บทที่ 60 ฉันคือยมทูต
เพียะ!
ยมทูตดำยกมือขึ้นแล้วก็ตบยมทูตขาวเต็มแรง
“เธออย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อ คนธรรมดามองเห็นเราได้หรือยังไง”
ยมทูตดำถือโซ่เดินเข้าไปหาหลิวฉิงด้วยท่าทางที่ทำเป็อ่อนโยน โดยไม่ได้สนใจยมทูตขาวภรรยาของเขาแล้ว
“น้องสาว อยากไปเกิดเป็คนไหม พี่เป็ยมทูตอยู่ที่นรก พี่พาน้องไปเกิดใหม่ได้นะ”
“ก็แค่เด็กฝึกงาน”
ยมทูตขาวพึมพำอยู่ข้างหลัง
เนื่องจากมีการขยายตัวของนรกกลุ่มลูกค้าของทางยมโลกก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ยมทูตที่นรกจึงได้ขยายตัวตามไปด้วย อย่างยมทูตดำขาวที่มาจับผีในครั้งนี้ก็เป็ลูกน้องที่เ้ายมทูตทั้งสิบสองส่งมา
ยมทูตดำขยิบตาให้หลิวฉิง แล้วมองเย่จื่อเฉินที่อยู่ด้านข้าง
คนสองคนอยู่ด้วยกันมานานไม่เคยห่าง ก็ย่อมมีความเข้าใจกันอยู่บ้าง
เมื่อเห็นท่าทางของเขา หลิวฉิงก็รู้แล้วว่าควรจะพูดยังไง
“พี่ชายยมทูตดำ คุณพูดจริงเหรอ?” หลิวฉิงทำทีเหมือนอยากไปเกิดมาก
“แน่นอน ขอแค่เธอไปกับเรา เราจะส่งเธอไปเกิดในครอบครัวที่ดีๆ เลย”
แล้วยมทูตขาวก็ลอยตัวพร้อมกับลูบผมเข้ามา แต่ในน้ำเสียงของเธอกลับแฝงไว้ด้วยคำข่มขู่
หลิวฉิงไม่ได้สนใจกับคำขู่ของยมทูตขาว เดิมทีเธอก็ไม่ได้อยากไปกับยมทูตดำอยู่แล้ว
เธอทำแค่เพื่อเล่นสนุกเท่านั้น!
“แต่ว่า…” หลิวฉิงมีท่าทีสงสัย ยมทูตดำรีบเอ่ยถามทันที “แต่ว่าอะไรจ๊ะ?”
“ฉันทิ้งแฟนฉันไปไม่ได้”
หลิวฉิงกอดไหล่เย่จื่อเฉินเอาไว้ ยมทูตดำแสดงสีหน้างุนงงออกมา
โดยปกติแล้ว ผีจะค่อยๆ ลืมเื่ราวในโลกมนุษย์ไปตามกาลเวลา เว้นแต่เพียงิญญาผีสาวบริสุทธิ์เท่านั้นที่แตกต่าง
เธอจะจำทุกอย่างในชาติที่แล้วได้ และจะติดตามคนที่ให้ความสำคัญกับเธอในชาติที่แล้ว
โดยเฉพาะผู้ชาย…
ผีที่ยังไม่สิ้นอายุขัยอย่างหลิวฉิง โซ่ของยมทูตดำขาวอย่างพวกเขาล่ามไว้ไม่อยู่ นี่จึงเป็เหตุผลที่พวกเขาไม่ใช้กำลัง
เมื่อเห็นผีสาวคนสวยตรงหน้าลังเล ยมทูตขาวก็ดีใจ ส่วนยมทูตดำนั้นกลับไม่พอใจ
“น้องสาว คนกับผีอยู่บนเส้นทางที่ต่างกัน เธอกับแฟนเธออยู่ด้วยกันไม่ได้ แล้วการที่เธออยู่กับเขามันจะดูดซับพลังหยางของเขาเป็อาหาร เธอจะทำร้ายเขา”
ยมทูตดำพูดโน้มน้าวอย่างเห็นอกเห็นใจ แต่ยมทูตขาวที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับพูดอย่างไม่ยินดียินร้าย
“ฉันกลับคิดว่ามันดีนะ”
ยมทูตดำเตรียมที่จะยกมือขึ้นมาตียมทูตขาวด้วยความโมโห ความรุนแรงในครอบครัวแบบนี้ แม้แต่เย่จื่อเฉินก็ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว
เขายกมือขึ้นจับแขนของยมทูตดำไว้ ก่อนจะเหวี่ยงไปด้านข้าง
“นี่เป็ผู้หญิงของคุณ เป็สิ่งที่คุณต้องปกป้องด้วยชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่จะให้คุณมาตบตี”
“นะ…นาย…นี่นายเป็คนหรือผี”
