เขาจะไปจัดการอย่างไร? เหลียนเซวียนทำหน้าไร้อารมณ์
ทั้งสองเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ข้างกำแพงวังสีแดงสด มีข้ารับใช้ติดตามอยู่ห่างๆ ด้านหลัง
"หย่งเจียอายุยี่สิบสองเข้าไปแล้ว จิตใจของสตรีคงรุ่มร้อนเป็ไฟ แต่หย่งเจียมีทิฐิสูง เื่นี้ให้เ้าออกหน้าย่อมจะดีกว่า"
เฟิงอ๋องวิตกเกี่ยวกับสองพี่น้องอายุไล่เลี่ยกันคู่นี้พอๆ กัน
"เื่นี้ข้ายุ่งไม่ได้" เหลียนเซวียนไม่อยากหาเื่ใส่ตัว กว่าเขาจะลากผูหยางชิงหลันกลับมาเมืองหลวงได้ก็เหนื่อยมากแล้ว
อีกอย่างเื่แบบนี้ต้องดูที่ความยินยอมของเ้าตัวเองด้วย คนนอกยุ่งมากไป หาใช่เื่ดี แตงที่ฝืนปลิดจากขั้วย่อมไม่หวาน
เฟิงอ๋องกลับยังคงหว่านล้อมต่อไป ผูหยางชิงหลันเป็ศิษย์พี่ของเหลียนเซวียน นอกจากเขาแล้ว คนอื่นๆ ยิ่งเกลี้ยกล่อมลำบาก
เหลียนเซวียนไม่รับปาก เดินไปตำหนักยงหนิงเงียบๆ
หลังจากไปถึงแล้ว องค์หญิงคังเต๋อกับท่านหญิงหย่งเจียมาถึงแล้ว กำลังสนทนาเป็เพื่อนอู่เซวียนตี้
แต่กลับไม่เห็นเงาของผูหยางชิงหลัน
"เหลียนปี้ เหลียนเซวียนพวกเ้ามาพอดี คุยเป็เพื่อนอาหญิงของพวกเ้าหน่อยสิ เราจะไปพักผ่อนสักครู่"
อู่เซวียนตี้แลดูอ่อนเพลีย สีพระพักตร์อมเขียวจางๆ พระองค์แช่น้ำสมุนไพรมาตลอดครึ่งเช้า ซ้ำยังกรอกโอสถขมปี๋ลงท้อง เหงื่อออกท่วมพระวรกาย ยามนี้จึงง่วงงุนอย่างมาก
"เสด็จพี่" องค์หญิงคังเต๋อลุกขึ้น สายตาเจือไปด้วยความวิตกกังวล
"เอาล่ะ เรารู้แล้ว เอาไว้จะเจียดเวลาถามให้" อู่เซวียนตี้เข้าใจความหมายของน้องสาว ก่อนยกพระหัตถ์ป้องปากหาวหวอดแล้วเดินออกไปจากตำหนักหลัก
"ท่านอา งานเลี้ยงวันเกิดหย่งเจียปีนี้จัดที่อุทยานอี้ซินหรือพ่ะย่ะค่ะ?" เฟิงอ๋องเหลือบมองจ้าวหย่งเจียอยู่เงียบๆ
วันนี้นางสวมอาภรณ์แบบชาววังสีเหลืองผลซิ่งปักลายกระเรียนเหินเมฆา ประดับบุปผาดอกใหญ่ งามแฉล้มแช่มช้อยอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่สีหน้าราบเรียบดุจผิวน้ำชวนให้คนอ่านอารมณ์ไม่ออก
"ใช่แล้ว เพราะปีก่อนเหลียนเซวียนเกิดเื่ งานเลี้ยงวันเกิดของหย่งเจียเลยไม่ได้จัด ปีนี้เหลียนเซวียนกลับมาแล้ว ย่อมต้องจัดงานวันเกิดแน่นอน" องค์หญิงใหญ่คังเต๋อเดินมาข้างกายเหลียนเซวียน ดวงหน้าสงบนิ่งดั่งคนที่ผ่านโลกมามาก เป็ความงดงามเฉกเช่นผู้ใหญ่จิตใจกว้างขวาง
"ข้าทำให้ทุกคนโศกเศร้ากันไปหมด" ทั้งนอกในวังหลวงแห่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้เหลียนเซวียนเอ่ยถ้อยเช่นนี้ได้
"เด็กคนนี้พูดอะไรเยี่ยงนั้น เ้าอยู่ข้างนอกคงได้รับทุกขเวทนามากมาย อาอยากรับเคราะห์แทนเองเสียด้วยซ้ำ คนชั่วเ่าั้สมควรถูก์ลงโทษ"
