บทที่ 10 การขยายกำลังการผลิตและาตัวแทน
ความสำเร็จของแบรนด์ "เยว่ซิน" ดังก้องไปทั่วเมืองหลวง มันไม่ได้เป็เพียงแค่สินค้าขายดี แต่มันได้กลายเป็สัญลักษณ์แห่งความทันสมัยและรสนิยม เหล่าฮูหยินและคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ต่างพากันอวดอ้างถึงสบู่กลิ่นหายากหรือเทียนหอมรุ่นพิเศษที่ตนมีใน ราวกับมันเป็เครื่องประดับล้ำค่าชิ้นหนึ่ง
ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้ "อุปทาน" (Supply) ไม่เพียงพอต่อ "อุปสงค์" (Demand) อย่างรุนแรง โรงงานขนาดเล็กหลังครัวในจวนแม่ทัพที่เคยดูใหญ่โต บัดนี้กลับคับแคบและไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามคำสั่งซื้อที่หลั่งไหลเข้ามา
"นี่คือปัญหาคอขวด (Bottleneck) ของการผลิต" เสิ่นเยว่วิเคราะห์สถานการณ์ขณะมองดูแบบแปลนโรงงานขนาดเล็กในหัว "ถึงเวลาต้องขยายการลงทุนและยกระดับเทคโนโลยีการผลิตแล้ว"
นางเข้าพบฮูหยินใหญ่และพ่อบ้านคังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปมือเปล่า นางนำสมุดบัญชีที่ลงรายละเอียดรายรับ-รายจ่ายทั้งหมดใน่เดือนที่ผ่านมาไปด้วย ตัวเลขผลกำไรสุทธิที่ปรากฏในหน้าสุดท้าย ทำให้แม้แต่ฮูหยินใหญ่ที่คุ้นเคยกับความมั่งคั่งมาทั้งชีวิตยังต้องเบิกตากว้าง
"นี่... ทั้งหมดนี่คือผลกำไรภายในหนึ่งเดือนรึ?"
"นี่ยังเป็เพียงแค่การเริ่มต้นเ้าค่ะ" เสิ่นเยว่กล่าวอย่างมั่นใจ "ศักยภาพของตลาดยังมีอีกมหาศาล แต่เรากำลังเผชิญกับข้อจำกัดด้านการผลิต หากเราไม่รีบขยายตัว ในไม่ช้าก็จะมีคู่แข่งที่ลอกเลียนแบบสินค้าของเราออกมาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดไป"
"แล้วเ้ามีแผนการอย่างไร?" พ่อบ้านคังถามอย่างสนใจ
"บ่าว้าพื้นที่และแรงงานเพิ่มเ้าค่ะ" เสิ่นเยว่กางแผนผังที่นางร่างขึ้นอย่างคร่าวๆ บนโต๊ะ "ที่ดินรกร้างท้ายจวนที่ติดกับกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก ตรงนั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร บ่าว้าพื้นที่ตรงนั้นเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ตามแบบแปลนนี้เ้าค่ะ"
นางอธิบายถึงโครงสร้างของโรงงานใหม่ที่นางวางแผนไว้ ซึ่งมีทั้งส่วนผลิต ส่วนคลังสินค้า ส่วนวิจัย และแม้กระทั่ง "ระบบบำบัดน้ำเสียเบื้องต้น" โดยใช้บ่อกรวดทรายและพืชน้ำ ซึ่งเป็แิที่ล้ำยุคจนคนทั้งสองแทบตามไม่ทัน
"โรงงานนี้จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึงสิบเท่าของปัจจุบัน และยังช่วยสร้างงานให้แก่บ่าวไพร่ในจวนได้อีกหลายสิบคน" นางกล่าวต่อ "ส่วนเงินทุนในการก่อสร้าง เราสามารถใช้ผลกำไรจากการขายสินค้าที่ผ่านมาได้อย่างสบายๆ โดยไม่จำเป็ต้องรบกวนเงินคงคลังของจวนแม้แต่อีแปะเดียว"
นี่คือการนำเสนอโครงการลงทุนที่สมบูรณ์แบบ: มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน มีผลประกอบการที่พิสูจน์แล้ว และใช้เงินทุนหมุนเวียนของตัวเอง!
ฮูหยินใหญ่และพ่อบ้านคังมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องปรึกษาหารือกันนาน "ข้าอนุมัติ!"
