ถึงตอนนี้แล้วกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตก็ไม่ได้เปรียบเื่จำนวนที่มากกว่าอีกต่อไปซึ่งในเวลานี้ได้าเ็ล้มตายไปมากกว่า 20,000 คนแล้วและยังเหลืออยู่ไม่ถึง 10,000 คนซึ่งใกล้เคียงกับฝ่ายของฉินโจ้ว แต่ถ้าเทียบกันในเื่ของประสิทธิภาพการสู้รบดูเหมือนว่าจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
"ผู้ใช้เวท เตรียมพร้อม โจมตีด้วยบอลไฟ ยิงได้..."
บอลไฟมากกว่าหนึ่งพันลูกได้ถูกปล่อยออกมาจากทีมแมลงตัวเล็กโดยพร้อมเพรียงก่อนจะตกใส่กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิต มองดูแล้วก็คล้ายกับหยาดฝนแม้ไม่ได้อยู่ใกล้ แต่ความร้อนที่แผ่กระจายออกมาก็ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับอยู่ในกองเพลิง
แคร๊ก... แคร๊ก... แคร๊ก...
คล้ายกับเสียงกระจกที่แตกร้าวซึ่งนั่นก็คือเสียงจากโล่เวทมนตร์ที่กำลังถูกทำลายก่อนที่เวทบอลไฟจะพุ่งโจมตีเข้าใส่ร่าง ตามมาด้วยเสียงะเิดังขึ้นลูกแล้วลูกเล่าหลังจากการโจมตีด้วยเวทบอลไฟ กลุ่มของทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตก็ล้มตายลงเป็จำนวนมากร่างกายถูกเผาไหม้จนดำกลายเป็ตอตะโกกลิ่นไหม้เมื่อรวมเข้ากับกลิ่นเนื้อที่ถูกเผาผสมเข้าด้วยกันกลายเป็กลิ่นที่ค่อนข้างแปลกไป จนทำให้ผู้คนรู้สึกสะอิดสะเอียน
ถึงแม้ว่าเวทบอลไฟจะเป็เวทโจมตีขั้นพื้นฐานแต่พลังของการโจมตีนับพันนั้นก็ไม่น้อยไปกว่าเวทระดับสูงเลย และหลังจากที่ผู้ใช้เวททั่วไปกลายเป็ผู้ใช้เวทระดับกลางแล้วพลังของเวทบอลไฟก็จะเพิ่มขึ้นอีกมาก ในสนามรบนั้นเวทที่สร้างความเสียหายมากไม่ได้เป็เวทระดับสูงที่มีผลยาวนานแต่กลับเป็เวทที่ดูไม่สลักสำคัญ อย่างเช่น เวทระดับพื้นฐานหรือระดับกลางโดยระยะเวลาที่สั้นของคาถานั้นก็สามารถที่จะชดเชยเื่พลังโจมตีที่ต่ำได้และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีการโจมตีด้วยเวทธาตุเดียวกันเป็จำนวนมากแต่ละการโจมตีจะส่งผลต่อกันเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หึ... หึ...
เสียงของมีดที่ตวัดผ่านคอหอย ก่อนที่เืจะพุ่งกระฉูดออกมาผู้นำของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตเพิ่งจะหลบหนีจากการโจมตีของเวทบอลไฟรู้สึกใมากเมื่อมีเสียงหนึ่งที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นในความว่างเปล่า ยังไม่ทันที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆมีดก็ปาดคอของเขาไปเรียบร้อยแล้ว พลังชีวิตลดลงจนหมดทันทีดวงตาของผู้นำถึงกับเบิกโพลง แม้แต่ชีวิตของเขาเองก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ ก่อนที่จะตายไปในความมืดมิด
''โจวโจว'' ดูราวกับว่ากำลังลงมือทำบางสิ่งที่ดูไม่ได้สลักสำคัญอะไรสายตาไม่ได้มองไปยังผู้นำกลุ่มย่อยอีก ร่างของเขาพุ่งหายไปในอากาศอย่างรวดเร็วก่อนจะมองหาเป้าหมายที่จะต้องลงมือต่อไป
"ทำมุม 45 องศา ยิงได้..."
