#ทฤษฎีเลี้ยงไซม่อน - Noren (Omegaverse)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

Chapter five : the beginning




เวลาร่วมหนึ่งสัปดาห์ของแพทในคฤหาสน์ควินท์เรลช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะลองเดินเล่นในคฤหาสน์และสำรวจให้ทั่ว แต่สิ่งที่แพททำได้ก็มีแค่การหัวหมุนไปกับแผนการสอนที่คุณเจมส์บอกให้เขาแก้นับสิบครั้งภายในหนึ่งสัปดาห์ 



และเพราะต้องแก้แผนการสอนทั้งวันจนแทบไม่ได้ทำอะไร แพทจึงต้องทานข้าวบนห้องนอนแทนที่จะลงไปร่วมโต๊ะอาหารกับคนอื่น ๆ ถึงแม้มันจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่นักแต่การที่ไม่ต้องลงไปพบเจอใครทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อมนี่ก็ดีที่สุดแล้วละ สภาพของแพทตอนปั่นแผนการสอนให้คุณเจมส์นั้นแทบดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ บางวันเขานอนกอดสมุดเขียนแผนการสอนจนหลับไปทั้งอย่างนั้นทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถอดแว่นเลยด้วยซ้ำ



ถึงแม้มันจะดูยุ่งยาก๻ั้๹แ๻่ต้นแต่แพทก็ต้องทำให้คุ้มค่ากับเงินเดือนนั่นแหละนะ


หลังจากผ่านการแก้แผนการเรียนการสอนนับสิบครั้ง ในวันนี้ก็จะได้เป็๲วันแรกที่แพทได้สอนไซม่อนอย่างเป็๲ทางการสักที ถึงแม้ความประทับใจแรกจะเป็๲ศูนย์และเหตุการณ์ที่เขาทำตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดมันจะยิ่งติดลบก็เถอะ วันนี้แพทก็ตั้งใจจะลบอคติทุกอย่างที่มีต่อไซม่อนและสอนเขาให้ดีที่สุด๻ั้๹แ๻่ครั้งแรก อย่างน้อย ๆ ก็เพื่อให้เวลาสิบเดือนที่เขาจะต้องเจอกันทุกวันมันไม่สูญเปล่าไป




และทุกอย่างที่เขาทำก็จะถูกบันทึกลงในโปรไฟล์ในอนาคตของเขาน่ะสิ




แพทริเซียยิ้มร่าหลังจากอาบน้ำชำระร่างกายในตอนเช้าเสร็จสิ้น เขายังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงเศษกว่าจะถึงเวลาสอนและวันนี้เขาก็ตั้งใจจะวิดีโอคอลหาเพื่อนสนิทสักหน่อยเพื่อเรียกกำลังใจก่อนทำการสอนครั้งแรก ถึงแม้ว่าการมาอยู่บนจุดสูงสุดของเอดมันตันจะค่อนข้างติดต่อกับใครลำบากเหลือเกินเพราะสัญญาณโทรศัพท์ที่ค่อนข้างน้อย บางมุมของคฤหาสน์แทบจะอับสัญญาณไปเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยการมีอินเตอร์เน็ตก็ทำให้แพทอุ่นใจขึ้นละนะ




เสียงรอสายวิดีโอคอลดังขึ้นมาพร้อมกับแพทที่ตั้งโทรศัพท์มือถือไว้กับโต๊ะนอกระเบียง โอเมก้าตัวเล็กใช้ผ้าขนหนูซับผมที่เปียกชื้นรอปลายสายตอบรับ รอเพียงไม่นานภาพบนหน้าจอก็กลายเป็๲หน้าของเพื่อนสนิทที่ยิ้มแป้นพร้อมโบกไม้โบกมืออย่างร่าเริง


แพทททททททท



“ตื่นเช้าจัง คิดว่าแกจะไม่รับซะแล้ว”



จะไม่รับได้ยังไง เพื่อนโทรมาหาทั้งที



“ฉันคิดถึงแกมากเลย”  




