หลังจากออกจากโรงพยาบาลไปแล้วหลินจื้อกั๋วและลูกน้องก็กลับไปยังรถฮัมเมอร์ ที่จอดอยู่ในลานจอดรถอย่างอหังการดูเหมือนรถฮัมเมอร์คันนี้จะถูกปรับแต่งมามันถูกเสริมล้อและกระจกกันะุมาเป็อย่างดี
เมื่อพวกเขาสตาร์ทรถเสียงของรถฮัมเมอร์ขนาดใหญ่ก็กระหึ่มออกมา พร้อมมุ่งตรงไปยังทางหลวง
แสงจันทร์สว่างไสวจนเห็นคนภายในรถนั่งอยู่ ตรงกลางเป็หลินจื้อกั๋ว ด้วยใบหน้าเหม่อลอยริ้วรอยบนใบหน้าดูเหมือนจะมากกว่าปกติอยู่มาก
ฮุยอีซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจพร้อมกล่าวปลอบใจว่า
"นายท่านไม่ต้องเศร้าใจไปหรอกครับคุณหนูเป็คนปากแข็งแต่ข้างในอ่อนโยน ที่จริงคุณหนูคิดกับนายท่านเป็คนในครอบครัว"
"ฉันรู้..."หลินจื้อกั๋วถอนหายใจกล่าวว่า "ถ้ารั่วซีไม่คิดว่าข้าเป็คนในครอบครัว เธอคงไม่โกรธฉันถึงเพียงนี้และคงไม่คิดที่จะแต่งงานกับหยางเฉินตามกฎของตระกูล"
"แล้วทำไมนายท่านถึงทำสีหน้าแบบนั้นล่ะครับ?"ฮุยอีกล่าวขึ้นด้วยความสับสน
หลินจื้อกั๋วฝืนยิ้มกล่าวว่า
"บางทีข้าอาจแก่แล้วจริงๆแม้ว่ารั่วซีจะทำเป็โกรธใส่ข้า แต่ข้าก็ยังอยากให้เธอเรียกข้าว่าปู่สักครั้งรวมทั้งใช้เวลาอยู่ร่วมกับเธอ ข้าปล่อยให้คุณย่าของเธอเสียใจ รวมทั้งแม่ของเธอด้วยดังนั้นข้าจึงอยากดูแลเธอเป็การไถ่โทษ แต่เธอกับไม่ให้โอกาสนั่นกับข้าเลยสักนิด..."
"แล้ว…นายน้อยคุนล่ะครับ? เขากลายเป็บ้าไปแล้ว..." ฮุยอีเอ่ยเสียงแ่เบา
"ฮึ่ม"หลินจื้อกั๋วสบถอย่างเ็า ประกายความโเี้แว็บขึ้นในตา "ข้าไม่เคยคิดว่าไอ้บัดซบนั่นเป็ลูกมานานแล้วถ้ามันไม่ได้เป็พ่อของรั่วซี ข้าคงฆ่ามันกับมือไปนานแล้ว!มันทำให้ตระกูลหลินต้องเสื่อมเสีย!"
ฮุยอีไม่พูดอะไรต่อเห็นได้ชัดว่าเ้านายผู้ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่รับใช้เป็เวลาครึ่งชีวิตของเขานั้นเอ็นดูในหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขามากแต่กับลูกชายที่นำพาเื่เสื่อมเสียมาสู่ตระกูลนั้นเขาจะไม่ให้อภัยมันอย่างเด็ดขาด!
หลินจื้อกั๋วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยถามว่า
"ฮุยอี หลังจากที่ได้ประมือกับหยางเฉิน เ้ามีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง ?"
ฮุยอีพูดขึ้นด้วยท่าทีเ็ป
"ไม่อาจหยั่งวัดได้…ผมไม่เคยเจอใครที่ทำให้รู้สึกหมดหนทางนี้เช่นนี้มาก่อน…ถ้าทุ่มสุดตัวอาจทำให้เขาลำบากขึ้นมาบ้างนิดหน่อยแต่การที่จะเอาชนะเขานั้น บางทีอาจต้องทุ่มกำลังทั้งแปดกลุ่มเข้าร่วม..."