ลูกธนูเกือบสี่พันลูกถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า มองดูไม่ต่างจากเมฆดำครึ้มหลังจากที่พุ่งมาได้ระยะทางที่ไกลพอสมควร พวกมันก็ตกลงเข้าใส่แถวของศัตรูลูกธนูที่แหลมคมนั้นสามารถแทงทะลุเกราะป้องกันและทะลุเข้าไปสู่ร่างกายได้แต่เนื่องจากพวกมันล้วนเป็แค่ลูกธนูธรรมดา จึงไม่มีความรุนแรงมากนัก ธนูแต่ละลูกสามารถสร้างความเสียหายได้มากที่สุดไม่เกิน-100 หรือ -200 ซึ่งไม่น่าจะมากไปกว่านี้แต่ก็มากกว่าพลังชีวิตของโจรที่เลเวลค่อนข้างต่ำ และนักฆ่าที่มักจะตายก่อน ซึ่งสถานการณ์จะแตกต่างจากนักรบและผู้ใช้เวทที่กำลังกลืนยาด้วยความเ็ป
"ทำมุม 45 องศา ยิงได้..."
เมื่อการโจมตีระลอกแรกของธนูฝนกำลังจะตกลงการโจมตีระลอกสองก็มาถึง ตามมาด้วยการโจมตีระลอกสามและระลอกสี่หลังจากที่การโจมตีด้วยฝนธนูระลอกห้าจบลงก็เหลือผู้เล่นเพียงส่วนน้อยที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในสนาม
''ลมกระจ่างจันทร์แรม'' ก็หัวเราะขึ้นก่อนที่ลำแสงเย็นเยียบทั้งหกจะสว่างวาบและพุ่งผ่านธนูไปจนทำให้เกิดแรงสั่นะเืร่างของผู้เล่นหลายคนที่กำลังยืนอยู่จู่ๆ ก็เกิดะเิขึ้นดูท่าว่าจะไม่มีร่างกายหลงเหลือเสียแล้ว
การโจมตีที่ไม่เลือกหน้านั้นสิ่งนี้ถือเป็สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของนักธนูั้แ่เริ่มก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาเป็เวลานานลมกระจ่างจันทร์แรมยังไม่เคยโจมตีเพื่อโชว์ความเก่งของตนเองมาก่อนเลยเพราะมันไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น การโจมตีตามอำเภอใจแบบนี้ต้องใช้ลูกธนูเป็จำนวนมากและลูกธนูก็ต้องใช้เงินซื้อมา โชคไม่ดีที่เขานั้นค่อนข้างทรัพย์จางทำให้เขาต้องอดทนอดกลั้นมาเป็เวลาช้านานแล้ว แต่มาวันนี้เขาสามารถโจมตีได้อย่างไม่ต้องเกรงใจใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะยิงด้วยวิธีใด หรือแบบไหนก็ได้ เพราะฉินโจ้วก็ไม่ใช่เป็คนที่ขาดแคลนไม่ว่าเขาจะใช้ไปมากขนาดไหน ก็จะคืนกลับมาให้เขาเป็จำนวนสิบเท่าในทันที
"เปลี่ยนรูปแบบ ยิงต่อไปอย่าหยุด"
ในความจริงนั้นจำนวนของพลธนูในกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตนั้นแน่นอนว่าต้องมีมากกว่าลมกระจ่างจันทร์แรม แต่โชคไม่ดีที่ ผู้บังคับบัญชาตายไปแล้วทำให้พลธนูนั้นต้องต่อสู้ด้วยตนเอง ในการต่อสู้กับผู้เล่นมากกว่าหนึ่งหมื่นคน ความแข็งแกร่งส่วนตัวนั้นมีผลเพียงเล็กน้อยและไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมที่ยิ่งใหญ่ได้เมื่อนักธนูไม่สามารถแสดงความสามารถออกมาได้ ซึ่งลมกระจ่างจันทร์แรมก็เข้าใจถึงเื่นี้เป็อย่างดีก่อนจะปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมา
800 เมตร...