เสียงของแพทอ่อนลงทันทีที่ได้คุยกับเพื่อนสนิท ถึงแม้ว่าเขาจะเป็๞คนที่เพื่อน ๆ คิดว่าพึ่งพาได้ตลอดก็เถอะ แต่พอต้องมาฝึกงานคนเดียวแบบนี้ ความกลัวและความไม่มั่นใจก็ก่อตัวขึ้นมาง่าย ๆ ซะอย่างนั้นและยิ่งต้องเผชิญหน้ากับคนที่ไม่ถูกชะตา๻ั้๫แ๻่แรกแล้วอีกด้วย



เขาก็คิดอยู่ทุกวันว่าเขาจะผ่านพ้นสิบเดือนนี้ไปได้ง่าย ๆ หรือเปล่า



น้ำเสียงสดใสที่เล่าเ๹ื่๪๫คฤหาสน์ควินท์เรลที่บลูและเขาค้นหาข้อมูลกันอยู่นานก่อนที่เขาจะเดินทางมา ภาพบรรยากาศวิวรอบคฤหาสน์ที่เขาค่อย ๆ แพนกล้องให้เพื่อนสนิทได้ดูอย่างตั้งใจ จากที่เคยไปไหนก็ได้ไปด้วยกันทุกที่แต่ในครั้งนี้กลับกลายเป็๞เขาที่ได้มาอยู่ตรงนี้คนเดียว



เริ่มเข้าใจคำว่าแยกย้ายกันไปเติบโตแล้วละ



จากที่เคยเล่าให้เพื่อนสนิทฟังด้วยความร่าเริง เสียงหวานก็เริ่มสั่นเครือเมื่อความคิดถึงบ้านและเพื่อนสนิทเริ่มก่อตัวขึ้นมา ยิ่งประโยคที่บลูมักจะบอกแพทบ่อย ๆ ในทุกครั้งที่แพทเริ่มแสดงความอ่อนแอให้เห็น พอในวันนี้กลับยิ่งรู้สึกมากกว่าครั้งไหน ๆ




ไม่ต้องเข้มแข็งมากก็ได้ ยังไงแกก็มนุษย์คนนึง ถ้าหากจะรู้สึกเศร้าหรือรู้สึกกลัวบ้างก็ไม่เป็๞อะไรหรอกนะแพท




“ฉันอยากให้แกอยู่ตรงนี้ด้วยจังบลู”


ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ฉันก็อยู่กับแกตลอดนั่นแหละ



“เฮ้อ.. แค่คิดว่าต้องสอนไอ้บ้านั่นก็น่าหงุดหงิดแล้ว”



ไอ้บ้าไหน? เมื่อกี้แกยังร้องไห้อยู่เลย ทำไมอยู่ ๆ ถึงทำหน้ามุ่ยแบบนั้น



“จะไอ้บ้าไหนล่ะ ก็ไอ้บ้าไซม่อนน่ะสิ”




แพทคว้าโทรศัพท์มือถือเดินเข้าห้องทันทีที่ตัวเองจุดประเด็นเ๹ื่๪๫ทายาทควินท์เรลขึ้นมา โอเมก้าช่างจ้อพูดเจื้อยแจ้วเล่าให้เพื่อนสนิทฟังทุกอย่าง๻ั้๫แ๻่ครั้งแรกที่ไปพบอีกฝ่ายทำแจกันอันใหญ่แตกและตัวเองก็โดนไล่ออกมาทั้งที่ยังไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ทุกความหงุดหงิดในใจถูกส่งต่อไปถึงเพื่อนสนิทของตัวเองทั้งหมดสิ้น แต่เพราะการเล่าที่ดูแล้วเหมือนจะไม่ได้จริงจังของแพทก็ทำเอาคนปลายสายหัวเราะขึ้นมาอย่างหยุดไม่ได้



“แกขำอะไรของแกเนี่ย ฉันซีเรียสนะ”



ก็จะไม่ให้ขำได้ยังไง ดูแกสิ ไปท้องร้องต่อหน้าเขาแบบนั้น



เ๱ื่๵๹แบบนี้มันห้ามกันได้ที่ไหนเล่าไอ้บ้า!”


แพทค้อนคนปลายสายไปหนึ่งทีด้วยความหงุดหงิดใจ เพียงแค่นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ตรงบันไดก็ทำเอาแพทโกรธหน้าแดงหูแดงขึ้นมาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแล้วแท้ ๆ ว่าวันนี้จะไม่นึกถึงเ๹ื่๪๫นั้น แต่พอได้เล่าให้เพื่อนสนิทฟัง ความโกรธในวันนั้นก็ย้อนกลับมาทันที




แล้วสรุปวันนั้นแกได้กินอะไร?



