“เซวียนเซวียน เ้าช่วยข้าขอร้องท่านพ่อมิให้เขาหย่าข้าเร็วเข้า ขอเพียงแค่เขาตกลงจะมิหย่า ข้ายอมรับเงื่อนไขของเ้าทุกข้อเลย” เฉียวซื่อประหลาดใจเล็กน้อยที่จิ่นเซวียนช่วยขอร้องให้นาง นางถือว่าจิ่นเซวียนเป็ความหวังสุดท้าย หวังให้จิ่นเซวียนช่วยเปลี่ยนใจสามี
“ข้าจะพยายาม ท่านอย่าเพิ่งคาดหวังเลยเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเรียกซ่งผิงมาคุยกันตามลำพัง ขอแค่ซ่งผิงมิให้อำนาจกับเฉียวซื่อ เฉียวซื่อก็สร้างปัญหามิได้มากนัก
“เซวียนเซวียน เื่นี้ข้ามิโทษเ้า ข้ารู้ดีว่านางเป็คนเช่นไร” ซ่งผิงอยากบังคับหย่าภรรยา มิใช่เพราะในใจของเขามีผู้ใด แต่เพราะเขาทนใช้ชีวิตกับสตรีเช่นนี้มิได้ เฉียวซื่อมิคิดเปลี่ยนตนเอง ทั้งยังกดขี่ซ่งจื่อเฉิน นี่คือสิ่งที่ซ่งผิงรับมิได้ที่สุด
“ท่านพ่อ แค่ท่านยินดีจะเชื่อข้า ข้าสัญญาว่าจะเปลี่ยนบ้านหลังนี้เองเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนพบข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง เหตุผลที่สามพี่น้องบ้านซ่งอยากได้สมบัติของซ่งผิงนั้น มิใช่ว่าพวกเขาเกียจคร้าน แต่เพราะเงินที่หามาได้นั้น มิเพียงพอที่จะมอบให้เฉียวซื่อ นางเชื่อว่าพ่อสามีมิมีทางรังแกพวกเขาสามพี่น้อง
“ได้ เื่นี้เ้าว่าอย่างไรก็เอาตามนั้น” ซ่งผิงมอบอำนาจให้จิ่นเซวียนจัดการ เพราะเขาเชื่อว่าจิ่นเซวียนจะมิทำร้ายทุกคน และเขาอยากทดสอบความสามารถในการจัดการของจิ่นเซวียน
“ท่านแม่ ท่านพ่อบอกว่าเขาให้โอกาสท่าน แต่ท่านมิอาจเอาเปรียบพวกพี่สะใภ้ได้อีกต่อไปเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนนั่งลงข้างซ่งจื่อเฉิน ประกาศคำตัดสินของซ่งผิงต่อหน้าทุกคน
“ท่านพ่อ ท่านหมายความว่าเงินที่พวกข้าหามาได้มิต้องมอบให้ท่านแม่แล้วใช่หรือไม่เ้าคะ?” เฉินซื่อเข้าใจที่จิ่นเซวียนบอก นางจึงซักไซ้ถามอย่างตื่นเต้น
“ใช่ จากนี้พวกเ้ามิต้องให้เงินกับนางแม้แต่อีแปะเดียว หญิงชราอย่างนางเอาเงินมากเช่นนั้นไปเพื่อสิ่งใด?พวกเ้าควรคิดถึงเด็กๆ บ้างแล้ว” หนึ่งในสาเหตุที่ซ่งผิงรังเกียจเฉียวซื่อคือนางเห็นแก่เงิน และชอบขูดรีดเงิน แม้นางจะมีลูกชายถึงสามคน
“พี่ชาย พี่สะใภ้ หลานชายและหลานสาวทุกคน หากครอบครัวรักใคร่ปรองดอง ทุกสิ่งจะเจริญรุ่งเรือง ขอเพียงพวกท่านยินดีละทิ้งความคิดก่อนหน้านี้ ข้ายินดีพาพวกท่านร่ำรวยไปด้วยกันเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนบอกกับทุกคนว่าตราบใดที่พวกเขามิเห็นแก่ตัวเหมือนก่อนหน้า นางจะดึงพวกเขาขึ้นมาเอง
“เซวียนเซวียน ข้ามิใช่คนทะเยอทะยาน แค่ได้มีชีวิตที่มั่นคงกับพี่สามของเ้า จากนั้นค่อยมีลูกสักคนก็เพียงพอแล้ว หากเ้ามิรังเกียจ พวกเราก็ยินดีจะเป็กำลังส่วนหนึ่งให้ครอบครัวนี้สามัคคีกัน” พานซื่อเป็คนแรกที่ยืนขึ้นสนับสนุนจิ่นเซวียน