500 เมตร...
กองหนุนขนาดใหญ่ของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตเพิ่งจะปรากฏขึ้นสู่สายตามีมากกว่า 40,000 คนเห็นจะได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีรูปแบบในการเคลื่อนทัพ แต่ความหนาแน่นของผู้คนก็ทำให้รู้สึกได้ถึงจำนวนที่มากมายท่วมท้นเมื่อมองจากระยะไกล อาวุธดูเหมือนๆ กัน และเต็มไปด้วยผู้คนเป็จำนวนมากจนดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อมีแต่แสงที่ส่องประกายคมวาบจากมีดปรากฏขึ้นก็ทำให้ผู้ใช้เวทของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตกว่าครึ่งนั้นถูกฆ่าตายด้วยมีดน้องชายมีดหันมองรอบตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้าหาผู้คนพร้อมกับตวัดแสงที่ส่องประกายออกไปนักรบสามคนของทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตก็ล้มลงกับพื้น รอยเืไหลเป็ทางยาวสีแดงบนคอค่อยๆขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่ดูเหมือนจะเป็การอธิบายได้โดยไม่ต้องพูดว่าเหตุใดพวกเขาเ่าั้จึงล้มลงกับพื้น
การโจมตีจากกลุ่มของน้องชายมีดนั้นพูดได้ว่าไม่มีสีสัน มีแต่เพียงมีดปะทะเข้ากับเืเนื้อ พร้อมเืที่หลั่งริน กลุ่มของน้องชายมีดแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงความจริงที่ว่าแม้มีเพียงแค่อาชีพเดียวก็สามารถลงสนามรบเพื่อต่อสู้ได้เช่นเดียวกัน
สมาชิกของกลุ่มน้องชายมีดล้วนเต็มไปด้วยความมั่นใจในแววตาเต็มไปด้วยแรงผลักดันที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้ความศรัทธาที่มีทำให้กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตถึงกับหยุดยั้งเอาไว้ไม่อยู่ไม่ถึงสองนาที กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกทำลายจนเกลี้ยงเหลือไว้เพียงอุปกรณ์ที่ดรอปอยู่ที่พื้น ซึ่งไม่มีใครใส่ใจที่จะมองแม้แต่น้อยสมาชิกของกลุ่มน้องชายมีดต่างก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นมา จนดูเหมือนเงียบสนิทแต่ความมุ่งมั่นยังคงคุกรุ่น หลังจากที่ศัตรูถูกสังหารไปจนหมดแล้วพวกเขาก็ไม่ได้หยุดพัก กลับพุ่งเข้าไปในสถานที่ที่อันตรายโดยทันทีเพื่อเข้าไปช่วยเหลือกองกำลังฝ่ายเดียวกัน
400 เมตร...