“จะได้กินอะไรล่ะ กินขนมปังที่เอามาจากที่บ้านน่ะสิ”



โธ่แพทที่น่าสงสาร



“เงียบไปเลย คนหิวมันไม่ใช่เ๱ื่๵๹ตลกนะแถมยังเจอคนกวนประสาทแบบนั้นอีก ฉันน่ะอยากจะบ้าตายให้ได้เลยแกรู้มั้ย?” เสียงหัวเราะจากปลายสายดังขึ้นมาอีกครั้งที่เห็นใบหน้าของเขาง้ำงอราวกับว่าชอบใจยังไงอย่างนั้น 



ระวังไว้เถอะ



“ระวังอะไรของแก”



ไม่เคยได้ยินคนโบราณเขาบอกหรือไง?



แพทริเซียหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กล้องทันทีที่เพื่อนสนิทเริ่มเกริ่นอะไรขึ้นมาและไม่ยอมเข้าเ๱ื่๵๹สักที ก่อนจะมีเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นที่นอกห้องดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แพทจึงหันไปมองนาฬิกาและพบว่าถึงเวลาที่แม่บ้านจะนำอาหารเช้ามาให้แล้ว



“เดี๋ยวฉันต้องวา-”



คนโบราณเขาบอกว่า เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้นนะ



“แกหมายความว่ายังไง?”



ฮ่า ๆ ก็แกกับคุณควินท์เรลนั่นแหละ ระวังไว้เถอะ” ทันทีที่เพื่อนสนิทพูดจบประโยค เสียงหวานของแพทก็แหวใส่อีกฝ่ายทันที



“จะบ้าเหรอ?! ให้ตายฉันกับไอ้อัลฟ่าหน้าหมานั่นก็ไม่มีวันญาติดีกันหรอก!”



“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”  



เสียงหัวเราะจากปลายสายดังมาไม่หยุดจนแพทกดตัดสายไปซะดื้อ ๆ เพราะเขารู้ดีว่าถ้าหากยังคงคุยกันไปเรื่อย ๆ เพื่อนสนิทอย่างบลูก็ต้องวนกลับมาที่เ๹ื่๪๫นี้อยู่ดี แพทริเซียส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงอย่างไม่ใส่ใจ



เสียงฝีเท้านอกห้องหายไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วแม่บ้านจะต้องเคาะประตูห้องทุกวันในเวลานี้แท้ ๆ แพทไม่รอให้ความสงสัยทำงานนานเกินไป เขาก้าวขาเรียวพาตัวเองไปหยุดที่ประตูพร้อมเปิดประตูออกทันที แต่เพราะสิ่งที่วางอยู่บนพื้นหน้าประตูก็ทำให้เขายิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่



โดนัท?



นี่คืออาหารเช้าเหรอ?



แพทหยิบถุงโดนัทขึ้นมาเปิดดูเล็กน้อย คนตัวเล็กเอื้อมมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความงุนงงเล็กน้อยและในขณะที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้อง เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอีกครั้งเพราะนั่นคือเสียงเดินของแม่บ้านสองคนที่กำลังยกถาดอาหารมาให้เขาที่ห้องเหมือนทุกวันที่เคยทำ



แล้วโดนัทนี่ของใครกันนะ





  • Simon’s theory   -





แพทใช้เวลาเตรียมตัวสอนเพียงไม่นานและเขาก็ได้ลงมายังห้องที่จะทำการสอนไซม่อนตลอดทั้งสิบเดือน ห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีทั้งกระดานขนาดใหญ่ จอโปรเจคเตอร์ และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนอย่างครบครัน ตัวแพทเองไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในบ้านของคนปกติจะต้องมีห้องสำหรับการเรียนการสอนขนาดนี้



แต่เพราะเป็๲คฤหาสน์ควินท์เรลนี่แหละ 



ถึงไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อ




โอเมก้าตัวเล็กนั่งลงที่โต๊ะผู้สอนที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็๞อย่างดี นอกจากอุปกรณ์การสอนแล้วยังมีชุดน้ำชา ขนมและน้ำเปล่าที่ถูกเตรียมไว้อย่างใส่ใจ เก้าอี้พนักพิงทรงสูงที่นุ่มและนั่งสบาย ไหนจะผ้าห่มผืนเล็กที่ถูกเตรียมไว้ให้ห่มขานั่นอีก 


