ด้วยเพราะปราณฟ้าดินบริสุทธิ์เป็อย่างมากที่ไหลเวียนอยู่โดยรอบจึงส่งผลให้บรรยากาศภายในตำหนักเต็มไปด้วยกลิ่นอายของชีวิตที่ประสานเข้ากับความเงียบสงบได้อย่างลงตัว อีกทั้งเรือนพักเเต่ละหลังรวมไปถึงอาคารและสิ่งก่อสร้างในตำหนักนั้นต่างมีพื้นที่เป็ส่วนตัวกันอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีคนรับใช้ชายหญิงที่คอยดูเเลจัดการความสะอาดเรียบร้อย
หรือหากพูดไปตามความจริงแล้วกลุ่มคนเหล่านี้ต่างมีทั้งคนธรรมดาทั่วไปรวมไปถึงผู้ฝึกตนที่มีระดับพลังิญญาไม่สูงมากที่เต็มใจรับจ้างทำงานเหล่านี้จากทางสำนักศึกษา
นอกจากผลตอบเเทนที่ได้รับจะเป็เงินทองเบี้ยหวัดรายเดือนตามสมควรที่ตกลงเอาไว้ตามข้อสัญญาจ้างงาน หากมีทั้งความขยันและซื่อสัตย์ที่น่าชื่นชมบางคนนั้นถึงกับได้รับโชควาสนาเป็ผู้รับใช้ส่วนตัวของผู้าุโระดับต่าง ๆ ในสำนักเลยก็มีให้เห็นไม่น้อย
ผลตอบเเทนที่ได้รับนอกจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วบางคนถึงกับได้รับสิ่งตอบเเทนอื่นที่ไม่ว่าจะเป็โอสถ อาวุธวิเศษหรือแม้กระทั่งหากผู้นั้นมีพร์ที่เข้าตาเเล้วละก็ คนเ่าั้อาจจะได้รับการส่งเสริมในเื่ของการบ่มเพาะพลังิญญาให้เพิ่มสูงขึ้นหรือแม้กระทั่งอาจได้เป็คนสนิทข้างกายของผู้าุโเ่าั้ก็มีให้พบเห็นเช่นกัน
ความเป็จริงแล้วทางสำนักศึกษารวมไปถึงตำหนักทั้งสี่ที่อยู่ภายใต้สังกัดนั้นต่างมีกฎเกณฑ์ปฏิบัติเช่นเดียวกันที่ไม่ได้เข้มงวดมากมายสักเท่าไหร่นัก เเต่ถึงอย่างไรก็ตามสิทธิพิเศษของศิษย์สายในและศิษย์สายนอกก็มีความแตกต่างกันให้เห็นอยู่บ้าง เช่นศิษย์สายนอกจะไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในพื้นที่ของสำนักศึกษาฝ่ายในไม่ว่าจะกรณีใดใดทั้งสิ้น
เเต่ในทางกลับกันทางฝั่งของศิษย์สายในนั้น สามารถไปได้ทุกพื้นที่ในสำนักแห่งนี้เพียงเเต่ว่าจะต้องใช้ป้ายหยกประจำตัวในการยืนยันตัวตนและบันทึกไว้เป็ประวัติให้รับรู้
ทางด้านการส่งเสริมในด้านต่าง ๆ นั้นศิษย์สายในย่อมได้รับทรัพยากรบ่มเพาะที่ล้ำค่ามากกว่าศิษย์ฝ่ายนอกอย่างเห็นได้ชัด ขึ้นชื่อว่าศิษย์สายในเเล้วบุคคลเหล่านี้ต่างเป็ผู้ที่มากไปด้วยคุณสมบัติและพร์ที่ควรค่าแก่การส่งเสริมอย่างเเท้จริงเเต่ถึงอย่างไรนั้นไม่ว่าจะเป็โอสถ ตำรา เคล็ดวิชาระดับสูงหรือแม้กระทั่งอาวุธวิเศษหาก้าเข้าถึงทรัพยากรเหล่านี้ก็ยังคงต้องใช้แต้มคะแนนเเลกมาเช่นกัน แต้มคะเเนนเหล่านี้ก็สามารถโอนถ่ายให้กันได้
เห็นจากกลุ่มของเฉินหลานที่มักจะกลั่นแกล้งเหล่าบรรดาศิษย์ใหม่อีกทั้งยังบังคับให้อีกฝ่ายนั้นโอนคะเเนนให้กับตนและเหล่าสมุน การที่สำนักเองไม่ได้กวดขันในเื่นี้มากนัก อาจเป็ด้วยเพราะโลกเเห่งผู้ฝึกตนนั้นเส้นทางหาได้เรียบง่ายราวกับถูกปูพื้นด้วยดอกกุหลาบ ความเป็จริงเเล้วผู้ที่เเข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเอาตัวรอดได้