ในเวลานี้สมาชิกของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตได้ลดลงไปจนเหลือน้อยกว่าหนึ่งพันคนแล้วโดยหลังจากที่ตายร่างของผู้เล่นนั้นจะคงสภาพอยู่ราวสิบวินาที ดังนั้นดูเหมือนว่าจะไม่เห็นร่างจำนวนมากแต่อุปกรณ์ที่หล่นอยู่ที่พื้นก็ยืนยันจำนวนของผู้ที่ตายลงได้ว่าไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย
300 เมตร... เสียงฝีเท้าม้าที่ดูสับสนวุ่นวาย เสียงะโโหวกเหวกและเสียงโห่ร้องที่ดังขึ้นให้ได้ยินนั้น สำหรับนักธนูแล้วเป็เื่ที่ดีนี่เป็ระยะทางสำหรับการโจมตีแล้ว ในฐานะของนักธนูลมกระจ่างจันทร์แรมสามารถเข้าใจได้เป็อย่างดี เมื่อเขาโบกมือนักธนูนับพันก็ออกมายืนอยู่เบื้องหน้าเขา
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูนั้นสูงมากซึ่งระยะห่างเพียงแค่ร้อยเมตรนั้นสามารถเคลื่อนที่ได้ในชั่วพริบตาดูเหมือนว่าระยะทางจะไม่ใช่อุปสรรคสำหรับผู้เชี่ยวชาญสมาชิกของทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตจำนวน 400 คน ที่หลงเหลืออยู่นั้นเข้าใจเื่นี้ได้เป็อย่างดีแต่ความเป็จริงโหดร้ายยิ่งนัก กองหนุนสามารถมองเห็นได้ในระยะสายตาแล้วแต่ระยะทางนั้นดูห่างราวกับสุดขอบโลกก็ไม่ปาน
"เตรียมเล็ง... ยิงได้" ''ลมกระจ่างจันทร์แรมออกคำสั่ง"
ลูกธนูนับพันถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็วราวกับดาวตกพุ่งใส่ครอบคลุมศัตรูที่อยู่รายรอบบริเวณกึ่งกลาง ซึ่งในเวลานี้มีนักธนูฝ่ายศัตรูเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยและลูกธนูจำนวนเล็กน้อยเ่าั้คงขู่ได้แค่เด็กเท่านั้น ดังนั้นเมื่อนักธนูสามารถเข้าไปในระยะหวังผลที่ห้าสิบเมตรซึ่งเป็ระยะที่นักธนูจะสามารถเล็งและยิงได้อย่างแม่นยำมากที่สุด
ในเวลาเดียวกันนั้นหงยี่ก็สั่งให้ผู้ใช้เวทเริ่มทำการโจมตีเวทบอลไฟมากกว่าหนึ่งพันลูกพุ่งลงมาจากท้องฟ้าหลังจากเกิดการะเิขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่บริเวณนั้นก็ว่างเปล่าและไม่มีผู้รอดชีวิตแม้สักคน
มีคนของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตอยู่ราว 30,000คน ซึ่งดูเหมือนในเวลานี้พวกเขาทั้งหมดพร้อมที่จะสู้รบแล้ว
ระยะทาง 150 เมตรสำหรับสองกองกำลังที่กำลังจะต่อสู้กัน เวลานี้ดูเหมือนจะไม่สามารถถอยหนีได้แล้วทางแคบแบบนี้คงต้องใช้พลังใจและความกล้าหาญจึงจะก้าวข้ามไปถึงชัยชนะได้ไม่เขาก็เราที่จะมีชีวิตรอด เวลานี้กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตได้หยุดเคลื่อนพลรุกคืบหน้าผู้คนเริ่มล้มตาย การรุกคืบหน้าเร็วไปไม่เป็ผลดีแต่อย่างใดถัดจากนี้คงเป็านองเืเพื่อการแก้แค้น
รูปแบบการจัดทัพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนักธนูจำนวนสองพันคนขึ้นมาแถวหน้า ง้างสายธนูก่อนจะเล็งไปทางศัตรูตามมาด้วยกองทัพผู้ใช้เวทขนาดใหญ่ ตามมาด้วยนักรบ ขโมย และนักฆ่าอาวุธทั้งหมดถูกชักออกมาจากฝักแล้ว เหลือแค่รอคำสั่งเท่านั้น พวกเขาก็พร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่และจัดการกับศัตรูด้วยความรุนแรงราวกับสายฟ้าฟาด