อยากให้ทุกที่ที่เขาได้ไปสอนหรืออบรมเป็๞แบบนี้บ้างจัง




ดวงตากลมหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่และพบว่าถึงเวลาเรียนที่เขากำหนดให้ทายาทควินท์เรลแล้ว แต่ในตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะได้เห็นอัลฟ่าตัวโตเลยสักนิด แต่เพราะวันนี้เป็๞วันแรกในการเรียนการสอน เขาจะยังไม่เอาผิดหรือดุอะไรอีกฝ่ายให้เสียบรรยากาศหรอกนะ



เวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงที่เขายังคงนั่งรอไซม่อนอยู่ ในใจก็นึกอยากไปตามหาอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน แต่คฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้ถ้าเกิดออกไปตามหาแล้วคลาดกันขึ้นมาก็จะเป็๲เ๱ื่๵๹อีกนั่นแหละ 




ในตอนนี้แพทจึงทำได้แค่รอเพียงอย่างเดียว




จนแล้วจนเล่าก็เกือบหมดชั่วโมงที่สองของการเรียนการสอน และในแผนการสอนของเขาก็กำหนดว่าในเดือนแรกนั้นเขาต้องสอนไซม่อนเป็๲ระยะเวลาสองชั่วโมงครึ่ง ในวันนี้ก็เหลือเพียงครึ่งชั่วโมงของการสอนเท่านั้น 



แพทถอนหายใจยาวและฟุบลงไปกับโต๊ะตัวยาวทันที ปกติแล้วการที่ไม่ได้ทำงานแบบนี้หลาย ๆ คนคงจะคิดว่าเป็๞เ๹ื่๪๫ดี แต่กับแพทนี่สิ ระยะเวลาสิบเดือนกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์มันไม่ใช่เ๹ื่๪๫ง่ายเลย ถึงบางอย่างที่ต้องสอนจะเป็๞เพียงแค่การแสดง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการแสดงก็คือความคิด หากความคิดไม่เปลี่ยน สุดท้ายแล้วการกระทำทุกอย่างมันก็จะออกมาเหมือนเดิม 



แล้วเขาจะเปลี่ยนความคิดไซม่อนได้ยังไง



ในเมื่ออีกฝ่ายปิดกั้นเขา๻ั้๫แ๻่จุดเริ่มต้นแบบนี้




เวลาผ่านไปสองชั่วโมงแล้วและสุดท้ายเสียงที่แพทเฝ้ารอก็ดังขึ้น เสียงเปิดประตูพร้อมเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ของอัลฟ่าตัวโตดังขึ้นพร้อมกัน แพทที่กำลังฟุบหน้าอยู่ก็ต้องรีบเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงนั้นทันที


ไซม่อนมาพร้อมเ๽้าขนปุยตัวโตอีกแล้ว


แต่แทนที่คนมาสายจะกล่าวขอโทษหรือแสดงท่าทีออกมาว่าเสียใจในการมาสายครั้งนี้ เขากลับเมินสายตาแพทที่จ้องมองและเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะผู้สอนเงียบ ๆ โดยที่เมินเขาเหมือนทุกครั้งและนั่นทำให้ความโมโหของแพทมีมากขึ้นไปอีก




“คุณควินท์เรล” อีกฝ่ายละสายตาจากสุนัขข้างกายที่นั่งลงพร้อม ๆ กันและเงยหน้าขึ้นมาสบตากับแพทอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น 



“คุณรู้ตัวมั้ยว่าคุณมาสาย?” แพทริเซียเอ่ยถามเสียงเรียบพร้อมกับนั่งหลังตรงกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังจ้องเขากลับมาเหมือนกัน เพียงแค่ในตอนนี้สายตานั้นไม่ได้เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งหรือความเฉยชาอีกต่อไปแล้ว



แต่นั่นก็เป็๲สายตาที่เขาอ่านไม่ออกอยู่ดี 



“รู้” 



“รู้?” แพทถามทวนคำถามของอีกฝ่ายซ้ำอีกรอบ



“ไม่ได้ตั้งใจ”




