เสียงฝีเท้าหนักแน่นของม้าศึก และรองเท้าหนังที่กระทบพื้นดินดังสะท้อนทั่วทางเดินลูกรังของหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ชาวบ้านจำนวนหนึ่งหยุดมือจากงานเกษตร เหลือบตามองไปทางต้นเสียง ก่อนจะรีบก้มหัวหลบตา
กลุ่มคนกลุ่มนั้นแต่งกายสะดุดตา เสื้อคลุมยาว ปักตราสัญลักษณ์ของพันธมิตรมนุษย์เพื่อสันติแห่งมนุษยชาติ อาวุธของพวกเขามีหลากหลาย ทั้งดาบใหญ่ หอก คันธนู ไปจนถึงอาวุธเวทที่เปล่งแสงจางๆ ราวกับคำเตือนเงียบๆ ว่า “อย่ายุ่งกับพวกเขา”
และที่อยู่แถวหน้า คือชายหนุ่มผู้มีผมสีทอง ร่างกายสูงใหญ่ ผิวเข้มจากการเดินทางกลางแดดตลอดหลายปี ใบหน้าของเขาหล่อเหลาเกินกว่าจะเป็ทหารธรรมดา มีแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้แม้แต่พวกผู้ชายก็ยังต้องลอบกลืนน้ำลายเมื่อสบตาเขาโดยบังเอิญ
เขาชื่อ “ริค”
ผู้กล้าแห่งแสง
แต่ชื่อเสียงของเขาไม่ได้มาเพียงเพราะการฆ่าปิศาจ... มันยังมาพร้อมกับข่าวลืออีกนับไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเป็ชัยชนะเหนือแม่ทัพปีศาจที่ชายแดน การล้มวายร้ายมนุษย์ที่ตั้งตนเป็เ้าเหนือเมืองหลวง หรือแม้แต่... การ "รวบรวมทรัพยากรหญิงสาว" ให้พันธมิตรโดยอ้างว่าเพื่อ “ปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์”
แน่นอน มันเป็แค่คำพูดที่สวยหรู
แต่คนที่อยู่ในวงในของโลกใบนี้ต่างรู้ดี ผู้กล้าหลายคน ไม่ได้แค่สู้กับปีศาจ
บางคน "บริโภค" มากกว่านั้น
สิ่งที่พวกเขา้าปลดปล่อยคงจะไม่ใช่แค่พลังศักดิ์สิทธิ์
...
“หมู่บ้านนี้เหมาะ” ริคกล่าวเสียงเบา แต่น้ำเสียงนั้นเด็ดขาดจนคนข้างๆ ขนลุก
หนึ่งในชายที่เดินเคียงข้างเขา นิค น้องชายของเขา แถมยังเป็ผู้กล้าแห่งสายฟ้าอีกด้วย พยักหน้าช้าๆ
“มีแหล่งน้ำ อาหาร และทรัพยากรมนุษย์ในจำนวนเหมาะสม... ทั้งยังห่างจากอิทธิพลของเมืองหลวงพอสมควร”
คำว่า “ทรัพยากรมนุษย์” ที่เขาใช้ ไม่ได้หมายถึงแรงงานอย่างเดียว แต่หมายถึงหญิงสาววัยเจริญพันธุ์ อีกด้วย
...
หลังจากกางเต็นท์พักแรมและจัดเวรยาม กลุ่มของริคก็เริ่มทำในสิ่งที่พวกเขาเคยทำมาหลายหมู่บ้านแล้ว ขอความร่วมมือ, เรียกร้องเสบียง, เสนอสัญญาคุ้มครองที่แท้จริงแล้วคล้ายการบีบบังคับ
และ “ตรวจสอบประชากรหญิงสาวที่มีศักยภาพในการช่วยพวกเขาทำการปลดปล่อย และ ระบาย.........”
มันฟังดูดี ฟังดูเหมือนการทำเพื่อโลก แต่ในหมู่บ้านที่อ่อนแอ ไม่มีอำนาจต่อรอง ผู้คนเริ่มรู้สึกว่า “ผู้กล้า” กลุ่มนี้ ก็คืออีกชนชั้นที่มาแย่งทุกอย่างจากพวกเขา โดยไม่ต้องใช้กำลัง
...
"ขอให้รวบรวมข้อมูลของคนในหมู่บ้านมาให้ครบห้ามขาดโดยด่วนที่สุด"
ประกาศนั้นดังลั่นผ่านเวทมนตร์ขยายเสียงอันทรงพลัง
ไม่ใช่คำขอ
ไม่ใช่การขอร้อง
มันคือคำสั่ง
...
ภายในบ้านไม้เงียบสงบของชายผู้เป็นักผจญภัยระดับ A
ฟีน่ายืนหน้าต่าง เธอสวมชุดเรียบง่าย ถักเปียข้างเดียวตามแบบที่เธอชอบ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเมื่อมองเห็นกลุ่มของผู้กล้าผ่านรั้วไม้
พ่อเลี้ยง ไม่สิสามีของเธอ ชายที่เธอรักและไว้วางใจมาตลอดชีวิต นั่งลับดาบอย่างสงบนิ่ง เสียงหินขัดกระทบดาบดังเป็จังหวะ
เขาไม่ได้พูดอะไรเลย
ฟีน่าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว เธอรู้ดีว่ากลุ่มของริคไม่ได้มาที่นี่เพราะเหตุผลสวยหรูอะไรนัก
เพราะมีข่าวลือว่าหมู่บ้านก่อนหน้าที่พวกเขาไปเยือน... หญิงสาววัยเดียวกับเธอหายไปหลายคนคน และไม่มีใครได้พบพวกเธออีกเลย
...
“พ่อ... สามี”
เสียงเธอสั่นเล็กน้อย
“ฉันจะไม่ให้ใครเอาตัวลูก และ ภรรยาของฉันไป” ชายคนนั้นตอบโดยไม่หันกลับมา ดวงตายังจับจ้องใบมีดในมือตัวเองที่ค่อยๆ เงาวับขึ้นมาเรื่อยๆ
...
ขณะเดียวกันที่ใจกลางค่ายของกลุ่มผู้กล้า
ริคนั่งไขว่ห้างอยู่ในเต็นท์ใหญ่ เบื้องหน้ากำลังมีข้อมูลของคนในหมู่บ้านนี้ที่เพิ่งรวบรวมมา
สายตาของเขาเลื่อนไปยังข้อมูลและรูปภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง
เขาหรี่ตา ยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ
“เด็กคนนี้... ฟีน่าใช่ไหม”
เขาถาม นิค และพวกลูกน้อง
“ใช่ เธอน่าสนใจมากทีเดียว ผมให้พี่เปิดก่อนก็แล้วกัน แต่คราวหลังเวลาผมเจอคนที่ถูกใจผมขอเปิดก่อนบ้างนะพี่”
เมื่อ ริค ได้ยินที่ นิค พูด
“เยี่ยม...”
ริคยิ้ม เหมือนนักล่าที่พึ่งพบเหยื่อหายาก
“งั้นที่เหลือ พวกแกเอาไปเลือกซะ ”
เมื่อ ริค เลือกเป้าหมายได้แล้ว เขาก็ต้องมีการแบ่งปันให้กับน้องชายและลูกน้องของเขา เขาส่งต่อข้อมูลหญิงสาวที่เหลือไปให้ น้องชายและพวกลูกน้อง
เพื่อให้พวกเขาเลือกว่าในคืนนี้ หญิงสาวคนไหนจะเป็เป้าหมายของพวกเขาในการตรวจสอบตอนกลางคืนกันแน่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้