อาจฟังดูโหดร้ายและดูไม่ยุติธรรมไปบ้างเเต่อย่างไรก็มีข้อห้ามที่ชัดเจนในเื่นี้อย่างเช่นกันว่าการได้มาซึ่งแต้มคะเเนนนั้นเ้าของจะต้องเป็ฝ่ายโอนแต้มคะแนนด้วยตนเองผู้อื่นไม่สามารถขโมยและลักลอบถ่ายโอนได้ จะเห็นว่าด้วยข้อกำหนดกว้าง ๆ เช่นนี้จึงมีผู้ที่อาศัยช่องโหว่อยู่ไม่น้อยบางทีถึงขั้นท้าประลองกันในลานยุทธ์ ผู้ชนะย่อมได้แต้มคะแนนของผู้แพ้
เเต่ก็มีกฎเหล็กเช่นกันที่ว่าคู่ท้าประลองทั้งสองคนไม่สามารถลงมือทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิตหรืออาจส่งผลเสียต่อรากฐานบ่มเพาะ ไม่เช่นนั้นผู้กระทำต้องได้รับโทษคืนเช่นเดียวกันที่กระทำกับอีกฝ่ายเเบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
นอกจากนั้นเเล้วอาจจะถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดมากไปกว่านั้นแล้วสิ่งที่ศิษย์ทุกคนในสำนักศึกษาต้องรู้และยอมรับนั่นคือ หากศิษย์สายนอกคนใดที่ไม่อาจมีรากฐานบ่มเพาะพลังิญญาถึงระดับราชันิญญาขั้นสามัญได้ก่อนอายุครบสามสิบปี ศิษย์เหล่านี้จะไม่ได้เป็ศิษย์สายนอกของสำนักศึกษาต่อไปและจำเป็ต้องออกจากสำนักศึกษาเเห่งนี้
ด้วยเพราะว่าทรัพยากรบ่มเพาะของทางสำนักศึกษาแม้จะมีมากมายมหาศาลเเต่ก็ต้องกล่าวตามจริงว่าทางสำนักนั้นย่อมทุ่มเทให้กับผู้ที่มีพร์มากเพียงพอและไม่สามารถนำทรัพยากรเ่าั้มาส่งเสริมกับศิษย์ที่เกียจคร้านไม่ขยันฝึกตนได้ แม้จะฟังดูโหดร้ายเเต่นั่นก็เป็สิ่งที่สามารถคัดสรรสุดยอดผู้ฝึกตนที่ทางสำนักศึกษาได้ขึ้นมาบ่มเพาะเพื่อเป็กำลังกับทางสำนักในวันข้างหน้า
การที่จะผ่านการทดสอบเข้าเป็ศิษย์สายนอกของทางสำนักนับว่ายากเเล้ว เเต่การฝึกฝนและพัฒนาตนให้ผ่านเงื่อนไขดังกล่าวนี้นับได้ว่าเป็การลงแรงที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว
สำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็ศิษย์สายนอกเเล้วด้วยเพราะไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็ผู้ฝึกตนระดับราชันิญญาขั้นต้นได้ก็จริง เเต่ว่าพวกเขายังสามารถที่จะเลือกทำงานในด้านอื่นให้กับทางสำนักศึกษาเพื่อเเลกกับทรัพยากรบ่มเพาะก็ได้เช่นกัน
ด้วยเพราะปกติหากอยู่ในสถานะของศิษย์ในสำนักไม่ว่าจะเป็ศิษย์สายในหรือศิษย์สายนอกนั้น ปกติในทุก ๆ เดือนศิษย์ทุกคนต่างได้รับสวัสดิการทรัพยากรบ่มเพาะเหล่านี้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เเต่เมื่อตัวคนเหล่านี้ได้พ้นจากสถานะศิษย์สายนอกไปแล้ว
หากยัง้าทรัพยากรสำหรับการเลือนระดับฝึกตนเเล้วพวกเขาต่างสามารถรับทำงานในสำนัก ไม่ว่าจะเป็ทั้งงานในโรงครัว,งานออกล่าหาทรัพยากรบ่มเพาะกับหน่วยสินทรัพย์,งานเฝ้าดูเเลความปลอดภัยในส่วนต่าง ๆ งานในอาคารส่วนต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการดูเเลเรือนพักอาศัยเเต่ละหลัง จะได้รับมาซึ่งแต้มคะเเนนเช่นกันแล้วเมื่อสะสมได้มากพอก็สามารถเเลกเปลี่ยนกับโอสถหรือตำรารวมไปถึงอาวุธวิเศษที่้าได้