“ข้ารู้ว่าพวกท่านมิใช่คนเกียจคร้าน ขอแค่พวกท่านมิระแวงและทำร้ายกันและกันเพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย ข้าเชื่อว่าพวกท่านจะกลายเป็พี่น้องที่ปรองดองกันมากที่สุด และข้ายังเชื่อในคำกล่าวที่ว่า พึ่งพาูเา ูเาย่อมถล่ม พึ่งพาท่านพ่อ ท่านพ่อย่อมจากไปในสักวัน มีเพียงพึ่งพาตนเองเท่านั้น ที่จะพาก้าวไปจนประสบความสำเร็จ”
“พี่ใหญ่ พี่สอง และพี่สาม มิว่าผู้ใดก็รักในทรัพย์สินเงินทองกันทั้งสิ้น แต่ทรัพย์สินนั้นต้องได้มาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขอแค่พวกท่านมิแบ่งพรรคแบ่งพวกกับข้า ข้ายินดีจะปฏิบัติกับพวกท่านเหมือนพี่ชายแท้ๆ พวกเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข” ซ่งจื่อเฉินคิดเหมือนจิ่นเซวียน หากครอบครัวของตนเองยังมิสามัคคีกัน แล้วผู้อื่นจะมองพวกเขาอย่างไร
แม้เขาจะมิชอบที่พวกพี่ชายของเขาเลือกปฏิบัติ ถึงอย่างไรก็เป็คนในครอบครัวเดียวกันอยู่ดี คิดจะทำสิ่งยิ่งใหญ่แต่มิรู้จักอดทนอดกลั้น คงทำได้เพียงอยู่เป็ชาวนาในหมู่บ้านสกุลโจวเล็กๆ แห่งนี้
“เซวียนเซวียน เ้ามีแผนการแล้วใช่หรือไม่?” ซย่าตงชิงเชื่อว่าจิ่นเซวียนมิพูดโกหก นางมองออกว่าจิ่นเซวียนเป็คนรู้ว่าสิ่งใดควรมิควรพูด หากทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น นางก็พร้อมจะเสี่ยงไปกับจิ่นเซวียน
“พี่ตงชิง ข้ามีแผนเช่นนี้เ้าค่ะ เด็กๆ ในบ้านที่อ่านหนังสือออกจะถูกส่งเข้าไปเรียนที่สำนักศึกษา หากอ่านมิออกก็ให้พวกเขาทำธุรกิจกับข้า มีทักษะติดตัวไว้ ในภายภาคหน้าจะได้มิอดตายเ้าค่ะ”
คำพูดของจิ่นเซวียนจับใจซย่าตงชิงยิ่งนัก ลูกชายของนางเรียนหนังสือกับซ่งจื่อเฉินั้แ่เด็ก ผลการเรียนมิแย่ แต่เพราะแม่สามีลำเอียงจึงมิได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษา
“ท่านอาสะใภ้ห้า ข้ามิอยากเรียนหนังสือ ข้าอยากทำธุรกิจกับท่านขอรับ” ลูกชายคนโตของซ่งหวาโตกว่าจิ่นเซวียนสี่ปี เพราะเป็หลานชายคนโต เขาจึงโดนเฉียวซื่อให้บังคับเรียนหนังสือ
แม้พวกเขาพี่น้องจะเป็วิชาหมัดมวยกังฟู แต่ท่านย่าบอกว่าวรยุทธ์พวกนี้จะเอาไปทำสิ่งใดได้
“ท่านปู่ ข้ากับพี่ใหญ่มิชอบเรียนหนังสือ มิสู้ให้พี่รองกับน้องสี่ไปเรียนแทนเล่าขอรับ” ลูกชายคนที่สองของซ่งหวาเองก็มิชอบเรียนหนังสือเช่นกัน เขาชอบเรียนวรยุทธ์มากกว่า ส่วนพี่รองที่เขาพูดถึงคือลูกชายของซย่าตงชิง เขาเกิดเป็คนที่สองในหมู่พี่น้อง
“พวกเ้าเรียนกันอยู่ดีๆ เหตุใดจะมิไปเรียนเล่า” ซ่งหวาได้ยินว่าลูกชายสองคนมิอยากเรียนหนังสือก็ร้อนใจขึ้นมาทันที
“ท่านพ่อ ข้าชอบเรียนวรยุทธ์ พี่ใหญ่ชอบค้าขาย ท่านบังคับให้พวกเราเข้าสำนักศึกษาเช่นนี้ มิเพียงสิ้นเปลืองเงิน ยังทำให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จช้าลงอีกด้วย พี่รองฉลาดกว่าพวกเรา ควรให้เขาเข้าไปเรียนที่สำนักศึกษาขอรับ”