องค์หญิงคังเต๋อจับมือเหลียนเซวียนพลางเริ่มก่นด่าคนที่วางแผนทำร้ายเขาลับหลัง
องค์หญิงใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วในวังมาหลายสิบปี เห็นเล่ห์กลต่ำช้ามานักต่อนัก นางตระหนักได้นานแล้วว่าการหายตัวไปอย่างกะทันหันของเหลียนเซวียนเป็ฝีมือของใครบางคน
"ท่านแม่ ท่านจะไปตำหนักฮองเฮาอีกมิใช่หรือ" จ้าวหย่งเจียเดินเข้ามาคล้องแขนขององค์หญิงคังเต๋อ ยิ้มพลางกล่าวเตือน
มารดาอายุมากแล้ว จึงมักชอบพูดมาก บ่นให้คนในบ้านฟังก็แล้วไป แต่ถ้าออกมาบ่นคนนอกบ้านคงไม่งามนัก พี่เจ็ดยิ่งไม่ชอบให้ใครจู้จี้จุกจิกอยู่ด้วย
ด้วยเหตุนี้องค์หญิงใหญ่คังเต๋อถึงหยุดปาก แล้วออกไปตำหนักจิ่งหวาพร้อมเฟิงอ๋อง
ส่วนจ้าวหย่งเจียกับเหลียนเซวียนรั้งอยู่ตำหนักยงหนิง
"พี่เจ็ด วันที่ยี่สิบท่านแม่จะจัดงานเลี้ยงให้ข้าที่อุทยานอี้ซิน ท่านว่าข้าควรจะเชิญเสี่ยวหรั่นไปด้วยหรือไม่" จ้าวหย่งเจียยังไม่ได้ไปเยี่ยมจวนสกุลเซวีย นางต้องถามความคิดเห็นของพี่เจ็ดก่อน ถึงค่อยตัดสินใจว่าจะเชิญหรือไม่เชิญคน
"เ้าอยากเชิญก็เชิญสิ นางมาถึงเมืองหลวง ควรคบหาสมาคมกับสหายให้มากหน่อย" เหลียนเซวียนยกถ้วยชาลายครามรูปอักษรอายุยืนขึ้นดื่มอย่างเอ้อระเหย
จ้าวหย่งเจียเข้าใจความหมายของเขา "ได้ ข้าทราบแล้ว เดี๋ยว่บ่ายข้าจะส่งเทียบเชิญไปให้นาง"
"อื้ม นางเพิ่งเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้เป็ครั้งแรก เ้าก็ช่วยดูแลหน่อยแล้วกัน" เหลียนเซวียนกำชับด้วยสีหน้าไม่ค่อยเป็ธรรมชาติสักเท่าไร
จ้าวหย่งเจียอึ้งไปชั่วขณะ พี่เจ็ดซึ่งมักทำตัวห่างเหินเ็าอยู่เสมอถึงกับไหว้วานนางให้ช่วยดูแลสตรีคนหนึ่ง ที่แท้เขาก็มีด้านอ่อนโยนเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
ชั่วขณะนั้นดวงตาของนางก็ผุดแววริษยา
"ศิษย์พี่เล่า? ไม่อยู่หรอกหรือ" เหลียนเซวียนมองไปที่ตำหนักข้าง
"ข้ามาพร้อมกับท่านแม่ เขาจะอยู่ได้อย่างไร" ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่าเขาหลบหน้าไปแล้ว แววตาของจ้าวหย่งเจียหม่นแสงลง
"ไปตามเฟิงหยางมา" เหลียนเซวียนออกคำสั่งไปนอกตำหนัก
ไม่ช้าอวี๋เฟิงหยางหนุ่มน้อยรูปร่างผอมสูงก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
"อาจารย์อา"
"ท่านหญิงหย่งเจีย"
เขาทำความเคารพตามธรรมเนียม
"อาจารย์เ้าล่ะ?" เหลียนเซวียนเห็นท่าทางกระเซอะกระเซิงของพวกเขาสองศิษย์อาจารย์มาจนชินตา
"ไปสำนักหมอหลวงขอรับ บอกว่าจะไปหาสมุนไพรบางอย่าง" อวี๋เฟิงหยางเหลือบมองท่านหญิงหย่งเจียปราดหนึ่ง