กลุ่มคนเหล่านี้ในวันข้างหน้าสามารถเลื่อนขั้นเป็ผู้ฝึกตนระดับราชันิญญาได้ พวกเขาต่างสามารถเลือกได้ว่าตนนั้นจะรับทำภารกิจเช่นเดิมหรือจะทำงานให้กับสำนักในส่วนอื่นในฐานะของผู้าุโฝ่ายนอกนั่นเอง อย่างไรก็ตามการที่พวกเขามีชื่อเรียกขานต่อท้ายด้วยสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ว่าจะเป็ชาวบ้านคนธรรมดาทั่วไปหรือแม้กระทั่งผู้ฝึกตนด้วยกันเอง ยังต้องไว้หน้าอยู่หลายส่วนด้วยเพราะบารมีจากทางสำนักที่คอยหนุนหลังอยู่นั่นเอง...
เช้าวันรุ่งขึ้นหนิงอ้ายตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นตัวเป็อย่างมาก เด็กหนุ่มบิดตัวไล่ความี้เีเล็กน้อย ก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วจึงลุกขึ้นจากเตียงเก็บข้าวของให้เรียบร้อยอย่างแ่เบาเพื่อไม่ให้รบกวนเ้าตัวน้อยที่กำลังขดตัวนอนอยู่ จากนั้นจึงตรงไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย โดยที่ห้องอาบน้ำด้านหลังนั้นมีน้ำอยู่เต็มถังด้วยเพราะเขาใช้ปราณธาตุน้ำของตนในการเติมเต็ม
เวลาได้ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม หนิงอ้าบในตอนนี้ได้สวมชุดของตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาพร้อมกับห้อยป้ายหยกประจำตัวของตน จากนั้นจึงใช้เวลาสำรวจตนเองอีกเล็กน้อยก่อนที่พยักหน้าชื่นชมตัวเองด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเด็กหนุ่มจึงทำการส่งจดหมายเวทย์ที่ตนได้เขียนใน่กลางคืนที่ผ่านมานั้นและทำการส่งกลับไปยังตระกูลหวังของตน
"ต้าเฮยเมื่อคืนเ้าััสิ่งใดได้หรือไม่?" หนิงอ้ายเอ่ยถามเ้าตัวน้อยที่ในตอนนี้ได้ชูคอออกจากผ้าห่มด้วยท่าทางสงสัยพร้อมกับเอียงคอไปมาดูน่ารักเป็อย่างมากในสายตาของเขา ก่อนที่เ้าตัวน้อยจะหยุดนิ่งไปสักครู่ก่อนที่ส่ายหัวไปมาราวกับว่าไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
เห็นท่าทางเช่นนั้นหนิงอ้ายรู้สึกเเปลกใจอยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะโดยปกตินั้นญาณััของต้าเฮยนับว่าลึกล้ำเฉียบคมมากกว่าเขาเป็อย่างมาก อาจด้วยเพราะอีกฝ่ายเป็สัตว์อสูรระดับสูงจึงมีความสามารถเช่นนี้ได้ เเต่การที่อีกฝ่ายไม่สามารถล่วงรู้ถึงการมาถึงท่านเฟยหลงนั้น เเสดงว่าอีกฝ่ายคงมีของวิเศษพิศดารที่กดข่มญาณััของสัตว์อสูรก็เป็ไปได้
"วันนี้ข้าไปอาคารส่วนกลาง ตั้งใจว่าจะไปหาตำราไว้สำหรับศึกษาเพิ่มเ้าจักไปด้วยกันหรือไม่?" หนิงอ้ายถามอีกฝ่ายไปอีกครั้ง คำตอบที่ต้าเฮยส่งกระเเสจิตมานั่นคืออีกฝ่ายจะขอไปสำรวจพื้นที่โดยรอบนี้ซึ่งเด็กหนุ่มได้กำชับอย่างเคร่งครัดเเล้วว่าห้ามไปเกินรัศมีของเรือนนี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับคำด้วยความเต็มใจ
สำหรับเจียวซิ่นนั้นเมื่อคืนนี้ที่หนิงอ้ายเข้าไปในห้วงมิติจิตของตนก็พบว่าอีกฝ่ายยังอยู่ใน่เลื่อนระดับ จากที่ก่อนหน้านี้ที่ได้ร่างไร้ิญญานักฆ่าระดับสูงพวกนั้น หนิงอ้ายคาดเดาเอาไว้ว่าหากอีกฝ่ายเลื่อนระดับสำเร็จคงระบุถึงขั้นเป็สัตว์อสูรมายาขั้นสูงอย่างแน่นอน...