[ติ๊ง! โครงการขยายโรงงานได้รับการอนุมัติ!]
[ท่านได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการเป็ผู้ประกอบการและสร้างความไว้วางใจในระดับสูงสุด!]
[ความคืบหน้าภารกิจ "ปฏิรูปฝ่ายสนับสนุน" ถูกผนวกรวมเข้ากับภารกิจหลักสายอาชีพ: "สร้างอาณาจักรธุรกิจ"!]
การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของเสิ่นเยว่ นางไม่ได้แค่สั่งการ แต่ยังลงไปดูแลรายละเอียดด้วยตัวเอง นางประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิศวกรรมพื้นฐาน เช่น การใช้รอก ช่วยในการยกของหนัก การออกแบบ "ช่องลม" เพื่อการระบายอากาศที่ดี และการวาง "รางไม้" สำหรับลำเลียงวัตถุดิบ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้การก่อสร้างดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าการก่อสร้างแบบโบราณทั่วไปหลายเท่า
แต่ในขณะที่อาณาจักรของนางกำลังเติบโต ภัยคุกคามที่นางคาดการณ์ไว้ก็มาถึง
ณ หอการค้า "ว่านเป่า" คู่แข่งตลอดกาลของหอการค้าจินอี้
"น่าสนใจ... น่าสนใจจริงๆ" เถ้าแก่หวง ชายวัยกลางคนเ้าของหอการค้าว่านเป่าลูบเคราแพะของตนเองอย่างครุ่นคิด ขณะมองดู "สบู่" ก้อนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
มันคือสินค้าลอกเลียนแบบ!
รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับสบู่เยว่ซินมาก แต่เนื้อััหยาบกว่าเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมที่ฉุนและไม่เป็ธรรมชาติ
"สืบมาได้หรือไม่ว่าใครเป็คนทำ?"
"เรียนเถ้าแก่" ผู้จัดการร้านตอบอย่างนอบน้อม "เป็โรงงานเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่นอกเมืองขอรับ ได้ยินว่าเป็ของอนุภรรยาคนที่สามของท่านรองแม่ทัพฝ่ายซ้าย"
"อนุสามของรองแม่ทัพจางรึ?" เถ้าแก่หวงแค่นเสียง "สตรีในห้องหอ คิดจะมาเล่นเกมธุรกิจกับข้ารึ? นางคงคิดว่ามีสามีหนุนหลังแล้วจะทำอะไรก็ได้กระมัง"
เถ้าแก่หวงไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าอนุภรรยาคนนั้นเป็เพียง "ตัวแทน" (Proxy) เท่านั้น ผู้อยู่เื้ัที่แท้จริงต้องเป็คนที่มองเห็นผลกำไรมหาศาลจากธุรกิจนี้และ้าจะเข้ามาแย่งชิง แต่ไม่้าเปิดเผยตัวตน
"สินค้าของพวกมันเป็อย่างไรบ้าง?"
"คุณภาพยังห่างชั้นกับของเยว่ซินมากขอรับ ฟองน้อยกว่าและใช้แล้วผิวแห้ง แต่... ราคาของมันถูกกว่าของเยว่ซินถึงสามส่วนขอรับ!"
นี่คือาราคา (Price War) กลยุทธ์ที่คลาสสิกที่สุดในการต่อสู้กับแบรนด์เกิดใหม่
"แล้วทางเยว่ซินว่าอย่างไรบ้าง?"
"แปลกมากขอรับเถ้าแก่" ผู้จัดการขมวดคิ้ว "พวกเขายังคงขายในราคาเดิม ไม่มีการลดราคาเพื่อสู้กับเราเลยแม้แต่น้อย แถมยังดูเหมือนจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยด้วยซ้ำ"
"หืม?" เถ้าแก่หวงรู้สึกประหลาดใจ "เด็กสาวที่ชื่อเสิ่นเยว่นั่น... กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?"
ณ โรงงานแห่งใหม่ของเสิ่นเยว่ที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ
จินเหวินป๋อเดินเข้ามาหานางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เสิ่นเยว่! เ้าได้ยินเื่ของ 'สบู่ดอกโบตั๋น' แล้วใช่หรือไม่? พวกมันกำลังตัดราคาเราอย่างหนัก! ยอดขายของเราใน่สองสามวันที่ผ่านมาลดลงไปเกือบ 20% แล้วนะ! ทำไมเ้ายังนิ่งเฉยอยู่อีก? เราต้องลดราคาลงไปสู้กับมัน!"