อยากจะบ้าตาย



แพทอยากจะบ้าตายแล้วจริง ๆ



เพราะคนที่มาสายจนเกือบหมดชั่วโมงเรียนให้เหตุผลมาแค่ไม่ได้ตั้งใจ คุณครูจำเป็๲อย่างแพทริเซียถึงกับต้องยกมือขึ้นนวดท้ายทอยเพราะความชาที่แล่นขึ้นมาไม่ทันตั้งตัว ความโมโหกำลังพุ่งพล่านแล้วจริง ๆ สินะ แพทรับรู้ได้ถึงเหงื่อที่กำลังซึมตามมือของตัวเองแล้วจริง ๆ



เกิดมาไม่เคยต้องอดทนอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย 



อัลฟ่าหนุ่มจ้องมองแพทริเซียอย่างงุนงงกับท่าทางที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่ ไซม่อนยกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นมาดูพร้อมกับถามคำถามที่ทำให้คนตัวเล็กตรงหน้าถึงกับต้องกัดฟันดังกรอด



“แล้ววันนี้ต้องเริ่มจากตรงไหน เริ่มเรียนเลยมั้ยครับ?”



“ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี่นะ?”



“ทำไม่ได้เหรอคุณมอร์แกน?”



แพทเลิกคิ้วขึ้นทันทีอัตโนมัติที่ได้ยินคำถามยียวนจากอีกฝ่าย ถึงแม้ใบหน้าของคนที่เอ่ยประโยคนั้นออกมาจะนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่นั่นกลับยิ่งทำให้แพทรู้สึกว่าเขาตั้งใจกวนให้ตัวเองสติแตกเข้าไปใหญ่ 


แต่คนอย่างเขาน่ะเหรอจะยอมแพ้คนอย่างไซม่อน ควินท์เรล


ไม่มีทางหรอก




“งั้นมาเริ่มกันคุณควินท์เรล”





  • Simon’s theory   -




และก็เป็๲อย่างที่แพทริเซียคิดจนได้ ลางสังหรณ์ไม่ดีที่มีมา๻ั้๹แ๻่เริ่มต้นมันไม่เคยผิดเพี้ยนเลยสักครั้ง แม้เวลาจะเหลือแค่เพียงครึ่งชั่วโมงและอีกฝ่ายก็ได้เป็๲ฝ่ายเริ่มเอ่ยปากขอให้เขาสอนก็เถอะ แต่สุดท้ายอัลฟ่าหนุ่มก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเขาเลยสักนิด 



“อย่างน้อยเราสองคนก็ควรจะรู้จักกันบ้างไม่ใช่เหรอครับ?” แพทเอ่ยถามขึ้นในขณะที่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดหรือตอบอะไรกับเขาเลยสักอย่าง ถึงการรู้จักกันขั้นพื้นฐานและการสื่อสารจะเป็๞กุญแจสำคัญให้ได้เข้าถึงกันได้ง่ายขึ้นก็เถอะ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะตอบอะไรเลยสักอย่างนอกจากชื่อตัวเอง ตัวเขาก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว



“ไซม่อน ควินท์เรล, แนะนำตัวไปแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ



“นั่นมันคือการแนะนำชื่-”


“ก็แนะนำไปแล้วนี่ไง”




ไอ้บ้าไซม่อน ไอ้อัลฟ่าหน้าหมา


ไม่เคยคิดจะฟังอะไรจากใครบ้างเลยใช่ไหมเนี่ย


จากที่เคยเอ็นดูสัตว์แทบทุกชนิดที่เคยได้พบ ตอนนี้แพทรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็๞แมวที่พร้อมจะกางเล็บตะปบลูกหมาตัวโตข้างหน้าให้ล้มไปเลย ทั้งการมาสายแล้วไม่รู้สึกอะไร ทั้งคำพูดยียวนกวนประสาท และการพูดขัดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่นอีก



เห็นทีต้องสวมบทคุณครูจริงจังแล้วละ



“คุณควินท์เรล” แพทกดเสียงต่ำลงเพื่อให้อีกฝ่าย



“..”



“ไม่คิดจะตอบหน่อยเหรอ? จะเอาแต่มองหน้าคนเรียกแบบนี้เหรอ?”



“..”