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมากสีหน้าของทุกคนเริ่มซีดเผือดไม่เว้นแม้แต่ลมกระจ่างจันทร์แรมผู้ที่ไม่เคยกลัวใครในโลกหล้า ยังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู ก่อนจะหันหน้ามาทางฉินโจ้วและรอให้เขาตัดสินใจ
สีหน้าของฉินโจ้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยท่าทีของเขาดูนิ่งสงบและปราศจากความหวาดกลัว ก่อนจะพูดขึ้นว่า"นกหัวขวานรีบเคลียร์สนามรบ คนอื่นๆ นับจำนวนคนที่เหลือ"
พวกเขาต่างพากันนิ่งอึ้งไปชั่วครู่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดก่อนจะเริ่มหยิบอุปกรณ์ที่หล่นอยู่ภายใต้การจ้องมองของศัตรู
หนึ่งในสมาชิกของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตเดินออกมาจากแถวของนักธนูสีหน้าดำคล้ำเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นั่นก็คือหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายผู้นำของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตนั่นเอง เขาไม่ได้คาดคิดไว้เลยว่าจะถูกฆ่าตายจึงรีบกลับมาด้วยความรวดเร็ว บริเวณที่ราบโลหิตเองก็ไม่มีจุดสำหรับคืนชีพจุดคืนชีพที่ใกล้สุดนั้นต้องใช้เวลาในการเดินทางราวหนึ่งชั่วโมง ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็ปัญหาเพราะเขามีอุปกรณ์เวทที่ใช้เพิ่มความเร็ว เนื่องจากเขาเป็ผู้นำกลุ่มจึงมีของดีอยู่เป็จำนวนมาก
"ส่งมีดกระหายเืกลับคืนมาและเมามายซบตักสาวงามจะต้องตายหนึ่งครั้ง เื่นี้ถึงจะจบลง ไม่อย่างนั้นล่ะก็..."ถึงหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายจะไม่พูดต่อแต่ความหมายที่ซ่อนอยู่ก็แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดขึ้นว่า"ให้เวลาหนึ่งนาทีในการตัดสินใจ"
เมื่อมีการยื่นข้อเสนอ ฉินโจ้วก็ไม่มีทางเลือกซึ่งมีดกระหายเืก็ไม่สามารถที่จะสูญเสียมันไปได้ เพราะมันเป็อุปกรณ์ิญญาหลังจากสูญเสียมันไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะได้กลับคืนมาเป็ครั้งที่สองนั่นทำให้ไม่สามารถสูญเสียมันไปได้อีก ถ้าไม่ใช่เพราะอุปกรณ์ิญญานั้นหาได้ยากเขาจะกลืนน้ำลายตนเองได้อย่างไร
ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปยังฉินโจ้วพวกเขาเหล่านี้มารวมตัวกันก็เพราะเขา จึงเป็เื่ปกติที่จะให้เขาตัดสินใจแน่นอนว่านกหัวขวานและคนอื่นๆ เองก็ไม่คัดค้านความคิดของฉินโจ้วอยู่แล้วลมกระจ่างจันทร์แรมและฉินโจ้วก็รู้จักกันมาก่อนและลมกระจ่างจันทร์แรมเองก็ยกให้ฉินโจ้วเป็หัวหน้าเป็ธรรมดาที่จะให้ฉินโจ้วเป็หัวหน้าใหญ่ ส่วนน้องชายมีดนั้นเพิ่งจะได้พบกับฉินโจ้วเพียงครั้งเดียวแต่ฉินโจ้วก็ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จึงทำให้เขาให้ความเคารพ ส่วน ''ตี้ชุยจี้เอิ้น'' นั้นทำงานให้กับสำนักข่าวหยงฉวนจึงไม่มีความเห็นใดๆพวกทีมแมลงตัวเล็กก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นมา ทุกคนก็ไม่ต่างจากเป็คนในครอบครัว
