ในต้นเดือนพฤษภาคมของปีค.ศ.1980มีฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก ปกติในทุกวันเวลานี้ก็มักจะพบเห็นชาวบ้านในหมู่บ้านลงไปทำงานในไร่ แต่เพราะวันนี้ฝนตกหนักทำให้ชาวบ้านต่างก็ต้องหลบฝนกันอยู่ในบ้าน
ทำให้ภายในหมู่บ้านซานเหอตอนนี้ดูเงียบเหงา
หมู่บ้านซานเหอแห่งนี้ถือว่าเป็หมู่บ้านที่ค่อนข้างใหญ่ มีจำนวนครัวเรือนอยู่ประมาณสามร้อยกว่าครัวเรือน
ที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้านมีสะพานขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำจากูเาไหลลงมา
เมื่อถึงยามค่ำคืนฝนที่ตกหนักมาตลอดทั้งวัน ก็หยุดลงเหลือเพียงแค่ละอองฝนเพียงเท่านั้น
บนท้องฟ้าอันมืดมิดแต่กลับมีจุดแสงของดวงดาวนับล้านอยู่บนท้องฟ้า ช่างเป็ภาพที่งดงาม และหาดูได้ยาก
เมื่อถึงยามรุ่งเช้าของวันต่อมา
ท้องฟ้าที่กำลังส่องแสงสว่างจากดวงอาทิตย์
ชาวบ้านในหมู่บ้านหลายคนก็รีบตื่นั้แ่เช้ามืด เพื่อ้ารีบไปดูพืชที่ปลูกในไร่ว่าเกิดความเสียหายจากฝนที่ตกเมื่อวานนี้มากน้อยแค่ไหน
แต่ในหมู่บ้านซานเหอแห่งนี้กลับมีบ้านหลังหนึ่งที่ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากบ้านหลังอื่น
เพราะบ้านหลังนี้อยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังอึกทึกครึกโครม ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านหรือเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันก็ต่างรีบพากันมาดู ที่บ้านต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครม
เมื่อได้มาดูก็พบว่าต้นเหตุของเสียงอึกทึกครึกโครมมาจากหลังคาบ้านที่ทรุดโทรมพังลง เพราะเมื่อวานฝนตกหนักทำให้บ้านที่ทรุดโทรมอยู่แล้วรับไม่ไหวจึงถล่มลงมา
หลินซีที่นอนอยู่ภายในบ้านเธอก็ได้ยินเสียงดังนั้นเหมือนกัน ทำให้เธอที่นอนหลับฝันอยู่ต้องใตื่น
เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอก็มองไปรอบๆ ห้อง ก็ยังพบกับห้องที่เธอนอนอยู่ยังเป็ห้องที่ทรุดโทรม ผนังทำมาจากโคน และก็มีกลิ่นอายของธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธออาศัยอยู่ในชนบท
หลินซีลุกขึ้นจากเตียง เธอสวมรองเท้าเสร็จแล้วก็เดินออกจากห้องไป
เมื่อเปิดประตูห้องนอนของเธอออกมาก็เห็นลานหน้าบ้าน ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
ในลานหน้าบ้านตอนนี้ก็มีชายอายุประมาณสี่สิบกว่าปีกำลังให้อาหารไก่อยู่ที่ลานหน้าบ้าน ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็พ่อสามีของหลินซีนั่นเอง หลินซีมองภาพฉากตรงหน้านี้แล้ว เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
หลินซีเป็หญิงสาวจากปีค.ศ 2024 แต่เธอได้ย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างของหญิงสาวที่มีชื่อและแซ่เหมือนกันกับเธอในปีค.ศ 1980 เธอมาอยู่ในร่างนี้ได้ครบเจ็ดวันแล้ว
ถึงแม้ในตอนแรกหลินซีจะใและทำอะไรไม่ถูก ทำให้เธอร้องไห้ราวกับคนบ้า แต่ในท้ายที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ยอมรับความเป็จริงและเผชิญหน้ากับมันได้
หลินซีตอนนี้มีอายุยี่สิบสองปีแล้วเธอได้แต่งงานกับนายทหารหนุ่มจากหมู่บ้านข้างๆ