เย่จื่อเฉินแค่จับมือก็ทำให้ยมทูตดำถึงกับตะลึงไป ทำไมคนธรรมดาถึงได้เห็นพวกเขา แถมยังจับต้องเขาได้ด้วย
“พลังหยาง[1]แรงขนาดนี้ ก็ต้องเป็คนน่ะสิ”
มองค้อนใส่ยมทูตดำหนึ่งที จากนั้นเย่จื่อเฉินก็เดินไปหายมทูตขาว
ยมทูตขาวเองก็อึ้งไปเหมือนกัน เธอยืนนิ่งอยู่กับที่มองดูยมทูตดำที่โดนเหวี่ยงลงบนพื้น ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ไม่รู้สึกสงสารเขาเลยสักนิดเดียว
คิดดูว่าเป็ยมทูตมาตั้งนานขนาดนี้ แต่การกระทำของยมทูตดำยังคงเดิม…
อาจจะเป็เพราะตอนที่ตายทั้งสองคนเป็สามีภรรยากันจริงๆ อยู่แล้ว ตอนนี้จึงอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาเฉยๆ
“ไปคุยกับหลิวฉิงแล้วก็คุณซูทางนั้นเถอะ ผีสองตัวนี้พวกคุณจะจับไปไม่ได้”
“ได้”
ยมทูตขาวพยักหน้า แล้วเดินไปหาชายชรากับหลิวฉิง
แต่ตอนที่ยมทูตขาวพูดคำว่า ‘ได้’ นั้นไม่ได้มีเสียงที่แหลมคม
เย่จื่อเฉินก็ไม่ได้สังเกตรายละเอียดตรงจุดนี้ ก่อนจะเท้าเอวแล้วก็เดินไปหายมทูตดำ
“นายอยู่ห่างๆ ฉันหน่อย ฉันคือยมทูตจากนรกเชียวนะ”
ยมทูตดำยกฝ่ามือหยาบกร้านขึ้นมา แล้วชี้เย่จื่อเฉิน แต่น้ำเสียงที่สั่นระริกของเขากลับเผยความหวาดกลัวในใจออกมา
คนธรรมดาแต่มองเห็นเขา แล้วยังจับเขาไว้ได้อีก…
“ผมแค่อยากรู้ว่าคุณคือยมทูตหรือเปล่า ทำไม คุณจะพาผมไปด้วยเหรอ?”
เย่จื่อเฉินยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาฟาดลงบนใบหน้าของยมทูตดำ
“ซี้ด…”
แต่ยมทูตดำกลับไม่เป็อะไร เย่จื่อเฉินสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วจึงสะบัดมือที่เริ่มชา
หน้านี่ทำด้วยหินหรือเปล่า?
“ตบตัวเอง!”
เย่จื่อเฉินเอามือไพล่หลัง แล้วออกคำสั่งกับยมทูตดำ
“ฉันคือยมทูตนะ”
“ยมทูตบ้าอะไร ต่อให้เป็เ้าแห่งยมโลกก็ไม่ใช่เื่ง่ายที่จะมาที่นี่”
เพียะ!
ยมทูตดำกัดฟัน แล้วตบหน้าตัวเองหนึ่งครั้ง
“รังแกผู้หญิง เก่งนักใช่ไหม” เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วมองยมทูตดำที่อยู่ที่พื้น “ตบตัวเองอีกสองที ผมเห็นคุณทำแบบนี้แล้วไม่เข้าตา”
“นายอย่าให้มันมากเกินไป ฉันเป็ยมทูตนะ”
“คุณจะตบหรือไม่ตบ ถ้าไม่ตบผมจะช่วยตบคุณเอง”
เย่จื่อเฉินตาขวาง ยมทูตดำกลืนน้ำลายแล้วก็ตบตัวเองไปสองครั้ง
พอเห็นแบบนี้ เย่จื่อเฉินถึงได้พยักหน้าพอใจ
“ไปขอโทษผู้หญิงของคุณซะ”
“นายอย่าให้มันมากนัก ฉันเป็ยมทูตนะ”
“จะไปไม่ไป”
ยมทูตดำลุกขึ้นยืน แล้วเดินโค้งตัวลงตรงหน้ายมทูตขาวก่อนจะพูดขึ้น
“ขอโทษ”
“จริงใจหน่อย”
เย่จื่อเฉินยกเท้าขึ้นจะถีบ ยมทูตดำมองไปข้างหลังเล็กน้อย แต่แล้วก็เห็นว่าเย่จื่อเฉินยืนถลึงตาอยู่ จึงย่นคอพูดขอโทษยมทูตขาวทันที
“ขอโทษ ฉันไม่ควรตบตีเธอเลย”
“ตบตัวเองอีกสองที”
เพียะ! เพียะ!
ยมทูตดำทำทุกอย่างตามที่เย่จื่อเฉินสั่ง แล้วก็โดนเย่จื่อเฉินโยนไปที่มุมห้องอีกครั้ง
“บอกผมมา ใครให้คุณมาจับคุณซูไป?”