น้องชายมีดหันคมมีดเข้าตัวก่อนจะยื่นมีดกระหายเืคืนให้กับฉินโจ้วเขาเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมา แต่ท่าทางที่แสดงออกก็บ่งบอกให้รู้ว่ามีนิสัยอย่างไร
ฉินโจ้วยิ้ม พร้อมกับโบกมือขึ้น และพูดว่า "รับมันไปสิมันเหมาะกับนายนะ"
"งานไม่สำเร็จ ไม่รับรางวัลอีกอย่างถ้าเป็อาวุธทั่วไปผมก็คงไม่ปฏิเสธ แต่นี่มันระดับอุปกรณ์ิญญา"น้องชายมีดตอบปฏิเสธ
"ฝากนายเก็บไว้ให้ก่อน เมื่อไรที่ผมได้เรียนรู้ทักษะดาบแล้วจะไปขอคืนทีหลัง"ฉินโจ้วตอบไปอย่างไม่ลังเล อันที่จริงน้องชายมีดก็พูดถูกเพราะเนื่องจากมันเป็อุปกรณ์ิญญา"
"เป็เกียรติมากที่จะได้ใช้มีดเล่มนี้สังหารศัตรูไม่ว่าจะได้ใช้นานแค่ไหนก็ตาม มันก็ยังคุ้มค่าอยู่ดี" น้องชายมีดหัวเราะขึ้นเขาเป็คนที่ยิ้มง่าย สบายๆ
"น้องชายมีด ไว้เรามาแข่งกันทีหลังดูว่าใครจะฆ่าได้จำนวนมากกว่า" ลมกระจ่างจันทร์แรมยังอุตส่าห์มีความคิดแปลกๆขึ้นมาได้
"ได้ทุกเมื่อ" น้องชายมีดให้คำมั่น
หงยี่เองก็รู้สึกท้อแท้ใจอยู่บ้างเพราะปกติแล้วเขาชอบเข้าร่วมการท้าทายมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าปัญหาของเขาคือ ความแข็งแกร่งของกลุ่มของเขานั้นไม่สามารถเทียบได้กับทั้งสองคนเลยต่อให้เทียบในแง่ของความแกร่งส่วนตัวเขาเองก็ยังห่างชั้นกว่าทั้งคู่ที่เป็ผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆ อยู่ดี เขารู้ว่าเขานั้นไม่เหมาะที่จะเป็คู่ต่อสู้ดังนั้นหงยี่จึงทำได้เพียงแค่จ้องมองเท่านั้น
"หมดเวลาแล้ว เมามายซบตักสาวงามเลือกมาว่าจะเอายังไง จะฆ่าตัวตายเองหรือจะให้ฉันฆ่า"หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในขณะที่มือขวาชูขึ้นสูงตราบใดที่คำตอบของเมามายซบตักสาวงามไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้เขาจะไม่ลังเลที่จะวาดมือลงทันที กำลังพลทั้ง 40,000 นาย ก็จะพุ่งเข้าใส่ก่อนจะล้อมอีกฝ่ายที่มีไม่ถึงหมื่นคนเอาไว้ซึ่งฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางที่จะต้านทานการบุกราวกับน้ำหลากนี้ได้อย่างแน่นอน
"หุบปาก" ฉินโจ้วเอ่ยขึ้นแค่สองคำ
"ว่าไงนะ" หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายคิดว่าเขาฟังผิดไปหรือเปล่า เป็ไปได้ไหมว่าชายผู้นี้อยู่ภายใต้แรงกดดันมากเกินไปจนทำให้เพี้ยนไปแล้วหรือว่าตื่นเต้นจนพูดผิด จะเป็ไปได้อย่างไรที่คนธรรมดาทั่วไปจะพูดสองคำนี้ขึ้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
"จงมอดไหม้ด้วยเปลวเพลิงแห่งนรกโลกันตร์"
ฉินโจ้วเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า แขนของเขาชูขึ้นสูงดวงตาปิดสนิทมองดูราวกับเขากำลังสวดภาวนาต่อท้องฟ้า ท่าทางดูเคร่งขรึม จริงจัง