สามีที่เธอได้มานี้มีชื่อว่าลู่หาน เขาเป็ชายหนุ่มผู้กล้าหาญ อายุเพียงแค่สิบแปดปีก็อาสาไปเป็ทหารในแนวหน้าแล้ว ลู่หานเป็ชายที่มีความกล้าหาญและก็ยังมีใบหน้าหล่อเหลา
จนถูกขนานนามว่าเป็สุดยอดชาย ในสิบลี้แปดหมู่บ้านนี้มีสาวๆ มากมายที่ต่างก็หลงใหลในตัวเขา แม้แต่เ้าของร่างเดิมก็ยังหลงลู่หานั้แ่แรกพบ เพียงแค่เดินผ่าน
แต่น่าเสียดายแม้ว่าหลินซีเ้าของร่างเดิมจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าหาเขา แต่เขาก็ไม่สนใจในตัวเธอเลย
เ้าของร่างนี้ก็ไม่ใช่คนขี้เหร่อะไร เธอก็ถือว่าเป็สาวงามคนหนึ่ง มีชายหนุ่มในหมู่บ้านและต่างหมู่บ้านแม้กระทั่งชายหนุ่มในเมืองก็ต่าง้าแต่งงานกับเธอ ถึงขั้นส่งแม่สื่อเพื่อมาสู่ขอเธอ
แต่หลินซีก็ต่างปฏิเสธไปทั้งหมดเพราะเธอมั่นคงในรัก และตั้งใจจะแต่งงานกับลู่หานเพียงผู้เดียว ทำให้เธอเอาอกเอาใจพ่อแม่ของเขา
จนในท้ายที่สุดความหวังของเธอก็เป็จริง เพราะแม่ของลู่หานที่เห็นความดีในตัวเธอ ที่มักจะมาดูแลพวกเขาทั้งสองเป็อย่างดี ทำให้คุณแม่ลู่ถึงขั้นบังคับลูกชายให้แต่งงานกับหลินซีโดยที่เขาไม่เต็มใจ
ลู่หานที่ถูกแม่บังคับก็แต่งงานกับหลินซีอย่างจนใจ
แต่ถึงแม้เขาจะยอมแต่งงานโดยง่าย แต่ในคืนเข้าหอเขาก็รีบหนีออกจากบ้านเพื่อกลับไปที่กองทัพโดยที่ยังไม่ได้เข้าหอกับหลินซีเลย
ทำให้เื่ราวที่เกิดขึ้นกับหลินซีกลายเป็เื่ตลกครั้งใหญ่ในหมู่บ้าน จนทำให้เธอร้องไห้เสียใจจนไม่กล้าออกจากบ้านอยู่หลายวัน
และหลังจากผ่านวันแต่งงานมาเขาก็ไม่กลับมาที่บ้านอีก เขาส่งมาเพียงแค่เงินเดือนกับจดหมายในทุกเดือนเพียงเท่านั้น
และในจดหมายเขาก็จะถามถึงพ่อกับแม่และก็เล่าเื่ราวต่างๆ ของตนเองในกองทัพ แต่ไม่ว่าจะส่งจดหมายกลับมากี่ครั้งเขาก็ไม่เคยถามถึงภรรยาที่ถูกบังคับแต่งงานคนนี้เลย
จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยผ่านมา สองปีแล้ว
คุณพ่อลู่กับคุณแม่ลู่ พ่อแม่ของลู่หานทั้งสองเป็คนดีมาก และเพราะพวกเขารู้สึกผิดต่อหลินซีทำให้ พวกเขาปฏิบัติต่อลูกสะใภ้คนนี้เป็อย่างดี เงินเดือนที่ลู่หานส่งมาให้ทุกเดือนทั้งสองก็ไม่เคยเก็บไว้แม้แต่น้อย แต่กลับให้หลินซีเอาไว้ทั้งหมด
หลินซีเ้าของร่างเดิมตอนแรกก็เสียใจและไม่พอใจ ที่ลู่หานหนีออกจากบ้านในคืนเข้าหอของทั้งสอง แต่เมื่อเธอได้รับเงินเดือนในทุกเดือนความไม่พอใจของเธอก็น้อยลงเล็กน้อย แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเธอก็ยังมีความรู้สึกโกรธในตัวของลู่หานอยู่มาก
แต่เธอกลับไม่เคยคิดเลยว่าถ้าเธอไม่ดึงดันจะแต่งงานกับลู่หานให้ได้ เธอก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพที่สามีหนีออกจากบ้านในคืนแต่งงานแบบนี้
หลินซีเอาเงินเดือนทั้งหมดไปใช้เพื่อระบายอารมณ์ โดยการซื้อเสื้อผ้าและของใช้ของตนเอง เธอใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยเธอไม่เคยแบ่งเงิน ที่ได้มาให้กับพ่อแม่สามีเลยสักครั้ง ทำให้พ่อแม่สามีของเธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
แต่ไม่ว่าทั้งสองจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเท่าไหร่ ทั้งสองก็ไม่เคยขอเงินลูกสะใภ้เลยสักครั้ง
