"ผม เซี่ยเจียหัว สารวัตราุโจากหน่วย OCTB นี่เป็คดีแก๊งมาเฟียต่อสู้กัน ซึ่งเราสืบสวนมาเป็เวลานานแล้ว ต่อจากนี้หน่วย OCTB จะเข้ามาดูแลคดีนี้ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ"
หลังจากพูดจบ เซี่ยเจียหัวก็หันไปบอกลูกน้องของเขาว่า "รถเบนซ์ที่จอดอยู่หน้าประตูเป็ของชย่าลิ่วอี รีบดับไฟแล้วค้นหาอย่างละเอียด"
“ครับ”
"ผู้ต้องหาที่พวกคุณจับกุมอยู่ที่ไหน?" เขาถามเ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบก่อนหน้านี้
"ใส่กุญแจมือไว้ในรถหมดแล้วครับ"
“พาผมไปดูหน่อย”
เซี่ยเจียหัวพาลูกน้องเข้าไปในห้องขังของรถตำรวจ พวกอันธพาลที่ถูกจับกุมทั้งหมดมองเขาด้วยสีหน้าหม่นหมอง เขาชี้ไปที่อาเปียวที่หมอบอยู่ในมุม แล้วพูดกับลูกน้อง "ใส่กุญแจมือแยกเขาออกไปต่างหาก"
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เซี่ยเจียหัวก็ออกจากพื้นที่ที่ถูกปิดกั้นและขึ้นรถ แต่มีคนมาเคาะกระจกหน้าต่างรถของเขา
เขาเลื่อนกระจกลง พบว่าเป็ชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี มีคิ้วเรียวและตาชั้นเดียว รอยยิ้มของเขาดูเ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก "สวัสดีครับสารวัตรเซี่ย ผมคือลู่กวงิผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตครับ"
"มีอะไรเหรอครับ?"
"สถานการณ์ที่นี่ดูวุ่นวายขนาดนี้ ผมคิดว่าคงเกิดเื่ใหญ่ขึ้นข้างในสินะครับ คุณเซี่ย?"
"คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตามระเบียบการรักษาความลับ ผมไม่มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ให้คุณ"
"ผมเข้าใจครับ ผมไม่ได้มาเพื่อขุดคุ้ยอะไร ผมมาเพื่อให้ความช่วยเหลือครับ สารวัตรใหญ่หัวที่อาศัยอยู่ที่นี่ มีข้อกล่าวหาว่ารับสินบนและสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งซานเหอ เราสืบสวนเื่นี้มานานแล้ว และมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของการรักษาความลับ ซึ่งอาจเป็ประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีนี้ นี่คือนามบัตรของผมครับ"
เซี่ยเจียหัวรับนามบัตรมา แล้วปิดกระจกหน้าต่างรถ "ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะติดต่อกลับไป"
แต่ลู่กวงิกลับเอื้อมมือไปจับกระจกหน้าต่างรถไว้ "แต่คุณเซี่ยครับ ข้อมูลของผมไม่ได้ให้ฟรีๆ นะครับ"
"คุณ้าอะไร?"
ลู่กวงิหันไปมองรอบๆ เพื่อดูว่าไม่มีคนอยู่ แล้วพูดเสียงเบา “สารวัตรใหญ่หัวไม่ใช่ระดับสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาการรับสินบน ยังมีบางคนเหนือกว่านั้นอยู่ หนึ่งในนั้น...มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคุณเซี่ยครับ”
สีหน้าของเซี่ยเจียหัวก็เปลี่ยนเป็สีดำ ทันใดนั้นส่งสายตาอาฆาตร
ลู่กวงิถอยหลังไปหนึ่งก้าวราวกับกลัวความหนาว ยิ้มแล้วหรี่ตาพูดว่า "คุณเซี่ย ผมเป็แค่ผู้ช่วยผู้อำนวยการที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ไม่จำเป็ต้องแต่งเื่โกหกเพื่อมาหาเื่คุณหรอก แค่นี้แหละ อย่าลืมนัดเวลาผมด้วยนะ อ้อ ผมชอบกินชานมกาแฟของร้านถานเต่า"
……
ชย่าลิ่วอีเดินลงเขาคนเดียวเข้าไปในเมือง เขาโยนปืนทิ้งลงทะเล ม้วนเสื้อสูทที่เปื้อนเืไว้ที่อก ชะลอฝีเท้าแล้วเดินไปที่ท่าเรือเทียนซิง[39] เพื่อเตรียมตัวให้กลมกลืนไปกับฝูงชน และนั่งเรือข้ามไปยังจิ่วหลง
แต่เมื่อเขาเดินไปถึงทางเข้าท่าเรือ เขาก็ถูกดึงไว้จากด้านหลัง!