หลินจื้อกั๋วหัวเราะพลางกล่าวว่า
"แม้ว่าทั้งแปดกลุ่มจะสามารถเอาชนะเขาได้จริงๆพวกเราก็ยังคงแพ้ เพราะเราไม่อาจเอาชนะตัวตนจริงๆ ของเขาได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังอื่นๆ ของเขาเลย..."
"นายท่านหมายความว่า..." ฮุยอีมีอาการใอย่างเห็นได้ชัด "เขาปกปิดพลังที่แท้จริงไว้?"
หลินจื้อกั๋วส่ายหัว
"ข้าก็ไม่รู้ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า ''สนธิสัญญาเทพเ้า''มันมักจะเป็แค่ตำนานแต่ถ้าความแข็งแรงของหยางเฉินเป็จริงอย่างที่เ้าว่า การดำรงอยู่ของ ''สนธิสัญญาเทพเ้า''แม้มันยากที่จะเชื่อแต่การที่คนคนเดียวสามารถต่อกรกับกลุ่มทั้งแปดได้นั้น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
"แล้ว…นั่นไม่ได้ทำให้เขากลายเป็สัตว์ประหลาดไปหรอกหรือครับ?!?"
"ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยพลังนั้นทั้งแปดกลุ่มอาจสามารถต่อกรกับเขาได้ แต่ถ้าหากเขาปลดผนึกพลังนั้นเมื่อไร ข้าคิดว่าคงต้องใช้ครึ่งหนึ่งของกองพลน้อยเหยียนหวงเข้าสู้ถึงจะมีโอกาสชนะ!?"
"เพราะพลังดั่งปีศาจนั่นมันจึงมีกฎเกณฑ์และข้อจำกัดในการใช้งาน" หลินจื้อกั๋วเผยรอยยิ้มโล่งใจพลางกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลไปถึงแม้เขาจะปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราเ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็ใคร?"
ฮุยอีตะลึงงันจากนั้นก็หัวเราะกล่าวว่า
"นายท่านฉลาดจริงๆ!เพราะเื่นี้นายท่านจึงมาที่นี่ในวันนี้เพื่อบอกเื่การหย่า แน่นอนว่าคุณหนูย่อมไม่ฟังคำของนายท่านและคงดื้อดึงทำตามกฎของตระกูลต่อไป... ในกรณีนี้แน่นอนว่าหยางเฉินย่อมเป็ลูกเขยตระกูลหลิน"
"ฮ่าๆๆ..." หลินจื้อกั๋วหัวเราะพลางกล่าว "บางเื่ถ้าบอกออกไปก็หมดสนุกกันพอดีอันที่จริงข้าแค่้าให้คนหนุ่มสาวสองคนอยู่ด้วยกันถึงแม้ว่าข้าจะแอบปกป้องรั่วซีอยู่ลับๆแต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาข้าไม่อาจทำอย่างนั้นได้สะดวกอีกต่อไปคนบางกลุ่มเริ่มที่จะรู้ความสัมพันธ์ของรั่วซีกับตระกูลของเราดังนั้นความปลอดภัยของเธอนั้นได้กลายเป็ปัญหาใหญ่แต่เมื่อหยางเฉินรับหน้าที่นั้นไปข้าก็ค่อยวางใจลงได้บ้างนอกจากนี้จะมีสักกี่คนที่สามารถจัดการกับพลูโตหนึ่งในพระเ้าลงได้?"
ฮุยอีพยักหน้าพลางกล่าวว่า
"แต่ปัญหาคือคุณหนูและหยางเฉินจะตระหนักถึงความตั้งใจของนายท่านหรือเปล่าน่ะสิครับ..."
"ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเองว่าจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน......"