ทันทีที่เวทขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้ก่อตัวขึ้นในอากาศท้องฟ้าก็พลันปรากฏเมฆลอยต่ำลงมาเป็จำนวนมาก พร้อมกับแรงกดดันอย่างมหาศาล ห่างออกไปราวร้อยห้าสิบเมตรสมาชิกของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตรู้สึกเหมือนติดอยู่ในกับดักในสภาวะแวดล้อมที่พิเศษแห่งนี้พวกเขายังคงยืนอยู่ ณ สถานที่แห่งเดิม เพียงแต่สายตาของพวกเขาไม่สามารถมองออกไปได้ไกลเกินกว่าสามเมตรซึ่งทำให้ทุกคนเกิดอาการหวาดกลัวขึ้นทันที
ความผันผวนของเวทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับูเาไฟที่อยู่ในระหว่างเตรียมที่จะปะทุออกมาจากผืนดินแรงสั่นะเืกระจายออกจากความว่างเปล่า แม้แต่นักรบทั่วไปยังรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเวทมนตร์ที่รุนแรงนี้เพียงแค่ลมหายใจแ่เบาที่สามารถถล่ม์ทะลายปฐีถูกปลดปล่อยออกมาโดยบังเอิญ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับวันสิ้นโลกซึ่งทำให้ความไม่สบายใจก่อตัวขึ้นในใจของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
"เกิดอะไรขึ้น?" หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกสัญชาตญาณของผู้เชี่ยวชาญเริ่มทำให้เขารู้สึกไม่ดีแต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ความรู้สึกหวาดกลัวเกิดขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุทำให้เขารู้ว่าต้องมีสิ่งที่ไม่ดีมากเกิดขึ้นแน่ๆดูเหมือนว่าแม้จะถามตัวเองหรือคนอื่นๆก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้เลย
ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างออกมาราว150 เมตรแต่ความรุนแรงของเวทที่แผ่ออกมาก็บอกถึงพลังทำลายล้างได้เป็อย่างดี ซึ่งอยู่เหนือความเข้าใจของทุกคนโดยเฉพาะสีหน้าของลมกระจ่างจันทร์แรมถึงกับซีดเผือดก่อนจะพูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า "หัวหน้าฉิน ที่เพิ่งใช้งานออกไปนั่นคืออะไร?"
"ดูเหมือนจะเป็ม้วนคัมภีร์เวท"น้องชายมีดที่ยืนอยู่ข้างฉินโจ้ว เมื่อเห็นการกระทำของฉินโจ้วจึงพูดขึ้นมาก่อนในฐานะผู้ใช้มีด เป็เื่ปกติที่เขาจะต้องหนักแน่นดุจหินผาแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นแล้วเขาเองก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นี่เป็พลังที่มนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้เลย
"ลักษณะของพลังแบบนี้น่าจะเป็เวทระดับสูงใช่ไหม?" ลมกระจ่างจันทร์แรมเองก็ไม่แน่ใจนัก
"มันเป็เวทระดับสูงสุดเปลวเพลิงแห่งนรกโลกันตร์" หลี่เฟย แมงมุมสาวยืนยันในฐานะผู้ใช้เวทแล้วเธอย่อมรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์มากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
คล้ายกับว่า้าจะพิสูจน์คำพูดของหลี่เฟยก่อนจะเกิดประกายสีดำะเิขึ้นในความว่างเปล่า
ถูกต้องแล้ว มันคือเปลวไฟที่มีสีดำ ดูมืดมิดดูเหมือนจะไม่มีความร้อนอยู่เลย
สีที่ดำจนดูคล้ายกับน้ำหมึกและอุณหภูมิที่เย็นราวกับน้ำแข็ง นี่คือเปลวไฟแห่งนรกโลกันตร์ในตำนาน ซึ่งไม่มีใครเคยได้เห็นมาก่อน
ปัง!