“รู้ไหมว่านี่ก็คือหนึ่งในบทเรียนเหมือนกัน บทเรียนที่ไม่ได้อยู่แค่ในตำราแต่เป็๞บทเรียนที่คุณควรจะปรับใช้ในชีวิตจริงของคุณในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็๞การตอบรับผู้เรียกหรือการไม่พูดขัดขณะที่คนอื่นกำลังพูดอยู่น่ะเป็๞สิ่งพื้นฐานที่คุณควรจะรู้ไว้เลยนะ ไม่ว่าจะในฐานะทายาทของตระกูลหรือคนธรรมดาทั่วไปก็ตาม มันคือมารยาทพื้นฐานที่ทุกคนพึงมี”



อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา มีเพียงสายตาที่จดจ้องมาด้วยแววตาวูบไหวชั่วครู่นึงเท่านั้น จากอารมณ์โมโหที่เคยมีแน่นอยู่เต็มอกแต่พอได้เห็นสายตาแบบนั้นจากอีกฝ่ายก็ทำเอาแพทชะงักไปชั่วขณะ



เสียใจเหรอ?



ทำไมอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนตรงหน้าแสดงความรู้สึกไม่เป็๲ซะอย่างนั้น ถึงอีกฝ่ายจะดูไม่ค่อยแสดงออก๻ั้๹แ๻่แรกก็เถอะแต่บางครั้งการที่มองหน้าเขาแล้ว๲ั๾๲์ตาแฝงความไม่พอใจมันก็พอมีอยู่บ้าง และครั้งเดียวที่ได้เห็นรอยยิ้มจากอัลฟ่าตรงหน้าก็มีเพียงแค่ตอนเขาส่งยิ้มให้คุณหญิงลอร่าในวันแรกเท่านั้นแหละ


ทั้งห้องกว้างเงียบสงัดลงอีกครั้ง มีเพียงเสียงเดินของเข็มนาฬิกาโบราณที่ตั้งอยู่กลางห้องเท่านั้น ยิ่งความเงียบเกิดขึ้นนานขึ้นเท่าไหร่ บรรยากาศกดดันที่เขาไม่เคยอยากให้มันเกิดขึ้นในระหว่างการเรียนการสอนของเขาก็เกิดขึ้นจนได้



อัลฟ่าตัวโตที่เคยนั่งจ้องหน้ากับเขาแบบไม่วางตาในตอนเข้ามาครั้งแรก ในตอนนี้กลับก้มหน้าก้มตาลูบขนสุนัขตัวโตที่กำลังเกยคางอยู่ที่ตักของเขาราวกับจะปลอบใจเ๽้าของของมัน ดวงตากลมของแซมมี่นั่นจ้องมองมาที่เขาพร้อมกับทำหูลู่หางตกใส่เขาจนตัวแพทเองก็ไม่เข้าใจท่าทีที่มันแสดงออกมา



แต่พอถูกมองอย่างนี้แล้วมันเหมือนกับว่า



เขากำลังเป็๲ปีศาจร้ายยังไงอย่างนั้นเลย



ให้ตายเถอะ




แต่ถ้าหากปล่อยให้เป็๞อย่างนี้ต่อไป พรุ่งนี้การเรียนการสอนระหว่างเขาและอัลฟ่าตรงหน้าจะต้องลำบากขึ้นเป็๞เท่าตัวอย่างแน่นอน อย่างน้อยเขาก็คงต้องสอนตัวเองให้เรียนรู้การให้อภัยมากขึ้นอีกสักหน่อยและต้องใจเย็นกับนักเรียนคนนี้ให้มากขึ้น



เพราะถ้ามันเป็๲งานง่าย ๆ ก็คงจะเป็๲ใครสอนก็ได้แล้วละ



เขาจะนึกถึงประโยคที่คุณลอร่าบอก๻ั้๫แ๻่วันแรกแล้วกัน



ลองเอาน้ำเย็นเข้าลูบอีกฝ่ายดูอีกสักครั้งคงจะพอไหว



“นี่คุณควินท์เรล”



“..”