…
ภายในห้องหยางเฉินและหลินรั่วซีจ้องมองหน้ากันเหมือนเวลาหยุดนิ่งในที่สุดก็หลินรั่วซีก็หันหน้าหนีด้วยความอาย เธอหันกลับไปมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า
"มองอะไรของนายรู้สึกดีหรือไงที่รู้ความลับของฉันแล้ว?"
หยางเฉินยิ้ม
"ก็นิดหน่อยน่ะ"
"ฮึ่ม ที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้เพราะความโกรธ ฉันจะไม่มีทางทำตามกฎโง่ๆ ของตระกูลหลินหรอก!เมื่อสัญญาสองปีของเราสิ้นสุดลงนายจะอยู่หรือจะไปก็แล้วแต่นาย!" หลินรั่วซีกล่าวอย่างเ็า
หยางเฉินมองหญิงสาวบนเตียงอย่างสนุกสนาน
"อยู่...หรือไป? ขึ้นอยู่กับผม?ผมนึกว่าผมต้องไปเสียอีก ผมสามารถเลือกที่จะอยู่ได้เหรอเนี่ย"
หลินรั่วซีรู้ตัวว่าพลาดไปการแสดงออกของเธอตอนนี้ดูลุกลี้ลุกลนเป็อย่างมาก
"อะไร…ฉันหมายถึง คือว่าไม่… ไม่ว่านายจะอยู่หรือจะไปมันก็ไม่มีผลกระทบต่อฉัน"
หยางเฉินไม่ได้ว่าอะไรเขาเพียงจ้องมองหลินรั่วซี และในที่สุดเธอก็ทนไม่ได้ จนต้องหันหน้าหนีพร้อมเหลือบมองหยางเฉินกล่าวว่า
"ฉันบอกให้หยุดมอง!ไม่ได้ยินหรือไง!?"
"ที่รักคุณสวยจริงๆ..."หยางเฉินจู่ๆ ก็พูดขึ้น
"..."
หลินรั่วซีหัวใจเต้นรัวเหมือนกลองจนเธอเกือบจะลืมหายใจ
สายตากระจ่างใสจ้องมองตรงไปที่หยางเฉินคล้ายมีความตื่นเต้นเล็กน้อย บางครั้งยังปรากฏลักยิ้มบนใบหน้าของเธอพร้อมใบหน้าที่แดง ไม่นานเธอก็ก้มหน้าลงอย่างเงียบเชียบ
ไม่นานนักในที่สุดหยางเฉินก็พูดขึ้น
"จริงๆ แล้วเหตุผลที่ผมมาที่นี่ก็เพราะอยากขอบคุณ คุณ"
หลินยังคงก้มหน้านิ่งเงียบ
"ขอบคุณที่ส่งทนายจางมาช่วยผมเช้านี้มิฉะนั้นผมคงโดนทรมานจนตายโดยพี่สาวไช่ของคุณ"
"อ่าใช่..."หลินรั่วซีเงยหน้าในที่สุดเผยให้เห็นใบหน้าแดงก่ำอย่างไม่เคยเป็มาก่อน "เอี๋ยนเอี๋ยน ไม่ใช่คนใจร้าย ตราบใดที่นายไม่ได้ทำอะไรผิด เธอก็จะไม่เป็อันตรายต่อนาย"
"คุณไม่อยากรู้เหรอว่าผมไปโรงพักทำไม?"หยางเฉินเอ่ยถาม
หลินรั่วซีส่ายหัว
"ฉันไม่สนใจรู้ไปก็มีแต่จะทำให้รู้สึกแย่" หลินรั่วซีค่อยๆลูบผมของเธอ ก่อนถอนหายใจพลางกล่าวว่า "หยางเฉินสัญญากับฉันอย่างหนึ่งได้มั้ย?"