ชย่าลิ่วอีหันหลังกลับโดยไม่รู้ตัวและใช้ศอกโจมตี แต่แขนที่โจมตีไปนั้นกลับถูกคนที่เข้ามาจับไว้ได้อย่างคล่องแคล่ว "พี่ลิ่วอี?"
ชย่าลิ่วอีหันกลับไปมอง เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของเหอชูซาน
เหอชูซานใส่แว่นกรอบทอง มีกระเป๋าเอกสารหนีบไว้ใต้รักแร้ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเลิกทำโอทีเขามองชย่าลิ่วอีขึ้นลงอย่างรวดเร็ว และเข้าใจสถานการณ์ในทันที รีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกอย่างเร่งรีบเพื่อนำมาห่อตัวชย่าลิ่วอีที่ส่งกลิ่นคาวเืไว้ และพูดด้วยเสียงต่ำ "ตอนนี้ข้ามทะเลไม่ได้ มีตำรวจนอกเครื่องแบบตรวจอยู่ทุกที่ ตามผมมา"
เขาพาชย่าลิ่วอีขึ้นรถรางโดยไม่พูดอะไร รถรางสั่นไหวไปจนถึงย่านซีหวน[40] พวกเขารีบลงจากรถและเดินไปที่อาคารเก่าแก่
ทางเดินมืดสนิท เหอชูซานจึงหยิบไฟฉายออกมาจากกระเป๋าเอกสาร จูงมือชย่าลิ่วอีขึ้นไป หยิบกุญแจไขประตูห้องเช่าชั้นสอง
เหอชูซานหันกลับไปปิดประตู ดึงผ้าม่านและเปิดไฟ ทั้งสองคนหายใจหอบเบาๆ ท่ามกลางแสงสว่างที่เต็มห้อง
"นายรู้ได้ยังไงว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบ?" ชย่าลิ่วอีถามในที่สุด
"ผมเห็นจากตึกบริษัท มีรถตำรวจจอดอยู่ทั่ว พวกเขาบอกว่ามีเื่เกิดขึ้นที่ป้านซาน[41] แม้แต่หน่วย SDU ก็ขึ้นไปด้วย"
จากนั้นเขาก็ถามต่อว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
ชย่าลิ่วอีมีสีหน้าเรียบเฉย "ไม่ใช่เื่ของนาย"
เหอชูซานรู้ว่าเขาไม่อยากพูดมาก จึงไม่ถามต่ออย่างฉลาด เขาเหลือบไปเห็นคราบเืที่ซึมออกมาจากเสื้อเชิ้ตของชย่าลิ่วอี "พี่าเ็หรือ?"
ชย่าลิ่วอีเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้รับาเ็ เขาจึงก้มหน้าลงด้วยความสงสัย เหอชูซานรีบคุกเข่าลงและแงะมือของเขาออก เปิดเสื้อเชิ้ตขึ้น
าแอยู่ที่ด้านข้างเอว เกิดจากการถูกกระจกบาดตอนที่ตกลงมาจากหน้าต่างชั้นสอง าแจริงๆ แล้วไม่ลึกมาก แต่เนื่องจากการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงหลังจากนั้น ทำให้เืและเนื้อดูน่ากลัว เหอชูซานใช้นิ้วแตะเบาๆ ไปรอบๆ าแ รู้สึกเย็นและเหนียวเหนอะหนะ และรู้สึกเจ็บแปร๊บที่หัวใจ
เขาข่มใจให้สงบกำหมัดแน่น พยุงชย่าลิ่วอีให้นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น "ผมจะลงไปซื้อยาข้างล่าง พี่พักผ่อนก่อนนะ"
"เฮ้" ชย่าลิ่วอีเรียกเขาไว้ "ระวังด้วย"
หัวใจของเหอชูซานเต้นแรงอีกครั้ง "คุณต่างหากที่ควรจะระวัง อย่าออกไปไหน ผมจะรีบกลับมา"
เขาคว้ากระเป๋าเอกสารและรีบออกไป ชย่าลิ่วอีถอดเสื้อผ้าออก นอนเปลือยท่อนบนบนโซฟา ใช้มือทั้งสองข้างเช็ดหน้าอย่างแรง และถอนหายใจยาวๆ
หลังจากการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและอันตราย เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบและเงียบเช่นนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่!