เสิ่นเยว่ที่กำลังตรวจสอบบัญชีวัตถุดิบอยู่ เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขาอย่างใจเย็น "พี่ใหญ่จิน ท่านเคยเห็นพญาอินทรีลดตัวลงไปทะเลาะกับไก่เพื่อแย่งหนอนกินหรือไม่?"
"นี่เ้า..." จินเหวินป๋อถึงกับพูดไม่ออก
"การลดราคาเพื่อสู้กลับคือกลยุทธ์ของคนสิ้นคิด" นางกล่าวอย่างเฉียบขาด "มันจะทำลายคุณค่าของแบรนด์ที่เราอุตส่าห์สร้างขึ้นมา และทำให้ลูกค้าเคยชินกับของราคาถูก ในระยะยาวมีแต่จะเจ๊งกับเจ๊ง"
"แล้วเ้าจะทำอย่างไร! ปล่อยให้พวกมันแย่งลูกค้าไปเฉยๆ รึ!"
"แน่นอนว่าไม่ใช่" เสิ่นเยว่ลุกขึ้นยืน ดวงตาของนางทอประกายแห่งความหลักแหลม "เมื่อคู่แข่งโจมตีเราด้วยราคา เราต้องตอบโต้กลับด้วยคุณภาพ และนวัตกรรม ที่พวกเขามิอาจลอกเลียนแบบได้"
นางเดินนำเขาไปยังส่วนวิจัยและพัฒนา ซึ่งตอนนี้มีหม้อดินเผาขนาดต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่
"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านคิดว่าข้าทำอะไรอยู่รึ?" นางหยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีเขียวหยกที่สวยงามกว่าเดิมออกมา "นี่คือ 'เยว่ซิน รุ่นพรีเมียม'"
นางเปิดขวดให้เขาดม กลิ่นหอมที่ได้นั้นแตกต่างไปจากเดิม มันมีความซับซ้อนและหรูหรากว่ามาก เป็กลิ่นที่สกัดจากกล้วยไม้ป่าผสมกับไม้จันทน์
"ข้าได้ใช้แต้มระบบ เอ่อ หมายถึงสูตรลับของตระกูลในการพัฒนากระบวนการกลั่นแบบใหม่ที่สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยที่มีความบริสุทธิ์สูงได้" นางอธิบาย "นอกจากนี้ ข้ายังได้เพิ่มส่วนผสมใหม่เข้าไป ว่านหางจระเข้และน้ำผึ้งป่า ซึ่งมีสรรพคุณในการให้ความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว"
นางหยิบสบู่ก้อนใหม่ออกมาให้ดู มันมีสีชมพูอ่อนและมีกลีบกุหลาบเล็กๆ แทรกอยู่ในเนื้อสบู่ดูสวยงามราวกับงานศิลปะ
"นี่คือสบู่กุหลาบผสมน้ำนมแพะ สำหรับบำรุงผิวให้ขาวเนียนนุ่ม และนี่คือแชมพูสูตรขิงผสมโสม สำหรับช่วยบำรุงรากผมและลดการหลุดร่วงของเส้นผม"
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกชิ้นล้วนถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความ้าในระดับที่สูงขึ้น กลุ่มลูกค้าที่ไม่สนใจเื่ราคา แต่สนใจเื่คุณภาพและผลลัพธ์ที่เหนือกว่า
"เราจะไม่ลดราคา" เสิ่นเยว่ประกาศ "แต่เราจะขึ้นราคา!"
"อะไรนะ!" จินเหวินป๋อคิดว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว
"ใช่" เสิ่นเยว่ยืนยัน "เราจะแบ่งสินค้าออกเป็สองระดับ: 'รุ่นคลาสสิก' ซึ่งเป็สินค้าตัวเดิม ขายในราคาเท่าเดิม และ 'รุ่นพรีเมียม' สำหรับลูกค้าระดับสูงโดยเฉพาะ โดยจะตั้งราคาให้สูงกว่าเดิมถึงสองเท่า!"