แม้ซ่งหวาและซ่งเหลียงจะขัดแย้งกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่ลูกชายของพวกเขากลับยังรักษาจิตใจที่บริสุทธิ์เอาไว้ได้
พวกเขาหวังให้ครอบครัวนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ดูแลซ่งจื่อเฉิน พวกเขาพี่น้องก็พยายามกันอย่างเต็มที่ ซ่งจื่อเฉินยังต้องยอมรับในจุดนี้
“พี่ใหญ่ ข้าเข้าใจที่ท่านหวังให้ลูกชายมีหน้ามีตา แต่ความจริงแล้ว แว่นแคว้นมิได้้าเพียงขุนนางพลเรือน พวกเขายัง้าขุนนางทางทหารด้วยเ้าค่ะ ขอเพียงท่านเชื่อข้า ข้ายินดีถ่ายทอดวรยุทธ์ให้พวกเขา ในภายภาคหน้า พวกเขาจะได้มีโอกาสสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้ตระกูลซ่ง”
จิ่นเซวียนดีใจที่เด็กๆ ยังมิแปดเปื้อน นางมองออกว่าคนที่ขัดแข้งขัดขากันจริงๆ คือพวกผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คน
“น้องสะใภ้ เ้าหมายความว่าเ้ายินดีรับพวกเขาเป็ศิษย์หรือ?” เฉินซื่อซักถามอย่างตื่นเต้น จิ่นเซวียนเก่งกาจเพียงนี้ ถือเป็เกียรติที่ได้เป็ลูกศิษย์ของนาง
“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าหมายความตามนั้นเ้าค่ะ คนเราเชี่ยวชาญกันคนละอย่าง หากเรียนจนแตกฉานก็สามารถโดดเด่นได้เ้าค่ะ” จิ่นเซวียนพยักหน้ายิ้มๆ
“น้องสะใภ้ เช่นนั้นจากนี้ให้อาฉีกับอาเจี๋ยไปเรียนที่สำนักศึกษา ส่วนอาเฉวียนกับอาฝูตามไปเรียนกับเ้าก็แล้วกัน” ซ่งหวาพอใจกับการจัดการของจิ่นเซวียนยิ่งนัก ในเมื่อมีชีวิตที่ดีกับทุกคนได้ เขาเองก็มิอยากอยู่แบบที่ต้องคอยชิงไหวชิงพริบหรอก
“ค่าครูผู้สอนข้าออกเองเ้าค่ะ ขอเพียงพวกท่านยินดีฟังแผนการของข้า ข้าเต็มใจเอาสินสมรสออกมาเกื้อกูลครอบครัวซ่ง จากนั้นจะพาพวกท่านเข้าสู่สังคมมีอันจะกินเองเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเห็นทุกคนมิคัดค้าน นางจึงตัดสินใจเอาเงินออกมาลงทุน
“ท่านน้าเล็ก สังคมมีอันจะกินคือสิ่งใดหรือเ้าคะ?” ซ่งหยวนหยวนถามอย่างมิเข้าใจ
“สังคมมีอันจะกินหมายถึงมีชีวิตที่ดี” จิ่นเซวียนอธิบายความหมายของสังคมมีอันจะกินให้ซ่งหยวนหยวนฟังคร่าวๆ นางกวาดสายตามองไปรอบๆ พบสายตาโกรธแค้นอยู่คู่หนึ่ง เ้าของสายตานี้คือซ่งเป่าจู นางกำลังถลึงตามองมาที่จิ่นเซวียนอย่างดุร้าย
“เป่าจู ในบ้านหลังนี้เ้าเป็ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด ข้าจะเตือนเ้าดีๆ”
จิ่นเซวียนมิกลัวซ่งเป่าจูจะโกรธ นางพูดอย่างเฉียบขาด “เ้าคิดว่าแม่ของเ้ารักเ้าหรือ?นางสอนเ้าเช่นนั้น นางมิได้รักเ้าจริงหรอก ในบ้านหลังนี้พวกเรายอมทนเ้า เพราะเ้าคือญาติ ในโลกภายนอกเ้าคิดว่าผู้ใดจะมายอมเ้ากัน”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้