หลังจากที่มื้อเช้านี้หนิงอ้ายเลือกที่จะทำโจ้กข้าวหมูสับใส่ไข่ลวกทานง่ายๆ รองท้อง หลังจากนั้นเด็กหนุ่มจึงเดินไปยังอาคารส่วนกลางของตำหนักในทันทีเพื่อศึกษาตำราเพิ่มเติม จริงอยู่ที่ว่าท่านอาจารย์เหวินหวู่ได้ให้เวลาเขาพักผ่อนมากถึงสามวันจึงจะเริ่มเรียนรู้ตำราต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เเต่ถึงอย่างไรเขานั้นก็คิดว่าถึงแม้หนิงอ้ายคนเก่าจะชื่นชอบศึกษาตำราเกี่ยวกับสมุนไพรหรือโอสถต่างๆ ก็จริง เเต่อย่างไรนั้นสิ่งเหล่านี้ยิ่งศึกษายิ่งเรียนรู้เพิ่มเติมก็ไม่ได้เสียหาย ดังนั้น่เวลาหลังจากนี้ตนจะต้องศึกษาหาความรู้ให้ได้มากที่สุด
ใช้เวลาเพียงไม่กี่เค่อเด็กหนุ่มก็มาถึงอาคารส่วนกลางของตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาเเล้วที่ด้านหน้านั้นมีผู้คุ้มกันระดับเทวะขั้นสองสองถึงสามคนที่ยืนประจำการอยู่ แน่นอนว่ายังมีอีกจำนวนมากที่แฝงเร้นคอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบอาคารสำคัญเเห่งนี้เเต่นั่นก็ไม่อาจลอดพ้นสายตาและการรับรู้ของวิหคสอดแนมที่ส่งภาพกลุ่มคนเหล่านี้ให้หนิงอ้ายได้รับรู้ตั้งเเต่ทีเเรก
"หนิงอ้ายคำนับผู้าุโขอรับ..." เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือประสานคำนับ
เนื่องจากว่าผู้าุโชราท่านนี้ที่นั่งประจำการอยู่ตรงโตะด้านหน้าซึ่งเนตรเเห่ง์ก็ส่งข้อมูลให้ตนได้รับรู้ว่าเป็ใคร เเต่ถึงอย่างไรนั้นหนิงอ้ายก็พอที่จะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็หนึ่งในสองผู้าุโที่คอยนั่งประจำการอยู่ในอาคารนี้
"เ้าชื่อว่าหนิงอ้ายกระมัง ได้เห็นตัวจริงเ้านับว่าตาเฒ่าเหวินหวู่นั้นสายตาแหลมคมเสียจริง...." ผู้าุโชราเอ่ยขึ้นหลังจากพินิจเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน
"ผู้าุโกล่าวชมเกินไปแล้ว ข้าน้อยเป็เพียงเด็กคนหนึ่งที่ท่านอาจารย์เอ็นดูก็เพียงเท่านั้นเองขอรับ''
"ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างถ่อมตัวเสียจริง คืนที่ผ่านมามีสิ่งใดขาดตกบกพร่องหรือไม่?"