"อะไรหรือ"หยางเฉินอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไรมันเป็เื่ยากที่จะเห็นเธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นนี้
"นายเป็ผู้เป็คนกับเขาบ้างได้ไหมทั้งใจทำงาน แทนการอยู่ไปวันๆ โดยไม่มีจุดมุ่งหมายฉันจะไม่ว่าอะไรเลยหากนายจะไปไหนหลังเลิกงาน หรือแม้แต่ไม่กลับบ้านฉันแค่หวังว่าคนในครอบครัวจะมีงานมีอาชีพที่มั่นคง และถ้านายทำได้ดีฉันยังสามารถให้ตำแหน่งซีอีโอกับนายได้… นายเป็คนมีความสามารถแต่แค่ไม่ยอมใช้มันอย่างจริงจังเท่านั้นเอง"
หยางเฉินนิ่งอึ้งไปในทันทีจากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นพร้อมกล่าวว่า
"คุณหลินรั่วซีครับคุณเป็เหมือนคู่สมรสคู่อื่นๆ แล้วใช่มั้ยครับ?"
"ฮะ?"หลินรั่วซีเลิกคิ้วสูง
"คุณเรียนรู้วิธีการที่จะดูแลครอบครัวเรียนรู้วิธีการจัดการกับผู้ชาย เรียนรู้ที่จะอดทน เรียนรู้การวางแผนให้สามีเรียนรู้ที่จะทุ่มเท และแม้กระทั่งเรียนรู้ที่การสนับสนุนสามี"หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ไม่ใช่แค่ภรรยาธรรมดาแต่เป็ภรรยาที่แสนดี"
หลินรั่วซีรู้สึกอายเล็กน้อยหลังจากที่ได้ฟังดังนั้นเธอเม้มริมฝีปากพลางกล่าวว่า
"ไม่ต้องมาไร้สาระบอกมาว่านายจะสัญญาหรือไม่?"
"ผมขอปฏิเสธ"เฉินหยางปฏิเสธตรงๆ "ผมไม่มีความทะเยอทะยานใดๆผมชอบที่จะอยู่ในแผนกประชาสัมพันธ์ และตอนนี้ก็ยังไม่อยากมีเื่ปวดหัวถ้าคุณจะให้ผมเป็ซีอีโอจริงๆ ล่ะก็ บางทีบริษัทมันอาจจะล่มจมภายในสามวัน ดังนั้น…แม้ว่าผมจะชอบภรรยาที่แสนดี แต่ผมก็ไม่้าฝืนใจตัวเองผมขอโทษด้วย"
"นาย..."เมื่อถูกปฏิเสธตรงๆ หลินรั่วซีก็โกรธเป็อย่างมาก "ก้อนกรวดยังไงก็ยังเป็กรวดไม่มีทางเป็เพชรไปได้!ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย!!"
"ชิ...เปลี่ยนเป็ไม่น่ารักอีกแล้ว" หยางเฉินยิ้มเขาไม่้าเถียงกับหลินรั่วซี เมื่อเขาเดินออกจากห้องไป เสียงนุ่มก็ดังขึ้น "อย่านอนดึกล่ะ"
หลินรั่วซีปาหมอนลอยออกไปหวังให้โดนหน้าหยางเฉินสักทีแต่น่าเสียดายที่มันกับกระทบกับประตูไม้...
...
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเขานำอาหารเช้ามาให้หญิงสาวในแผนกก่อนที่หยางเฉินจะเริ่มต้นอาชีพในฐานะเกมเมอร์ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
อยากรู้นักว่าใครโทรมาตอนเช้าหยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มันคือเสี่ยวจ้าวหนึ่งในลูกน้องของเฉียงเวยนั่นเอง ทำไมเสี่ยวจ้าวถึงโทรมากันนะ?
หยางเฉินกดรับขณะกำลังแทะขนมปังอยู่ "เสี่ยวจ้าวยังไม่ถึงเวลาเลย ทำไมโทรมาเร็วนัก"
เสี่ยวจ้าวลังเลชั่วครู่ก่อนกล่าวขึ้นว่า
"พี่หยาง…บิ๊กบอส… เธอ..."
"เฉียงเวย?เกิดอะไรขึ้นกับเธอ!?" หยางเฉินได้ยินความโศกเศร้าจากเสียงของเสี่ยวจ้าว อาจเกิดเื่อะไรขึ้นกับเฉียงเวย!?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้