เพราะพวกเขาคิดเสมอว่าลูกชายของพวกเขาเป็คนผิด และรู้สึกผิดต่อหลินซีมาตลอด
แม้ว่าบ้านจะมีสภาพทรุดโทรมจนจะพังอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่เคยขอเงินที่ลูกชายส่งมาให้ จนทำให้บ้านมีสภาพอย่างที่เห็น
“กุ๊ก กุ๊ก กุ๊ก กุ๊ก”
หลินซียืนมองลานบ้านด้วยอาการเหม่อลอย แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องของไก่เธอก็ได้สติขึ้นมา
ใน่เวลาเจ็ดวันที่ผ่านมา เธอต้องใช้ชีวิตบนความกดดันและความไม่รู้จนทำอะไรไม่ถูก เธอไม่รู้เลยว่าชีวิตของเธอตอนนี้เป็ความจริงหรือความฝัน
ในตอนแรกหลินซีก็หลอกตัวเองว่านี่คือความฝันอีกไม่นานเธอคงจะตื่น แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับแต่ในท้ายที่สุดหลินซีก็ยอมรับมัน และก็ตั้งใจจะใช้ชีวิตในร่างนี้และอยู่ในยุคนี้ต่อไปให้มีความสุข
หลินซีค่อยๆ เปลี่ยนความคิดตนเองว่าเธอคือหลินซีเป็หญิงสาวที่แต่งงานแล้วและตอนนี้เธอก็อยู่ในปี 1980 ไม่ใช่ปี 2024 อีกต่อไปแล้ว
เพราะในเมื่อเธอมาอยู่ในร่างนี้แล้ว เธอก็ทำได้เพียงแค่ปรับตัวและใช้ชีวิตให้มีความสุขต่อไป
หลินซีหันมองเข้าไปในห้องครัวเธอก็เห็นแม่สามีกำลังทำอาหารอยู่อย่างวุ่นวาย
“หลินซีทำไมเธอตื่นเช้าจัง จะไปนอนต่ออีกหน่อยก็ได้นะ ถ้าแม่ทำอาหารเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่จะให้พ่อไปเรียก” คุณแม่ลู่หันมาพูดกับลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจ
หลินซีที่ได้ยินคำพูดของแม่สามีเธอก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรเพียงแค่เม้มปากเข้าหากันเท่านั้น เธอไม่ใช่เ้าของร่างเดิมอีกต่อไปแล้ว เธอทนไม่ได้ที่ให้พ่อแม่สามีที่มีอายุมากแล้วมารับใช้เธออย่างนี้
เธอจะไม่ทำเหมือนเ้าของร่างเดิมเด็ดขาด
“หนูไม่นอนแล้วล่ะค่ะแม่ ว่าแต่แม่มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ” หลินซีพูดจบเธอก็เดินไปล้างหน้าพร้อมกับแปรงฟัน
คุณแม่ลู่มองตามหลังลูกสะใภ้ที่่นี้ดูแปลกไปราวกับคนละคน แต่ก็ต้องหยุดความคิดนั้นไปเพราะ เสียงเตือนจากคุณพ่อลู่
อาหารที่คุณแม่ลู่กำลังทำอยู่มันกำลังจะไหม้
หลังจากล้างหน้าเสร็จ หลินซีก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อตั้งใจจะไปช่วยแม่สามีทำอาหาร
เมื่อเห็นลูกสะใภ้ที่ไม่เคยเข้าครัวเลย แต่อยู่ดีๆ ก็มาขอช่วยงานทำเอาคุณแม่ลู่ทำตัวไม่ถูกและรู้สึกใเป็อย่างมาก
“ไม่ต้องมาช่วยแม่หรอก รีบไปนั่งพักเถอะ เดี๋ยวแม่ทำเสร็จเดี๋ยวก็จะได้กินแล้ว”
“แม่ให้หนูช่วยเถอะค่ะ”
หลินซีพยายามยื้อแย่งตะหลิวจากมือของแม่สามี
หลินซีคิดว่าในเมื่อเธออยากใช้ชีวิตในยุคนี้และต้องอยู่ในร่างนี้ต่อไป เธอก็ต้องทำดีกับพ่อแม่สามี ส่วนสามีที่ได้มาฟรีถ้าเป็ไปได้เธอก็้าหย่ากับเขา
เธอคิดว่าเื่นี้คงจะไม่ใช่เื่ยากเพราะเขาก็ไม่อยากแต่งงานกับเธอั้แ่แรก หากเขารู้ว่าเธอ้าหย่ากับเขา เขาคงรีบกลับมาบ้านอย่างรวดเร็ว
ที่หลินซี้าหย่าเพราะเธอไม่้าใช้ชีวิตกับคนที่ไม่ได้รักตนเองไปจนตาย และเธอก็ไม่อยากผูกมัดผู้ชายที่ดีคนนึงไว้กับตัวเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้