"ไม่เลยขอรับศิษย์พี่ไป๋ได้เตรียมทุกอย่างให้ข้าเเล้ว"
"เ้าเรียกข้าว่าเหล่าจางก็ได้ ข้าเป็หนึ่งในผู้าุโที่ประจำการอยู่ในอาคารหลังนี้ร่วมกับตาเฒ่าซุนนั่นแหละ..." ชายชราหรือผู้าุโจางเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแนะนำตัวให้เด็กหนุ่มได้รู้จักอย่างเป็ทางการ
"ข้าหนิงอ้ายขอฝากตัวกับเหล่าจาง หากมีสิ่งใด้าไหว้วานใช้งานข้าท่านสามารถแจ้งได้ทุกเมื่อนะขอรับ..." หนิงอ้ายตอบกลับอีกฝ่ายไปก่อนที่จะเอ่ยขอตัวแยกจากไปตรงบันไดที่จะพาไปชั้นสองซึ่งก็คือชั้นตำราต่าง ๆ
"ตำหนักของเราขาดตำแหน่งผู้สืบทอดมาหลายปี หลังจากนี้คงต้องฝากความหวังไว้กับเ้าเเล้ว" ผู้าุโจางเอ่ยขึ้นตามหลังเด็กหนุ่มไป คล้ายกับว่ากำลังคุยกับตนเองเสียอย่างนั้น
ชั้นที่สองนี้ความจริงแล้วจะเเบ่งออกเป็หลายส่วนสำหรับระดับของตำราที่จะมีผู้คุ้มกันคอยตรวจตราอยู่อย่างเคร่งครัด เเต่ด้วยฐานะศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนักนั้นข้อจำกัดเหล่านี้จึงไม่สามารถหยุดกั้นอีกฝ่ายได้ ตำราต่าง ๆ ในชั้นที่สองนี้จะมีตั้งเเต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง จะปรากฎให้รับทราบเพียงชื่อตำราหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หาก้าศึกษาตำราเล่มใดต้องนำตำราเหล่านี้ยื่นให้ผู้าุโด้านล่างตรวจสอบและปลดผนึกตำราเล่มนั้นๆ เสียก่อน
ตำราทั่วไปจนถึงระดับกลางนั้นสามารถหยิบยืมศิษย์ในตำหนักทุกคนสามารถนำไปอ่านที่เรือนพักของตนได้แล้วจากนั้นค่อยนำมาคืนทีหลัง เเต่หากเป็ตำราระดับสูงเเล้วไม่ว่าจะเป็ศิษย์คนใดก็ตาม หลังจากที่ให้ผู้าุโทั้งสองคนทำการปลดผนึกเเล้ว พวกเขาจำเป็ต้องนั่งศึกษาอยู่ในอาคารส่วนกลางนี้เท่านั้น แนอนว่าตำราทุกเล่มล้วนไม่สามารถจดคัดลอกได้ เนื่องจากมีเวทย์กำกับอยู่นั่นเอง
พอก้าวข้ามผ่านชั้นตำราต่าง ๆ ที่อยู่ด้านนอกเเล้ว ก็จะพบกับส่วนถัดไปที่เต็มไปด้วยตำราต่าง ๆ และเคล็ดวิชาเฉพาะ เเบ่งออกเป็หมวดหมู่ที่ดูเป็ระเบียบเรียบร้อยเป็อย่างมาก บริเวณส่วนด้านในสุดนั้นก็ได้มีโตะไม้พร้อมเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านตำราเหล่านี้ ซึ่งเมื่อมองไปนั้นได้เห็นว่ามีบุรุษคนหนึ่งนั่งหันหลังอยู่ ไม่ทันให้หนิงอ้ายต้องตรวจสอบอะไรก็มีเสียงดังขึ้นของอีกฝ่าย
"ศิษย์น้องหนิงอ้ายช่างมีใจตรงกับข้ายิ่ง ดูท่าเเล้ว์คงลิขิตให้เราคู่กันเป็แน่..." เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่คุ้นหูไม่น้อยพร้อมกับถ้อยคำหยอกล้อที่หวานเลี่ยนนั่น
ต่อให้ไม่ต้องใช้เนตรเเห่ง์หรือวิหคสอดแนมหนิงอ้ายก็รับรู้ด้วยตนเองว่าอีกฝ่ายนั้นเป็ใคร…
"ดูท่าเเล้วข้าคงดวงตกเป็แน่ถึงได้พบเจอกันเเต่เช้าเช่นนี้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่ขอรับศิษย์พี่ตงหยาง??" หนิงอ้ายตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงรอดไรฟันอย่างอดกลั้น ทางฝั่งของชายหนุ่มผู้ที่ถูกทักว่าเป็สิ่งที่ทำให้ร่างบางนั้นดวงตกถึงกับหัวเราะชอบใจออกมาอย่างอดใจไม่ได้....
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้