"และที่สำคัญที่สุด สินค้ารุ่นพรีเมียมนี้ จะมีขายเฉพาะที่หอการค้าจินอี้ และสำหรับ 'สมาชิกบัตรกิตติมศักดิ์' เท่านั้นใน่เดือนแรก!"
จินเหวินป๋อเบิกตากว้าง เขาเข้าใจแผนการของนางในทันที!
นี่คือกลยุทธ์การแบ่งส่วนตลาด (Market Segmentation) ที่ยอดเยี่ยมที่สุด!
1. รักษากลุ่มลูกค้าเดิม: การคงราคาสินค้ารุ่นคลาสสิกไว้ จะช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ไม่้าจ่ายแพง
2. สร้างความแตกต่าง: การออกสินค้ารุ่นพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด จะเป็การตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ "เยว่ซิน" ในฐานะผู้นำด้านคุณภาพและนวัตกรรม ทำให้สินค้าลอกเลียนแบบราคาถูกดูไร้ค่าไปในทันที
3. สร้างความพิเศษ (Exclusivity) : การจำกัดการขายสินค้ารุ่นพรีเมียมให้เฉพาะสมาชิกและร้านค้าของตนเอง จะยิ่งกระตุ้นความอยากได้อยากมีของลูกค้าระดับสูง และดึงดูดให้คนอยากมาเป็ลูกค้าของหอการค้าจินอี้มากขึ้น!
"เ้า... เ้ามันนางจิ้งจอกเ้าเล่ห์ชัดๆ!" จินเหวินป๋อหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "ข้าเข้าใจแล้ว! เราไม่ได้จะสู้กับพวกมันในสนามรบเดียวกัน แต่เราจะยกระดับสนามรบของเราให้สูงขึ้นไปอีกขั้น!"
"ถูกต้อง" เสิ่นเยว่ยิ้ม "ในาธุรกิจ ผู้ที่ไม่ยอมพัฒนาก็มีแต่จะต้องตายไป ส่วนผู้ที่ก้าวไปข้างหน้าเสมอ... คือผู้ที่จะอยู่รอด"
การเปิดตัว "เยว่ซิน รุ่นพรีเมียม" สร้างแรงสั่นะเืไปทั่ววงสังคมอีกครั้ง มันกลายเป็ "สุดยอดปรารถนา" ของเหล่าสตรีชั้นสูงทันที ยอดขายของสบู่ดอกโบตั๋นราคาถูกดิ่งลงเหวในชั่วข้ามคืน เพราะไม่มีใครอยากถูกมองว่าใช้ "ของเลียนแบบราคาถูก" อีกต่อไป
าตัวแทนครั้งแรก... จบลงด้วยชัยชนะอย่างถล่มทลายของเสิ่นเยว่ โดยที่นางไม่จำเป็ต้องลดราคาสินค้าของตัวเองแม้แต่อีแปะเดียว
ณ จวนรองแม่ทัพฝ่ายซ้าย
เพล้ง!
เสียงถ้วยชากระเบื้องเคลือบชั้นดีถูกขว้างลงกับพื้นจนแตกละเอียด
"ไร้ประโยชน์! ไร้ประโยชน์สิ้นดี!" อนุหลิว อนุภรรยาคนที่สามของรองแม่ทัพจางกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง "ข้าลงทุนไปตั้งมากมาย แต่กลับพ่ายแพ้ให้แก่เด็กบ่าวรับใช้คนหนึ่งอย่างน่าสมเพช!"
"ใจเย็นก่อนเถิดฮูหยิน" บ่าวคนสนิทปลอบ "นังเด็กนั่นมันแค่โชคดี"
"โชคดีรึ!" อนุหลิวตวาดแว้ด "นี่มันไม่ใช่โชคดี! นี่มันคือการวางแผนที่เหนือชั้น! ข้าประเมินมันต่ำเกินไป!"
นางทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง "ไปสืบมาให้ข้า! สืบประวัติของนังเด็กเสิ่นเยว่นี่มาให้ละเอียดที่สุด! ข้าอยากรู้ว่ามันเป็ใครมาจากไหนกันแน่! ข้าไม่เชื่อเด็ดขาดว่าบ่าวรับใช้ธรรมดาๆ จะมีความสามารถถึงเพียงนี้!"
ายังไม่จบ... มันเพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น และศัตรูที่แท้จริง... ก็เริ่มจะหันมามองนางโดยตรงแล้ว