ราวกับลูกไฟได้ะเิออกจนปกคลุมไปทั่วทุกตารางนิ้วแต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรแม้แต่น้อยจนน่าประหลาด แต่ในสายตาของทุกคนนั้นเหมือนกับูเากำลังแตกออกเป็เสี่ยงๆจนทำให้เกิดแรงอัดกระแทกที่ดังสนั่น ในเวลานั้นทุกคนต่างตกตะลึงจนแทบจะหยุดหายใจ
ไม่มีใครที่จะสามารถอธิบายความเร็วของเปลวไฟที่ขยายออกไปได้เพียงแค่กะพริบตา ภาพที่เห็นก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิงสุดลูกหูลูกตาเสียแล้วมีเพียงเปลวเพลิงสีดำเท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากนี้เหมือนกับถูกปกคลุมด้วยภาพลวงตาแห่งความมืดมนภายในรัศมีหนึ่งพันกิโลเมตรนี้ได้กลายเป็โลกที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงสีดำมืดมิดราวกับอยู่ในนรกก็ไม่ปาน
สมาชิกของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตได้หายตัวไปอย่างเงียบเชียบใช่แล้ว... หายไปเฉยๆ เปลวไฟแห่งนรกโลกันตร์นั้นมีความรุนแรงและมีอุณหภูมิที่สูงมากสามารถดูดกลืนพลังชีวิตจนสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
พลังต่อสู้ที่รุนแรงถูกปล่อยออกมาดาบแสงจำนวนมากก็ถูกส่งออกไป เวทป้องกันหลากหลายสีสันถูกเรียกใช้ออกมาไม่ต่างจากดอกไม้ไฟที่ะเิขึ้นกลางควันสีดำซึ่งไม่มีใครในกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตที่จะสามารถต้านทานได้มันเปล่าประโยชน์ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆ ก็ตามพวกเขาทั้งหมดถูกเปลวไฟแห่งนรกโลกันตร์กลืนลงไป มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่นั่นก็คือความตาย ที่ไม่มีร่องรอยใดๆ หลงเหลือเอาไว้แม้แต่ลมหายใจ
เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่ยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติผู้คนก็ต่างรู้สึกหวาดกลัว ในใจคิดเพียงว่าจะต่อต้านก็คงทำไม่ได้ พวกเขาจึงไม่ได้นึกถึงเื่การหลบหนีเลยและความเร็วของพวกเขาก็คงไม่เร็วไปกว่าเปลวไฟเป็แน่
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น หลังจากนั้นจู่ๆ ก็เงียบหายไปอย่างกะทันหัน
ทั่วโลกถึงกับเงียบสงัด ภายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดหลงเหลืออยู่ทิ้งไว้เพียงพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ ที่ปรากฏเพียงอุปกรณ์ที่หล่นอยู่ที่พื้น ณที่ตำแหน่งเ้าของเดิมได้ตายลง
โชคยังดีที่ ''เปลวไฟแห่งนรกโลกันตร์'' นั้นมีผลเฉพาะกับสิ่งมีชีวิตไม่อย่างนั้นแล้วคงจะไม่มีอุปกรณ์ชิ้นไหนหลงเหลือให้เห็นเป็แน่คงจะเป็เื่ที่น่าเสียดายไม่ใช่น้อย
พวกเขาทั้งหมดล้วนถูกสังหารจนสิ้นยกเว้นคนราวร้อยกว่าคนที่อยู่ตามข้างทางกองกำลังจำนวนสี่หมื่นนายถูกทำลายจนสิ้นซาก
ั้แ่เริ่มต้นจนจบ ใช้เวลาไปไม่ถึงนาที
"นี่มัน... นี่มันอะไรกัน จบแล้วหรือ?"ลมกระจ่างจันทร์แรมถึงกับพูดติดอ่าง
ฉินโจ้วดึงไม้เท้ากลับ ก่อนจะพยักหน้าและพูดขึ้นว่า"เคลียร์สนามรบ ลมกระจ่างจันทร์แรมลูกธนูทั้งหมดเป็ของนาย"
ลมกระจ่างจันทร์แรมนิ่งอึ้งไปชั่วครู่จากนั้นก็กลายเป็ความรู้สึกยินดี นี่ราวกับเสียง์ก็ไม่ปานเขาจึงควบม้าพุ่งตรงไปยังสนามรบทันที ก่อนที่จะะโขึ้นว่า "หัวหน้าผมนับถือคุณมากเลย เปลวไฟแห่งนรกโลกันตร์ ฉันรักนายยย... เด็กๆ ทั้งหลายเรามีงานต้องทำกันแล้ว"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้