน้าของหัวหน้าจิ้งจอกขาวบิดเบี้ยว ดวงตาชั่วร้ายคู่นั้นตวัดมองปีศาจพิภพตนนั้นที่เพิ่งผนึกพลังิญญาเขา ก่อนกล่าวว่า “พวกเ้ากล้าดียังไงมาทรยศหักหลังข้า ข้าจะทำให้พวกเ้าต้องตายทั้งเป็!”
เมื่อสิ้นเสียง พลังทำลายล้างพวยพุ่งออกจากฝ่ามือของหัวหน้าจิ้งจอกขาว พลันฝ่ามือนั้นเข้าโจมตีปีศาจพิภพตนนั้น
พลังทำลายล้างแพร่ไปทั่วร่างของปีศาจพิภพตนนั้น ทำให้ปีศาจพิภพตนนั้นส่งเสียงหวีดร้อง ก่อนร่างั์จะกระเด็นปลิวออกไปและกระแทกกับก้อนหินใหญ่อย่างแรง จนหินก้อนนั้นแตกกระจาย ทำให้ปีศาจพิภพตนนั้นเืทะลักออกจากปาก
เพียงกระบวนท่าเดียว ปีศาจพิภพตนหนึ่งถึงขั้นสูญเสียพลังต่อสู้ไปในพริบตา และเกือบต้องตาย เห็นชัดว่าพลังของหัวหน้าจิ้งจอกขาวแข็งแกร่งมากเพียงใด
“ผู้าุโถ่วงเวลาให้ข้าที ผู้เยาว์จะกลืนกินพลังิญญาของเขาก่อน!” เย่เฟิงส่งเสียงผ่านจิตไปหาเหล่าปีศาจพิภพ ขณะเดียวกันเขาเพียงคิดเพื่อทำการเชื่อมโยงกับไข่มุกทันที ทำให้ไข่มุกเปล่งแสงจ้าพร้อมปลดปล่อยพลังกลืนกินออกมา มันเข้าปกคลุมร่างเย่เฟิง และห่อหุ้มพลังิญญาของหัวหน้าจิ้งจอกขาวที่ถูกปิดผนึก
ในสถานการณ์คับขัน เย่เฟิงไม่มีเวลาคิดมากขนาดนั้น ด้วยพลังกลืนกินของไข่มุก เย่เฟิงจึงรับแรงกดดันมหาศาล พลังงานในร่างกายก็ขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
“ปัง!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวปล่อยฝ่ามือโจมตีปีศาจพิภพอีกครั้ง ทำให้ปีศาจพิภพตนนั้นกระเด็นปลิวออกไป
“เ้าพวกทรยศ ขืนยังไม่หยุดอีก ข้าจะทำลายิญญาพวกเ้าจนไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย!” ดวงตาของหัวหน้าจิ้งจอกขาวส่องประกายเยือกเย็น เขาคือปลายยอดปีศาจพิภพ มีฐานะสูงส่ง เป็ถึงผู้ปกครองแห่งเขาเทียนเสวียน ไร้ผู้ใดต่อต้าน ทว่าวันนี้มีพวกทรยศต่อต้านเขา แล้วเขาจะไม่โมโหได้เยี่ยงไร?
ฝ่ามือั์พุ่งลงมาจากฟากฟ้า มันอัดแน่นไปด้วยพลังอสูรอันมหาศาล กระแสอากาศต้องแปรปรวน การโจมตีที่แท้จริงนี้ทรงอานุภาพมาก ต่อให้เป็ปีศาจพิภพที่แข็งแกร่งเพียงใด ก็มิอาจต่อต้านได้
“จงกลืนกิน!”
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบขณะมองปีศาจพิภพเ่าั้ที่ตกอยู่ในอันตรายเพราะฝ่ามือั์นั้น จากนั้นเขาเกิดคลั่งขึ้นมา ทำให้พลังกลืนกินที่ไข่มุกปลดปล่อยออกมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม มันเข้ากลืนกินพลังิญญาของหัวหน้าจิ้งจอกขาวอย่างต่อเนื่อง
หัวหน้าจิ้งจอกขาวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก่อนจะส่งเสียงโอดครวญและตัวสั่นสะท้าน ส่งผลให้พลังฝ่ามือั์นั่นอ่อนลงไม่น้อย
“เ้าหนู เ้าทำอะไรกับพลังิญญาของข้า?” หัวหน้าจิ้งจอกขาวรู้ทันทีว่าเย่เฟิงกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ จึงหันไปตวาดใส่เย่เฟิง
“ตาเฒ่า ในเมื่อท่านยึดครองร่างข้าได้ แล้วเหตุใดข้าจะทำบ้างไม่ได้?” เย่เฟิงเหยียดยิ้มเยือกเย็น จากนั้นตัวเขาเริ่มสั่นเทา แต่ยังคงใช้พลังจิตขับเคลื่อนไข่มุกในการกลืนกินพลังิญญาของหัวหน้าจิ้งจอกขาว
“ปัง!!!” เสี้ยววินาทีถัดมาเหล่าปีศาจพิภพโจมตีหัวหน้าจิ้งจอกขาวอีกครั้ง โดยใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่ คลื่นทำลายล้างแพร่กระจายทั่วบริเวณ พื้นดินสั่นไหว ราวกับฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่ปาน
“ไปให้พ้น!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวตัวสั่นเทา แม้เขามีพลังแกร่งกล้า แต่ถูกโจมตีต่อเนื่องเช่นนี้ เท้าของเขาก็อดถอยหลังไปหนึ่งก้าวไม่ได้ จากนั้นตวัดฝ่ามือไปที่ปีศาจพิภพเ่าั้
“อั่ก!” เสียงโอดครวญดังสามครั้งติด ด้วยการโจมตีของหัวหน้าจิ้งจอกขาว ทำให้ปีศาจพิภพสามตนถูกซัดกระเด็นปลิวออกไป จนกระแทกเข้าที่พื้นเต็มแรง พร้อมส่งเสียงหวีดร้องออกมา