……
หลังจากนิ่งงันไปสักครู่ ชย่าลิ่วอีก็เริ่มสังเกตการจัดวางภายในห้อง บ้านหลังนี้มีลักษณะเป็ห้องหนึ่งนอนห้องนั่งเล่น โดยมีผนังที่ทาด้วยสีเทาอ่อนคุณภาพต่ำ พื้นที่ไม่เรียบ และเพดานที่มีเชื้อราขึ้น ดูเรียบง่ายแต่ไม่สะดวกสบาย ด้านหลังประตูมีการติดตั้งกระดาษตัดรูปตัวอักษร "ฝู" ซึ่งเป็ผลงานของอาป๊าเหออีกเช่นเคย ในห้องนั่งเล่นมีเพียงโซฟาตัวหนึ่งและโต๊ะชาตัวเล็ก ในบริเวณประตูมีรองเท้าหนังสองคู่และรองเท้าแตะหนึ่งคู่วางเรียงกันอย่างเป็ระเบียบ
เขาค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องนอนโดยใช้มือยันผนังไว้ ในห้องมีเตียงเดี่ยวอยู่หนึ่งเตียง มุมห้องมีตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กตั้งอยู่ ข้างเตียงมีโต๊ะวางอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยเอกสารและหนังสือมากมาย บนพื้นข้างหัวเตียงก็มีหนังสือวางซ้อนกันเป็ตั้งๆ อย่างเป็ระเบียบ
ไอ้หนอนหนังสือตัวนี้! วันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่กับหนังสือ!
เขาเปิดตู้เสื้อผ้าของเหอชูซานแล้วค้นๆ ดู หยิบกางเกงขายาวตัวหนึ่งออกมาแขวนไว้ที่แขน กำลังจะปิดประตูตู้ ก็สังเกตเห็นกล่องหนังสีดำวางอยู่ในมุมหนึ่ง
เขาเปิดกล่องออกมาดู พบว่าเป็กล้องรุ่นเก่าขนาดใหญ่ ที่ด้านล่างของตัวกล้องมีป้ายติดอยู่ว่า "XX ร้านรับฝากขาย" ดูเหมือนจะเป็ของมือสอง นอกจากนี้ยังมีฟิล์มม้วนเล็กๆ อีกหนึ่งม้วน ลูกพี่ใหญ่ชย่าไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เขาจึงดูแล้วก็เก็บกลับเข้าที่เดิม
เขาเดินไปพลางเตะรองเท้าและถุงเท้าที่เปื้อนโคลนและเืออกไป ถอดกางเกงแล้วโยนมันลงบนพื้นห้องนั่งเล่น จากนั้นก็สวมรองเท้าแตะของเหอชูซานแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
บ้านหลังนี้เก่ามาก ห้องน้ำมีแค่ท่อน้ำ ไม่มีแม้แต่ฝักบัว ชย่าลิ่วอีคว้าสายยางมาล้างตัวไปมาอย่างลวกๆ พลางเอื้อมหยิบสบู่มาถูผมไปด้วย ในใจก็คิดไปด้วยว่า: ไอ้หมอนี่มันประหยัดจะตาย แม้แต่บ้านเช่ายังเช่าหลังโทรมๆ แบบนี้ แล้วทำไมถึงยอมเสียเงินซื้อกล้องมือสองได้นะ?
ในขณะที่เขากำลังยุ่งอยู่กับการชำระล้างกลิ่นคาวเื เหอชูซานก็รีบลงไปชั้นล่าง ซื้อผ้าพันแผล น้ำยาฆ่าเชื้อ และยาสามัญประจำบ้านจากร้านขายยา แล้วรีบกลับมา เมื่อเข้ามาในบ้านก็เห็นกางเกงของลูกพี่ใหญ่ชย่าที่ขยุ้มเป็ก้อนอยู่
เขาวางของที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะกาแฟ แล้วรีบเดินไปที่ห้องน้ำ เคาะประตู "พี่ลิ่วอีครับ?"
"อืม?" ชย่าลิ่วอีตอบรับท่ามกลางเสียงน้ำไหล
"แผลโดนน้ำไม่ได้นะ ระวังหน่อยนะครับตอนอาบ"
ชย่าลิ่วอีไม่สนใจเขา มองขึ้นไปข้างบนด้วยตาที่หรี่เพียงเล็กน้อย แล้วล้างฟองออกไป—แค่แผลเล็กน้อยนิดเดียว!
เชิงอรรถ
[39] ท่าเรือเทียนซิง คือท่าเรือสตาร์เฟอร์รี่ ท่าเนือแหล่งหนึ่งในฮ่องกง
[40] ย่านซีหวน คือ ย่านไซอันของฮ่องกง ในภาษาจีนกลาง
[41] ป้านซาน คือ ย่าน Mid-Levels ของฮ่องกงในภาษาจีน