เหลียนเซวียนเห็นกิริยาเล็กน้อยของเขาก็รู้ว่าคนผู้นั้นหนีออกไปแล้ว "ไปตามเขากลับมา บอกว่าข้ามีธุระกับเขา"
"ขอรับอาจารย์อา" อวี๋เฟิงหยางพยักหน้า ก่อนหมุนตัววิ่งออกไปทางสำนักหมอหลวง
"เขาไม่ยินดีพบข้า งั้นข้าไปก่อนดีกว่า" แม้จ้าวหย่งเจียจะเอ่ยเช่นนี้ แต่ขาพานไม่อยากขยับ
เหลียนเซวียนหัวเราะเบาๆ "เมื่อก่อนเ้าไม่เห็นเป็แบบนี้"
ในฐานะหลานสาวคนโปรดของอู่เซวียนตี้ สถานะของจ้าวหย่งเจียยังสูงกว่าองค์หญิงส่วนใหญ่ในวังเสียด้วยซ้ำ
เมื่อเวลาผ่านไป จ้าวหย่งเจียจึงมีอุปนิสัยหยิ่งผยอง และเอาแต่ใจเพราะถูกประคบประหงมเป็ธรรมดา
นางในตอนนั้น ไหนเลยจะมีความคิดเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอยู่ในหัว
พวงแก้มของจ้าวหย่งเจียแดงซ่าน ถลึงตาใส่เขา "ไม่เหมือนกันตรงไหน ตอนเด็กๆ มิรู้ความ ท่านจะจำแต่เื่เก่าๆ ไปทำไม"
มุมปากของเหลียนเซวียนโค้งขึ้นเล็กน้อย แล้วดื่มชาต่อ
พระอาการของอู่เซวียนตี้นับว่าคงที่ คืนนี้เขาสามารถออกจากวังได้แล้ว
ไม่ได้ออกจากวังมาสามวันติด เหลียนเซวียนหงุดหงิดจะแย่
ยามผูหยางชิงหลันกลับมา เห็นจ้าวหย่งเจียนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้จื่อถานแกะสลักเป็รูปดอกเหมยกุ้ย ก็หย่อนก้นนั่งข้างกายเหลียนเซวียน
"เรียกข้ากลับมาทำไม"
ผูหยางชิงหลันทำหน้าบูดบึ้ง เขาไม่ชอบบรรยากาศภายในวังหลวง แต่กลับต้องอยู่ในนี้ชั่วคราว ทุกวันนอกจากต้มยาถอนพิษให้อู่เซวียนตี้ ก็ไม่มีงานอะไรทำ
"วันที่ยี่สิบเป็วันเกิดหย่งเจีย หย่งเจียส่งเทียบเชิญมาให้เ้าแล้ว" เหลียนเซวียนชี้เทียบเชิญบนโต๊ะชงชา
"ข้าไม่ว่าง" ผูหยางชิงหลันปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
เขามีหน้าไปร่วมงานวันเกิดของนางเสียที่ไหน ไปยิ่งมิเป็ตบหน้านางหรอกหรือ
แม้จะคาดเดาคำตอบได้ล่วงหน้า แต่พอได้ยินคำปฏิเสธจากเขา หัวใจของจ้าวหย่งเจียก็ยังปวดร้าวอยู่ดี
"อาการของเสด็จพ่อทรงตัวแล้ว เ้าออกไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่โต" เหลียนเซวียนดื่มชาพลายเอ่ยหนึ่งประโยค
"ไม่ไป ข้ายุ่ง" ผูหยางชิงหลันสั่นศีรษะ
ภายใต้แขนเสื้อหลวมกว้าง จ้าวหย่งเจียบิดมือจนแทบจะกลายเป็ขนมหมาฮวา
"วันนั้นเสี่ยวหรั่นกับเสี่ยวเหล่ยก็ไปทั้งคู่ เ้าในฐานะญาติผู้พี่ถ้าไม่ไปร่วมงาน ก็ดูจะไร้เหตุผล" เหลียนเซวียนมองเขา
ผูหยางชิงหลันอึ้งงัน เพื่อเื่นี้เองรึ?
แต่สถานะของเขาไม่เหมาะที่จะไปร่วมงานวันเกิดของหย่งเจียจริงๆ
หากเขาไป จะต้องมีเสียงซุบซิบนินทาในทางไม่ดีเป็แน่
เขาไม่อยากให้นางต้องลำบากใจ