ยมทูตดำไม่มีอาการแข็งกระด้างเหมือนตอนแรกอีก ถ้าบอกว่าเย่จื่อเฉินเป็ผี บางทีเขาอาจจะกระด้างกระเดื่องได้อยู่
แต่นี่เย่จื่อเฉินเป็คน…
พวกเขามีกฎของยมทูต ถ้าหากไม่มีคำสั่งไม่สามารถแตะใครตามใจได้ ถ้าทำผิดกฎพอลงไปยังนรกแล้วิญญาจะต้องแตกสลาย
ที่จริงกฎนี้มันก็ดี คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นผีได้ ผีทำอะไรคนไม่ได้ ทั้งสองโลกอยู่ในความสงบสุขมาโดยตลอด
แต่ให้ตายเถอะ จอมยุทธ์ผู้นี้สามารถมองเห็นผีได้
แล้วยังจับเขาไว้ได้อีก
“ท่านจอมยุทธ์ ผมปฏิบัติตามคำสั่ง เื่นี้ไม่เกี่ยวกับผม”
กลัวขนาดนี้เลย
การที่ยมทูตดำกลัวขนาดนี้นั้นมันผิดจากตอนแรกที่เย่จื่อเฉินคิดเอาไว้ เขาเองก็ไม่ชอบข่มเหงรังแกผู้ที่อ่อนแอ
อีกฝ่ายกลัวขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีอารมณ์แกล้งอีก
“ผมขอบอกคุณเลยนะ ผีสองตัวนี้คุณเอาไปไม่ได้”
ยมทูตดำร้องไห้ทันที และพูด
“ท่านจอมยุทธ์ ิญญาผีสาวบริสุทธิ์ตัวนั้นเราไม่เอาไปก็ได้ แต่ชายชราผู้นั้นเราจำเป็ต้องเอาไป เขาสิ้นอายุขัยแล้ว เบื้องบนส่งเรามาเก็บเขาไป”
“เดี๋ยวเขาก็ฟื้นแล้ว”
“ท่านจอมยุทธ์ ท่านอย่ามาล้อเล่นเลย คนธรรมดามีจำนวนอายุขัยคงที่ สิ้นอายุขัยแล้วก็คือสิ้นเลย อีกอย่างิญญาเขาก็ออกจากร่างแล้ว ต่อให้ท่านจะหาวิธีมาเพิ่มอายุขัยได้ แต่เขาก็ไม่สามารถกลับเข้าร่างได้”
เย่จื่อเฉินเงียบไปนาน แล้วยกมือขึ้นชี้ยมทูตดำก่อนจะพูดขึ้น
“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ ถ้ากล้าลุกขึ้นมาอย่าคิดว่าผมไม่กล้าต่อยคุณ”
“ครับๆๆ…”
ยมทูตดำคุกเข่าอยู่ตรงมุมห้องอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเย่จื่อเฉินจึงเดินกลับมา
“เป็ไงบ้าง เขาว่าไง”
หลิวฉิงหันมาถาม เย่จื่อเฉินส่ายหน้าแล้วพูด
“ยมทูตดำบอกว่าคุณซูสิ้นอายุขัยแล้ว แต่ฟังจากคำพูดของเขาดูเหมือนว่าจะมีของบางอย่างที่สามารถต่ออายุขัยได้ แต่เขาก็พูดถึงเื่ิญญาออกจากร่างอะไรนั่นอีก…”
“ิญญาออกจากร่างก็คือการที่ิญญาแยกออกจากร่างกาย” ยมทูตขาวเปิดปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“แล้วต้องทำยังไงถึงจะสามารถทำให้ิญญากลับเข้าร่างได้” เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วถาม
“ไม่แน่ใจ แต่ว่า์…” ยมทูตขาวเอ่ยมาได้ครึ่งประโยคแล้วก็หยุดลง ก่อนจะพูดขึ้น “ขอโทษนะ ฉันอยากช่วยเธอมากเลย แต่มันมีกฎที่ฉันไม่สามารถพูดได้”
“พอๆ…”
เย่จื่อเฉินกระตุกยิ้มมุมปาก ถ้าพูดถึง์ ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็จัดการได้ง่ายขึ้นแล้ว
เขามีอะไรอยู่ วีแชทกลุ่มบน์ไง!
___________________________________________________
[1] พลังหยาง คือพลังที่ตรงข้ามกับพลังหยิน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็สัญลักษณ์ประจำลัทธิ ชาวจีนมีความเชื่อว่า พลังหยินและหยาง เป็ตัวแทนของพลังแห่งจักรวาล 2 ด้าน กล่าวกันว่า เครื่องหมายพลังด้านหยินและพลังด้านหยางนี้ พัฒนามาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของจักรวาล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้