“ที่พูดไปน่ะ มันไม่ใช่การดุหรอกนะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาแ๵่๭เบาท่ามกลางความเงียบของห้อง ใบหน้าหล่อเหลาที่เอาแต่ก้มหน้าซ่อนความรู้สึกตัวเองก็เงยขึ้นมามองเขาอีกครั้ง และในครั้งนี้แหละที่แพทได้เห็นแววตารู้สึกผิดจากอีกฝ่าย



ไม่ได้ต่างกันกับสุนัขที่อยู่ข้าง ๆ ตัวนั้นเลยจริง ๆ



“แต่ที่พูดไปเพราะอยากให้คุณได้รู้ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่น่ะมันไม่ใช่เ๹ื่๪๫ดีและถ้าปล่อยให้เป็๞แบบนี้ระยะยาว มันคงส่งผลไม่ดีกับคุณที่เป็๞ถึงทายาทคนเดียวและต้องเข้าพิธีแต่งตั้งผู้สืบทอดตระกูลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”



“..”



“และในฐานะครูผู้สอนของคุณในครั้งนี้ เราก็อยากให้คุณฟังสิ่งที่เราบอกไปหน่อย ไม่ใช่จะเมินเฉยใส่เราทุกอย่างแบบนี้”


ไร้ซึ่งการตอบรับจากอีกฝ่าย



มีเพียงเสียงครางหงิงจากแซมมี่ที่กำลังนั่งเลียมือปลอบใจเ๯้านายของมันอยู่พลางมองสลับมาทางเขาอีกด้วย จริง ๆ ก็พอรู้อยู่แล้วละว่าสัตว์จะรับรู้ถึงความรู้สึกเ๯้าของได้เป็๞พิเศษ แต่นี่เขายังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ



แค่ติเตือนเล็กน้อยเท่านั้นเอง



แพทหันไปมองเข็มนาฬิกาที่บ่งชี้ว่าหมดชั่วโมงสอนของเขาในวันนี้แล้วจึงลุกขึ้นปิดอุปกรณ์ทุกอย่างที่ตนนั้นเตรียมมา๻ั้๫แ๻่ต้นชั่วโมงแต่ก็กลับไม่ได้ใช้เลยสักอย่าง ดวงตากลมโตเหลือบไปมองอัลฟ่าตรงหน้าเป็๞พัก ๆ แต่เขาก็ยังคงก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม



“วันนี้หมดชั่วโมงเรียนแล้ว เชิญคุณควินท์เรลตามสบายเลยนะครับ” จนในสุดท้ายก็ต้องเป็๲แพทที่เอ่ยปากบอกอีกคนพลางก้มหน้าก้มตาเก็บอุปกรณ์เพราะไม่อยากจะสบตากับอีกฝ่ายอีกแล้ว อยากให้ความหงุดหงิดใจมันจบแค่ในชั่วโมงเรียนวันนี้ก็พอ



“แต่ยังไงพรุ่งนี้ก็มาเจอกันเวลาเดิ-”




แกร่ก




เสียงหวานถูกกลืนลงในลำคอทั้ง ๆ ที่ยังพูดไม่จบเพราะเสียงปิดประตูห้องเรียนนั้นดังขึ้นก่อนและนั่นทำให้เขาได้รู้ว่า สิ่งที่เขาพูดไปก่อนหน้าทั้งหมดไม่ได้เข้าหูอัลฟ่าหน้าหมานั่นเลยสักนิด




ไอ้บ้าไซม่อน!






  • Simon’s theory   -




หลังจากอารมณ์เสียกับเ๱ื่๵๹ในชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่นาน แพทก็ยังคงอยู่ในห้องเรียนเหมือนเดิม จากแผนการสอนที่ถูกวางมาอย่างดี ในตอนนี้เขาต้องกลับมานั่งแก้มันอีกครั้งเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากคนที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็๲นักเรียนเลยสักทาง



จริง ๆ แพทก็พอจะเข้าใจไซม่อนอยู่หรอกนะหลังจากที่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายค่อนข้างปิดกั้นตัวเองและมันคงต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักกัน แต่เพราะเงื่อนไขเวลาในการสอนที่มีระยะเวลาแค่สิบเดือนนี่สิทำเอาแพทคิดหนัก


สิบเดือนมันจะมากพอให้คนสองคนรู้จักกันได้แค่ไหน



สิบเดือนมันจะมากพอกับการเปลี่ยนความคิดคน ๆ นึงบ้างไหม



หรือสิบเดือนมันจะไม่พอสำหรับอะไรเลย




ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล ดวงหน้าหวานเหม่อลอยมองไปทางนอกหน้าต่างอยู่พักใหญ่จนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีใครบางคนกำลังพิงกรอบประตูห้องจ้องมองเขาอย่างถือวิสาสะ 


ชายวัยกลางคนกระแอมอยู่สองสามครั้งเพื่อเรียกให้โอเมก้าตัวเล็กที่ไม่รับรู้ถึงการมาของเขาได้รู้สึกตัว ทันทีที่ได้ยินเสียงกระแอมก็ทำให้แพทริเซียหลุดจากภวังค์ทันที ดวงตากลมโตจ้องไปยังชายที่สวมชุดสูทที่ส่งยิ้มมาให้เขาอย่างเป็๞มิตรพลางกุลีกุจอลุกขึ้นโค้งเล็กน้อยทันที



“ฮ่าๆ ไม่ต้องรีบหรอกครับ” เขาหัวเราะให้กับท่าทางเลิ่กลั่กของโอเมก้าตัวน้อยอย่างเอ็นดู 



“ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้สึกตัวเลย”



“ไม่เป็๲ไรครับ ว่าแต่คุณ?”


“อ่า ขอโทษอีกครั้งครับ ผมแพทริเซีย มอร์แกนครับ”



“ใช่ครูสอนการสื่อสารระหว่างประเทศคนใหม่ของไซม่อนหรือเปล่าครับ? เหมือนวันนั้นเห็นเกริ่น ๆ ว่าคนเก่าจะต้องออก”



“ไม่ใช่ครับ ผมมาสอนเ๹ื่๪๫พิธีน่ะครับ”



ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยด้วยความสงสัยทันทีที่แพทริเซียตอบไปแบบนั้น ใบหน้าที่เคยเปื้อนยิ้มพลันหายไปครู่นึงก่อนที่เขาจะส่งยิ้มกลับมาให้อีกครั้งก่อนจะทวนคำตอบที่ได้รับไป



“พิธี?”

“พิธีแต่งตั้งผู้สืบทอดตระกูลครับ”



“..อย่างนี้นี่เอง เร็วเหมือนกันนะเนี่ย”




เขาพยักหน้าพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้ก่อนขายาวจะก้าวเดินตรงเข้ามาหาแพทริเซียช้า ๆ




“ผมมาร์คัสนะครับ, มาร์คัส ควินท์เรล”



คุ้น ๆ หูอยู่เหมือนกันนะชื่อนี้



เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย




“ผมเป็๲อาแท้ ๆ ของไซม่อนเขาน่ะ”



“อ๋อ.. ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณมาร์คัส”



“เช่นกันครับคุณแพทริเซีย”  เขายื่นมือมาจับทำความรู้จักกับแพทอย่างเป็๲มิตร หลังจากที่ได้เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ควินท์เรลร่วมสัปดาห์ ในที่สุดแพทก็ได้เจอคนปกติทั่วไปที่สามารถพูดคุยอย่างเป็๲มิตรและไม่เกร็ง๻ั้๹แ๻่ครั้งแรกที่เจอได้สักที



“เรียกแพทก็ได้นะครับคุณมาร์คัส”



“งั้นคุณแพทจะเรียกผมว่าคุณอาก็ได้นะ ไม่ว่ากัน” 



“ขอบคุณมากนะครับ”



ชายวัยกลางคนยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือของเขาก่อนจะหันมายิ้มให้แพทเป็๲ครั้งสุดท้าย

“ถึงเวลาที่อาต้องไปประชุมแล้วล่ะคุณแพท ไว้ยังไงก็ฝากดูแลหลานชายอาด้วยนะครับ”



“ได้ครับคุณอา”



“ความหวังหนึ่งเดียวของตระกูลอยู่ในมือคุณแพทแล้วนะ”




คุณมาร์คัสหัวเราะเป็๞เชิงหยอกล้อพร้อมเอื้อมมือมาตบไหล่เขาเบา ๆ ทำเอาแพทที่ได้ยินประโยคที่แสนจะกดดันนั้นยิ่งหน้าชาเข้าไปใหญ่ 



ทำตัวไม่ถูกเลยแฮะ



แต่ยังไงพรุ่งนี้ก็จะลองดูอีกครั้งแล้วกันนะ



กับความหวังหนึ่งเดียวของตระกูลควินท์เรลน่ะ




  • Simon’s theory   -

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้